ไบรอัน เอ็มเบอโม่ นักเตะตัวรุกของ เบรนท์ฟอร์ด คือหนึ่งในนักเตะที่ลงสนามต่อเนื่อง อีกทั้งมีสถิติตัวเลขเกี่ยวกับการทำประตูและแอสซิสต์แบบเป็นน้ำที่เนื้อที่สุดคนหนึ่งในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา และสำหรับทีม "ผึ้งพิฆาต" เขาคือเบอร์ 1 อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่กว่าจะเป็นลีดเดอร์ของทีมได้ เส้นทางของเขาผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาไม่น้อย
นี่คือเรื่องราวของผู้ช่วยอย่าง "โรบิน" ที่ต้องกลายเป็นฮีโร่อย่าง "แบทแมน" ในวันที่ทีมไร้ผู้นำ … และเขาดันทำมันได้ดีซะด้วย
ลีกเดอซ์ แต่มีดี
ฟุตบอลฝรั่งเศสมักจะถูกกล่าวถึงในเชิงลบอยู่บ่อย ๆ ว่าเป็น "ลีกชาวนา" ด้วยความอ่อนชั้นในเวทียุโรป และการผูกขาดแชมป์ของทีมใหญ่อย่าง เปแอสเช
อย่างไรก็ตาม ความเป็นลีกชาวนาไม่ได้รวมถึงฝีเท้าของนักเตะในลีกนี้ นักเตะชั้นดีของโลกหลายคนมีจุดเริ่มต้นที่นี่ในทุกยุคทุกสมัย หลายคนกลายเป็นนักเตะระดับค่าตัวหลายสิบล้านยูโร ภายในช่วงเวลาไม่กี่ปีหลังจากที่พวกเขาย้ายออกจากที่นี่ ต่อให้พวกเขาจะลงเล่นในระดับดิวิชั่น 2 (ลีกเดอซ์) ก็ตาม
ตอนนี้เหมือนว่า ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ของ เบรนท์ฟอร์ด จะเป็นผลผลิตจากลีกเดอซ์คนล่าสุดที่กลายเป็นนักเตะแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก และกำลังจะมีค่าตัวมหาศาลในอีกไม่นานนี้
ช่วงเวลาที่ เอ็มเบอโม่ เล่นในลีกเดอซ์กับสโมสร ทรัวส์ นั้น ไม่ได้มีเรื่องราวที่เขียนย้อนไปในช่วงเวลานั้นมากนัก แต่การวิเคราะห์ที่น่าสนใจก็คือ นักเตะตัวรุกในสไตล์ฟุตบอลฝรั่งเศส มักจะถูกฝึกมาในพิมพ์เดียวกัน กล่าวคือมีความแข็งแรงของร่างกายที่ได้เปรียบแบบชาวแอฟริกัน มีความเข้าใจในการเล่นแบบเป็นทีมเหมือนกับนักเตะยุโรป และมีทักษะฟุตบอลแบบนักเตะอเมริกาใต้เป็นส่วนผสม ส่วนใครจะผสมส่วนไหนมากน้อยก็แล้วแต่สไตล์ของแนวรุกคนนั้น ๆ
ในรายของ เอ็มเบอโม่ เขามีเชื้อสายแคเมอรูนจากคุณพ่อ และเรื่องร่างกายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ทำให้เขาโดดเด่น ส่วนเรื่องไอคิวและทักษะฟุตบอลนั้นแม้จะยังมีไม่มาก แต่ประสบการณ์และการฝึกฝนจะสอนเขาในเรื่องนี้ได้
"ในเวลานั้น เขาก็มีคุณสมบัติทั้งหมดที่จะกลายมาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมได้" แพทริค บ็อกเกล อดีตโค้ชของเขาสมัยทำงานร่วมกันในทีมท้องถิ่นอย่าง CO Avallonais ก่อนที่เขาจะย้ายเข้าสู่ ทรัวส์ ในเวลาต่อมา กล่าวกับ L'Yonne Républicaine
เอ็มเบอโม่ เล่นในลีกระดับอาชีพปีแรกก็ได้เรื่องทันที เขาทำได้ 11 ประตูจาก 40 นัดในฤดูกาล 2018-19 และเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการพัฒนาฝีเท้าและเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวสู่ลีกที่มีความท้าทายมากขึ้น และจากนั้นก็มีหลายสโมสรในลีกเอิงอย่าง มาร์กเซย และ แรนส์ ให้ความสนในตัวของเขา แต่กลับมีทีมเล็ก ๆ ในอังกฤษที่ไม่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกเลยอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ได้ยื่นข้อเสนอที่เขาบอกว่า "น่าสนใจที่สุด" ขึ้นมา
ต้องย้อนกลับไปในช่วงเวลาดังกล่าว เบรนท์ฟอร์ด อาจจะเป็นทีมเล็ก แต่มีโมเดลการทำทีมที่แตกต่าง เป็นทีมที่ลงทุนกับระบบหลังบ้านเยอะกว่าระบบเยาวชนของตัวเอง ไอเดียของพวกเขาคือซื้อถูก-ขายแพง แม้กระทั่งในระดับเยาวชน พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตกนักเตะจากอคาเดมี่ของทีมดังมาปั้นต่อใน "ทีม B" เพื่อประหยัดงบประมาณ โดยเน้นกับการซื้อคนที่ถูกต้องกับระบบ และคนที่โค้ชอยากจะใช้งานจริง ๆ ซึ่งเราจะนับ เอ็มเบอโม่ รวมเป็น 1 ในนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินเลยไปนัก
คนที่มีส่วนอย่างมากในการเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวของ เอ็มเบอโม่ คือ ราสมุส แอนเคอร์เซ่น ผู้อำนวยการฟุตบอลร่วมของ เบรนท์ฟอร์ด ที่เน้นเรื่องการใช้สถิติและตัวเลขมาตัดสินในแทบทุก ๆ เรื่อง และแนวคิดดังกล่าวก็ได้รับการสนับสนุนจาก แมทธิว เบนแฮม เจ้าของสโมสรเป็นอย่างดี
แอนเคอร์เซ่น ไม่ได้ดูแค่จำนวนประตูหรือแอสซิสต์ แต่เขาซื้อทุกข้อมูลที่จะมีประโยชน์ในการตัดสินใจคว้าตัวนักเตะ สิ่งที่เขาค้นพบในตัวของ เอ็มเบอโม่ คือนักเตะที่มีค่าการเคลื่อนที่ขยับตัวให้ได้เปรียบตลอดทั้งเกม และนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมกับเกมรุกเสมอเมื่อทีมมีโอกาส สิ่งนี้เองเป็นเรื่องที่ เอ็มเบอโม่ มีเพิ่มขึ้นจากที่ในช่วงเยาวชนนั้นเขาโดดเด่นเรื่องร่างกายเป็นหลัก
"เรากำลังจะซื้อนักเตะดาวรุ่งจากฝรั่งเศส และถ้าเขาไม่ได้เป็นนักเตะระดับโลกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ผมคงจะผิดหวังมาก" ราสมุส แอนเคอร์เซ่น ประเมินจากตัวเลขและกล้าพูดคำนี้ออกมา และการเจรจาแบบจริงจังก็เริ่มขึ้น
Team Player ตัวจริง
หลังจากทีมหลังบ้านของ เบรนท์ฟอร์ด เริ่มคุยกันเรื่องนี้ รามุส แอนเคอร์เซ่น ได้บอกให้ ลี ไดค์ส ผอ. เทคนิคของทีม และ โธมัส แฟรงค์ เฮดโค้ชของทีมทราบข่าว และทั้ง 2 คนก็บินไปที่ฝรั่งเศส เพื่อพูดคุยกับ ทรัวส์ ในการคว้าตัว เอ็มเบอโม่ มาร่วมทีม
มันเป็นช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2019 จากคำบอกเล่าของ ไดค์ส ที่บินไปด้วยตัวเอง เขาเล่าว่าวันที่ไปที่นั่น คือวันที่ร้อนที่สุดในรอบปี 2019 ของฝรั่งเศส แถมในวันนั้นพวกเขาทั้งคู่ยังอยู่บนรถแท็กซี่ที่แอร์เสีย แถมการเจรจาครั้งแรกยังล่มจนพวกเขาต้องบินกลับอังกฤษแบบมือเปล่า จน ไดค์ส ถึงกับต้องบอกว่า "แฟนบอล เบรนท์ฟอร์ด ต้องรู้ว่าผมเสี่ยงชีวิตเพื่อเซ็นสัญญากับ ไบรอัน เอ็มเบอโม่"
แต่ด้วยความเชื่อมั่นในดาต้า ทุกคนตกลงว่า การเพิ่มเงินค่าตัวให้เต็มจำนวน 5 ล้านยูโรแบบที่ ทรัวส์ ต้องการ คืออะไรที่เหมาะสมสำหรับนักเตะที่มีแววจะพัฒนาในอนาคตอย่าง เอ็มเบอโม่ และสุดท้ายดีลดังกล่าวก็ลุล่วง ซึ่งเมื่อได้ตัวมาจริง ๆ เอ็มเบอโม่ ก็ตอบแทนความพยายามของทีมงานซื้อขายของ เบรนท์ฟอร์ด อย่างคุ้มค่า
เอ็มเบอโม่ มาอยู่กับทีมในปีแรกและเป็น 3 ประสานที่อันตรายที่สุดใน แชมเปี้ยนชิพ ร่วมกับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ และ ซาอิด เบนราห์ม่า ก่อนที่ทั้ง 2 คนที่กล่าวมาจะโด่งดังและย้ายสู่ทีมใน พรีเมียร์ลีก ในภายหลังเพราะขายได้ราคาดี หลังจากนั้นสโมสรก็เริ่มปรับจูนแนวรุกใหม่ จนกระทั่งมาเจอ ไอแวน โทนี่ย์ จาก ปีเตอร์โบโร่ ที่กลายเป็นพระเอกในภายหลัง
สิ่งที่เราพยายามจะบอกก็คือ ตลอดระยะเวลา 4 ปีแรกที่ เอ็มเบอโม่ มาอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด เขาไม่ใช่นักเตะเบอร์ 1 ของทีม แต่ทุกคนที่เล่นกับเขาล้วนเป็นนักเตะที่ดีขึ้น อย่างน้อยก็ในแง่สถิติและการยิงประตู เหตุผลก็เพราะว่า เอ็มเบอโม่ คือนักเตะที่ทุกทีมต้องการ นี่คือทีมเพลเยอร์ตัวจริง นักเตะที่พร้อมทำงานหนักเพื่อผลงานของทีมโดยรวม มากกว่าการเปล่งแสงของตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ
"ไบรอัน เป็นคนที่จะตอบว่า 'ได้ครับ' เป็นคนแรก เมื่อคุณขออาสาใครสักคนมาทำหน้าที่ที่ดูไม่สนุกนักสำหรับกลุ่มนักเตะตัวรุก เขาต้องเข้าปะทะกับกองหลังเยอะ เขาต้องพยายามวิ่งเพื่อแย่งบอลจากคู่แข่งกลับมาเพื่อทีม และยังต้องขยับตัวหาที่ว่างตลาดเวลาเพื่อให้ทีมมีตัวเลือกในการเล่นเกมรุกมากที่สุด" โธมัส แฟรงค์ กล่าวคำนี้ถึงลูกทีมคนโปรดของเขา
ไม่ใช่แค่นั้น เหล่าคู่หู "แบทแมน-โรบิน" ของเขาที่เคยผ่านมาต่างพูดแบบนี้เหมือนกันหมด คนที่พูดถึงเขามากที่สุดคือ โทนี่ย์ ที่พูดถึง เอ็มเบอโม่ ว่าเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของเขา และเป็นคนที่เข้าใจภาพรวมของเกมได้ดี จนสามารถเล่นในจังหวะตัดสินเกมร่วมกันได้ดีเสมอ
"ผมรู้ว่า ไบรอันทำอะไรได้บ้าง มีอยู่เกมหนึ่งที่ผมตะโกนบ่นเขาว่าให้เปิดบอลมากกว่านี้ เอาแบบที่ซ้อมกันมา และหลังจากนั้นในครึ่งหลัง เขาทำแบบที่ผมร้องขอเป๊ะ ๆ จนผมทำประตูได้จากลูกเปิดของเขา"
"คุณไม่รู้หรอกว่ามันยอดเยี่ยมแค่ไหนที่ได้เล่นกับนักเตะอย่างเขา หมอนี่คือคนที่เข้าใจวิธีการเล่นของทีมและวิธีการเล่นของผมแบบสุด ๆ การมีเขาช่วยทำให้งานของผมง่ายขึ้นมาก ๆ"
เหนือสิ่งอื่นใดที่ เอ็มเบอโม่ เป็นมาเสมอ คือเรื่องของมาตรฐานการเล่นที่สม่ำเสมอ แม้ไม่ได้อยู่ในแสงไฟแต่ก็โดดเด่นแบบเงียบ ๆ ด้วยตัวของเขาเอง ซีซั่น 2019-20 ปีแรกใน แชมเปี้ยนชิพ เขายิงไป 17 ประตูกับทำไปอีก 2 แอสซิสต์ ทีมจบอันดับ 3 ก่อนพลาดเลื่อนชั้นเพราะแพ้ในเกมเพลย์ออฟ
ฤดูกาล 2020-21 ทำไป 8 ประตูและอีก 13 แอสซิสต์ พาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จ, ซีซั่น 2021-22 หรือปีแรกในพรีเมียร์ลีก เขาทำไป 8 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์, ฤดูกาล 2022-23 9 ประตู 8 แอสซิสต์, ซีซั่น 2023-24 9 ประตู 7 แอสซิสต์ ... จนกระทั่งฤดูกาล 2024-25 การเปลี่ยนแปลงจริง ๆ ก็เกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่ว่าก็คือ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ จะไม่ได้เป็นพระรองอีกแล้ว เพราะวันที่ โทนี่ย์ ย้ายไปเล่นกับ อัล อาห์ลี เขาจะต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในเกมรุกของทีมทันที โดยคนที่เขาจะต้องผสานงานด้วยคือ โยอาน วิสซ่า และ เควิน ชาร์เด ถึงตรงนี้ ได้เวลาที่ โรบิน จะกลายเป็น แบทแมน อย่างเต็มตัวแล้ว
พระเอกมาจนได้
Sky Sports เคยพรีวิว เบรนท์ฟอร์ด ในฤดูกาล 2024-25 ว่า "ในวันที่พวกเขาขาด ไอแวน โทนี่ย์ ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าเกมรุกของพวกเขาจะทำให้ทีมยิงประตูได้อยู่ในมาตรฐานเดิมหรือไม่ ? ... นี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงของทีมที่กำลังพัฒนาแต่เสียตัวหลักไปอย่าง เบรนท์ฟอร์ด"
แต่ความจริงคือเมื่อซีซั่นสตาร์ท เอ็มเบอโม่ กลายเป็นพระเอกของงาน และมีแบทแมนอย่าง วิสซ่า และ ชาร์เด เข้ามาผสานงานกับเขาแทน 9 เกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 เอ็มเบอโม่ ยิงไป 8 ประตูและทำไปอีก 3 แอสซิสต์ คนที่ยิงได้มากกว่าเขามีแค่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ของ แมนฯ ซิตี้ คนเดียวเท่านั้น และที่น่าสนใจคือหากนับจากโอกาสที่ได้ เอ็มเบอโม่ มีอัตราการเปลี่ยนจังหวะให้เป็นประตูมากเป็นอันดับ 1 ของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
สถิติดังกล่าวทำให้ทุกคนลืม โทนี่ย์ ไปอย่างรวดเร็ว และ เอ็มเบอโม่ ก็กลายเป็นเบอร์ 1 ของ เบรนท์ฟอร์ด แบบไร้ข้อโต้แย้งทั้งจากสื่อและแฟนบอล
และถึงจะเป็นแบบนั้น เอ็มเบอโม่ ก็ไม่เคยลืมบทบาทที่ต้องทำเพื่อทีม เพราะ วิสซ่า เองก็เป็นอีกคนที่เด่นขึ้นมาด้วยไม่แพ้กัน โดย วิสซ่า เคยถูกถามว่า เอ็มเบอโม่ เป็นคนอย่างไร เขาก็ตอบกลับทันทีว่า นี่คือนักเตะที่ใส่ใจเพื่อนร่วมทีม และพร้อมจะคุยเพื่อให้คำแนะนำดี ๆ เสมอเมื่ออยู่นอกสนาม
"ผมถาม ไบรอัน แทบทุกเรื่อง และเขาก็ยินดีจะตอบกลับมาทุกอย่าง แม้เขาจะตอบจริงจังบ้างไม่จริงจังบ้าง แต่สำหรับผมการได้คุยกับนักเตะอย่างเขามันสำคัญมาก ๆ เพราะเมื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีเคมีที่เข้ากัน เราะจะส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี และสำหรับผม ต่อให้ผมหลับตา ผมก็รู้ว่า ไบรอัน จะอยู่ตรงไหน" วิสซ่า คู่หูคนปัจจุบันของเขาว่าเช่นนั้น
เอ็มเบอโม่ ทำไป 20 ประตูและ 8 แอสซิสต์ในซีซั่นนี้ นี่คือจำนวนที่ทำให้เขาติดอันดับ 4 ของดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 รองจาก รองจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (29 ประตู), อเล็กซานเดอร์ อิซัค (23 ประตู) และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (22 ประตู) และถ้าคุณจะมองสถิติให้เหมือนกับโค้ชของ เบรนท์ฟอร์ด ด้วยตัวเลขที่เจาะลึกเข้าไปมากกว่านี้ คุณจะพบตัวเลขที่ยอดเยี่ยมมากว่านี้อีก
เพราะ เอ็มเบอโม่ ยังคงเป็นนักเตะตัวรุกที่มีการสัมผัสบอลต่อ 1 เกมมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ถึง 48.8 ครั้ง เป็นรองแค่ โคล พาลเมอร์ และ หลุยส์ ดิอาซ นอกจากนี้ทุก ๆ ครั้งที่เขาได้จับบอล เขาเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสจากโอเพ่นเพลย์รวมถึง 11 ครั้ง มากเป็นอันดับที่ 3 ของลีกรองจาก พาลเมอร์ และ โม ซาลาห์ ... และแน่นอน คุณต้องไม่ลืมว่าการมีส่วนร่วมกับเกมมากขนาดนี้สำคัญกับการบอกวิธีการเล่นของเขาแค่ไหน เพราะ พาลเมอร์, ดิอาซ และ ซาลาห์ นั้นเป็นนักเตะที่อยู่กับทีมที่ครองบอลเฉลี่ยมากกว่า เบรนท์ฟอร์ด (อันดับ 12 ของลีก) ที่มีค่าเฉลี่ยครองบอลต่อเกมแค่ 47.2% เท่านั้น
สถิติดังกล่าวทำให้เราสามารถบอกได้ว่า แม้เขาจะไม่ใช่นักเตะที่ออกสื่อทุก ๆ สัปดาห์ แต่ เอ็มเบอโม่ คือนักเตะที่โดดเด่นมาก ๆ ในแง่การทำให้ทีม เบรนท์ฟอร์ด สามารถสร้างความแตกต่างที่นำไปสู่เกมบุกหรือการยิงประตูได้ แม้คุณจะมีโอกาสครองบอลเพียงน้อยนิดก็ตาม
จากสถิติทั้งหมดนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาจึงมีข่าวย้ายทีมและเกี่ยวข้องกับทีมใหญ่เสมอ ๆ และดูเหมือนว่าสัญญาที่เหลืออีกแค่ปีเดียว คงเป็นตัวชี้วัดว่าเขากำลังจะย้ายออกในเร็ว ๆ นี้ แบบที่ เบรนท์ฟอร์ด คงหมดสิทธิ์จะรั้งเขาไว้อีกแล้ว
"เขาเป็นผู้เล่นระดับท็อป ผมมั่นใจว่าเขาจะได้เล่นให้กับสโมสรที่ใหญ่กว่านี้ ถ้าผมได้คุมทีมใหญ่ ผมคงไม่ปฎิเสธว่าผมจะซื้อตัวเขาไปร่วมทีมแน่นอน" โทมัส แฟรงค์ กล่าวเมื่อเดือน ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา
เป็นธรรมดาของฟุตบอล นักเตะที่ดีที่สุดของแต่ละทีมล้วนมองหาความท้าทายใหม่ ๆ เสมอโดยเฉพาะทีมเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีเงินเยอะแยะมากมายอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งพวกเขาจะต้องกลับไปใช้ศาสตร์ด้านตัวเลขและสถิติอีกครั้ง เพื่อหาพระเอกคนใหม่มาแทนที่ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ คนนี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.transfermarkt.com/bryan-mbeumo/leistungsdatendetails/spieler/413039/plus/0?saison=2023&verein=&liga=&wettbewerb=&pos=&trainer_id=
https://www.bbc.com/sport/football/articles/crrznddve94o
https://www.skysports.com/football/news/11096/13245667/bryan-mbeumo-is-forward-the-next-brentford-player-to-move-to-a-big-club-after-stunning-start-to-premier-league-season
https://onefootball.com/en/news/report-the-evolution-of-bryan-mbeumo-from-ligue-2-to-premier-league-leader-40751845
https://theanalyst.com/articles/bryan-mbeumo-brentford-goals-assists
https://sport.trueid.net/detail/oAgMPpxNPmEG