Feature

ตัวเล็ก ใจใหญ่ ไวกว่าเงา : "ริโอ เอ็นกูโมฮา" ดาวดวงใหม่ที่ ลิเวอร์พูล ขัดเกลาจากมือ เชลซี | Main Stand

เด็กหนุ่มวัย 16 ปีที่เล่นได้เข้าตาแฟนบอล ลิเวอร์พูล แบบสุด ๆ ในช่วงปรีซีซั่น 2025-26 ... และเรื่องราวความสามารถของเขาก็เอกอุมาตั้งยังเด็ก จนทำให้เกิดเหตุการณ์ "แบนแมวมอง" ระหว่างสโมสรระดับท็อปในพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้น 

 


ก่อนจะถึงประตูที่แสดงถึงความว่องไว แม่นยำ และคาแร็คเตอร์ที่กล้าหาญในเกมกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ... นี่คือเรื่องราวของ ริโอ เอ็นกูโมฮา แบบทุกมิติ 

 

เกิดในค็อบแฮม 

ค็อบแฮม คือศูนย์ฝึกที่เลื่องชื่อที่สุดในอังกฤษในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หากคุณวัดในแง่ของการสร้างนักเตะจากเยาวชนจนขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของ เชลซี หรือแม้กระทั่งการขายออกไปเพื่อทำกำไรกับทีมอื่น ๆ  สิ่งที่น่าสนใจก็คือศูนย์ฝึกนี้ทำอย่างไร พวกเขาจึงมีดาวรุ่งพรสวรรค์เกิดขึ้นมามากมาย ซึ่ง เอ็นกูโมฮา คือหนึ่งในนั้น 

ย้อนกลับไปปี 2005 จากการร้องขอของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของทีมในเวลานั้น ทำให้ โรมัน อบราโมวิช อดีตเจ้าของทีมได้ทำการสร้างศูนย์ฝึกซ้อม และศูนย์พัฒนาเยาวชนขึ้นมาในย่าน ค็อบแฮม และจากนั้นอีก 2 ปีก็มีการต่อเติมและใส่รายละเอียดต่าง ๆ แบบครบวงจรพร้อมให้นักเตะตั้งแต่ชุดเยาวชนถึงชุดใหญ่ได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ 

เชลซี ลงทุนกับศูนย์ฝึกนี้หนักมาก ทั้งเรื่องอุปกรณ์ เทคโนโลยีต่าง ๆ ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร เมื่อมีศูนย์ฝึกที่ดี พวกเขาก็ลงทุนกับการหานักเตะเยาวชนที่อายุไม่เกิน 18 ปีมาเสริมทัพตลอด นอกจากนี้ยังเริ่มลงทุนกับระบบแมวมองที่ทำให้พวกเขาได้เด็กท้องถิ่นฝีเท้าดี ๆ ตัดหน้าทีมอื่น ๆ ซึ่งในปี 2016 พวกเขาก็ได้ตัว ริโอ เอ็นกูโมฮา ในวัยแค่ 8 ขวบมาร่วมทีม

"ความรักในฟุตบอลเริ่มต้นตั้งแต่ผมอายุสี่หรือห้าขวบ ผมดูพี่ชายเล่นฟุตบอล และผมอยากเป็นเหมือนเขา ผมเข้าเรียนในสถาบันอะคาเดมีตั้งแต่ยังเด็ก และมันเป็นเรื่องใหญ่มากเมื่อหลายสโมสรต้องการเซ็นสัญญากับผม" เขาเล่าย้อนก่อนที่เขาจะได้สัญญาเข้าอคาเดมี่ของ เชลซี 

เอ็นกูโมฮา เป็นนักเตะที่เด่นที่สุดในรุ่นเท่าที่ข้อมูลเกี่ยวกับเขาจะหาได้ เขาเล่นแบกอายุมาตั้งแต่รุ่น 12 ปี จนกระทั่งอายุ 15 ปี ก็ถูกพูดถึงในแวดวงบอลเด็กอย่างกว้างขวาง เพราะถูกทีมผลักดันมาเล่นทั้งชุดยู 17 และยู 18 ในตำแหน่งตัวรุกอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังเคยถูกกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เรียกขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่มาแล้ว 

กลุ่มนักเตะทีมชุดใหญ่ และทีมสตาฟโค้ชของ เชลซี ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เวลาที่ไปดูทีมเด็กซ้อม เอ็นกูโมฮา เหมือนอยู่อีกระดับไปแล้ว แม้ว่าเขาจะลงเล่นแบบแบกอายุก็ตาม แม้กระทั่งการซ้อมกับทีมชุดใหญ่ กลุ่มแข้งซีเนียร์ก็ยังผลัดกันให้คำแนะนำกับเขาตลอด เพราะเห็นว่าเป็นนักเตะที่พิเศษจริง ๆ 

โดยคนเหมือนเป็นพี่เลี้ยงของเขาตอนอยู่กับ เชลซี ก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซึ่งคอยแนะนำอะไรหลาย ๆ อยากในฐานะนักเตะที่ขนาดตัวเท่า ๆ กัน สไตล์คล้ายกัน และเล่นในตำแหน่งเดียวกัน 

"ตอนซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ดึงตัวผมเข้าไปคุยด้วย และพยายามสอนผมหลายเรื่อง ที่ผมจำได้ก็คือเรื่องของการรับมือกับความผิดพลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ กับการแข่งขันในระดับสูง" 

"ราฮีม บอกว่า ฟังนะ ถ้าเอ็งเสียบอลในบางครั้ง เอ็งต้องรู้จักคำว่า ช่างมัน ลืมความผิดพลาดนั้นให้เร็วที่สุด และปลุกสติตัวเองให้กลับมาโฟกัสกับเกมอีกครั้ง ในโลกของทีมชุดใหญ่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก ดังนั้นเอ็งห้ามหลุดออกจากเกมและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเด็ดขาด" เอ็นกูโมฮา เล่าย้อนความ ซึ่งนั่นเป็นคำสอนที่เขาที่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่กล้าเลี้ยง กล้าลุยแบบไม่กลัวว่าจะทำบอลเสียเลยจนกระทั่งตอนนี้ 

สิ่งหนึ่งที่เอ็นกูโมฮามีอยู่ในตัวก็คือ ความทะเยอทะยาน แม้เขาจะถูกเรียกว่า "พรสวรรค์ที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีของ ค็อบแฮม" ซึ่งเป็นคำชมที่แทบจะการันตีว่าถ้าเขาทำตัวอยู่ในระเบียบวินัยและเจริญเติบโตตามเวลาที่กำหนด โอกาสในทีมชุดใหญ่ก็จะไม่หนีไม่ไหนแน่ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น ... เพียงแต่บังเอิญว่าในวัยแค่ 15 ปี เอ็นกูโมฮา กลับมองไปไกลกว่านั้น และการขอออกจาก เชลซี ไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล จนเกิดข้อพิพาทที่ทั้ง 2 ทีมใช้เวลาเคลียร์กันถึง 5 เดือนก็เริ่มขึ้นเมื่อปี 2024

 

พรสวรรค์ผู้บังเกิดข้อพิพาท 

การคิดอนาคตล่วงหน้าแบบจริงจังของ เอ็นกูโมฮา ทำให้เขาประเมินว่า ตัวเองคงใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะได้มีโอกาสขึ้นมาเล่นให้กับ เชลซี ชุดใหญ่ เนื่องจากมีนักเตะขวางหน้าหลายด่าน และทีมก็ซื้อดาวรุ่งฝีเท้าดีจากทั่วโลกไว้คอยสแตนด์บายอีกหลายคน ซึ่งเขาเชื่อว่าด้วยคุณภาพที่มี เขาสามารถแจ้งเกิดในเกมระดับชุดใหญ่ได้เร็วกว่านี้หากการย้ายออกเกิดขึ้น

จากนั้นข่าวคราวก็ไปเข้าหู ลิเวอร์พูล ที่ได้ส่งแมวมองมาดูฟอร์มเกมระดับเยาวชนที่ค็อบแฮม เป็นประจำ ซึ่งโค้ชเยาวชนเชลซีเห็นแบบไหน แมวมองลิเวอร์พูลก็เห็นตามนั้นทุกตรงโดยไม่มีข้อโต้แย้ง "เด็กคนนี้จะกลายเป็นผู้เล่นระดับท็อป" นั่นคือความคาดหมาย และจากนั้นการขายโปรเจ็กต์เพื่อซื้อใจดาวรุ่งที่ดีที่สุดของ ค็อบแฮม ก็เริ่มขึ้น 

เนื่องจากในอังกฤษ นักเตะไม่สามารถเซ็นสัญญาอาชีพจนกว่าจะอายุครบ 17 ปี ดังนั้นสิ่งที่เชลซีสามารถทำได้คือ "Scholarship Offer" (ทุนการศึกษาพัฒนาเยาวชน) ด้วยข้อเสนอดี ๆ หลายอย่าง เพราะรู้ว่านักเตะเริ่มมีความลังเลในการต่อสัญญากับทีมออกไป 

และการยื่นข้อเสนองาม ๆ ก็ไม่ใช่ข้อเดียวที่เชลซีพยายามรั้งตัว เอ็นกูโมฮาไว้ โดยทางเชลซีได้ทำการแบนไม่ให้แมวมองจากทีมอื่น ๆ เข้าไปดูเกมของทีม U16 กับ U18 ที่ริโอมีส่วนร่วมในช่วงหลัง เพราะรู้ว่าเขากำลังจะย้ายทีม เพียงแต่ว่ากว่าที่ เชลซี จะรู้ตัว ลิเวอร์พูล ก็เข้าถึงครอบครัวของนักเตะ และให้ข้อเสนอที่มีส่วนในการตัดสินใจย้ายทีมของ เอ็นกูโมฮา นั่นคือการเสนอความเป็นไปได้ที่มากกว่าสำหรับการก้าวขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ 

โดยรายละเอียดในเชิงลึกนั้น ว่ากันว่าตัวนักเตะได้คุยกับ อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือของ ลิเวอร์พูล ด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้สโมสรยังพยายามขายโปรเจ็กต์เรื่องการปั้นนักเตะเยาวชนสู่ทีมชุดใหญ่ (Pathway) แบบที่พวกเขาเคยให้นักเตะอายุน้อย ๆ อย่าง เบน โด๊ก, บ็อบบี้ คลาร์ก หรือ เจย์เดน แดนส์ ได้มีส่วนกับทีมชุดใหญ่ ถึงขนาดว่าได้เล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ปี 2024 ที่ ชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษมาแล้ว 

แหล่งข่าวเจ้าเดิมระบุว่า ลิเวอร์พูลเสนอ แผนพัฒนาแบบเฉพาะตัว (Individual Development Plan) ที่ชัดเจนให้ครอบครัวของเอ็นกูโมฮาดู ซึ่งนั่นเองทำให้การย้ายทีมเกิดขึ้น และเมื่อ เอ็นกูโมฮา ยังไม่ใช่นักเตะอาชีพเต็มตัว การย้ายทีมในช่วงอายุนี้ ไม่ต้องใช้ค่าฉีกสัญญา แบบในผู้ใหญ่ สโมสรใหม่แค่จ่ายค่าชดเชยพัฒนาให้ทีมเก่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ซึ่งนั่นทำให้ฝั่ง เชลซี โกรธมาก จนทำให้การเปิดตัว เอ็นกูโมฮา ของ ลิเวอร์พูล ต้องล่าช้าไปกว่า 5 เดือน 

แต่ท้ายที่สุด การรอคอย และการข้อพิพาทก็สิ้นสุดลง ลิเวอร์พูล เปิดตัว เอ็นกูโมฮา อย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2024 และนับถอยหลังจากนั้นมาไม่ถึง 1 ปี ... ณ ตอนนี้ เขาก็ได้โอกาสเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล แล้ว 

ซึ่งเมื่อโอกาสมาถึง เอ็นกูโมฮา ก็แสดงทุกอย่างที่คนอื่น ๆ พูดถึงเขาได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนกว่าการถูกเรียกว่า "พรสวรรค์ที่ดีที่สุดของค็อบแฮม" จะไม่ใช่แค่คำอวยกันเสียแล้ว 

 

ผมจะคว้าบัลลงดอร์ตอนอายุ 23 ปี 

โปรเจ็กต์ที่ ลิเวอร์พูล ขายให้เขาเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา หลังอายุครบ 16 ปี เต็ม เอ็นกูโมฮา ได้ลงเล่นให้กับทีมเยาวชน ลิเวอร์พูล ตั้งแต่รุ่น U18 U19 และ U21 เป็นเวลาสั้น ๆ 

จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2024 เขาก็ถูก อาร์เน่อ ชล็อต เรียกขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และได้สัมผัสกับนักเตะอย่าง โม ซาลาห์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน 2 ซีเนียร์ของทีม ที่พูดไม่ต่างจากนักเตะของ เชลซี ที่เคยเห็น เอ็นกูโมฮา เลย ... คำชมมากมายเกิดขึ้น และนอกจากนี้เขายังถูกทั้ง 2 คนเรียกว่า "Fearless" หรือถ้าจะแปลเป็นไทยให้มัน ๆ หน่อยก็คงจะเป็นฉายาว่า "ไอ้เด็กนรกผู้ไร้ต่อมความกลัว" อะไรราว ๆ นั้น 

1 เดือนหลังซ้อมกับทีมชุดใหญ่ เอ็นกูโมฮา ถูก ชล็อต เลือกเป็น 11 ตัวจริงในเกม เอฟเอ คัพ กับ แอคคริงตัน สแตนลี่ย์ โดยให้เหตุผลว่า เอ็นกูโมฮา ฟอร์มดีมาก ๆ และทำได้ตามที่สั่งทุกอย่างในสนามฝึกซ้อม ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่การเลือกนักเตะเพียงเพราะอยากให้เกิดการฮือฮาในวงกว้าง แต่เพราะเขาเชื่อว่า เอ็นกูโมฮา มีความสามารถที่จะเล่นในระดับทีมชุดใหญ่ได้จริง 

ในเกมนั้นเขาลงเล่นไป 71 นาทีก่อนถูกเปลี่ยนตัวออก ซึ่งการลงสนามครั้งนั้น ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ลิเวอร์พูล ที่ออกสตาร์ทตัวจริงในเกมแข่งขันอย่างเป็นทางการ ... คำชมมากมายเกิดขึ้นหลังเกมนั้น เช่นเดียวกับสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการถูกเปรียบเทียบเกิดขึ้น บางคนคิดว่าเขาจะเป็นเด็กมหัศจรรย์เหมือนกับที่ ไมเคิล โอเว่น ขึ้นมาสร้างประวัติศาสตร์ให้ ลิเวอร์พูล ในช่วงปลายยุค 1990s 

เรื่องราวลากยาวมาจนถึงวันจบฤดูกาล 2024-25 ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และมีการคาดหมายว่าในการปรีซีซั่นของฤดูกาล 2025-26 ที่กำลังจะมาถึง เอ็นกูโมฮา จะกลายเป็นตัวเลือกของทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว เพื่อให้มีเวลามากพอที่เขาจะพิสูจน์ตัวเอง  

ชล็อต ใส่ชื่อเขาเป็น 1 ใน 29 คนของทีมชุดออกทัวร์ปรีซีซั่น โดย เอ็นกูโมฮา เริ่มเด่นตั้งแต่เกมอุ่นเครื่องแบบปิดที่ถล่ม สโต๊ก ซิตี้ 5-0 ณ ศูนย์ฝึก AXA ซึ่งในเกมนั้น เอ็นกูโมฮา ยิงประตูได้อีกด้วย 

จากคลิปไฮไลต์ที่สโมสรปล่อยออกมา มันแทบไม่ต้องบอกเลยว่าเขาเป็นนักเตะประเภทไหน นี่คือตัวริมเส้นธรรมชาติ ที่ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ความคล่องตัวและสปีดความเร็วอยู่ในระดับหาตัวจบยาก เหนือสิ่งอื่นใดคือทักษะการเล่นกับฟุตบอล ทั้งการจับ การเลี้ยง และการยิง ดูเป็นธรรมชาติมาก 

สิ่งที่เขาแสดงออกมาในเกมนั้น มันบอกได้ทันทีว่าทำไม ลิเวอร์พูล จึงใช้ความพยายามอย่างมากที่จะคว้าตัวเขามาจาก เชลซี เพราะระดับที่เขาเล่น มันอาจจะไม่ได้ถึงขั้นเนียนระดับเวิลด์คลาส แต่ที่แน่ ๆ มันคือระดับที่คุณไม่มีทางนึกภาพออกว่า เด็กอายุ 16 ปี จะเข้ากับนักเตะชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ทีมที่ดีที่สุดในในอังกฤษเมื่อฤดูกาลที่แล้วได้อย่างแนบเนียนไม่เห็นความต่างเลย 

"การได้ซ้อมกับทีมระดับโลก และได้ทำงาน เรียนรู้จากนักเตะเหล่านี้มันช่วยให้ผมได้ทดสอบตัวเองมากขึ้นในทุก ๆ นาที และมันดีมากจริง ๆ ที่ได้รับโอกาสนี้" เอ็นกูโมฮา กล่าวหลังบินลัดฟ้ามาฮ่องกง พร้อมกับทีมชุดใหญ่ 

“ผมเข้าใจดีว่าความอดทนคือกุญแจสำคัญของการพัฒนาตัวเอง ณ ตอนนี้ผมไม่อยากเร่งรีบอะไร ผมยังเด็กมาก สิ่งที่โฟกัสก็แค่ทำงานหนักต่อไป ผลักดันตัวเองให้หนัก ขึ้นอีก และแสดงให้ผู้จัดการเห็นว่าผมทำอะไรได้ที่จะส่งผลต่อทีมได้"

ไม่นานนัก ชล็อต ก็ส่งเขาลงเล่นในการทัวร์เอเชีย และเขาได้แสดงระดับของตัวเองอีกครั้งจากลูกยิงที่ยิงใส่ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในเกมที่ ลิเวอร์พูล ชนะไป 3-1 โดยประตูที่เขายิงได้ เป็นลูกยิงบอกยี่ห้อ ที่เขาโซโล่เข้ามา และใช้จังหวะสเต็ปเท้าตัดเข้าตรงกลาง และยิงด้วยเท้าขวาแบบเฉียบขาด ... หลังบอลไปกองก้นตาข่าย มันแน่ชัดแล้วว่า เขา "แจ้งเกิด" อย่างเป็นทางการแล้ว แต่ในอีกด้านก็คือการได้เล่นกับ ซาลาห์, โฟลเรียน เวียตซ์ และคนอื่น ๆ มันยิ่งทำให้เขาไม่สามารถดีใจได้สุดตัว ณ จุดนี้ 

“ทุกคนเป็นมืออาชีพมาก ๆ และคุณคงเห็นแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่แถวหน้า กลุ่มนักเตะทีมชุดใหญ่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาคิดถึงแต่เรื่องฟุตบอลตลอดเวลา มีความเป็นมืออาชีพสูง ทุกอย่างเกี่ยวกับ การฟื้นตัว และเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการกินอาหารให้ถูกต้องอยู่เสมอ ดังนั้น [คุณ] สามารถเรียนรู้จากพวกเขาได้มากมายอย่างแน่นอน”

การเดินทางของเขายังอีกยาวไกล และเด็กหนุ่มที่ถ่อมตัว และทะเยอทะยานในเวลาเดียวกันอย่างเขานำพาความสนใจมากมาย และมันชวนให้นึกถึงตอนที่เขาถูกสื่อสโมสรถามเรื่องความฝันของเขา ซึ่งเจ้าตัวตอบมาเต็มปากว่า 

“ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า วันหนึ่งผมสามารถคว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ ผมอยากได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล และเป็นตำนานของโลกลูกหนัก" ... ได้เวลาจับตามองเด็กคนนี้ให้มากขึ้นแล้ว

 

แหล่งอ้างอิง

https://talksport.com/football/2402643/rio-ngumoha-liverpool-southampton-ballon-dor-raheem-sterling/
https://anfieldindex.com/72810
https://www.thisisanfield.com/2024/12/who-is-rio-ngumoha-16-year-old-winger-named-in-liverpools-first-team/ 
https://www.liverpoolfc.com/news/rio-ngumoha-every-kids-dream-i-have-keep-pushing
https://www.chelseafc.com/en/news/article/tuchel--the-door-is-always-open-for-academy-players-but-there-ar

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ