Feature

สิ้นลายแซมบ้า : ทีมชาติบราซิล "ปัจจุบัน" ที่ถูกตัดสินว่าแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ? | Main Stand

ทีมชาติบราซิลชุดปัจจุบัน ถือเป็นทีมที่มีผลงานย่ำแย่ในการแข่งขันแทบทุกรายการ และเหนืออื่นใดคือพวกเขาละทิ้งความเป็นแซมบ้าจนหมดสิ้น ชนิดที่ตำนานนักเตะบางคนยังต้องส่ายหัว

 

ทัพ "เซเลเซา" เพิ่งแพ้ ปารากวัย มา 0-1 ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ตกรอบโคปา อเมริกา 2024 แบบไม่ได้ลุ้น และมีปัญหามากมายเกิดขึ้นระหว่างนักเตะปัจจุบัน กับอดีตนักเตะที่ออกมาซัดกันไม่เว้นแต่ละวัน 

บราซิลผู้เกรียงไกรถูกตีค่าให้เป็นทีมชุดที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ได้เกิดขึ้นแล้ว ... ทำไมพวกเขามาถึงจุดนี้ได้กันล่ะ ?

ติดตามที่ Main Stand

 

การเปลี่ยนแปลงสำคัญ

จบฟุตบอลโลก 2022 ตีเต้ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติบราซิล หลังตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการแพ้ โครเอเชีย ในการดวลจุดโทษ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจึงเริ่มขึ้น

เอาเข้าจริง บราซิลชุดฟุตบอลโลก 2022 ไม่ได้แย่ และถูกโจมตีจากแฟนบอลหนักหนามากนักหากเทียบกับทีมชุดปัจจุบัน พวกเขาทำได้ดีตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และถล่มเกาหลีใต้ 4-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนการแพ้จุดโทษเป็นอะไรที่เข้าใจได้ แม้จะผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้แย่จนถึงขั้นต้องขับไสไล่ส่ง

เพียงแต่ว่า ตีเต้ นั้นต้องการแสดงจุดยืนและความรับผิดชอบด้วยตัวเอง เนื่องจากก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มเขาบอกว่า บราซิล ชุดนี้คือทีมดีที่หวังถึงแชมป์โลกได้ พวกเขามีนักเตะระดับที่ดี จนถึงดีมาก โดยเฉพาะในเกมรุกที่มี เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ พร้อมลงสนาม ขณะที่แดนกลางก็ยังมี คาเซมิโร่ ที่อยู่ในช่วงร่างทอง ... พวกเขาตั้งเป้าไว้ที่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเป็นอย่างน้อยจากทีมชุดนี้ ดังนั้นเมื่อทำไม่ได้ ตีเต้ จึงรับผิดชอบคำพูดดังที่กล่าวมา 

หลังจากวันนั้น สื่อแทบทุกเจ้าต่างมองตรงกันว่า คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียนของ เรอัล มาดริด จะเป็นนายใหญ่คนต่อไปของทีมชาติบราซิล เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่ อันเช่ เป็นเซียนเรื่องการจัดทีมฟุตบอลให้ลงตัวกับนักเตะที่มี และคู่แข่งแต่ละเกมมากที่สุด

เกมไหนที่จำเป็นต้องเล่นเกมรับ ทีมของเขาจะเหนียวแน่นแพ้ยาก และนัดไหนหรือช่วงเวลาที่ต้องเปิดเกมรุกหมดหน้าตัก อันเช่ ก็สามารถสั่งลูกทีมบุกเป็นพายุชนิดมาทุกทิศทุกทางได้เช่นกัน ...ย้อนกลับไป ณ เวลานั้น เรื่องนี้จริงจังถึงขั้นสื่อหลายสำนักบอกว่า อันเช่ ได้คุยกับ สหพันธ์ฟุตบอลบราซิล หรือ CBF แล้วยด้วยซ้ำ 

แต่สุดท้ายคดีพลิก เมื่อ อันเช่ เกิดติดใจกับทีม มาดริด ยุคใหม่ที่เขากำลังสร้างขึ้นมาและกำลังไล่ล่าความสำเร็จแบบมากมายก่ายกองด้วยขุมกำลังนักเตะหนุ่มที่พร้อมใช้งานอีกเป็น 10 ปี อีกทั้ง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ มาเฟียสเปนผู้เป็นประธานสโมสรก็รั้งตัวไว้อีกด้วย ... จากเดิมที่สัญญาจะหมดช่วงกลางปี 2024 อันเชล็อตติ ต่อสัญญากับ มาดริด ออกไปจนถึงกลางปี 2026 นั่นหมายความว่าข้อเสนอจาก บราซิล ถูกปัดทิ้งไปเรียบร้อย 

เรื่องดังกล่าวผิดแผนจากที่ CBF วางไว้ เพราะช่วงกลางปี 2023 บราซิลแต่งตั้ง เฟร์นานโด ดินิซ ขึ้นมาเป็นกุนซือชั่วคราว จนจบศึก โคปา อเมริกา 2024 แถม CBF ยังสปอยล์ล่วงหน้าว่า หลัง ดินิซ หมดวาระ เฮดโค้ชคนต่อไปของทีมชาติบราซิลจะเป็นชาวต่างชาติ ดินิซ จึงเป็นคนที่จะรับหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะเขามีสไตล์การทำทีมใกล้เคียงกับว่าที่กุนซือคนต่อไป ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้กันว่าคือ อันเชล็อตติ

ไม่ได้ อันเชล็อตติ มาคุมไม่พอ คนที่รับงานอยู่ ณ เวลานั้นอย่าง ดินิซ ก็ดันทำผลงานงามไส้ คุมทีมในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก 6 นัดแรก ชนะแค่ 2 เสมอ 1 แพ้ไป 3 ทำเอา CBF ทนไม่ได้ ต้องปลดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2024 ก่อนแต่งตั้ง โดริวัล จูเนียร์ โค้ชชาวบราซิลมารับหน้าที่แทน 

โดริวัล ผ่านประสบการณ์คุมทีมในลีกบราซิลมาแทบทั้งชีวิต รู้จักนักเตะในประเทศดีกว่าใคร ๆ และการจะสร้างสตาร์ ก็ต้องเริ่มจากนักเตะที่ค้าแข้งในประเทศนี่แหละ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาได้งานนี้

"ผมมั่นใจมาก ๆ ในการได้รับเลือกให้เข้ามาทำงานนี้ สิ่งที่คนภายนอกบอกว่าฟุตบอลบราซิลไม่เหลือสตาร์แล้วไม่เคยกระเด็นเข้าหูพวกเรา และไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะผมคิดว่ามันเป็นวัฏจักรฟุตบอล ไม่ใช่แค่บราซิลเท่านั้น เพราะชาติอื่น ๆ ก็ต้องเจอห้วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง"

"นับตั้งแต่ปี 2012 ผมมีโอกาสได้เยี่ยมสโมสรต่าง ๆ ในต่างประเทศ ได้พูดคุยกับนักเตะ โค้ช และผู้จัดการทีมของพวกเขาทุกปี เราอยากจะสร้างทีมที่ดี แม้ว่า ณ ตอนนี้ผมก็ยังคิดว่าเรามีนักเตะชั้นยอดอยู่ในทีม แม้จะไม่มากเท่ากับช่วงเวลาอื่น ๆ ก็ตาม" โดริวัล ว่าไว้ 

หลังจากให้สัมภาษณ์ข้างต้น เขาคุมทีมชาติบราซิลนัดแรก ชนะ อังกฤษ ในเกมอุ่นเครื่องที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2024 คำชมเริ่มเกิดขึ้นภายใต้นักเตะหน้าใหม่หลายคน อีกทั้งคนยิงประตูชัยยังเป็น เอ็นดริค วันเดอร์คิดอายุแค่ 18 ปี มันทำให้ความหวังเริ่มเกิดขึ้น ... เพียงแต่ว่านั่นเป็นความประทับใจเดียวในยุคของเขาจนถึงตอนนี้ 

 

โดริวัล จูเนียร์ ทำอะไร ? 

หลังจากเอาชนะอังกฤษที่เวมบลีย์ ด้วยกลุ่มนักเตะชื่อไม่คุ้นหู มันค่อนข้างชัดว่างานของเขาคือการดันนักเตะกลุ่มนี้ให้มีประสบการณ์มากขึ้น เพื่อให้พร้อมสำหรับความสำเร็จใจอนาคต 

ฟุตบอลของเขายืดหยุ่นและไม่ค่อยมีระบบการเล่นที่ตายตัว The Athletic เขียนบทความวิเคราะห์แท็คติกของเขาว่า "โดริวัล ไม่ได้ยึดติดกับแผนใดแผนหนึ่ง ชายผู้ผ่านการคุมทีมมาแล้ว 26 ครั้ง เปลี่ยนแผนการเล่นเมื่อต้องเปลี่ยนทีมที่ต้องคุม เขาบอกว่าเขาไม่ชอบติดตั้งระบบล่วงหน้า เขาจะต้องรู้จักนักเตะที่มีก่อน จากนั้นกลยุทธ์ที่เหมาะสมจึงจะตามมา"

"นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการคลี่คลายการแตกแยกภายในทีม รวมถึงระหว่างทีมกับภายนอก นั่นเป็นสาเหตุที่บราซิลเลือกเขา แต่ปัญหาคือการทำสโมสรกับทีมชาติบราซิลนั้นคนละเรื่อง สำหรับกุนซือทีมชาติบราซิล กิโยตินพร้อมจะสับหัวเขาทุกเวลา ทันใดที่เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูกใจแฟนบอล" 

สิ่งที่ The Athletic วิเคราะห์เอาไว้ไม่เกินจริงนัก เพราะหลังจากบุกชนะอังกฤษ และบุกเสมอ สเปน 3-3 หลังจากนั้น 3 วัน งานใหญ่งานแรกของ โดริวัล ก็มาถึง ในศึก โคปา อเมริกา 2024 ... ซึ่งจุดนี้แหละที่ต้องบอกว่าแตกหักจริง ๆ สิ่งที่เตรียมเอาไว้ และสิ่งที่คิดตรงข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ 

ในทัวร์นาเมนต์นี้ บราซิล เป็นเต็ง 2 รองจาก อาร์เจนตินา แต่เอาเข้าจริงพวกเขาชนะได้แค่เกมเดียวเท่านั้น นั่นคือการชนะ ปารากวัย ในรอบแบ่งกลุ่ม ที่เหลือคือการ เสมอ คอสตาริกา เสมอ โคลัมเบีย และแพ้ อุรุกวัย ในการดวลจุดโทษ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย 

นี่คือความผิดหวังจริง ๆ ของแฟนบอลบราซิล เสียงวิจารณ์ดังกระหึ่ม เพราะในรายการนี้ บราซิล เป็นต่อเขาเกือบทุกเกม แต่พอลงสนามจริงไม่ใช่แค่แพ้หรือเอาชนะไม่ได้เท่านั้น แต่วิธีการเล่นที่บอกเอาไว้ว่าจะเป็นทีมที่ยืดหยุ่นมีกลยุทธ์ที่ดีเหมาะกับบอลทัวร์นาเมนต์นัดต่อนัด กลับไม่เคยเกิดขึ้นจริง

กลุ่มนักเตะที่เขาเลือกมาไม่ได้แย่เลย มีขุมกำลังหลักหรือนักเตะตัวท็อปของประเทศมากันครบทีม อาจจะมีการสอดแทรกนักเตะหน้าใหม่ที่พรรษาในทีมชาติน้อยอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ปรากฏในสนาม คือการสร้างเกมรุกทีมย่ำแย่ แม้แต่การเจอกับทีมอย่าง คอสตาริกา บราซิล ยังหาโอกาสยิงประตูได้แค่ 6 ครั้ง ไหนจะเกมกับ โคลอมเบีย ที่โดนพับสนามบุกแบบโงหัวไม่ขึ้น ชนิดที่ว่า วินิซิอุส จูเนียร์ หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุด ณ ฤดูกาล 2023-24 ยังแทบไม่มีโอกาสได้แตะบอล 

การแพ้ในรอบชิงชนะเลิศกับ อาร์เจนตินา ใน โคปา อเมริกา 2021 ว่าเจ็บแล้ว แต่การตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายใน โคปา อเมริกา 2024 ด้วยความย่ำแย่ตั้งแต่ผลลัพธ์ไปจนถึงวิธีการคืออะไรที่เจ็บปวดกว่าสำหรับชาติที่คลั่งฟุตบอล และมีฟุตบอลเป็นเหมือนพระเจ้าองค์ที่ 2 อย่างบราซิล ... แม้แต่อดีตนักเตะหลายคนยังอดไม่ไหวกับความย่ำแย่นี้ 

"ผมอยู่กับฟุตบอลบราซิลตั้งแต่จำความได้ ก่อนที่ผมจะเป็นนักฟุตบอลด้วยซ้ำ แต่ไม่มีอะไรที่ห่วยได้มากเท่ากับทีมชุดนี้เลย นักเตะชุดนี้ขาดความเข้าใจต่อความสำคัญของชุดแข่งขันที่พวกเขาสวมใส่ ขาความมุ่งมั่น และที่สำคัญที่สุดคือขาดความสามารถด้านฟุตบอล" โรนัลดินโญ่ เจ้าของ บัลลงดอร์  1 สมัย เป็นคนเปิดเรื่องนี้ 

"นี่มันน่าละอายที่สุด นี่คือทีมชุดที่แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา คอยดูนะ ผมจะไม่ดูการแข่งขันของบราซิลใน โคปา อเมริกา ครั้งนี้อีก ผมคิดว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะใครได้ และต่อให้เราชนะได้ ผมจะเป็นคนหนึ่งที่ไม่เฉลิมฉลองชัยชนะครั้งนี้" 

โรนัลดินโญ่ เดาถูก เพราะ บราซิล ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างที่กล่าวไว้ ส่วน โดริวัล จูเนียร์ ก็กลายเป็นคู่แค้นของแฟน บราซิล ตั้งแต่วันนั้น ... น่าเห็นใจที่เขาคุมทีมได้แค่ไม่กี่เกม และโปรเจ็กต์ของเขาก็กำลังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่อย่างที่บอก ที่บราซิล กิโยตินพร้อมสับหัวคุณไวกว่าที่คุณคิดเสมอเมื่อทีมชาติล้มเหลว

 

เพราะอะไร ? มีทีท่าจะดีขึ้นไหม ?

"ผมเพิ่งทำหน้าที่โค้ชให้กับทีมนี้แค่ 8 เกมเท่านั้น ณ ตอนนี้มันเป็นกระบวนการที่เราต้องทำมันต่อไป ผมมั่นใจว่าผมจะปรับปรุงมันให้ดีขึ้น และเป้าหมายหลักจากนี้คือการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกให้ได้" โดริวัล กล่าวหลังโดนทัวร์ลงหลังศึก โคปา อเมริกา จบ

มีการวิเคราะห์จากสื่อหลายเจ้า ที่น่าสนใจคือ The Guardian ที่บอกว่า บราซิล ขาดนักเตะชั้นดีแบบครบทุกตำแหน่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว เพียงแต่ว่าทีมชุดนี้มีมันมีรอยต่อระหว่างนักเตะยุคเก่ากับยุคใหม่มากเกินไป 

ปัญหาอาจจะมาจาก ณ ปัจจุบัน หรือหลังจากปี 2018 เป็นต้นมา ราคาค่างวดของนักเตะในประเทศบราซิลแพงขึ้นมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักเตะดาวรุ่งที่จะซื้อตัวกันทีต้องว่ากันราคาระดับ 20-30 ล้านยูโรขึ้นไป หรือบางคนอาจจะพุ่งไปถึง 50 ล้านยูโร ซึ่งจุดนี้ทำให้นักเตะได้ย้ายออกไปเล่นในยุโรปด้วยอายุที่ช้าเกินไป 

หากคุณสังเกตนักเตะบราซิลส่วนใหญ่ในยุคก่อน ๆ จะออกจากประเทศตั้งแต่อายุ 17-18 หรืออย่างช้าก็ไม่เกิน 20 ปีทั้งนั้น ทั้ง โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, เนย์มาร์ หรือ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่เป็นเอซของทีมชุดปัจจุบัน 

ราคาที่แพงเกินไป ทำให้กลไกการตลาดเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนทีมระดับเกรด B ในยุโรป อาทิทีมจาก โปรตุเกส หรือ เนเธอร์แลนด์ มักจะดึงนักเตะอายุน้อย ๆ จากบราซิลเข้ามา และเข้าสู่สเต็ปที่เรียกว่า "ซื้อ-สร้าง-ขาย-ทำซ้ำ" ที่ถูกเขียนไว้ในบทความ Grow, sell, repeat ของ Daily Mail ซึ่งเป็นความที่ตั้งคำถามว่า นักเตะบราซิลมูลค่าสูงเกินไปหรือเปล่า  

จริงอยู่ที่การซื้อ-ขาย นักเตะนั้นขึ้นอยู่กับผู้ซื้อและผู้ขาย แต่กับราคาที่แพงเกินไป และนักเตะอายุน้อย ๆ ที่กลไกเดิมจะต้องไปเล่นให้กับทีมในลีกรอง ๆ ก่อน ถูกตั้งราคาไว้แพงกว่ายุคก่อน ๆ ถึง 2 เท่า ทำให้ทีมอย่าง ปอร์โต้ เบนฟิก้า หรืออื่น ๆ อีกมากมายจะหันไปหานักเตะอเมริกาใต้ในประเทศอื่น ๆ เช่น โคลัมเบีย หรือ เอกวาร์ดอร์ ที่กำลังแรงขึ้นมา หรือแม้กระทั่งนักเตะจากทวีปแอฟริกา ที่มีราคาถูกมากกว่านักเตะดาวรุ่งจากทีมใน บราซิล ซีรี่ เอ หลายเท่า 

การได้ออกไปเล่นในต่างประเทศน้อยลง หรือช้าลง อาจจะมีผล เพราะทีมชุดปัจจุบันของ โดริวัล จูเนียร์ มีนักเตะเล่นในประเทศถึง 7 คน และเป็นนักเตะที่อายุมากกว่า 27 ปีถึง 6 คน (อายุน้อยที่สุดคือ เอสเตเวา วิลเลี่ยน จาก พัลไมรัส อายุ 17 ปี ที่จะไป เชลซี ช่วงกลางปี 2025 หลังอายุครบ 18 ปี) 

จากปัญหาที่เกิดขึ้น มันน่าจะเป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างและภาพรวม มากกว่าที่เราจะโทษ โดริวัล จูเรียร์ ได้เพียงคนเดียว ... เขาคนนี้คือโค้ชที่ได้รับหน้าที่ให้เข้ามาซ่อมแซม และสร้างรากฐานให้มั่น เพื่อให้คนต่อไปมาสานงานต่อไปถึงความสำเร็จ เพียงแต่ว่าผลงานในสนามมันชัดเจนในความผิดพลาด และจำเป็นคนต้องมีคนที่ต้องได้รับคำวิจารณ์ ซึ่ง โดริวัล ผู้เป็นเฮดโค้ช จำต้องรับหน้าที่นั้นไป 

เรื่องจริงมันเป็นอย่างที่เขาบอกว่า ทุกชาติล้วนต้องเจอวัฏจักรแบบนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกฟุตบอลที่จะมีทีมยุคทอง ผลัดใบ และไปสู่ยุคมืด วนเวียนไปแบบนั้น แม้ปัจจุบันทีมอย่าง เบลเยียม หรือแม้กระทั่ง อิตาลี ก็เจอสถานการณ์ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่า บราซิล คือชาติที่ถูกเรียกว่า "ต้นตำรับ" ฟุตบอลที่สวยงาม แต่พวกเขากลับไม่สามารถทำได้ดีเลยในแง่ของฟุตบอล ยิ่งเมื่อบวกกับการแข่งขันที่ได้ผลลัพธ์แย่ ๆ กระแสจึงแรงมาก ๆ ในเวลานี้ 

สิ่งที่ฟุตบอลบราซิลกำลังทำในเวลานี้คือการ "ซื้ออนาคต" แต่อย่าลืมว่า "อนาคตคือสิ่งที่มองไม่เห็น" พวกเขาจะต้องตั้งใจดูและวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด แม้เป้าหมายของพวกเขาจะเป็นเป้าหมายระยะยาว แต่พวกเขาจะละเลยการประเมินเป้าหมายระยะสั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าเริ่มได้แย่ ก็ยากที่จะจบได้สวย

ณ ตอนนี้มีเพียงคำสัญญาเท่านั้นที่ โดริวัล จูเนียร์ มอบให้แฟนบอลของพวกเขาได้ โดยเขาบอกว่า "เราจะเป็นทีมที่เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2026  ผมมั่นใจแบบนั้น จำคำของผมเอาไว้ได้เลย" นั่นคือสิ่งที่เขาว่าในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้เพื่อลดกระแสโจมตี ... ทว่าหลังจากพูดได้ไม่กี่ชั่วโมง บราซิล ก็แพ้ ปารากวัย ที่เป็นทีมระดับท้าย ๆ ของทวีปไปแล้ว 

คำพูดของเขาอาจจะดูหนักแน่น มีการร่ายยาวถึงแผนและวิธีการ รวมถึงการให้สัญญาเพื่อความมั่นใจ แต่อย่างที่บอก "ที่นี่บราซิล" เวลาของ โดริวัล มีไม่มากนัก และสิ่งที่เขาต้องทำในเวลาที่มีก็คือการทำอะไรสักอย่างเพื่อนำทีมกลับมาคว้าชัยชนะ ซื้อใจแฟน ๆ กลับมาเชื่อมือเขา และเชื่อฝีเท้าของทีมชาติบราซิลชุดที่ถูกขนานนามว่า "แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์" ให้ได้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.beinsports.com/en-us/soccer/copa-america/articles-video/ronaldinho-stops-supporting-brazil-they-are-an-embarrassment-2024-06-15
https://www.nytimes.com/athletic/5359714/2024/03/22/dorival-junior-brazil-coach/
https://www.reddit.com/r/soccer/comments/1dzstfp/dorival_junior_i_have_only_coached_this_team_for/
https://www.indiatoday.in/sports/football/story/carlo-ancelotti-rejects-brazil-coaching-job-i-am-staying-at-real-madrid-until-2024-2381954-2023-05-20
https://www.forbes.com/sites/josephosullivan/2024/01/09/dorival-jnior-the-new-manager-of-brazil/
https://www.theguardian.com/football/2024/mar/20/brazil-coach-dorival-junior-england
https://www.independent.co.uk/sport/football/brazil-england-premier-league-transfers-endrick-roc-nation-b2517539.html

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ