Feature

จอร์แดน พิคฟอร์ด : นายทวารสายแพชชั่น ผู้ติดบัฟเก่งขึ้นในนามทีมชาติ | Main Stand

นับตั้งแต่ แกเรธ เซาธ์เกต เข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 2016  จนมาถึงปัจจุบันผ่านเวลาไปแล้วถึง 8 ปี 

 


ใน 8 ปีนี้ นักเตะตำแหน่งต่าง ๆ เปลี่ยนหน้า เปลี่ยนคนไปมากมาย นอกเสียจากนายทวารมือ 1 ที่ยังคงเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด อยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง

ทำไม เซาธ์เกต จึงยึดติดกับ พิคฟอร์ด ไม่เปลี่ยนใจ ? และทำไม พิคฟอร์ด จึงเล่นดีทุกครั้งเมื่ออยู่ในนามทีมชาติ ?  หาคำตอบกับ Main Stand 

 

นักทำลายเพรสซิ่ง

จอร์แดน พิคฟอร์ด ถูก แกเรธ เซาธ์เกต เรียกติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกเมื่อปี 2016 ก่อนจะได้ลงประเดิมสนามจริง ๆ ในปี 2017 และลงเล่นทุกนาทีให้ทีมชาติอังกฤษในทัวร์นาเมนต์สำคัญ 3 รายการหลังสุด (ฟุตบอลโลก 2018, ยูโร 2020, ฟุตบอลโลก 2022) เขาฟาดฟันกับใครอีกหลายคนเพื่อให้ได้ตำแหน่งนี้มา ภายใต้การอธิบายของ แกเรธ เซาธ์เกต ว่า "เชื่อมั่นในความสามารถของเขาโดยตลอด" แม้ว่า พิคฟอร์ด จะถูกตั้งแง่เสมอในฐานะนายทวารของทีมระดับโซนกลางค่อนล่างอย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ช่วงหลังหนีตกชั้นทุกปี

โดยในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เซาธ์เกต ตอบประเด็นนี้แบบชัดเจนที่สุด ว่าเมื่อเขาเลือกแล้วจะไม่เปลี่ยนใจ แม้จะมีคู่แข่งที่แรงขึ้นมาอย่าง นิค โป๊ป, ดีน เฮนเดอร์สัน หรือ แอรอน แรมส์เดล ก็ตาม รวมถึงกระแสกดดันจากแฟนบอลบางส่วนที่บอกว่า ควร "เปลี่ยน" ได้แล้ว ... แต่ เซาธ์เกต เคียงข้าง พิคฟอร์ด เสมอ 

"พิคฟอร์ด ถูกตั้งคำถามจากคนภายนอกเสมอ แต่สำหรับพวกเราไม่เคยมีข้อสงสัยในตัวของเขา ความสามารถที่เขามีและสิ่งที่เขาแสดงออกสามารถรับประกันศรัทธาที่เรามีต่อเขาได้" แกเรธ เซาธ์เกต ว่าแบบนั้น 

หลายคนบอกและแซวว่า ออกตัวกันขนาดนี้ จะสามารถเรียก พิคฟอร์ด ว่า "ลูกรัก" ของ เซาธ์เกต ได้หรือไม่ ? นั่นอาจจะไม่เกินเลยไปนัก แต่มันขึ้นอยู่กับคำว่าคุณให้คำจำกัดความของคำว่าลูกรักไว้แบบไหน ?  

เซาธ์เกต ทำงานร่วมกับ พิคฟอร์ด ครั้งแรกสมัยที่เขาเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษรุ่นยู 21 สิ่งหนึ่งที่เขายืนยันและเถียงแทน พิคฟอร์ด มาเสมอคือ เรื่องของส่วนสูง ที่ พิคฟอร์ด นั้นถูกมองว่าเป็นนายทวารที่ตัวเล็กเกินไป ด้วยความสูงที่ 185 เซนติเมตร นอกจากนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า บางครั้งเขาก็เอาแน่เอานอนไม่ได้กับฟอร์มในสโมสร แต่ เซาธ์เกต ก็มองเขาที่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย โดยข้อดีที่ เซาธ์เกต ยกออกมาพูดเป็นประจำคือ "ระยะการเตะที่ดีกว่าใคร" 

ในความหมายคือ พิคฟอร์ด มีความสำคัญต่อแท็คติกการเล่นบอลไดเร็กต์ของอังกฤษมาก ๆ เขาเป็นประตูที่ชอบหวดขึ้นหน้าเปรี้ยงเดียวไปให้ไกล และทำได้ดีไม่ว่าจะใช้เท้าซ้ายหรือเท้าขวา ซึ่งหลายครั้งการเตะขึ้นหน้าที่แฟนบอลอาจจะมองเหมือนการหลับหูหลับตาเตะให้พ้น ๆ เป็นการเปลี่ยนรับเป็นรุกได้เร็วที่สุด และกินพื้นที่กว่า 60 หลา โดยใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที 

มันยิ่งตอบโจทย์ขึ้นอีกเมื่อในฟุตบอลยุคนี้ หลายทีมมักจะขึ้นมาไล่กดดันคู่แข่งจนถึงหน้าประตู ดังนั้นการเตะยาว ๆ พุ่ง ๆ ของ พิคฟอร์ด จึงกลายเป็นหนึ่งในอาวุธของทีมชาติอังกฤษ ที่มีสูตรสำเร็จที่หลายคนน่าจะเคยได้เห็น นั่นคือเมื่อ พิคฟอร์ด สาดยาว จะมี แฮร์รี่ เคน เข้ามาเป็นตัวพักบอลจังหวะแรก จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของกองกลางที่เขามาช่วยรับบอลในจังหวะต่อไปก่อนจะแทงทะลุที่ว่างให้กับปีกทั้ง 2 ฝั่งใช้ความเร็วทะลวงแนวรับ 

"พิคฟอร์ด มีระยะการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด ตรงกับแนวทางที่เราอยากจะเล่น และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากจริง ๆ" เซาธ์เกต กล่าวในปี 2021

เลียม ธาม นักเขียนของ The Athletic อธิบายคุณสมบัติและเหตุผลว่าทำไม พิคฟอร์ด ยังคงเป็นตัวเลือกเหนือคนอื่น ๆ ในตำแหน่งผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษไว้คล้าย ๆ กับที่ เซาธ์เกต บอก โดยเขาได้ขยายความว่า สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยคือ นักเตะอังกฤษ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเล่นบอลกับพื้น ต่อบอลอย่างแม่นยำและใจเย็น หากเทียบกับชาติอื่น ๆ อย่าง สเปน, เยอรมัน และ อิตาลี 

ดังนั้นการที่อังกฤษพยายามจะเล่นเหมือนกับทีมในยุโรปด้วยการค่อย ๆ เซ็ตบอลจากแนวหลังขึ้นมา อาจจะเป็นจุดบอดจุดสลบให้กับตัวเองได้ การมีใครสักคนที่หูตาไว มีบอลยาวที่ดี ทั้งในแง่ความไกล และน้ำหนักทิศทางที่พุุ่งไปข้างหน้าด้วยความแรง มากกว่าการเตะโด่งย้อยให้บอลกินเวลาในอากาศมาก ๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ พิคฟอร์ด ตอบโจทย์การเล่นตามสไตล์ที่เซาธ์เกต อยากให้เป็นที่สุด 

ยิ่งจุดแข็งของนักเตะอังกฤษคือการเล่นลูกกลางอากาศ ความเร็ว และร่างกายที่แข็งแรง นั่นยิ่งดีต่อการเตะยาวของ พิคฟอร์ด ไปกันใหญ่ แน่นอนว่าการเตะไกลมีความเสี่ยงที่จะเสียบอล แต่ถ้าคุณไวกว่าคู่แข่งเพียงเสี้ยวนาที คุณจะสามารถเอาบอลข้ามนักเตะคู่แข่งได้รวดเดียว 5-6 คน หรืออาจจะยกแผง โดยใช้เวลาเพียง 1 วินาที ... นั่นคือความเสี่ยงที่ เซาธ์เกต รับได้ และ พิคฟอร์ด เองก็แสดงให้เห็นว่าลูกเตะของเขาช่วยทีมได้มากแค่ไหน 

 

ไปต่อที่การเซฟ

จากการลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 62 นัด พิคฟอร์ด มีสถิติการเสียประตูที่ 45 ลูก เฉลี่ยเป็น 0.72 ประตูต่อเกม เขามีส่วนสำคัญในการเก็บคลีนชีตได้ 30 นัด และถ้านับเฉพาะสถิติการเซฟในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์แล้ว ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนทำสถิติได้ดียิ่งกว่าเขา แม้จะวัดกับ ปีเตอร์ ชิลตัน ตำนานนายทวารทีมสิงโตคำรามก็ตาม 

โดย พิคฟอร์ด เก็บได้ 5 คลีนชีตจาก 7 เกมในยูโร 2020 ซึ่งอังกฤษคว้ารองแชมป์ และ 3 คลีนชีต จาก 5 เกมในฟุตบอลโลก 2022 ที่ตกรอบ 8 ทีม และเมื่อรวมกับฟุตบอลโลกปี 2018 ซึ่งอังกฤษคว้าอันดับ 4 รวมถึงเกมแรกกับ เซอร์เบีย ในยูโร 2024 ที่เขาช่วยเซฟประตูอยู่จะ ๆ ถึง 3-4 หน ... พิคฟอร์ด เก็บคลีนชีต ไปได้ 10 นัดจาก 20 เกม เท่ากันเป๊ะกับที่ ชิลตัน ทำได้ ...ดังนั้นการจะบอกว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ไม่ได้ความ ก็คงจะเป็นคำพูดที่กล่าวเกินจริงไปหน่อย 

นอกจากการเซฟในเชิงตัวเลขแล้ว พิคฟอร์ด ยังเป็นเด็กที่ถูกสร้างเพื่อเป็นมือ 1 ของทีมชาติอังกฤษตั้งแต่ยังอยู่ชุดยู 21 ที่มีเซาธ์เกตคุมทีมแล้ว โดยครั้งหนึ่ง ทิม ดิตต์เมอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาผู้รักษาประตูของ FA อังกฤษ ได้ออกบัญญัติ 19 ประการ ที่ เอฟเอ ใช้วัดคุณภาพผู้รักษาประตูในประเทศ ซึ่ง พิคฟอร์ด นั้นทดสอบผานทุกข้อสมัยที่เขาเล่นในรุ่นยู 21 

โดย คุณลักษณะทั้ง 19 ข้อ โดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อใหญ่คือ 

1.  "แนวคิด" เช่น มีความเป็นผู้ชนะในตัวหรือไม่, สามารถเอาชนะความกดดันและรับมือเกมสำคัญ ๆ ได้ดีไหม, การรู้คุณค่าของตัวเอง (Self-awareness) และการควบคุมอารมณ์ 

2. "แท็คติก" เรื่องความเข้าใจด้านแท็คติก ที่แยกย่อยเป็นเรื่อง การจัดการตัวเองในแต่ละแมตช์การแข่งขัน, การขยับตัวเมื่อไม่มีบอลอยู่กับเท้า, การจ่ายบอลให้ถูกต้องตามหลักการครองบอลของทีม 

3. "โซเชี่ยล" (การอยูในส่วนรวม) ได้แก่ มีความเป็นผู้นำ, มีความหัวไว เรียนรู้สถานการณ์ในแต่ละเกมได้, เชื่อมโยงกับผู้คนทั้งทีมได้ดีทั้งในและนอกสนาม

4. "เทคนิค" สามารถเซฟจังหวะสำคัญ ๆ ได้, รบกวนจิตใจแนวรุกฝั่งตรงข้าม, เล่นบนความเสี่ยงที่น้อยที่สุด แต่แน่นอนที่สุด 

5. "ร่างกาย" มีความฟิต แข็งแรง มีพลังกระโดดที่ดี และอื่น ๆ อีกมากมาย 

จากทั้งหมดทุกข้อที่กล่าวมา แกเรธ เซาธ์เกต เป็นคนที่บอกว่า พิคฟอร์ด สอบผ่านทั้ง 19 ประการ ... ณ ที่นี้ คุณอาจจะไม่เห็นด้วยกับเขาทุกข้อ แต่ก็มีการทิ้งติ่งไว้นิดหน่อยจากเซาธ์เกตว่า ตามหลัก 19 ข้อนี้ พิคฟอร์ด คือคนที่มีคุณสมบัติมากกว่าคนอื่น ๆ ที่พยายามจะแย่งตำแหน่งมือ 1 ทีมชาติอังกฤษจากเขา ซึ่งเมื่อเซาธ์เกตออกมาพูดแบบนี้ บวกกับมีสถิติการเล่นในรายการใหญ่ที่ยอดเยี่ยม ก็นับว่าเป็นคำตอบที่ดี สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไม พิคฟอร์ด จึงไม่เคยเสียตำแหน่งมือ 1 ในทีมชาติอังกฤษเลยตลอด 7 ปีหลังสุด 

 

เล่นง่าย, รู้ใจ และเป็นนักสั่งการ 

เหตุผลข้อสุดท้ายที่ พิคฟอร์ด เล่นทีมชาติทีไรยอดเยี่ยมตลอด เราคงต้องบอกว่ามันเกิดขึ้นจากอดีตที่มากมายของเขา ตลอดช่วงเวลาอาชีพ พิคฟอร์ด โดนยืมตัวไปกับหลายทีม เคยเล่นในทีมระดับลีกล่าง ๆ มากมาย ทั้ง ดาร์ลิงตัน กับ อัลเฟรตัน ทาวน์ สมัยทั้งสองทีมอยู่ เนชั่นแนล ลีก หรือลีกระดับ 5 ของอังกฤษ, เบอร์ตัน สมัยเล่น ลีกทู, คาร์ไลส์ กับ แบรดฟอร์ด สมัยเล่น ลีกวัน และ เปรสตัน ใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ประสบการณ์เล่นในลีกเล็ก ๆ ตั้งแต่อยู่ในวัยทีนเอจ ช่วยให้เขารับมือกับความกดดันได้ดี และมักจะเป็นคนที่เล่นง่าย ๆ เพราะเข้าใจความสามารถของเพื่อนร่วมทีม 

"พิคฟอร์ด เป็นคนที่เงียบนิดหน่อยในตอนแรก ตอนนั้นเขาอายุ 19 ปี และถูกส่งมาเล่นในลีกวัน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับเด็ก ๆ จากสโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีก เขาได้ความกล้ากลับไป ได้คาแร็คเตอร์ที่ดีกลับไป นั่นคือสิ่งที่เราเห็นเขาเป็นแบบวันนี้"

"เขาไม่ใช่คนตัวใหญ่ที่สุด แต่เขาก็ไม่ได้คิดไม่ตกกับเรื่องร่างกายที่เป็นข้อจำกัดของเขา เขาทำเหมือนกับที่เขาเป็นตอนนี้ พยายามหาสิ่งอื่น ๆ มาเพิ่มเติมทดแทนสิ่งที่เขาไม่มี เช่นการเป็นคนที่ศึกษาสไตล์ของเพื่อนร่วมทีมตัวเอง การทำความสนิทสนมกับเพื่อน ๆ นอกสนาม ข้อนี้ทำให้เขาได้ความไว้วางใจ และสร้างความประทับใจกับทุก ๆ คน และที่สำคัญมาก ๆ คือผู้รักษาประตูกับนักเตะในทีมสนิทกัน บางครั้งพวกเขาไม่ต้องมองตาก็รู้ใจ เพียงแค่เขาตั้งท่าจะเตะ นักเตะแนวรุกก็จะรู้แล้วว่าลูกนี้จะต้องเป็นลูกเตะยาวที่เขาจะต้องใช้วัดความเร็วกับคู่แข่ง คนนั้นแหละคือผมเอง" มาร์ค กิลเลสพี นักเตะของ คาร์ไลส์ กล่าวถึง พิคฟอร์ด ในตอนอายุ 19 ปี 

ข้อสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ เมื่อถึงเกมใหญ่ ๆ เกมที่คนคาดหวังจากเขา พิคฟอร์ด มักจะทำผลงานตามที่คาดหวังได้เสมอ มันคือคาแร็คเตอร์ที่ อลัน เคลลี่ โค้ชประตูของ เอฟเวอร์ตัน พูดถึงเหตุผลที่ทำไม สโมสรจึงทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์ ซื้อตัวเขามาร่วมทีมจาก ซันเดอร์แลนด์  

"จอร์แดน เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำ และเปิดรับกับคนรอบตัวมาก ๆ เลย จากวันแรกจนถึงตอนนี้สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เขาอายุมากขึ้น เขากลายเป็นพ่อคน และนั่นช่วยเขาได้มากในการตัดสินใจที่ดีขึ้น"

"นอกสนามเป็นคนร่าเริง ทำงานหนักมากตลอด ไม่มีอีโก้เลย พิคฟอร์ด ทำตัวดีไม่เคยมีปัญหาในการฝึกซ้อม แม้เขาจะเป็นนักเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษ แต่เขาไม่เคยอิดออดถ้าเราจะเรียกร้องให้เขาซ้อมเป็นคนแรก และออกจากสนามเป็นคนสุดท้าย ขอแค่เราบอก เขาจะตอบสนองทุกอย่าง"

"ยิ่งกว่าฝีมือ คือวุฒิภาวะ และการมีประสบการณ์ในชีวิตที่เรียนรู้ พัฒนาคาแร็คเตอร์ ผมมั่นใจว่าเขายังเป็นคนที่ดีที่สุดในประเทศสำหรับตำแหน่งนี้" อลัน เคลลี่ ว่าแบบนั้น 

แน่นอนที่สุดว่าบนโลกนี้ยังมีผู้รักษาประตูอีกมากมายหลายคนในปัจจุบันที่ถูกยกย่องชื่นชมมากกว่า พิคฟอร์ด แต่สำหรับทีมชาติอังกฤษ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา คุณจะเข้าใจว่าทำไม "ต้องเป็นเขา" ไม่ว่าจะด้วยเรื่องราวปูมหลัง การวางตัวนอกสนาม คาแร็คเตอร์ และความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ซึ่งนี่เป็นคุณสมบัติที่ แกเรธ เซาธ์เกต ยึดโยงกับความเป็นพิคฟอร์ด มาโดยตลอด พร้อมออกตัวให้ทุกครั้งในยามที่มีคำวิจารณ์บอกว่าเขาไม่ดีพอ 

ยูโร 2024 เปิดฉากไปแล้ว และ พิคฟอร์ด ยังคงเหนียวเหมือนเดิม ... ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าที่สุดปลายทางของทัวร์นาเมนต์เขาจะได้อะไรการันตีความยอดเยี่ยมของตัวเองหรือไม่ ... ถ้าอังกฤษไปถึงแชมป์ คำครหาที่เกิดขึ้นจะหายไปตลอดกาล และนั่นอาจจะทำให้ใครหลายคนมองย้อนไปที่ข้อดีของ จอร์แดน พิคฟอร์ด คนนี้บ้าง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.nytimes.com/athletic/5308014/2024/03/19/england-euro-2024-squad-goalkeepers/
https://www.fifatrainingcentre.com/en/environment/interviews/watch/tim-dittmer-on-goalkeeper-development.php
https://www.nytimes.com/athletic/3927366/2022/11/24/jordan-pickford-england-everton/ 

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ