Feature

เหตุจากข่าวซื้อขายนักเตะ : ทำไมทีมใหญ่พรีเมียร์ลีก นิยมแข้งสารพัดประโยชน์กันมากขึ้น | Main Stand

หากโฟกัสมาที่ขนาดและขุมกำลังของบรรดาสโมสรชั้นนำพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน เราจะพบว่าหลาย ๆ ทีมเริ่มหันมาใช้งานนักเตะประเภท “สารพัดประโยชน์” หรือ “เล่นได้หลายตำแหน่ง” กันมากขึ้น 

 


แนวทางดังกล่าวเกิดขึ้นกับทั้งการใช้งานจากขุมกำลังที่มีเดิมของแต่ละทีมเพื่อให้สอดรับกับรูปแบบและวิธีการเล่น ไปจนถึงการเสริมแกร่งผู้เล่นสไตล์นี้ในตลาดซื้อขายนักเตะทุก ๆ รอบ โดยเฉพาะช่วงหลายขวบปีที่ผ่านมา 

เหตุใดหลาย ๆ สโมสรถึงยึดวิธีการในลักษณะนี้กันมากขึ้น มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้วงการฟุตบอลอังกฤษปรับตัวในลักษณะนี้ ลองมาวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand

 

เมื่อฟุตบอลเข้าสู่ยุคสมัยใหม่

อันที่จริงทีมในพรีเมียร์ลีกหลาย ๆ ทีมต่างก็มีนักเตะที่เล่นได้สารพัดประโยชน์อยู่แล้ว ขณะที่กุนซือแต่ละคนก็มีความคิดในการใช้วิธีการดังกล่าวเช่นกัน

อธิบายพอสังเขป นักเตะสารพัดประโยชน์คือคนที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งและมีความสำคัญกับทีม โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่มีฤดูกาลแข่งขันยาวนาน 38 เกม ที่ต้องมีความหนักหน่วงและลงห้ำหั่นทั้งเกมลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ รวมถึงการแข่งขันระดับสโมสรยุโรป

ทั้งยังต้องเป็นประโยชน์ต่อต่ละทีมไปเต็ม ๆ เพราะนี่คือตัวเลือกชั้นดี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เผชิญสถานการณ์คับขันที่ต้องจัดการในจุดต่าง ๆ ให้ทันท่วงที

ยกตัวอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมี จอห์น โอเช ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงหลัง ไล่มาตั้งแต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แบ็กขวา-ซ้าย หรือจะขึ้นไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับก็ยังได้ ด้านเพื่อนร่วมทีมอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ก็เล่นได้ทั้งกองหน้าตัวกลางและเคยถอยตัวเองไปยืนมิดฟิลด์มาแล้ว

ความสารพัดประโยชน์ของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่เล่นได้ทั้งแบ็กขวาและปราการหลังตัวกลางมีส่วนช่วยให้ เชลซี คว้าทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และยูโรป้า ลีก มาแล้ว ขณะที่กองหลังในตำแหน่งเดียวกันอย่าง เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า ก็พัฒนาตัวเองจนเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงแนวรับ 

ขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ก็พัฒนาตัวเองจากผู้เล่นริมเส้นก่อนที่จะได้หน้าที่ใหม่ในเส้นทางอาชีพกับทั้งกองกลางและฟูลแบ็ก 

หรือครั้งหนึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ยอมรับว่าอยากเสริมผู้เล่นที่เล่นได้หลายตำแหน่งในแดนกลาง ในซัมเมอร์ 2013 ก่อนจะปิดดีลดึง มาติเยอ ฟลามินี่ ที่เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับและมิดฟิลด์ตัวกลาง เจ้าของผลงาน 13 ประตู 11 แอสซิสต์ ตลอดการค้าแข้งกับปืนโตมาร่วมทัพ 

“เราต้องการผู้เล่นที่มีความสามารถรอบด้าน เล่นได้หลายตำแหน่งในแผงกลาง เพราะเราอยากจะยืดหยุ่นกับตำแหน่งนี้นิดหน่อย ถ้ามองไปยังขุมกำลังของทีม คุณจะเห็นชื่อของ (โธมัส) โรซิคกี้, (ซานติ) การ์ซอล่า, (อารอน) แรมซี่ย์, (แจ็ค) วิลเชียร์ และอื่น ๆ ดังนั้นหากจะหานักเตะที่จะมาเติมเต็มทีมได้ก็ต้องออกไปค้นหา เราต้องการนักเตะที่มีความสามารถที่หลากหลายที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแผงกลาง เพราะตอนนี้เราอยากจะยืดหยุ่นในเรื่องของวิธีการ” อดีตกุนซือเฟรนช์แมน เผย

ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทส่วนใหญ่มักปรากฏในรูปแบบ “เฉพาะกิจ” มากกว่า นักเตะแต่ละคนมักจะได้รับโอกาสลงเล่นในตำแหน่งหลักของตัวเองก่อน

อย่างไรก็ตาม พอนานวันเข้าฟุตบอลในยุคสมัยใหม่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต รูปแบบและวิธีการเล่นบางอย่างเริ่มถูกจับทางได้ ฟุตบอลสไตล์โบราณหรือแนวทางเดิม ๆ เริ่มถูกกลยุทธ์ใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน จนแปรเปลี่ยนเป็นความสำเร็จ

เนื่องจากการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้อาจถึงขั้นที่ต้องปรับเปลี่ยนแทคติกและตำแหน่งการยืนแบบวินาทีต่อวินาทีด้วยซ้ำไป 

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดวิธีการใหม่ ๆ ขึ้นมา โดยหนึ่งในนั้นก็คือการที่กุนซือแต่ละคนเลือกใช้ประโยชน์จากนักเตะที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งเป็นอาวุธต่อกรคู่แข่ง

จนกลายเป็นว่า จากเดิมที่นักเตะสารพัดประโยชน์จะลงเล่นตำแหน่งที่ถนัดเป็นหลัก ช่วงหลังได้กลายมาเป็นตัวหลักในตำแหน่งที่แต่ละคนเล่นได้ คนที่เคยเป็นสำรองก็ได้โอกาสลงเล่นมากขึ้น

ที่สำคัญหลาย ๆ คนทำหน้าที่ได้ดีแบบไม่แพ้ตำแหน่งหลักของตัวเอง รวมถึงเจ้าของสัมปทานเดิมของแต่ละทีมอีกด้วย

 

ไม่ใช่เทรนด์ แต่เพื่อทีม

เมื่อฟุตบอลเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ โลกลูกหนังก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องแทคติกการเล่นที่กุนซือแต่ละคนล้วนแต่ใช้ความแยบยลของตัวเองเพื่อทำให้ทีมมีผลงานดีที่สุดในแต่ละเกมการแข่งขัน 

นำมาซึ่งการลองปรับใช้นักเตะในทีมลงเล่นตำแหน่งที่หลากหลายขึ้น หรือหากยังไม่พอใจกับขุมกำลังเดิมก็ซื้อนักเตะมาเสริมแกร่งเพื่อเติมเต็มให้ได้มากที่สุด

หากผู้จัดการทีมคนใดทำได้ดีแล้วก็ยิ่งคล้อยตามให้กุนซือคนอื่น ๆ ยึดแนวทางนี้เพื่อหาวิธีต่อกรด้วย โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการทำทีมฟุตบอลด้วยแนวทางยุคใหม่ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 2022-23 ที่กุนซือสแปนิชพาสโมสรคว้าเทรเบิลแชมป์

ตัวอย่างการใช้นักเตะให้ลงตัวในเรื่องความสารพัดประโยชน์เป๊ปทำได้ดีมาตลอดนับตั้งแต่ที่ย้ายมาคุมทีมแห่งถิ่น เอติฮัด สเตเดียม เช่น ดันนักเตะที่ไม่ได้เป็นแบ็กซ้ายธรรมชาติมาเล่น, ปรับ จอห์น สโตนส์ ผู้เล่นตำแหน่งกองหลังมาเล่นเป็นกองกลางตัวรับ ไปจนถึงการผลักดัน ฟิล โฟเดน สู่ทีมชุดใหญ่ จนกลายเป็นหัวใจสำคัญที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก

แนวทางดังกล่าวกลายเป็นแนวทางชั้นดีให้อดีตผู้ช่วยของเขาอย่าง มิเกล อาร์เตต้า ที่แทบจะยึดเป็นแบบแผนในฐานะกุนซือ อาร์เซนอล ดังจะเห็นได้จากการปรับขนาดขุมกำลังในทีมให้เล่นได้มากกว่าหนึ่งตำแหน่ง อาทิ จับ เบน ไวท์ ในตำแหน่งกองหลังตัวกลางมาเป็นแบ็กขวา 

รวมถึงการคว้านักเตะประเภทสารพัดประโยชน์มาช่วยให้ทีมมีมิติมากขึ้นด้วยการดึงผู้เล่นอย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์ ซึ่งเล่นได้ทั้งปีกซ้ายและแนวรุกตัวกลางมาร่วมทีมในตลาดนักเตะมกราคม 2023 จนมีส่วนให้ เดอะ กันเนอร์ส ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว

ยังไม่นับข่าวลือหนักหน่วงในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ 2023 นี้ ที่ทีมที่มีข่าวใกล้ปิดดีลกับทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ของ เชลซี รวมถึง เจอร์เรียน ทิมเบอร์ ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งทั้งสองสามารถเล่นได้มากกว่าหนึ่งตำแหน่ง

มากไปกว่านั้นความแข็งแกร่งและวิธีการใหม่ ๆ ที่ดีแบบเนียนสนิทของเป๊ปกับ แมนฯ ซิตี้ ยังเป็นแรงผลักดันให้ทีมอื่น ๆ ต้องพัฒนาทิศทางเรื่องการใช้งานนักเตะให้มีความสารพัดประโยชน์มากขึ้นตามไปด้วย 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ความสุดยอดของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวเตะที่พัฒนาตัวเองในแผงรุกจนเป็นหัวใจสำคัญของทีมยุค เอริก เทน ฮาก โดยดาวยิงทีมชาติอังกฤษครบเครื่องทั้งการเป็นกองหน้าและปีก เขามีส่วนอย่างยิ่งกับการช่วยให้ปีศาจแดงคว้าแชมป์ลีก คัพ 


ลิเวอร์พูล ดัน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ มาเล่น “Inverted full-backs” เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง ก่อนจะทำได้ดีจนได้ต่อยอดกับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งคาดการณ์กันว่าในฤดูกาลต่อ ๆ ไป เยอร์เกน คล็อปป์ ก็น่าจะใช้สูตรการเล่นนี้ต่อกรกับคู่แข่งไปเรื่อย ๆ

เชลซี หวังลบช่วงเวลาจากฤดูกาล 2022-23 อันย่ำแย่ พวกเขาเริ่มต้นซัมเมอร์ 2023 ด้วยการเปิดตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู แข้งที่เล่นได้ทั้งกองหน้าตัวกลางและกองหน้ากึ่งปีกมาจากบุนเดสลีกา ในการสู้ศึกฤดูกาลใหม่ 

ทางด้านของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เลือกใช้งาน แดน เบิร์น ปราการหลังตัวกลางเจ้าของส่วนสูงหลักสองเมตรให้มาเล่นเป็นแบ็กซ้าย จนมีส่วนให้ทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับท็อปโฟร์ รวมถึงกำลังจะคว้าตัว ซานโดร โตนาลี่ นักเตะดีกรีทีมชาติอิตาลีที่เล่นได้ครบเครื่องในแผงกลาง เป็นต้น

 

เล่นดีเป็นศรีแก่ตัว

นอกจากจะเป็นข้อดีให้กับแต่ละทีมแล้ว การที่นักเตะคนนั้น ๆ ลงเล่นได้หลายตำแหน่งยังส่งผลถึงการพัฒนาฝีเท้าของตัวเองด้วยอีกทางหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการสร้างมูลค่าของตัวเองให้สูงขึ้นควบคู่กันไปด้วย เช่น เมสัน เมาท์ นักเตะผลผลิตของสโมสรเชลซี ซึ่งเล่นได้ทั้งกองกลางตัวรุก กองหน้าตัวต่ำ หรือขยับตัวเองมาเล่นเกมบุกทางริมเส้น ความหลากหลายของเมาท์มีส่วนช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2021 รวมถึงการเป็นสตาร์ทีมชาติอังกฤษ

“คุณต้องมีความสารพัดประโยชน์ นี่คือปีที่ 4 ของผม และในระหว่างนั้นผมก็ได้ลงเล่นในหลายตำแหน่งที่แตกต่างกันไป” เมสัน เมาท์ ให้สัมภาษณ์หลังทำสองประตูใส่ แอสตัน วิลล่า ในฤดูกาล 2022/23 ซึ่งเป็นเกมที่เขาลงเล่นทั้งในตำแหน่งมิดฟิลด์และขึ้นไปเล่นเกมรุก

“ในระหว่างการแข่งขัน หากคุณต้องปรับเปลี่ยน ต้องไปทางซ้าย ไปทางขวา และถอยลงมายืนมิดฟิลด์ตัวต่ำ หรือเล่นเป็นเบอร์ 9 ตัวหลอก หรือเบอร์ 10 ผมจำเป็นต้องพร้อมสำหรับสิ่งนั้น เราเล่นกันเป็นทีมไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ถ้านักเตะทำแบบนั้นได้ก็ถือเป็นจุดที่แข็งแกร่งของทีม” 

จุดนี้เองมีส่วนอย่างยิ่งให้เมาท์สามารถเรียกค่าตัวที่สูงขึ้นจากเดิมที่ได้รับกับเชลซี โดยสัญญาปัจจุบันของเขากับสิงห์บลูส์เหลือจนถึงซัมเมอร์ 2024 ซึ่งในตลาดนักเตะซัมเมอร์ 2023 เขาตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นที่ว่ามีการยื่นข้อเสนอให้แตะหลักเกิน 50 ล้านปอนด์ให้เชลซีพิจารณา

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ พัฒนาตัวเองจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน จนกลายเป็นนักเตะดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 กับ อาร์เจนตินา ก่อนขยับตัวสู่บทบาทที่ใหญ่ขึ้นกับการเป็นนักเตะใหม่ร่วมล่าความสำเร็จกับลิเวอร์พูล 

ซึ่งฟันเฟืองสำคัญข้อหนึ่งที่ส่งให้ดาวเตะเลือดฟ้าขาวที่มีบรรพบุรุษเป็นไอริชรายนี้ยกระดับขึ้นมาคือความสารพัดประโยชน์ที่เขาเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์เบอร์ 10 (สร้างสรรค์เกม) มิดฟิลด์ตัวกลาง และปีกซ้าย จนมีส่วนให้ไบรท์ตันบินสูง คว้าโควตาเล่นฟุตบอลยุโรปได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

“เขาไม่ใช่คนที่แค่อยากจะเล่นโดยมีเบอร์ 10 ติดอยู่กลางหลังหรือแค่ศูนย์หน้าเท่านั้น เขามีความสุขมากที่อยู่ในจุดที่เขาเป็นและทำมันได้ดีมาก สำหรับไบรท์ตันเขามักจะเปลี่ยนไปมาระหว่างสองตำแหน่งหลัก เขาจับคู่กับ มอยเซส ไคเซโด้ ในสองบทบาทเมื่อไบรท์ตันเล่น 4-2-3-1” แดน เอ็ดเวิร์ดส์ นักข่าวฟุตบอลที่ทำงานในอาร์เจนตินา วิเคราะห์จุดเด่นของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ผ่านเว็บไซต์ทางการลิเวอร์พูล

“เขายังขยับไปเล่นสูงขึ้นในตำแหน่งตัวสร้างสรรค์เกมตรงกลางในระบบเดียวกันนี้ได้อีกด้วยในแง่มุมที่แตกต่างจากแต่ละบทบาทของเขา มันดูดีมาก ๆ” 

กาลเวลาเปลี่ยนผ่านให้โลกลูกหนังต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการดวลแข้งสุดมันของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ลีกที่ว่ากันว่ามีมูลค่าสูงสุดในโลก เรื่องสำคัญประการหนึ่งที่แต่ละสโมสรจะขาดไปไม่ได้คือการใช้ประโยชน์จากนักเตะสารพัดประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

เพราะเมื่อไรก็ตามที่แนวทางนี้ออกผล นอกจากจะเป็นเรื่องดีให้แต่ละทีมแล้ว ตัวนักเตะเองก็ยังได้พัฒนาตัวเองไปด้วย 

ทั้งหมดนี้คือคำตอบที่ว่าทำไมทีมใหญ่พรีเมียร์ลีกถึงนิยมมีแข้งสารพัดประโยชน์ในทีมมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

 

แหล่งอ้างอิง

https://soccerknowledgehub.com/utility-players-in-soccer/ 
https://www.chelseafc.com/th/news/article/mount-on-breaking-his-duck-being-versatile-and-support-for-his-great-mate 
https://www.liverpoolfc.com/news/hes-showed-different-facets-his-game-experts-view-alexis-mac-allister 
https://www.arsenal.com/news/news-archive/wenger-we-need-versatility-in-signings 
https://theathletic.com/3659414/2022/10/11/arsenal-tomiyasu-white-versatile/ 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น