Feature

วิเคราะห์ เจาะลึก : ลามีน ยามาล จะก้าวข้ามระดับ "เมสซี่" ได้ไหมในอนาคต ? | Main Stand

ลามีน ยามาล เขย่าโลกตอนอายุ 17 ปี ด้วยทักษะการเลี้ยง การยิงประตู และ IQ ฟุตบอลที่เกินอายุไปหลายปี และสถิติต่าง ๆ ที่เขาทำ มันดียิ่งกว่า No.1 อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เสียอีก 

 


นั่นคือคำถามที่ชวนหาคำตอบว่า ยามาล กับพรสวรรค์ที่มีนี้ จะทำให้เขาสามารถแซงหน้าความยิ่งใหญ่ของ เมสซี่ ได้หรือไม่ ? 

ร่วมหาคำตอบกับ Main Stand แบบเจาะลึกตั้งแต่ตอนตั้งไข่ของทั้งคู่ 

 

ออกสตาร์ทที่ "ลา มาเซีย" 

"เด็กหนุ่มของ ลา มาเซีย เรียนรู้ที่จะรักฟุตบอล ต่อให้ทีมของเราจะกำลังแพ้ เราก็จะยึดมั่นในแนวทางของเราเสมอ"

"เด็ก ๆ ทุกคนที่นี่จะถูกสอนให้เล่นฟุตบอลด้วยจินตนาการและความเข้าใจ พวกเขาจะเป็นเด็กหนุ่มที่เด็ดเดี่ยว และเป็นสุภาพบุรุษที่พร้อมจะทำงานกับคนอื่น ๆ ในทีม ... ที่นี่ไม่มีอีโก้ พวกเขาเข้าใจเสมอว่าเมื่อทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในแง่ของภาพรวม" คาร์เลส ฟอลเกร่า ผู้อำนวยการ ลา มาเซีย อธิบายถึงปรัชญาฟุตบอลของศูนย์ฝึกที่สร้างเด็กมหัศจรรย์ที่่ขึ้นมายืนแถวหน้าของโลกถึง 2 คน

คนแรกคือ ลิโอเนล เมสซี่ ชายผู้ตอบทุกอย่างด้วยผลงานในสนามและความสำเร็จที่ไม่มีใครบนโลกฟุตบอลสามารถทำซ้ำได้ นั่นคือสิ่งแรกที่ทุกคนพูดถึงเขา

เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ ลา มาเซีย ได้สร้างสัตว์ประหลาดหมายเลข 2 เด็กหนุ่มที่ว่ากันว่าเก่งกาจและเอกอุยิ่งกว่า เมสซี่ ในช่วงวัยเดียวกัน ... ลามีน ยามาล ดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่ทำให้คำถามที่ว่า "โลกนี้จะมีใครเก่งกว่า เมสซี่ หรือไม่ ?" ถูกเอากลับมาเป็นประเด็นในวงสนทนาของคนบ้าฟุตบอลทั่วโลก  และเราจะมาลองวิเคราะห์คำถามนี้ เพื่อลองหาคำตอบกันดูว่า ยามาล จะบินได้ถึงระดับที่ เมสซี่ เคยทำเอาไว้หรือไม่ ? 

เรื่องนี้ เราคงต้องเริ่มกันด้วยสิ่งแรกที่ ลา มาเซีย ประเมินนักเตะของพวกเขาแต่ละคน โดยหัวข้อแรกที่พวกเขาจะพูดถึงเด็ก ๆ แต่ละคนในช่วงอายุไม่เกิน 14 ปีคือเรื่องสมรรถภาพร่างกาย เราเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้เห็นสมุดพกของ ชาบี เอร์นานเดซ ตอนอายุ 14 ปีมาแล้ว ซึ่งเราจะอ้างอิงจากตรงนั้นกันเลยเป็นอย่างแรก เพราะนี่คือสิ่งที่เด็ก ๆ จาก ลา มาเซีย ทุกคนถูกประเมิน 

ชาบี ถูกประเมินเรื่องร่างกายต่ำมากในตอนนั้น มีการอธิบายว่า เขาวิ่งด้วยการลงส้นเท้า เคลื่อนไหวช้า มีปัญหาเรื่องการเร่งสปีด เป็นนักเตะที่คล่องตัวน้อย ต้องปรับปรุง ส่วนของร่างกายที่ถูกประเมินว่าดีก็คือเรื่องความทนทานของกล้ามเนื้อ และความอึด ความฟิตเท่านั้นเอง ... ขณะที่เรื่องทักษะฟุตบอลนั้นเข้าเกณฑ์ยอดเยี่ยมทั้งหมด 

เราจะใช้เกณฑ์เดียวกับ ชาบี เพื่อเปรียบเทียบ ยามาล และ เมสซี่ กันต่อ ... เหตุผลที่บอกได้ชัดเจนว่าทำไม ยามาล ถึงออกสตาร์ทด้วยความเก่งกาจตั้งแต่อายุ 17 ปี เล่นได้เหมือนผู้ใหญ่และหากนับความสำคัญต่อทีมก็ต้องบอกว่าทำได้ดียิ่งกว่า เมสซี่ ตอนอายุ 17 ปี ก็คือ ยามาล มีความพร้อมมากกว่าในช่วงของการเป็นดาวรุ่ง 

ประการแรก คุณต้องไม่ลืมว่า เมสซี่ มาที่ ลา มาเซีย ตอนอายุ 13 ปี จากนั้นต้องใช้เวลาฉีดฮอร์โมนเร่งการเติบโตอยู่นานจนถึงอายุ 17 ปี จนสามารถดันความสูงขึ้นมาได้สูงสุดที่ 169 เซนติเมตร ในช่วงอายุ 18-19 ปี 

ซึ่งมันชัดเจนว่าในด้านร่างกายของ เมสซี่ เอง กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็เลยช่วงวัยที่เล่นให้กับทีมระดับเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ไปแล้วหากเทียบกับทักษะฟุตบอลที่เขามี

แต่สำหรับ ยามาล นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างแตกต่างกับ เมสซี่ พอสมควร เขาอยู่กับ บาร์ซ่า ตั้งแต่ 7 ขวบ ถูกประเมินด้านร่างกายในระดับ "ยอดเยี่ยม" ทั้งหมด  

ในช่วงวัย 16-17 ยามาล สูงถึง 180 เซนติเมตร อยู่ในเกณฑ์ "เติบโตเร็ว" มีมวลกล้ามเนื้อที่สูงเกินกว่าวัยและมีความแข็งแรงแม้อายุจะยังน้อย เขาไม่มีปัญหาด้านฮอร์โมนเหมือนเมสซี่ แถมมียีนส์นักกีฬาแบบคนแอฟริกันที่สืบเชื้อสายมาจากพ่อของเขาเป็นชาวโมร็อกโก-มาลี และมีแม่เป็นชาวอิเควทอเรียลกีนี 

ซึ่งถ้าจะบอกว่า DNA ของเขาทำให้เขาได้เปรียบในการเป็นนักกีฬาอาชีพก็คงไม่เกินเลยไปนัก เพราะงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ชาวแอฟริกัน มักมีสัดส่วนกล้ามเนื้อเร็ว (Fast-twitch fibers) มากกว่าคนจากทวีปอื่นโดยเฉลี่ย ทำให้สามารถระเบิดพลังได้ดี เหมาะกับกีฬาที่ใช้สปีดและพลังระยะสั้น เช่น ฟุตบอล และ วิ่ง 100 เมตร 

ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาทำให้ ยามาล มีความพร้อมมากกว่า เมสซี่ ในช่วงออกสตาร์ท และสิ่งที่ยืนยันได้ก็คือ เขาได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงของทีม บาร์เซโลน่า ชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 15 ปี แถมเขายังแสดงให้เห็นความทนทานในการชนและการปะทะกับแนวรับคู่แข่งที่เป็นนักเตะรุ่นพี่ หรือบางคนเป็นรุ่นพ่อได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้เรื่องของทักษะฟุตบอลผสมผสานเข้าไปด้วย ยามาล ก็ยิ่งเป็นปีกที่หาตัวจับยากขึ้นเป็นเท่าตัว 

ดังนั้นถ้าเราจะเทียบกันในช่วงอายุ 17 ปี ไม่ว่าคุณจะเทียบด้วยสถิติหรือความสำเร็จ ก็เป็น ยามาล ที่เอาชนะ เมสซี่ ไปได้ตามข้างต้น โดยในฤดูกาล 2024-25 ยามาล อายุ 17 ปี เป็นตัวหลักของทีมลงเล่นรวมทุกรายการ 55 นัด ทำไป 18 ประตูกับ 25 แอสซิสต์ แถมยังเป็นตัวหลักของทีมชาติสเปนในการคว้าแชมป์ยุโรปปี 2024 อีกด้วย

ขณะที่ เมสซี่ ตอนอายุ 17 ปีนั้นได้ลงเล่นให้ บาร์เซโลน่า ชุดใหญ่แค่ 9 เกม ยิงได้ 1 ประตู แถมในระดับนานาชาติ เขายังเล่นในระดับเยาวชน ยู 20 อยู่เลยด้วยซ้ำ ... อย่างไรก็ตาม การตัดสินของทั้งคู่ยังไม่จบ เพราะฟุตบอลนั้นคือทางยาว และต่อจากนี้จะเป็นการวิเคราะห์สิ่งที่ เมสซี่ ทำได้สำเร็จแล้ว ส่วน ยามาล กำลังจะเดินเข้าสู่ก้าวต่อไปในการทดสอบตัวเอง

 

สไตล์ และความง่ายดายในการเลี้ยงผ่าน 

สิ่งที่ทำให้การเปรียบเทียบความสามารถระหว่าง เมสซี่ และ ยามาล ถูกนำมาวิเคราะห์หรือถกเถียงกันในหมู่แฟนบอลทั่วไป นั่นก็เพราะว่าพวกเขาเป็นนักเตะที่เล่นในตำแหน่งเดียวกัน อยู่กับทีมเดียวกัน และที่สำคัญ พวกเขาต่างเป็นนักเตะที่เราสามารถใช้คำว่า "พรสวรรค์" ได้อย่างไม่กระดากปาก และไม่ต้องพยายามพูดหว่านล้อมใครให้เชื่อแบบนั้น เพราะทุกอย่างจบง่าย ๆ แค่คุณเปิดคลิปการเล่นของเขา คุณก็จะเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที 

ยามาล และ เมสซี่ เป็นนักเตะที่สามารถเอาชนะการดวล 1-1 ได้อย่างง่ายดาย และเหนือสิ่งอื่นใดคือการโตใน ลา มาเซีย สอนให้พวกเขารู้จักวิธีเอาชนะคู่แข่งด้วยการเล่นแบบประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมรอบตัว กล่าวคือแม้พวกเขาจะสามารถเลี้ยงผ่านคู่แข่งด้วยตัวเองได้จากทักษะและพรสวรรค์ที่มี แต่ถ้ามีเพื่อนมาเล่นร่วมด้วย พวกเขาก็จะไม่ลังเลที่จะทำแบบนั้น เพราะผลลัพธ์มันออกมาเหมือนกันนั่นคือ "ผ่านฉลุย" แถมการเล่นแบบเป็นทีม ยังลดความเสี่ยงในการเสียบอล หรือการได้รับบาดเจ็บหนัก ๆ มากกว่าการพยายามเล่นด้วยตัวคนเดียวด้วย สิ่งนี้เรียกว่า "IQ ฟุตบอล" ที่ทั้งสองคนต่างก็เปล่งออร่าระดับโลกออกมาตั้งแต่ได้โอกาสแบบไม่ต้องให้ใครมาเถียง

สเต็ปการเอาตัวรอดที่ ยามาล มักจะใช้เอาชนะคู่ต่อสู้มากที่สุดคือ "Pace & pause" หรือการเล่นแบบ "หยุดแล้วไป" เปลี่ยนความเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้คู่แข่งตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งนี่ก็เป็นแนวทางเดียวกับ เมสซี่ ใช้เป็นประจำตั้งแต่เขาเป็นวัยรุ่น จนกระทั่งทุกวันนี้ 

อีกส่วนหนึ่งที่เหมือนกันมาก ๆ ซึ่งทั้งคู่ทำได้ดีก็คือ ทักษะการเอาตัวรอดในที่แคบ ๆ ลามีน ยามาล เป็นนักเตะเท้าซ้ายธรรมชาติ ชนิดที่ว่าเป็นนักเตะเท้าซ้ายที่ใช้เท้าได้ “ทุกส่วน” ไม่ว่าจะเป็นข้างเท้า ปลายเท้า หรือใต้ฝ่าเท้า เพื่อควบคุมบอล มันทำให้เขาสามารถ "ไปได้ทุกทาง" ด้วยทักษะการควบคุมลูกฟุตบอลที่หลากหลาย และสมรรถภาพของร่างกายที่เปลี่ยนสปีดได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ การไม่ได้เป็นคนที่คิดแต่จะเลี้ยงและยิงพร่ำเพรื่อ ยังทำให้แนวรับตรงข้ามคาดเดาจังหวะการเล่นของเขายากขึ้นไปอีก จะสมาธิหลุดไม่ได้แม้แต่เสี้ยววินาที เพราะถ้าเกิดเสียสมาธิขึ้นมา ยามาล จะใช้พื้นที่แคบ ๆ ที่มีเล่นงานด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงเอง หรือการมองหาเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในตำแหน่งดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้ตำนานทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกปี 2014 อย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม ยังออกมาพูดด้วยตัวเองว่า การเล่นในที่แคบ คือหัวใจการเอาชนะคู่ต่อสู้ของ ยามาล อย่างแท้จริง ดังนั้นถ้าจะรับมือกับเขา ต้องห้ามเปิดพื้นที่ และห้ามประมาทโดยเด็ดขาด 

"สำหรับวัยของเขา ลามีน ยามาล ทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง เขาตัดสินใจได้รวดเร็ว ไม่เคยสัมผัสบอลมากเกินความจำเป็น และมักจะหาเพื่อนร่วมทีมเจอได้ด้วยการสัมผัสบอลเพียงไม่กี่ครั้ง" อดีตแบ็กดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลกกล่าวเริ่ม 

"การป้องกัน ลามีน ยามาล ต้องใช้สมาธิอย่างเต็มที่ตลอดเวลา คุณต้องมีความสามารถในการคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขา คุณต้องบีบให้เขาเล่นด้วยเท้าข้างที่ไม่ถนัดทั้งเกม อย่าปล่อยให้ ลามีน ยามาล มีพื้นที่เล่นแม้แต่นิดเดียว" การตอบของ ลาห์ม ค่อนข้างชัดว่า การเลี้ยงบอลในเชิงคุณภาพและปริมาณอย่างสมดุล รวมถึงทักษะ IQ ฟุตบอลในการเล่นเป็นทีม ช่วยให้ ยามาล สามารถเล่นด้วยฟอร์มระดับโลกตั้งแต่อายุ 17 ปี อย่างแท้จริง

ในแง่ของการเลี้ยงฟุตบอลและการเอาตัวรอด รวมถึงการปรับสไตล์ตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมของทีม คือสิ่งที่ ยามาล ทำได้เหมือนกับ เมสซี่ ไม่มีผิดเพี้ยน เป็นพวกที่รู้ทั้งรู้ว่าอันตราย แต่ก็ปิดตายไม่ได้ เพราะเก่งทั้งในการเล่นด้วยตัวเอง และการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีม 

ทว่าการจะบอกว่า ยามาล จะก้าวข้าม เมสซี่ นั้น เชื่อว่าใครที่ทันดูยุค "เมสซี่ร่างทอง" คงต้องพูดออกมาพร้อมกันว่า มันเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันอีกยาวด้วยเหตุผลเหล่านี้ 

 

ตำนาน vs อนาคต

เพราะสิ่งที่ เมสซี่ เป็นมาตลอดชีวิตของเขานั่นคือ "ความเฉียบขาดระดับแมตช์วินเนอร์" ซึ่งจุดนี้คนที่ทำได้ในระดับสูสีหรือเทียบเท่าเห็นแต่จะมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เท่านั้นที่แสดงออกมาให้เห็นชัด ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ต้องบอกว่านักเตะรุ่นหลังยังไม่มีใครเข้าใกล้วันที่เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก และอยู่ในจังหวะที่พีกที่สุดในชีวิต ซึ่งถ้าจะถามว่าเป็นช่วงเวลาไหน ก็ต้องตอบในเชิงสถิติว่า เมสซี่ ช่วงปี 2012 ที่เขายิงประตูตลอดปีปฎิทินมากถึง 91 ลูก และแอสซิสต์อีกนับไม่ถ้วน

ในปีนั้น เราได้เห็นทั้งหมดที่ เมสซี่ ทำได้ และเขาในอายุ 25 ปี ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ ยามาล ยังไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นในเวลานี้ อาทิ เมสซี่ เป็นศูนย์กลางแผนการเล่นของทีม บาร์เซโลน่า โดยตัวของเขาแทบจะขยับมาเป็นตัวรุกหมายเลข 10 (แต่มีอิสระในการเคลื่อนที่) จากเดิมที่ช่วงดาวรุ่งเล่นทางด้านปีกขวาเป็นหลัก กลายเป็นคนที่รับจบได้หมดทั้งหน้าที่การจบสกอร์ กับการแอสซิสต์ 

และถ้าหากใครจำ เมสซี่ ในเวลานั้นได้ คุณก็จะเข้าใจดีว่า ไม่ว่าคุณจะเรียกร้องอะไรจากนักเตะตำแหน่งตัวรุก เขาสามารถมอบทุกอย่างที่คุณต้องการ การจบสกอร์ที่ไม่ใช่แค่ทักษะการยิงประตูดีเท่านั้น แต่มันยังมีหลายลูกที่เขาแสดงให้เห็นถึงความฉลาด เช่นการยิงตอนผู้รักษาประตูขาตาย การเลี้ยงตัวในไลน์ที่ทำให้เขาเข้าถึงบอลในจังหวะสุดท้ายได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังใจเย็น เข้าใจเลือกจังหวะจบสกอร์แบบคิดมาก่อน เท้าซ้ายไม่ต้องพูดถึง ส่วนเท้าขวาก็ไม่ธรรมดา เพราะมีถึง 8 ประตูและอีก 11 แอสซิสต์ที่มาจากเท้าข้างไม่ถนัดของเขาในปี 2012  

ถ้าคุณแยกย่อยไปชัด ๆ คุณจะพบสถิติที่น่าตกใจมากขึ้นอีก เพราะตลอดทั้งปีเขาลงเล่นทั้งหมด 69 เกม มีเพียง 21 เกมเท่านั้นที่เขายิงประตูคู่แข่งไม่ได้ ค่าเฉลี่ยการยิงประตูของเขาสูงถึงนัดละ 1.3 ลูก และมีถึง 9 เกมที่เขายิงประตูใส่คู่แข่งได้ 3 ลูกขึ้นไป 

นอกจากตัวเลขและสถิติคือ เมสซี่ คือนักเตะที่ไม่มีใครเข้าใกล้ได้จริง ๆ ด้วยทักษะส่วนตัว การเล่นเป็นทีม และ IQ ฟุตบอล ไม่น่าจะมีใครทำ 91 ประตูในปีเดียวได้อีกแล้ว ซึ่งทั้งหมดมันก็มาจากคาแร็คเตอร์ของเขาด้วย เมสซี่ ในวัย 25 ปี มีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ แม้จะเป็นคนที่มี Hater เยอะ จากสงครามการเปรียบเทียบอันดับ 1 ของโลกฟุตบอลตลอดกาลอย่าง เมสซี่ vs โรนัลโด้ แต่ตลอดการค้าแข้ง เมสซี่ เป็นนักเตะที่มีคาแร็คเตอร์ เยือกเย็น เกาะอยู่กับเกมเสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการโผล่เข้ามาในเกมแต่ละครั้งของเขาจึงทรงพลังและสร้างอิมแพ็กต์ให้กับทีมได้ทุกเมื่อ 

สิ่งที่ เมสซี่ ทำไว้ทั้งหมดนี้ มันทำให้เรื่องราวของ ลามีน ยามาล ในอนาคตน่าสนใจมาก ๆ ตอนอายุ 17 ปี เขาอาจจะเก่งกว่า เมสซี่ แต่เมื่อวัดกันที่จุดพีกก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่ายากจะจินตนาการว่าจะมีนักเตะคนไหนที่เก่งกาจได้มากกว่านี้ในตำแหน่งตัวรุกสมัยใหม่ 

ยามาล มีทุกอย่างพร้อมต่อการเป็นราชาของโลกฟุตบอลคนใหม่ แต่การไปถึงระดับ เมสซี่ นั้น มันชัดเจนว่าเขาไม่สามารถหยุดพัฒนาตัวเองได้เลยไม่ว่าจะเรื่องในหรือนอกสนาม ณ ตอนนี้เขายังมีความเป็นเด็ก อาจจะมีเรื่องดราม่าในการใช้โซเชี่ยลมีเดีย และเรื่องอื่น ๆ แนว ๆ นี้เป็นระยะ ๆ ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเรื่องที่น่าห่วง และอาจจะทำให้ในบางครั้งโฟกัสที่มีต่อฟุตบอลของเขาขาดหายไป 

แต่อย่างไรเสีย ณ ตอนนี้ ยามาล อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องทุกประการ เขาแสดงพรสวรรค์ IQ และมีออร่าของความเป็นซูเปอร์สตาร์แล้ว แต่เส้นทางอาชีพของเขายังอีกยาว และหากจะเทียบเขาตอนนี้กับ เมสซี่ ก็ต้องบอกว่ายังอีกไกล เพราะเรื่องของความสม่ำเสมอ เฉียบขาด ไว้ใจได้เสมอเมื่อโอกาสมาถึง และที่สำคัญที่สุด เมสซี่ ไม่ได้เก่งแค่ช่วงสั้น ๆ 2-3 ปี ทว่านับตั้งแต่เขาเริ่มเป็นตัวหลักของ บาร์เซโลน่า มาตรฐานการเล่นของเขาก็ไม่เคยตกลงเลย อีกทั้งยังเป็นนักเตะที่ปรับสไตล์การเล่นของตัวเองในแต่ละยุคให้เหมาะสมกับอายุและสภาพรวมของทีม ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าไม่ว่าจะอายุเท่าไร เมสซี่ ก็ยังเป็นคนสำคัญเสมอ 

โดยสรุปก็คือ โอกาสก้าวไปอยู่ ณ จุดที่ เมสซี่ เคยยืนสำหรับ ยามาล เป็นเรื่องที่ยากจะตอบ เพราะเรากำลังพูดถึงตำนานหมายเลข 1 ของโลกฟุตบอล กับนักเตะอายุ 17 ปี ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็น "อนาคต" และสิ่งนั้นยังคงมาไม่ถึง คงยากที่จะฟันธงว่าการแซงหน้า เมสซี่ จะสามารถเป็นจริงได้หรือไม่

แต่ถ้าเรามองแบบบ้าน ๆ มองด้วยสายตาที่เห็นเขาเล่นในทุกวันนี้ก็ต้องบอกว่า หาก ยามาล เติบโตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ยกระดับตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ พัฒนาร่างกาย, ทักษะการยิง และยืนระยะได้แบบเมสซี่ พร้อมมีผลงานในฟุตบอลโลกและ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เขาอาจ "เข้าใกล้" ระดับเมสซี่ก็ได้ใครจะรู้ 

แต่ที่แน่ ๆ การจะ “เก่งกว่า” เมสซี่ในประวัติศาสตร์ อาจต้องใช้เวลายาวนานมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ... ซึ่งถึงตอนนั้นนั่นแหละ เราคงจะได้คำตอบพร้อมกันโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาชี้นำอีกต่อไป 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/articles/cr4nv6e1312o
https://www.goal.com/en/lists/why-lamine-yamal-ahead-cristiano-ronaldo-lionel-messi-goats-nowhere-near-barcelona-wonderkid-level-17/bltcf1c91113b92f0d5
https://www.reddit.com/r/Barca/comments/1kfpd26/what_do_you_all_think_about_the_lamine_yamal/
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/45057444/why-lamine-yamal-already-better-messi-some-ways
https://www.goal.com/en/lists/lamine-yamal-can-reach-lionel-messi-s-level-girona-boss-michel-drools-over-barcelona-difference-maker-la-liga-defeat/blt5343bf72d00e653e
https://maadhamaa.com/i-am-not-on-the-same-level-as-messi-yamal/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ