Feature

หรืออีโก้จะกลืนกิน ? : ทำไม จู๊ด เบลลิงแฮม ถึงถูกมองว่าเป็น นักฟุตบอลจอม "แอ็ค" ? | Main Stand

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในนักฟุตบอลที่โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาล 2023-24 จนถูกยกให้เป็น "ตัวเต็ง" ของการคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาครองในปี 2024 คงหนีไม่พ้น จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษ วัย 21 ปี

 

 

จู๊ด เบลลิงแฮม ยกระดับฟอร์มการเล่นของตนเอง จากเดิมที่เป็นเพียงแค่นักเตะ "ดาวรุ่ง" คนหนึ่ง แต่หลังจากย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด เขายกระดับตนเอง กลายเป็นแข้งระดับ "ท็อป" ของโลกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

แต่หนึ่งเรื่องที่ จู๊ด เบลลิงแฮม กำลังเป็นที่ให้พูดถึงอย่างหนักในช่วงระยะหลัง นั่นคือทัศนคติของเด็กหนุ่มคนนี้ เพราะเขาถูกแฟนบอลจำนวนไม่น้อยมองว่า เป็นนักฟุตบอลที่มีความ "ติดแอ็ค" และ "อีโก้สูง" มากพอสมควร

เพราะเหตุใด จู๊ด เบลลิงแฮม ถึงถูกมองว่าเป็นนักเตะจอมแอ็ค ร่วมติดตามเรื่องนี้ไปพร้อมกันได้ที่ Main Stand

"อีโก้สูง" จนเพื่อนร่วมทีมไม่สบอารมณ์

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2022-23 สมัยที่ จู๊ด เบลลิงแฮม ยังค้าแข้งอยู่กับ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลดังกล่าวเขามักได้รับหน้าที่ "กัปตันทีม" แทนที่ของ มาร์โก้ รอยส์ ดาวเตะจอมเก๋าของทีมที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีชื่อเป็นเพียงผู้เล่นสำรองเท่านั้น

แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว จู๊ด เบลลิงแฮม จะเพิ่งอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น แต่ด้วยผลงานส่วนตัวของเขาที่ยกระดับฟอร์มการเล่น พัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นแข้งหลักที่ทัพเสือเหลือง ขาดไม่ได้ 

โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีกับการค้าแข้งที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 132 นัด ทำประตูไปได้ทั้งหมด 24 ประตู กับอีก 24 แอสซิสต์ 

และในด้านสถิติค่าเฉลี่ยต่าง ๆ ของเขา ล้วนอยู่ในระดับท็อปแทบทุกสถิติของสโมสร ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมตลอด 3 ปีที่อยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ส่งผลให้เขากลายเป็นแข้ง "เนื้อหอม" ประจำทีมที่หลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในเวทียุโรปต่างให้ความสนใจอยากได้ตัวกองกลางทีมชาติอังกฤษ รายนี้ไปร่วมทีม

สุดท้ายแล้วอย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นทาง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ที่ทุ่มค่าตัวมากถึง 103 ล้านยูโร คว้าตัว จู๊ด เบลลิงแฮม ไปร่วมทีม พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 5 ที่หนึ่งในตำนานของสโมสรอย่าง ซีเนดีน ซีดาน เคยสวมใส่

โดยเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวมีโอกาสเพิ่มไปมากถึง 133.9 ล้านยูโร ตามโบนัสแอดออน ที่ทางทั้งสองสโมสรตกลงกันเอาไว้ ซึ่งค่าตัวจำนวนดังกล่าวทำให้ จู๊ด เบลลิงแฮม กลายเป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษที่มีมูลค่าในการย้ายทีมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 

ซึ่งหลังจากที่เขาถูกขายออกจากทีมไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย มีรายงานจาก Bild สื่อกีฬาชื่อดังประเทศเยอรมนี ได้ออกมาเปิดเผยว่าเหล่าบรรดานักเตะภายในทีม เสือเหลือง ต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่แข้งรายนี้ย้ายออกไปจากทีม หลังพวกเขารู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมและทัศนคติของ จู๊ด เบลลิงแฮม ในช่วงระยะหลัง

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมต่างไม่สบอารมณ์กับ จู๊ด เบลลิงแฮม เนื่องจาก พวกเขารู้สึกว่าแข้งรายนี้ไม่สมควรได้รับปลอกแขนกัปตันทีม เพราะเพื่อนร่วมทีมต่างรู้สึกว่าเขามีทัศนคติส่วนตัวที่ค่อนข้างสูง และไม่มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำ อีกทั้งยังมีอารมณ์แปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง เป็นต้นเหตุทำให้บรรยากาศของทีมเกิดความตึงเครียด

หนึ่งในตัวอย่างที่ถูกนำมาพูดถึงนั่นคือในเกมที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พบกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบเพลย์ออฟ ซึ่งในเกมนัดดังกล่าว จู๊ด เบลลิงแฮม แสดงอาการหัวเสียอย่างมากออกมาให้เห็น 

ถึงขั้นสบถคำหยาบใส่ นิคลาส ซูเล่ กองหลังมากประสบการณ์ของทีมอย่างรุนแรงขณะอยู่ในสนาม "นายเล่นบอลได้ห่วยแตกมาก จ่ายบอลได้ห่วยสิ้นดี"

โดยเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่นักเตะภายในทีมต่างไม่พอใจอย่างมากเกี่ยวกับการกระทำของ จู๊ด เบลลิงแฮม ถึงขั้นมีนักเตะหลายรายที่ออกอาการไม่สบอารมณ์กับแข้งดาวรุ่งรายนี้ และต้องการให้เฮดโค้ชยึดตำแหน่งปลอกแขนกัปตันทีมมาให้กับนักเตะรายอื่นภายในทีมที่มีวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ที่ดีกว่านักเตะรายนี้

ตัวเต็ง "บัลลงดอร์"

แต่ในท้ายที่สุดอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า หลังจาก จู๊ด เบลลิงแฮม ได้ย้ายมาเล่นในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กับสุดยอดทีมที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสโมสร ที่ดีที่สุดของโลกในวงการฟุตบอลอย่าง เรอัล มาดริด เปรียบเสมือนการยกระดับฝีเท้าการเล่นของ จู๊ด เบลลิงแฮม ให้ขึ้นหิ้งไปอีกขั้น

เขาสถาปนาตนเองกลายเป็นหนี่งในแข้งชั้นนำของโลก เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแผนเกมรุกของ คาร์โล อันเชล็อตติ เล่นร่วมกับสองริมเส้นตัวจี๊ดชาวบราซิลอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ ได้อย่างลงตัว เป็นส่วนสำคัญในการพา เรอัล มาดริด เถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์สามรายการในฤดูกาล 2023-24 ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ลาลีกา และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ มาครองได้สำเร็จ

โดยตลอดทั้งฤดูกาล จู๊ด เบลลิงแฮม ลงสนามให้กับ เรอัล มาดริด รวมทุกรายการ 42 นัด ทำไป 23 ประตู กับอีก 13 แอสซิสต์ คว้ารางวัลดาวซัลโวประจำทีมไปครองได้สำเร็จ 

ผลงานอันร้อนแรงของ จู๊ด เบลลิงแฮม ในฤดูกาลดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญทำให้เขาได้รับเลือกจากทางสมาพันธ์ฟุตบอลหลายแห่ง คว้ารางวัลส่วนตัวเข้ามาเพิ่มเกียรติประวัติของตนเองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

เริ่มจากได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของศึก ลาลีกา สเปน ประจำฤดูกาล 2023-24 ซึ่งทำให้ จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นนักเตะสัญชาติอังกฤษคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้ารางวัลดังกล่าวของประเทศสเปนมาครองได้สำเร็จ

นอกเหนือจากนั้นเขายังคว้ารางวัลนักกีฬาที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมประจำปี 2024 ของทาง ลอริอุส อวอร์ด ซึ่งทำให้ จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นนักฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลสำหรับรายการนี้

และอีกหนึ่งรางวัลที่ดาวเตะรายนี้คว้าไปครอง นั่นคือรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี หรือที่รู้จักกันในนาม "โกลเด้นบอย" โดยเขาได้รับคะแนนโหวตไปอย่างท้วมท้นถึง 97 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักเตะจาก เรอัล มาดริด คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้ารางวัลดังกล่าวไปครองได้สำเร็จ

สามรางวัลส่วนตัวที่เขาคว้ามาครองบวกกับเป็นส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกกับแชมป์ยุโรปในปี 2024 ส่งผลให้ชื่อของกองกลางวัย 21 ปีรายนี้ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตตัวเต็งรางวัล "บัลลงดอร์" นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี 2024

โดยทาง ไมเคิล โอเว่น อดีตตำนานกองหน้าทัพสิงโตคำราม นักเตะสัญชาติอังกฤษรายล่าสุดที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ ได้ในปี 2001 ออกมาเผยว่า จู๊ด เบลลิงแฮม มีคุณสมบัติที่เหมาะสมมากที่สุดในปีนี้ที่คู่ควรกับการได้รับรางวัลบัลลงดอร์

"รางวัลบัลลงดอร์ จะมอบให้กับผู้เล่นที่มีฤดูกาลที่โดดเด่นมากไม่ใช่แค่ผลงานส่วนตัว แต่ยังต้องได้แชมป์บางรายการหรือหลายรายการ ซึ่งทาง จู๊ด เบลลิ่งแฮม เขาคว้าได้ถึง 3 แชมป์กับทาง เรอัล มาดริด ในปีนี้"

"และเขายังมีผลงานในการทำประตูอย่างยอดเยี่ยม เขายกระดับฟอร์มการเล่นของตนเอง อย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่มาดริด เขาคือเด็กที่เก่งเกินอายุทั้งที่ในตอนนี้เขาเพิ่งจะ 21 ปี ผมจะแปลกใจมากถ้าหากเขาไม่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ในปีนี้" 

และมีโอกาสความเป็นไปได้สูงในเวลานี้ที่ จู๊ด เบลลิงแฮม จะคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาครอง เพราะนอกเหนือจากฟอร์มการเล่นในสโมสรที่ยอดเยี่ยมแล้ว ผลงานในนามทีมชาติอังกฤษ ที่ปัจจุบันเขากำลังพาทัพ "สิงโตคำราม" ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2024 

ซึ่งหากว่าเขาพาทีมชาติอังกฤษ คว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ จู๊ด เบลลิงแฮม ขึ้นแท่นตัวเต็งที่จะได้รางวัลนี้แน่นอน


จู๊ด = แอ็ค ?

ตลอดทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2024 จู๊ด เบลลิงแฮม สวมบทบาทตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ หมายเลข 10 ของทีม คอยบัญชาการเกมรุกในตำแหน่งด้านหลังกองหน้า 

โดยในเวลานี้ จู๊ด เบลลิงแฮม รั้งตำแหน่งรองดาวซัลโวของทีม หลังทำไปทั้งหมด 2 ประตู จากการโหม่งประตูชัยในเกมนัดแรกสวมบทฮีโร่พาทีมชาติอังกฤษ เอาชนะ ทีมชาติเซอร์เบีย 1-0 และอีกหนึ่งประตูได้จากการทำประตูด้วยลูกยิง "จักรยานอากาศ" ในช่วงท้ายเกมการแข่งขัน สวมบทฮีโร่พาทีมชาติอังกฤษ ไล่ตีเสมอทีมชาติสโลวาเกีย 1-1 ก่อนเอาชนะ 2-1 ในช่วงต่อเวลาของรอบ 16 ทีม

แต่นอกเหนือจากการสวมบทฮีโร่พาทีมชาติอังกฤษโกงความตาย จู๊ด เบลลิงแฮม กลับถูกกระแสโจมตีอย่างหนักถึงทัศนคติของเขาในปัจจุบัน ถึงขั้นถูกตีตราว่าเด็กหนุ่มรายนี้อยู่ในจำพวกกลุ่มนักเตะ "ขี้แอ็ค"

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว เป็นเพราะว่ามีอยู่บ่อยครั้งที่เขามักแสดงอาการไม่พอใจต่อเพื่อนร่วมทีม ในครั้งที่เพื่อนร่วมทีมทำพลาดหรือไม่ส่งบอลให้กับเขา

อีกหนึ่งประเด็นที่แฟนบอลทีมชาติอังกฤษส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจเกี่ยวกับแนวทางการเล่นของ จู๊ด เบลลิงแฮม นั่นคือเขาแทบไม่ช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่นในการเล่นเกมรับแม้แต่นิด ถึงขั้นมีคอมเมนท์เดือดจากแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ โจมตีใส่ดาวเตะรายนี้

"แกเร็ธ เซาธ์เก็ต สั่งห้าม จู๊ด เบลลิงแฮม เล่นเกมรับหรอ ทำไมผมไม่เห็นเขาวิ่งช่วยเพื่อนแย่งบอลสักครั้งเลย"

"จู๊ด เบลลิงแฮม คิดว่าตัวเขาเองเป็น ลิโอเนล เมสซี่ หรือยังไง เขาไม่ได้เก่งถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นโปรดช่วยเพื่อนเล่นเกมรับ บ้าง"

"ดีแคลน ไรซ์ จะเป็นลมในสนามก็ไม่แปลกแต่อย่างใด เพราะผมเห็นเขาใช้พลังงานในการวิ่งไล่บอลไปเยอะมาก จู๊ด เบลลิงแฮม ควรทำแบบนั้นบ้าง"

และอีกหนึ่งเรื่องราวที่กลายเป็นเครื่องหมายคำถามอย่างหนักต่อทัศนคติของ จู๊ด เบลลิงแฮม นั่นคือในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ทีมชาติอังกฤษ เอาชนะจุดโทษทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ 6-5 หลังจากเสมอกันในเวลา 120 นาที ไปด้วยสกอร์ 1-1

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงนาที 78 ของการแข่งขัน แกเร็ธ เซาธ์เกต เฮดโค้ชทีมชาติอังกฤษ ตัดสินใจเลือกที่จะถอด จู๊ด เบลลิงแฮม ออกจากสนาม และส่ง โคล พาลเมอร์ ลงไปเล่นแทน

แต่ทาง จู๊ด เบลลิงแฮม กลับแสดงอาการไม่พอใจ และปฏิเสธที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม โดยในท้ายที่สุด แกเร็ธ เซาธ์เกต ตัดสินใจเลือกที่จะไม่เปลี่ยนตัว จู๊ด เบลลิงแฮม ออกจากสนาม และเลือกถอด ค็อบบี้ เมนู ออกจากสนามแทน

โดยประเด็นดังกล่าวกลายเป็นเรื่องให้ถกเถียงอย่างมากเกี่ยวกับความเป็นมืออาชีพของ จู๊ด เบลลิงแฮม ซึ่งแฟนบอลส่วนใหญ่ต่างผิดหวังกับการกระทำของดาวเตะรายนี้

แม้ว่าในภายหลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต จะออกมาแก้ต่างถึงประเด็นดังกล่าวในช่วงหลังจบเกม ว่าเป็นการตัดสินใจของเขาในการเลือกไม่ถอด จู๊ด เบลลิงแฮม ออกจากสนาม เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษ ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

"เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ในตอนแรกผมคิดจะถอด จู๊ด เบลลิงแฮม ออกจากสนาม เพราะเวลานั้นในสนามผู้เล่นแผงเกมรุกของพวกเรามีเยอะมาก แต่สุดท้ายผมตัดสินใจเลือกเก็บเขาไว้ในสนามก่อน"

"จู๊ด เบลลิงแฮม เป็นผู้เล่นที่สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้ทุกเมื่อ ทุกคนรู้ว่า เขาสามารถทำอะไรได้บ้างในช่วงสถานการณ์ที่ทีมกำลังเป็นรอง ซึ่งผมคิดว่าการตัดสินใจของผมในวินาทีสุดท้ายที่เลือกไม่เปลี่ยนตัวเขาออกจากสนาม เป็นความคิดที่ถูกต้อง และยังเป็นที่มาของชัยชนะสำหรับพวกเราทีมชาติอังกฤษ"

ไม่ว่าทัศนคติเรื่องอีโก้จะกลายเป็นลวดหนามที่กลับมาทิ่มแทง จู๊ด เบลลิงแฮม ในอนาคต หรือจะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่ช่วยให้ ทั้งตัวเขาเองรวมถึงทีมที่ลงเล่นประสบความสำเร็จ บางทีผลลัพธ์ในอนาคตอาจจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/articles/c103d0zyz9do
https://www.goal.com/en/lists/dortmund-jude-bellingham-real-madrid-eur103m-champions-league-final/bltf003ee1080703668
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-12412319/Borussia-Dortmund-players-GLAD-Jude-Bellingham-left-club-growing-unhappy-need-centre-attention-moodiness-treatment-team-mates.html
https://www.beinsports.com/en-us/soccer/uefa-champions-league/articles/owen-gives-bellingham-massive-chance-of-ballon-dor-success-2024-05-28
https://www.fourfourtwo.com/news/did-jude-bellingham-refused-to-be-substituted-after-subs-board-mix-up-fans-suggest-england-star-used-his-aura-to-change-gareth-southgates-mind

Author

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ