Feature

จอห์น แม็คกินน์ : แข้งโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก สู่บทบาทกัปตันพา “แอสตัน วิลล่า” ลุ้นแชมป์ | Main Stand

JohnMcginn

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024 แอสตัน วิลล่า ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ท็อปโฟร์ของตารางคะแนนและมีผู้เล่นรายหนึ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกลายเป็นแกนหลักของทั้งสโมสรและทีมชาติสกอตแลนด์ เขาคนนั้นก็คือ จอห์น แม็คกินน์ กองกลางห้องเครื่องคนสำคัญของแอสตัน วิลล่า

 


นักเตะวัย 29 ปีรายนี้ทำไปแล้ว 4 ประตูในทุกรายการภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสเปนผู้มากประสบการณ์ที่มารับงานคุมทีมในฤดูกาลนี้ และอีก 3 ประตูให้กับสกอตแลนด์ในช่วงที่ผ่านมา

Main Stand จะพามาทำความรู้จักกับ จอห์น แม็คกินน์ มากขึ้นผ่านบทความนี้

 

เส้นทางที่ถูกวางไว้ในวงการลูกหนัง

จอห์น แม็คกินน์ เกิดที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในสกอตแลนด์ และเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากที่สุดเป็นอันดับห้าของประเทศ 

ตั้งแต่เด็กผู้เป็นพ่อสตีเฟนแม็คกินน์ และแม่แมรี่ แม็คกินน์ได้จัดเส้นทางในวงการฟุตบอลให้เขาแล้ว โดยตามรอยพี่ชายของเขา สตีเฟน และ พอล อีกทั้งยังมีคุณปู่ของเขาที่ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมฟุตบอลสกอตแลนด์

จอห์น แม็คกินน์ ได้เข้าสู่สถาบันการศึกษา เซนต์ เมียร์เรน ของสก็อตแลนด์ตั้งแต่เด็ก ย้อนกลับไปในสมัยก่อนเด็กหนุ่มตัวจิ๋วคนนี้มักจะมองเห็นได้ในสนามเสมอ เนื่องจากรูปร่างที่เล็กและทักษะที่โดดเด่นของเขาแสดงให้เห็นถึงทักษะที่ยอดเยี่ยมที่สามารถเลี้ยงลูกผ่านเด็กที่ตัวใหญ่กว่าได้อย่างง่ายดาย การได้เห็นวิธีที่เขาทะลุทะลวงผ่านคู่ต่อสู้ทำให้ผู้คนต่างคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเติบโตขึ้นและประสบความสำเร็จ 

แม็คกินน์ เริ่มต้นอาชีพของเขาในฐานะผู้เล่นเยาวชนที่ เซนต์ เมียร์เรน โดยเล่นให้กับ ราลสตัน อคาเดมีของสโมสร และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในช่วงปรีซีซั่นของฤดูกาล 2012–13 ในการพบกับคาร์ไลล์ยูไนเต็ดและแอคคริงตันสแตนลีย์ เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับสัญญาใหม่สามปี จากนั้นเขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จ 

แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นขณะซ้อม เมื่อสตีเวน ทอมป์สัน กัปตันทีมเซนต์เมียร์เรน ขว้างหอก "แทง" ไปที่ต้นขาของ จอห์น แม็คกินน์ ในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อที่จะเล่นหยอกล้อ กับกลายเป็นความผิดพลาด ทำให้แม็คกินน์เกิดการบาดเจ็บและพลาดช่วงที่เหลือของฤดูกาล ส่งผลให้เซนต์ เมียร์เรนตกชั้นจากสกอตติชพรีเมียร์ชิปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 

และต่อมาเขาได้ย้ายมาร่วมทีมฮิเบอร์เนียนด้วยสัญญา 4 ปี  แม็คกินน์เป็นส่วนหนึ่งของทีมฮิเบอร์เนียนคว้าแชมป์สก็อตติชคัพ ฤดูกาล 2015–16 ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งแรกของสโมสรในการแข่งขันในรอบ 114 ปี และในฤดูกาลถัดมา เขาพาฮิเบอร์เนียนเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ชิปของสกอตแลนด์ด้วยการคว้าแชมป์สก็อตติชแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2016–17 

 

จุดเปลี่ยนของชีวิต

จากสกอตแลนด์เดินทางมาสู่อังกฤษ…แม้จะได้รับความสนใจจากหลายสโมสรแต่แม็คกินน์เลือกที่จะเซ็นสัญญากับแอสตัน วิลล่า เป็นระยะเวลา 4 ปี 

“ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” เมื่อเซ็นสัญญา แฟนบอลส่วนใหญ่รวมถึงกัปตันแจ็ค กรีลิชไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับอดีตกองกลางฮิเบอร์เนี่ยนรายนี้มาก่อน

จอห์น แม็คกินน์ ลงประเดิมสนามเกมแรกให้ แอสตัน วิลล่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี 2018 ในเกมที่ชนะวีแกน แอธเลติก 3–2 ซึ่งในเกมนั้นเขาสามารถทำได้หนึ่งแอสซิสต์และสามารถยิงประตูแรกในสีเสื้อแอสตันวิลล่าได้ในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะ เชฟฟิลด์เว้นส์เดย์ ไปด้วยสกอร์ 2–1  

“วันหนึ่งสตีฟ บรูซดึงผมออกไปแล้วพูดว่า เรามีนักเตะดีๆ เข้ามาแล้ว จอห์น แม็คกินน์ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเล่นด้วย” กรีลิช กล่าวหลังจากที่เล่นกับแม็คกินน์หนึ่งฤดูกาล

ด้วยผลงานที่สม่ำเสมอในสโมสรใหม่ของเขา ทำให้ แม็คกินน์ กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลอย่างรวดเร็วแต่ แอสตัน วิลล่า เริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก ซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่การไล่ สตีฟ บรูซ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการสโมสรในเดือนตุลาคม และมีการจัดตั้งโค้ชคนใหม่นั้นคือ ดีน สมิธ ทำหน้าที่แทนแต่ แม็คกินน์ ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแอสตัน วิลล่า

หลังจากคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสรและนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล แม็คกินน์ ทำประตูชัยในการแข่งขันเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ และได้ตั๋วเลื่อนชั้นพา แอสตัน วิลล่า ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก

หลังจากทำผลงานเข้าตา แน่นอนว่าทางสโมสรย่อมจับขยายสัญญาและในเดือนสิงหาคม ปี 2019 แม็คกินน์ ได้สัญญาฉบับใหม่กับ แอสตัน วิลล่า เป็นเวลา 5 ปี 

“ผมรักทุกนาทีของเวลาของผมที่แอสตัน วิลล่า และยินดีที่จะมอบตัวให้กับสโมสรในระยะยาว” 

จากนั้นเขาโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมโดยสามารถทำประตูในเกมเปิดฤดูกาลด้วยการพ่ายแพ้ต่อท็อตแนมฮอตสเปอร์ 3-1 แต่แล้วเส้นทางลูกหนังของ แม็คกินน์ เหมือนเครื่องบินที่ขับมาเจอกับหลุมดำ

ก่อนวันคริสต์มาสปี 2019 นั้น แม็คกินน์  ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจะต้องพักเป็นเวลาอย่างน้อยสามเดือน อีกทั้งยังเกิดสถายการณ์โควิด-19 ทำให้พรีเมียร์ลีกต้องงดเตะเป็นเวลานานจากการแพร่ระบาดของไวรัส

ท้ายที่สุดหลังจากมีมาตรการคุมเข้ม จนทำให้ฟุตบอลอังกฤษกลับมาดำเนินการแข่งขันได้อีกครั้ง และนักกีฬาได้กลับมาลงสนามเกมแรกในวันที่ 17 มิถุนายน แม็คกินน์ ก็ยังคงรักษามาตรฐานพร้อมลงเล่นเกมที่เหลือทั้งหมดเพื่อช่วยให้ แอสตัน วิลล่า รอดชั้นในพรีเมียร์ลีก

ฤดูกาลถัดมานักเตะทีมชาติสกอตแลนด์รายนี้เซ็นสัญญาใหม่อีก 5 ปีซึ่งจะขยายไปถึงปี 2025

“มันเป็นทางเลือกที่ง่ายจริงๆ ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนที่นี่ เราคุยกันมาได้สักระยะแล้ว มันค่อนข้างเรียบง่าย เป็นการสนทนาที่ง่ายดาย” แม็คกินน์ กล่าวกับวิลล่าทีวี

อีกทั้งเขายังกล่าวแสดงความเคารพต่อกัปตันและผู้จัดการในขณะนั้นว่า “ผมยังคงรักสโมสรและสนุกกับกัปตัน (แจ็ค กรีลิช) ส่วนเจ้านาย (ดีน สมิธ) ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้านาย ผมเคารพเขาเป็นอย่างมาก เขาเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม แต่มากกว่านั้นเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมการอยู่ต่อจึงเป็นเรื่องง่าย”

ฤดูกาลนั้นเขายิงได้สามประตูจากการลงเล่น 37 นัดโดยพาแอสตันวิลล่าจบอันดับที่ 11 ของตาราง

แต่แล้วเพื่อนที่ดีที่สุดของแม็คกินน์อย่าง แจ็ค กรีลิช ย้ายออกจากสโมสรเพื่อแก้ปัญหาการเงินของทีมไปยังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเจ้านายสมิธถูกไล่ออก หลังจากฟอร์มการเล่นของทีมไม่เป็นตามเป้าหมาย

ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานนักเตะลิเวอร์พูลเข้ามารับงานคุมทีม แอสตัน วิลล่า และมีการพูดถึงเรื่องของกัปตันทีมคนใหม่ ซึ่งเจอร์ราร์ด ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าเขาเลือก จอห์น แม็คกินน์ เป็นกัปตันทีม 

“จอห์นได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมที่จะรับตำแหน่งกัปตันทีมผ่านผลงานของเขาในสนาม รวมกับทัศนคติและการประยุกต์ใช้ในการฝึกซ้อม เขาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมที่สร้างมาตรฐานและความคาดหวังในระดับสูงให้กับตัวเอง” สตีเวน เจอร์ราร์ดกล่าวหลังจากแต่งตั้งจอห์น แม็คกินน์เป็นกัปตันทีม

 

การเข้ามาของอูไน เอเมรี่ และเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแอสตัน วิลล่า

อูไน เอเมรี่ ยอดกุนซือแห่งแดนกระทิงดุเข้ามารับตำแหน่งแทน สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ถูกปลดไปก่อนหน้านี้ เขาเคยประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายจากการคุมทีมทั้ง เซบีย่า, เปแอสเช, อาร์เซน่อล รวมไปถึง บียาร์เรอัล การมาในครั้งนี้ของ อูไน เอเมรี่ เรียกได้ว่าเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทีม

ด้วยสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ในระบบ 4-4-2 ที่เน้นบีบพื้นที่ตรงกลางให้ และเพรสซิ่งสูงเพื่อไม่ให้คู่แข่งสามารถขึ้นเกมได้ ส่วนในเกมรับนั้นจะให้กองกลางยืนตำแหน่งปิดพื้นที่อยู่บริเวณกลางสนามเพื่อให้คู่แข่งต้องออกไปเล่นด้านข้าง ซึ่งเขาก็มักจะแก้เกมด้วยการดึงกองกลางตัวริมเส้นของสองฝั่งลงมาเล่นในเกมรับ ทำให้หลายครั้งฝั่งตรงข้ามที่บุกมามักจะไม่สามารถเจาะเข้ามาทำประตูได้

ด้วยความดุดันที่มากขึ้นของแอสตัน วิลล่า ที่ถูกกระตุ้นโดย อูไน เอเมรี่ ที่ออกมาสั่งการตลอดเวลา นอกจากจะกระตุ้นให้ทีมพยายามเล่นเป็นตัวของตัวเองแล้วเขายังเปลี่ยน จอห์น แม็คกินน์ จากตำแหน่งปีกขยับเข้ามาเล่นกองกลางส่งผลให้ฟอร์มการเล่นในสนามของเขานั้นดีขึ้นเป็นอย่างมาก

“เขาเป็นผู้เล่นที่สำคัญมาก ทำงานหนักเพื่อทีมในทุกวัน และด้วยความมุ่งมั่นของเขามันน่าทึ่งมาก เขาเข้าใจทุกสิ่งที่เราถามเขาในเชิงแทคติก และเขาสมควรได้รับผลการแข่งขันที่ดีเพราะเขาเป็นคนที่มีความสามารถ” เอเมรี่กล่าวชื่นชมกองกลางตัวสำคัญของทีมอย่างแม็คกินน์

 

ท่าดีใจ “แว่นตา” จุดเริ่มต้นของทุกความสำเร็จ

ในแต่ละโอกาส จอห์น แม็คกินน์ จะเอามือป้องรอบดวงตาเพื่อเลียนแบบการสวมแว่นตาซึ่งกลายมาเป็นการท่าดีใจหลังจากยิงประตูของเขาอเป็นภาพที่แฟนๆของสกอตแลนด์และแอสตัน วิลล่าคุ้นเคยกันอย่างดี

ท่าดีใจในการยิงประตูของแม็คกินน์ถือเป็นการแสดงการสนับสนุนแจ็คหลานชายของเขา ซึ่งถูกบังคับให้สวมอุปกรณ์ป้องกันตาเมื่อเขาเล่นฟุตบอลเนื่องจากสายตาไม่ดี 

“หลานชายของผมมีสายตาที่ไม่ดี และต้องสวมแว่นตาเพื่อเตะฟุตบอล ผมเลยตัดสินใจ สวมแว่นตาเมื่อผมทำประตูได้หวังว่านั่นจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ อีกมากมายนะ” แม็คกินน์กล่าว

ช่างเป็นท่าดีใจที่ยอดเยี่ยมและเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจของกัปตันจอห์น แม็คกินน์

 

เป้าหมายสู่แชมป์พรีเมียร์ลีก

หลังจากผ่านไป 18 นัดของฤดูกาล แอสตัน วิลล่า ได้ขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก โดยตามหลังอาร์เซนอลที่เป็นจ่าฝูงและลิเวอร์พูลอันดับที่ 2 เพียงแต้มเดียวเท่านั้น 

"ผมขอแบนคำว่าแชมป์ลีก นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่เกม เส้นทางยังคงอีกยาวไกลมาก และอย่างที่ผมบอกว่าเราเคารพทุกทีมที่อยู่รอบตัวเรา พวกเขาผ่านการอยู่ในจุดนี้มาหลายปีแล้ว พวกเขามีประสบการณ์มากมาย"

ในเกมสำคัญที่ แอสตัน วิลล่า ต้องเปิดบ้าน วิลล่า พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในเวลานี้เป็นทางด้าน จอห์น แม็คกินน์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมยิงประตูชัยให้เจ้าบ้านชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 

“เรามันหน้าใหม่จะรักษาอันดับได้ไหม ไม่มีใครรู้หรอกแต่จะได้รู้กัน เราคาดหวังว่าจะเป็นแบบนั้น และมีการทบทวนเป้าหมายกันใหม่ มันจะทะเยอทะยานเหมือนอย่างที่คุณพยายามให้เป็นแบบนั้นหรือไม่”

 

แหล่งอ้างอิง

https://lifebogger.com/john-mcginn-biography-facts/ 
https://democratonline.net/2021/03/26/how-football-runs-in-mcginn-family-blood/ 
https://www.teamtalk.com/aston-villa/steven-gerrard-justifies-decision-replacing-tyrone-mings-captain-john-mcginn
https://www.theguardian.com/football/2023/aug/23/john-mcginn-hibernian-aston-villa-europa-conference-league-football
https://www.dailyrecord.co.uk/sport/football/football-news/making-john-mcginn-how-aston-20905748
https://www.goal.com/en/news/john-mcginn-goggles-celebration-explained-meaning-of-aston-villa--scotland-stars-goal-gesture/blt85d23f91d1d85eec
https://www.avillafan.com/36692/the-story-so-far-weve-got-super-john-mcginn/
https://en.wikipedia.org/wiki/John_McGinn

Author

ธัญเทพ สังขะพงศ์

เรื่องราวที่ดี จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ