Feature

ชีวิตติดกีฬา : ว่าด้วยความนิยม "กีฬาทั้ง 5" ของ เช เกวารา ในฐานะแรงขับเคลื่อนแห่งการปฏิวัติ | Main Stand

"ไปไหม ไปห้าวเป้งกันกับผู้ชายชื่อเช 
พร้อมไหมเป็นลูกผู้ชายคล้าย ๆ เช
เชยังไม่ตาย ให้เราได้ฮาเฮ น้าเช !"

ท่อนเพลง สาระแนสิบล้อ ประกอบภาพยนตร์สาระแนสิบล้อ ที่ได้ใช้คาแร็กเตอร์ของ "เช เกวารา" นักเคลื่อนไหว นักปฏิวัติ นักเปลี่ยนแปลงสังคมชื่อดัง เป็นตัวเอกดำเนินเรื่อง (แสดงโดย นาคร ศิลาชัย)

 


แม้จะเป็นการยกมาแบบติดตลก แต่ก็เป็นการสะท้อน "ภาพแทน" ของความสัมพันธ์ระหว่าง "นักปฏิวัติ" ที่สร้างแรงกระเพื่อมได้มากที่สุดลำดับต้น ๆ ของโลก กับ "ชนชั้นแรงงาน" อย่างพวกคนขับรถสิบล้อที่ได้รับการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน มีคุณภาพชีวิตย่ำแย่ ต้องหาเช้ากินค่ำ และอดมื้อกินมื้อ ได้เป็นอย่างดี

แต่ภายใต้องค์ประธาน "สายแทงก์" ขวัญใจผู้ใช้แรงงานทั่วโลก แรงขับที่เป็น "ฐานคิด" เบื้องหลังแห่งการปฏิวัติ นอกจากจะด้วยเหตุผลเรื่อง "ชนชั้น" หรือ "ความอยุติธรรม" ในสังคมแล้ว กลับมีเรื่องทาง "กีฬา" เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไม่น่าเชื่อ

เนื่องในวันที่ 9 ตุลาคม เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของ เช เกวารา Main Stand จึงพาไปชมความหลงใหลในเกมกีฬาทั้ง 5 ชนิดของเขา ในฐานะการเป็นองค์ประกอบในการปฏิวัติสังคมอีกทางหนึ่ง

 

กีฬาว่ายน้ำ

เริ่มด้วยกีฬา "ว่ายน้ำ" โดยตอนเด็ก ๆ เขาป่วยเป็น "โรคหอบหืด" อย่างหนักหน่วง ชนิดที่พ่อกับแม่ของเขาเป็นกังวล กลัวบุตรชายอายุจะสั้นและสิ้นชีพก่อนวัยอันควร

ครอบครัวซึ่งถือเป็นชนชั้นสูงในสังคมอาร์เจนตินาบ้านเกิด จึงตัดสินใจพาเชย้ายไปอยู่ใน "สถานตากอากาศ" แถบ ๆ เมืองกอร์โดบา (Cordoba) ที่สภาพภูมิอากาศแห้ง ๆ บริสุทธิ์ เหมาะแก่การหายใจได้เต็มปอด ทั้งยังสมัครสมาชิก "สปอร์ตคลับ" ให้ลูกชายของพวกเขาได้ "ว่ายน้ำ" เพื่อเป็นการออกกำลังกาย รักษาอาการหอบหืดอีกทางหนึ่ง

และพอเชได้เริ่มลงสระและว่ายไปว่ายมาอยู่เรื่อย ๆ อาการหอบหืดของเขาก็ดีขึ้นตามลำดับ นอกจากเขาจะแข็งแรงขึ้นแล้วยังได้กล้ามเนื้อเพิ่มเติมขึ้นด้วย

ณ จุดนี้เด็กชายเชได้สังเกตว่ามี "คนป่วย" จำนวนไม่น้อยที่ย้ายเข้ามาอยู่เพื่อทุเลาอาการแบบเดียวกับครอบครัวเขา 

เมื่อตนประสบกับความป่วยไข้และได้เรียนรู้ถึงความทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บของเพื่อนบ้านในชายคาใกล้ ๆ กัน นั่นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เชเลือกเรียน "แพทย์" ก็เป็นได้

 

กีฬากอล์ฟ

ต่อมาคือกีฬา "กอล์ฟ" โดยตอนแรกเชโดน เออร์เนสโต เกวารา (Ernesto Guevara) พ่อบังเกิดเกล้าของเขา (ที่เอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อลูกด้วยเช่นกัน เราเลยขอเรียกตัวละครเอกในงานนี้ว่า เช ตามที่ได้มาในภายหลังแทน) บังคับให้เล่น จากการรับงานสร้างและต่อเติมสนามกอล์ฟให้โรงแรม เชียร์ร่า กอล์ฟ คอร์ส 

เด็กชายเชในวัย 6 ขวบ ณ เวลานั้น ชอบกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก ยามใดที่ไม่มีคาบเรียนและสนามกอล์ฟว่าง ๆ เขามักจะแอบมาหวดวงสวิงอยู่เสมอ 

ในวัย 15 ปี เชได้โชว์ทักษะการตีกอล์ฟให้ครอบครัวเขาเห็นเป็นประจำทุกสัปดาห์ จนขนาดที่ว่าฝีมือแบบเขาสามารถ "เทิร์นโปร" ได้สบาย ๆ

ต่อมาเมื่อเชรับจ๊อบเป็นแคดดี้ คอยถือถุงกอล์ฟให้ลูกค้าชนชั้นสูง จึงมีมุมมองเกี่ยวกับกอล์ฟที่เปลี่ยนไป 

เขาเล็งเห็นว่ากีฬาชนิดนี้เป็นกีฬาของคนรวย คนจนนั้นแทบจะไม่มีสิทธิแม้แต่จะได้จับไม้กอล์ฟเสียด้วยซ้ำ อย่างมากก็เป็นได้แค่แคดดี้คอยหามถุงกอล์ฟตากแดดหน้าดำเดินตามคนรวยต้อย ๆ 18 หลุม หากนายท่านยังตีไม่ครบรอบก็เลิกงานไม่ได้ 

กีฬาชนิดนี้จึงอยู่บนฐานของ "ความไม่เท่าเทียม" และเป็นหนึ่งในแรงขับทางการปฏิวัติของเขาในเวลาต่อมา

 

กีฬาฟุตบอล

เมื่อพูดถึงกีฬาในอเมริกาใต้ แน่นอนว่า จะขาด "กีฬามหาชน" อย่าง "ฟุตบอล" ไปเสียไม่ได้ โดยฟุตบอลก็เป็นสิ่งที่ เช เกวารา หลงใหลมากเช่นกัน

ในวัยเด็กเขาเตะฟุตบอลเล่นตามข้างถนนอยู่บ่อย ๆ ซึ่งก็ถือว่าเขามีฝีเท้าฉกาจใช่ย่อย อาจอยู่ในระดับที่ลงเล่นลีกอาชีพได้สบาย ๆ

อีกทั้งเชยังเป็นแฟนบอลของทีม "โรซาริโอ เซ็นทรัล" ทีมประจำบ้านเกิด ที่มีสถานะทีมรองบ่อน และอยู่ในเขตยากจน ต่างกับทีมใหญ่ในเมืองหลวงอย่าง ริเวอร์เพลท และ โบคา จูเนียร์ส 

ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาสนับสนุน "นีเวลส์ โอลด์ บอยส์" ทีมอริร่วมเมืองโรซาริโอในภายหลัง เพราะ โรซาริโอ เซ็นทรัล ไม่ยอมบริจาคเงินให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนอนาถา 

ด้วยความที่ฟุตบอล "ไม่มีเส้นแบ่งทางขนชั้น" เชเลยถูกอกถูกใจกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งการเล่นฟุตบอลยังช่วย "จัดตั้ง" หรือก็คือการหาสมัครพรรคพวกเดียวกันได้ง่าย ส่งผลให้เกิด "แนวร่วม" การปฏิวัติขึ้นเป็นจำนวนมาก

นี่แหละ กีฬาที่นักปฏิวัติคู่ควรจริง ๆ

 

กีฬาหมากรุก

ใช่ว่าเขาจะเล่นแต่กีฬาทางกาย แต่กีฬาใช้สมองอย่าง "หมากรุก" เขาก็เล่นบ่อยไม่แพ้กัน

เออร์เนสโต คุณพ่อของเชคืออาจารย์คนแรกที่สอนการเล่นหมากรุกให้กับเขา ก่อนที่เชจะชักชวนเพื่อนบ้านให้มาเล่นด้วยกันประจำ และเชก็กำชัยตลอด ลือกันว่าหากเชเล่นหมากรุกเมื่อใด เขาไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับใครเสียด้วยซ้ำ

และสิ่งที่ได้จากการเล่นหมากรุกนี้ทำให้เขากลายเป็นคนที่วางแผนเก่ง รู้เหลี่ยม อ่านเกมขาด ไม่ว่าใครจะมาไม้ไหนจากทิศทางใดเชก็กินเรียบดักเกมได้หมด 

จึงไม่แปลกใจที่เขาจะกลายเป็นผู้นำแห่งการปฏิวัติที่หาตัวจับยากยิ่ง

 

กีฬารักบี้

กีฬาท้ายสุดคือ "รักบี้" ซึ่งเป็นกีฬาที่เชมี "แพชชั่น" มากที่สุด 

สมัยเด็ก ๆ เขาโยนลูกหนำเลี้ยบเล่นกับมิตรสหายเป็นประจำ ซึ่งพรสวรรค์ของเขาก็ไปเตะตาโค้ชทีม เอสตูเดียนเตส จับเขาลงเล่นในวัย 14 ปี และเชก็ทำผลงานได้ดีเสียด้วย 

ถึงแม้เวลาต่อมาเขาจะมีเวลาว่างน้อยลง หลังเข้าศึกษาคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส แต่เขาก็ยังหาเวลาไปเล่นรักบี้อยู่เสมอ เขาติดทีมระดับมหาวิทยาลัยและมีโอกาสได้ลงเล่นอาชีพกับเอสตูเดียนเตส ทีมเดิม กับ อยาตาลา คลับ

แต่เผอิญว่าความสามารถทาง "การเขียน" ดันมีมากกว่า เขาจึงไปเปิดนิตยสาร "Tackle" ซึ่งเป็นนิตยสารสำหรับวงการรักบี้โดยเฉพาะ โดยมีเนื้อหาที่เน้นการสัมภาษณ์เชิงลึก ตีแผ่ความไม่เป็นธรรมในวงการรักบี้ ทั้งเรื่องค่าจ้าง การกดขี่ การเลือกที่รักมักที่ชัง รวมถึงปัญหาคอรัปชั่น 

ซึ่งแน่นอนว่าการที่มันมีเนื้อหาเชิงวิพากษ์ที่รุนแรงขนาดนี้ แถมยังมีการแอบโฆษณาชวนเชื่อเผยแผ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ เชจึงถูกหมายหัวจากตำรวจและผู้มีอิทธิพลในวงการลูกหนำเลี้ยบ จนเขาต้องจบเส้นทางสายรักบี้ไปอย่างเสียไม่ได้

 

แหล่งอ้างอิง

บทความ Building Character and Socialising a Revolutionary: Sport and Leisure in the Life of Ernesto 'Che' Guevara - https://www.researchgate.net/publication/271941081_Building_Character_and_Socialising_a_Revolutionary_Sport_and_Leisure_in_the_Life_of_Ernesto_'Che'_Guevara
https://www.foxsports.com.au/rugby/argentina-born-che-guevara-was-a-revolutionary-with-a-love-for-rugby-union/news-story/6e3234dc842617bc7aa1bc0a64075737 
https://youtu.be/FOz1qlmkMzg 

Author

วิศรุต หล่าสกุล

หน้าตา 4KINGS ฟังเพลง 4EVE

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ