แม้จะผ่านเวลามานานหลายเดือน แต่ข่าวการขายสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งอังกฤษ กลับมีสถานะที่เรียกได้ว่า "ไม่มีความคืบหน้า" เพราะแม้ปัจจุบันจะเหลือตัวเต็งเพียง 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มทุนจากอังกฤษเอง นำโดย เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของ INEOS บริษัทเคมีภัณฑ์ชื่อดัง และกลุ่มทุนจากประเทศกาตาร์ นำโดย ชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ประธานธนาคารอิสลามแห่งกาตาร์ แต่ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของปัจจุบันของทีม ยังคงไม่เลือกผู้ชนะเสียที
และเชื่อได้ว่า ข่าวนี้จะทำให้แฟนบอลทีมปีศาจแดงเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม เมื่อ นิค แฮร์ริส และ อเล็กซ์ มิลเลอร์ นักข่าวจาก Daily Mail สื่อดังอังกฤษ เปิดเผยว่า ตระกูลเกลเซอร์ อาจตัดสินใจล้มดีลการขายทีมในครั้งนี้แบบดื้อ ๆ เลยทีเดียว โดยสาเหตุนั้นมาจากการที่ไม่มีกลุ่มทุนจากทั่วโลกยื่นซื้อสโมสรมากอย่างที่คิด และราคาที่สองกลุ่มทุนตัวเต็งยื่นมาตอนนี้ เป็นตัวเลขที่ตระกูลเกลเซอร์ยังไม่พอใจ
"ต้องยอมรับว่า ตระกูลเกลเซอร์นั้น 'หน้าหนา' เป็นอย่างยิ่ง และพวกเขาไม่สะทกสะท้าน ไม่หวั่นไหวต่อกระแสแง่ลบจากแฟนบอลเลยแม้แต่น้อย" แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวยังเปิดเผยด้วยว่า การล้มดีลการขายทีมครั้งนี้ น่าจะเป็นการล้มดีลไปก่อน เพราะตระกูลเกลเซอร์มีแผนจะนำสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด ออกขายอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งพวกเขาหวังว่า ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งตัวเลขลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่เพิ่มขึ้น, ฟุตบอลโลก 2026 ที่กำลังจะมาถึง และรูปแบบใหม่ของฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ที่จะเพิ่มเป็น 32 ทีมในปี 2025 จะช่วยดึงดูดกลุ่มทุนต่าง ๆ ให้สนใจซื้อสโมสรมากรายกว่าเดิม
โดยมีการประเมินว่า ตัวเลขที่ตระกูลเกลเซอร์ตั้งเป้าไว้สำหรับการขายสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 248,000 ล้านบาท) ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 350,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว