ชื่อของ "โค้ชโดนัท" กฤษกร กระสายเงิน กลายเป็นที่รู้จักภายในชั่วช้ามคืน หลังพาบางกอก เอฟซี ทีมในศึกไทยลีก 3 ล้ม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่ารายการนี้ด้วยสกอร์ 5-4
หากจะย้อนประวัติของ "โค้ชโดนัท" เป็นอดีตนักฟุตบอลโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในช่วงเวลานั้นโค้ชของทีมโรงเรียนอย่าง อ.ศักดา สุขสวัสดิ์ เห็นว่า สไตล์การเล่นมีความคล่อง เหมาะกับกีฬาฟุตซอล และพยายามผลักดันให้เดินสายโต๊ะเล็ก แต่เจ้าตัวมีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลสนามใหญ่มากกว่า
จากนั้น เขาได้ไปเล่นกับทีมในไทยลีก 3 อย่างฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะมาเป็นนักเตะชุดแรกของบางกอก เอฟซี หลังจากที่ทางสโมสรมีนโยบายกลับมาทำทีมอีกครั้ง เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ส่วนตัวของ กฤษกร มีความชื่นชอบศาสตร์ฟุตบอลและการเป็นโค้ชอย่างมาก จนวันหนึ่งเขาจึงได้พูดคุยกับสโมสรเพื่อขอเบนสายสู่การเป็นโค้ชเต็มตัว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รับการสนับสนุนจากสโมสร ส่งไปเรียนโค้ชขั้นพื้นฐาน และได้รับความไว้วางใจในการคุมทีมชุดเยาวชนและปั้นอะคาเดมี่ของทีมบางกอก เอฟซี จึงบอกได้ว่า เขาคือผู้สร้างระบบโครงสร้างฟุตบอลให้กับทีมบางกอก เอฟซี มาแต่แรกเริ่มได้อย่างแท้จริง
การเบนเข็มสู่เส้นทางโค้ชของ กฤษกร กระสายเงิน นั้น ไม่ใช่เพราะเรื่องอาการบาดเจ็บ จนทำให้ต้องเบนเข็มมาเรียนโค้ชแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความชื่นชอบในศาสตร์การเป็นโค้ชล้วนๆ
"โค้ชโดนัท" จบหลักสูตรโค้ช ซี-ไลเซนส์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี และเคยได้รับโอกาสไปฝึกทำงานร่วมกับโค้ชของทีมเวกัลตะ เซนได ในศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบัน กฤษกร กระสายเงิน เหลือการเรียนช่วงโค้งสุดท้าย ก็จะจบการเรียนโค้ช เอ-ไลเซนส์ แล้ว และนอกจากเส้นทางที่ยังเดินต่อในฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว เขายังเหลือภารกิจสำคัญ คือการพา บางกอก เอฟซี สู้ศึกในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ให้ได้ หลังก่อนหน้านี้ สโมสรพลาดหวังการเลื่อนชั้นในปีที่ผ่านมา