ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตำนานดาวยิงวัย 41 ปี ที่เพิ่งประกาศแยกทางกับ เอซี มิลาน พร้อมกับแขวนสตั๊ดไปเมื่อไม่นานมานี้ เขียนในหนังสืออัตชีวประวัติของตนเองว่าตอนที่ค้าแข้งอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาต้องโดนปรับเงิน 1 ปอนด์ ด้วยข้อหาดื่มน้ำผลไม้จากมินิบาร์ของโรงแรม
ใน Adrenaline หนังสืออัตชีวประวัติของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เขาเขียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเริ่มว่า "สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ ทุกคนคิดว่ายูไนเต็ดเป็นสโมสรชั้นนำ เป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดและมีอำนาจมากที่สุดในโลก และเมื่อมองจากภายนอก ผมก็เห็นเป็นแบบนั้น"
"แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อผมได้อยู่ที่นั่น ผมเกิดความตงิดขึ้นมาเล็กน้อย เพราะมีอยู่วันหนึ่งที่ทีมเราพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัวก่อนการแข่งขัน และผมก็รู้สึกหิวน้ำเลยเดินไปหยิบน้ำผลไม้จากมินิบาร์ของโรงแรมมาดื่มเพื่อดับกระหาย"
"ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร เราลงเล่นเกมนั้นและกลับบ้าน แต่พอเวลาผ่านไปสลิปเงินเดือนของผมมันดูไม่ปกติ เพราะมีเงินจำนาน 1 ปอนด์ ถูกหักออกจากเงินค่าเหนื่อยของผม"
"ผมโทรหาผู้จัดการทีมและถามว่า ขอโทษนะทำไมสโมสรหักเงินเดือนผมไปหนึ่งปอนด์ ซึ่งคำตอบที่ผมได้ก็คือนั่นเป็นค่าน้ำผลไม้จากมินิบาร์ของโรงแรม ผมก็นึกว่าเขาล้อเล่น แต่เขาพูดต่อว่า ที่ยูไนเต็ด ถ้าคุณสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มบางอย่าง คุณต้องรับผิดชอบเอง"
"คุณเชื่อหรือไม่ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในอิตาลี สิ่งเหล่านี้คือรายละเอียดที่สร้างความแตกต่างและส่งผลให้ได้รับความเคารพจากผู้เล่น" ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กล่าว
นอกจากนี้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยังได้เขียนถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในตอนที่เขาค้าแข้งอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็น การต้องแสดงบัตรเพื่อเข้าสนามซ้อมแคร์ริงตัน หรือ เรื่องที่อดีตรองประธานบริหาร เอ็ด วู้ดเวิร์ด ทำลายแผนการประชาสัมพันธ์ 5 ล้านปอนด์ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่อาจไม่ถูกใจแฟนบอลปีศาจแดงสักเท่าไร