ในโลกนี้มีแนวความคิดมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเชื่อแนวคิดไหน แต่สิ่งที่คุณจะได้ยินจากปากของ ริคกี้ แลมเบิร์ต อาจทำให้คุณต้องเกาหัว
แลมเบิร์ต อดีตกองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษของ ลิเวอร์พูล และ เซาธ์แฮมป์ตัน เพิ่งให้สัมภาษณ์ และเขาเผยถึงแนวคิดเรื่องของน้ำกับการพูดจาไว้ว่า
"พวกเขา [นักวิทยาศาสตร์] ทำการทดสอบโดยที่คุณพูดกับน้ำหนึ่งแก้วในเชิงบวก แช่แข็งมัน พูดในแง่ลบกับน้ำอีกแก้วหนึ่ง แช่แข็งมัน จากนั้น [พวกเขา] ตรวจสอบน้ำแข็ง น้ำในแง่ลบเต็มไปด้วยหลุมและความมืด แก้วน้ำที่พูดในเชิงบวกนั้นเต็มไปด้วยคริสตัล"
"พวกเขาได้ทำการทดลองแบบคำต่อคำ และน้ำก็ตอบสนองแบบเดียวกันทุกครั้งที่คุณพูดกับมันด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง"
"คำที่น้ำตอบสนองในลักษณะที่สวยงามที่สุดและ [ผลิต] คริสตัลที่สวยงามที่สุด คือการแสดงความขอบคุณต่อน้ำ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ เราควรแสดงความขอบคุณต่อกันไว้ครับ"
ชมคลิปสัมภาษณ์ที่นี่ : https://twitter.com/MonikerGeller/status/1679956627485589508
งานนี้ "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ แต่ต้องพิสูจน์" แอรอน ฟลานาแกน บรรณาธิการข่าวกีฬาของ Daily Star สื่ออังกฤษ เลยขอพิสูจน์เรื่องนี้ให้รู้กันไปเลย
โดยก่อนที่จะทำการทดลอง ฟลานาแกนอธิบายด้วยว่า แนวคิดที่แลมเบิร์ตพูดนั้น แท้จริงแล้วคนต้นคิดคือ มาซารุ อิโมโตะ อดีตนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2014
เพื่อควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ฟลานาแกนได้ใช้น้ำที่มาจากแหล่งเดียวกัน นั่นคือ น้ำดื่มบรรจุขวด ชนิดที่แกะห่อออกมากันเลย ก่อนที่เขาจะลอกฉลาก ขวดหนึ่งเขียน Good ขวดหนึ่งเขียน Bad
และสิ่งที่ทำต่อจากนั้น ฟลานาแกนบอกว่าเป็นความอับอายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต นั่นคือ การพูดกับน้ำขวดเหล่านั้น โดยกับขวดที่เขียน Good เขาพูดแต่คำหวานคำไพเราะ ส่วนขวดที่เขียน Bad นั้น เรียกได้ว่าขุดทุกคำด่าบนโลกใบนี้มาใช้ ซึ่งเจ้าตัวบอกเองเลยว่า ดีใจที่ไม่มีใครผ่านมาได้ยิน ก่อนจะนำขวดน้ำทั้ง 2 ขวดแช่ตู้เย็น
หลังจากปล่อยให้น้ำเย็นเป็นน้ำแข็ง ฟลานาแกนที่ไม่มีอุปกรณ์พิเศษ ใช้วิธีเบสิก นั่นคือการมองด้วยตา ถ่ายภาพ ปล่อยให้น้ำแข็งละลาย แล้วดื่มน้ำเปรียบเทียบรสชาติ
ซึ่งผลที่ได้ ฟลานาแกนบอกว่า "มันเหมือนกันเป๊ะเลย"
ฟลานาแกนเผยทิ้งท้ายว่า เขาจะไม่สรุปว่าทฤษฎีของอิโมตะนั้นไม่ใช่เรื่องจริง (แม้บนหน้า Wikipedia ของเขา จะมีคำว่า pseudoscientist หรือ นักวิทยาศาสตร์ลวงโลก บรรยายถึงเจ้าตัวไว้ก็ตาม) แต่อย่างน้อยที่สุด เรื่องที่แลมเบิร์ตพูด ก็ทำให้คนหัวเราะได้
ที่มา :
https://www.dailystar.co.uk/sport/football/i-followed-rickie-lambert-tried-30474895
