Feature

ไฟร์บวร์ก : เบื้องหลังการพาม้านอกสายตาสู่หัวตารางบุนเดสลีกา | Main Stand

หากจะพูดถึงฟุตบอลในศึกบุนเดสลีกา ทีมที่ทุกคนจะนึกถึงคงจะหนีไม่พ้น บาเยิร์น มิวนิค หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพราะเป็นทีมยักษ์ใหญ่และมักจะครองอันดับหัวตารางอยู่ตลอด 

 


แต่หนึ่งทีมที่เป็นม้านอกสายตาและโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็คือ เอสซี ไฟร์บวร์ก (SC Freiburg) ที่ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นไปเล่นบอลยุโรปในปีนี้ 

ปัจจัยอะไรที่ทำให้พวกเขามีอันดับที่ดีขึ้นในแทบทุกปี มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ที่ Main Stand 

 

กุนซือผู้อยู่เบื้องหลัง

สโมสรฟุตบอลทีมอื่น ๆ อาจจะเปลี่ยนโค้ชกันเป็นว่าเล่น แต่นั่นไม่ใช่วัฒนธรรมของ “จิ้งจอกแห่งป่าดำ” ทีมนี้ เมื่อพวกเขาเคยใช้บริการ โฟลเกอร์ ฟิงเค่ ในฐานะเฮดโค้ชนานถึง 16 ปี ระหว่างปี 1991-2007 กลายเป็นสถิติกุนซือที่คุมทีมเดียวยาวนานที่สุดในเยอรมนี

ปัจจุบันหน้าที่ดังกล่าวอยู่ในมือของ คริสเตียน สไตร์ช ซึ่งเกือบพาไฟร์บวร์กเป็นแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ในฤดูกาล 2021-22 แต่ไปพ่ายให้ แอร์เบ ไลป์ซิก เสียก่อน เขาเป็นลูกหม้อของสโมสรและยังเป็นคนที่คุมทีมนานที่สุดในบุนเดสลีกาที่ยังทำหน้าที่อยู่ โดยคุมมานานถึง 12 ปี ตั้งแต่ปี 2011

ถึงแม้จะเคยพาทีมตกชั้นในฤดูกาล 2014-15 แต่เขาก็พาทีมเลื่อนชั้นกลับมาทันทีในซีซั่นถัดมา ผลงานของเขาไม่ได้มีสูตรสำเร็จใด ๆ แต่มันคือการวางรากฐานของชายผู้ที่อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ปี 1995 แถมยังเคยคุมทีมชุดเยาวชนของไฟร์บวร์กอีกด้วย โดยเขายังคงได้รับความไว้วางใจจาก เอแบร์ฮาร์ด ฟุคมันน์ ประธานสโมสร 

“เราต่างรู้จักกันและกันเป็นอย่างดี” เป็นประโยคที่ไม่ต้องบรรยายมาก แต่สามารถแสดงความเข้าใจกันของ โยเชน ซายเออร์ (ผู้อำนวยการของสโมสร) และ คริสเตียน สไตร์ช ได้เป็นอย่างดี 

“DNA ของเราคือการไม่หลงอยู่กับช่วงเวลาที่ดี ในทางกลับกันเราจะไม่ไล่โค้ชออกในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นกัน เราพยายามรักษาสมดุลในเรื่องของฟุตบอลไม่ว่าคุณจะเป็นฮีโร่หรือคนที่โง่เง่า ในไฟร์บวร์กเราพยายามรักษาสิ่งนี้เอาไว้” 

“ในสโมสรอื่น โค้ชอาจจะทำงานได้แค่ 18 เดือนแล้วถูกไล่ออก นั่นไม่ใช่วิธีการของเรา สโมสรแห่งนี้มีปรัชญาที่ชัดเจน ถ้าคุณเซ็นสัญญาโค้ชทุก ๆ 18 เดือน มันอาจจะมีทั้งคนที่เข้ากับสโมสรเราและย่อมมีคนที่ไม่เข้ากับสโมสรของเรา สโมสรจะไม่มีทางพัฒนาไปทีละขั้นอย่างแน่นอน” 

“เราต้องการโค้ชที่เหมาะกับสโมสรที่ไม่ใช่ในระยะสั้น แน่นอนว่าคุณต้องการจะชนะ แต่เราดูที่ภาพรวมมากกว่า นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ไฟร์บวร์กแตกต่างจากสโมสรอื่น”

 

แทคติกที่ยืนหยุ่น

แม้ว่าจะเสียปราการหลังตัวหลักอย่าง นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค ไปให้ดอร์ทมุนด์ในช่วงตลาดซัมเมอร์ 2022 แต่สไตร์ชยังคงมีแบบแผนที่ชัดเจน การใช้ดาวรุ่งขึ้นมาเป็นตัวหลักยังคงเป็นปรัชญาของไฟร์บวร์ก 

ฤดูกาล 2022-23 ทีมจิ้งจอกแห่งป่าดำเซ็นสัญญากับปีกขวาจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง ริตสึ โดอัน หลังจากที่โชว์ฟอร์มดีในฤดูกาล 2021-22 กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ในลีกดัตช์ โดยมีสถิติยิงได้ 11 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ที่มีจุดเด่นคือการเลี้ยงบอลที่โดดเด่นและชอบที่จะใช้การยิงตัดพื้นที่กองหลังของคู่แข่งอยู่เสมอ 

ขณะเดียวกันพวกเขาขันเกมรับให้แน่นขึ้นด้วยการคว้าตัวเซ็นเตอร์แบ็กดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 อย่าง มัทธีอัส กินเทอร์ จากทีมสิงห์หนุ่ม โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค ซึ่งส่งผลดีต่อทีมอย่างมาก เขามีทักษะการดวลลูกกลางอากาศเป็นจุดเด่น ทำให้กินเทอร์กลายเป็นตัวหลักของทีมในทันที 

แม้ว่าในฤดูกาลที่แล้วสไตร์ชจะเน้นการใช้แผนกองหลังสามคน 3-4-3 หรือในบางครั้งก็ 3-4-2-1 แต่มาในฤดูกาลนี้เขามีความยืดหยุ่นในแผนการเล่นมากขึ้น เขากล้าที่จะใช้กองหลังสี่คนในแผน 4-2-3-1 หรือในบางครั้ง 4-4-2 ไม่ว่าจะใช้แผนอะไรไฟร์บวร์กก็ยังคงเด่นในเรื่องการสร้างเกมจากแนวรับ 

เขาพยายามให้กองหลังโอเวอร์โหลดขึ้นไปในแดนกลาง มิดฟิลล์ตัวรับซึ่งส่วนใหญ่เขาจะใช้ นิโคลัส เฮิฟเลอร์ จะพยายามสร้างความกดดันให้ปราการหลังตัวกลางของทีมคู่แข่ง เพื่อพยายามเปิดช่องให้เพื่อนร่วมทีมของเขาจ่ายบอล และปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมมีพื้นที่ในการเคลื่อนบอล 

ไฟร์บวร์กพยายามใช้พื้นที่ในแนวกว้างและผสมผสานการส่งบอลแม้ว่าพวกเขาจะต้องเจอทีมอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือ สตุตการ์ท ที่เล่นเกมเพรสซิ่งอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ในเกมแคบลงอย่างมาก พวกเขาจึงต้องโอเวอร์โหลดในการใช้เกมรุก ใช้การเคลื่อนไหวจำนวนมากเพื่อจัดการคู่ต่อสู้ และเน้นการส่งบอลในระยะสั้น 

ท้ายที่สุดแล้วสไตร์ชได้สร้างทีมที่ยืดหยุ่นซึ่งยากต่อการป้องกัน ในบางเกมที่เขาต้องเจอกับทีมที่มีการเพรสซิ่งเร็ว นักเตะในทีมจึงต้องวิ่งอย่างหนัก ในบางเกมที่พวกเขาสามารถคุมจังหวะของเกมได้ พวกเขาก็มักจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

 

คีย์แมนคนสำคัญ

วินเซนโซ่ กริโฟ่ แฟนบอลอัซซูรี่อาจจะรู้จักชื่อนี้ เขาเกิดที่เมืองฟอทซ์ไฮม์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี แต่ตัวเขานั้นก็มีเชื้อสายอิตาลีจากทางครอบครัวของเขา หลังจากที่ได้มาร่วมทัพจิ้งจอกแห่งป่าดำในปี 2019 กริโฟ่ก็เป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรในฤดูกาล 2020-21 และ 2021-22 เป็นเวลาสองซีซั่นติดต่อกัน 

ในเกมที่ ไฟร์บวร์ก ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน ไป 2-0 เมื่อเดือนตุลาคม 2022 วินเซนโซ่ กริโฟ่ กลายเป็นดาวยิงอิตาเลียนที่ทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกา โดยยิงแซงอดีตดาวยิงจาก บาเยิร์น มิวนิค อย่าง ลูก้า โทนี่ โดยปัจจุบันกริโฟ่ยิงไปถึง 38 ประตู และนี่คือเหตุผลที่เขายังมีส่วนร่วมกับทีมชาติอิตาลีอยู่เสมอ หลังติดธงครั้งแรกเมื่อปี 2018

“มันเป็นความฝันของผมที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอิตาลี ผมรู้สึกเป็นคนอิตาลี 100% และมันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก ๆ” กริโฟ่ กล่าว

กริโฟ่มีสไตล์การเล่นคล้ายกับ ฮาคาน ชาลาโนกลู ชดเชยการที่เขาไม่มีความเร็ว ด้วยความแม่นยำที่อันตรายโดยเฉพาะจากลูกตั้งเตะ ดาวยิงชาวอิตาลีสร้างชื่อให้ตนเองในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการเตะลูกนิ่ง โดยเขายิงฟรีคิกเป็นประตูให้ทีมจิ้งจอกแห่งป่าดำไปแล้วถึง 14 ประตู

นอกจากนี้เขายังมีความเฉียบขาดด้านการยิงจุดโทษ เขายิงเข้าไป 14 จาก 16 ครั้งในบุนเดสลีกา ซึ่งเป็นไปได้ว่า กริโฟ่อาจจะติดตามชาลาโนกลูบ่อย ๆ แม้เขาจะเกิดและค้าแข้งอยู่ที่เยอรมนี แต่เขาก็เป็นแฟนบอลของ อินเตอร์ มิลาน  

“ผมเป็นแฟน อินเตอร์ มิลาน มาตั้งแต่เด็ก มันคือเรื่องจริง” เขาได้บอกกับ Gazzetta dello Sport ก่อนเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเกมที่ ไฟร์บวร์ก เจอกับ ยูเวนตุส “ผมยังตามเชียร์พวกเขาอยู่ตลอด แต่ทุกวันนี้ชักจะดูน้อยลงแล้วล่ะ”

นอกจากนี้โค้ชของไฟร์บวร์กยังพูดถึงกริโฟ่ไว้ว่า “เขามีความสามารถที่ไม่ธรรมดา คุณต้องตื่นตาตื่นใจที่ในสนามมีคนที่ใช้เท้าขวาได้ดีแบบเขา ตอนนี้เขาคือไฟร์บวร์กมาตลอด เขาเป็นไอดอลที่ดีของแฟนบอลและเด็ก ๆ” 

“วินเซนโซ่เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และในบุนเดสลีกาเขาทำประตูได้มากมาย เขามีคุณสมบัติที่สำคัญ” เฮดโค้ชของอิตาลีอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ กล่าว

โดยในฤดูกาล 2022-23 ผ่านมาแล้ว 26 เกม วินเซนโซ่ทำประตูไปทั้งหมด 13 ประตู และทำแอสซิสต์ไปอีก 4 ครั้ง หากจะถามถึงขุมกำลังคนสำคัญของไฟร์บวร์กคงจะหนีไม่พ้นดาวยิงอัซซูรี่คนนี้อย่างแน่นอน

 

เน้นสร้าง ไม่เน้นซื้อ

เนื่องจากไฟร์บวร์กไม่ใช่ทีมที่มีกำลังทรัพย์มากเหมือนทีมในบุนเดสลีกาทีมอื่น พวกเขาจึงมักสร้างนักเตะเยาวชนขึ้นมาแทน โดยผู้บริหารทุ่มทุนประมาณ 6 ล้านยูโรต่อปี หรือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อปีให้กับสถานศึกษาที่เป็นศูนย์รวมของนักฟุตบอลเยาวชน และคัดเลือกตัวจากเด็กในพื้นที่ไฟร์บวร์กและพื้นที่ใกล้เคียง ผู้เล่นที่ดีที่สุดจะได้เข้าสู่ทีมไฟร์บวร์ก 

ไฟร์บวร์กใช้ผู้เล่นจากเยาวชนของตนเองมากกว่าสโมสรอื่น ๆ ในบุนเดสลีกาและห้าลีกใหญ่ของยุโรป เป็นรองเพียง บาร์เซโลน่า, แอธเลติก บิลเบา, เรอัล โซเซียดาด และ ลียง ในลีกเอิงฝรั่งเศส เท่านั้นที่ทำค่าเฉลี่ยการใช้เด็กดาวรุ่งลงสนามมากกว่าไฟร์บวร์ก 

ผู้เล่นเยาวชนบางคนที่มีความสามารถมักจะถูกปล่อยเพื่อทำเงินให้กับสโมสร เช่น มัทธีอัส กินเทอร์ เป็นเด็กปั้นของสโมสรตั้งแต่อายุ 11 ปี เขาโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นจนดอร์ทมุนด์คว้าตัวไปร่วมทีมในราคาประมาณ 10 ล้านยูโร หลังจบฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งเขาอยู่ในทีมชาติเยอรมันชุดแชมป์โลกสมัยที่ 4 ด้วย แต่ท้ายที่สุดตอนนี้เขาก็ได้กลับมาที่ถิ่นที่เขาจากมา โดยเขาเป็นปราการหลังคนสำคัญที่ทำให้ไฟร์บวร์กยังอยู่ในเส้นทางในการลุ้นโควตาไปเล่นบอลยุโรป 

ไฟร์บวร์กไม่ใช่ทีมที่มีความหรูหรา อาจจะไม่มีทุนหนาเหมือน บาเยิร์น มิวนิค แต่พวกเขาก็ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สมกับชื่อสโมสรที่เป็นชื่อเมืองไฟร์บวร์ก ซึ่งเมืองนี้ถูกยกให้เป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แม้แต่โค้ชอย่าง คริสเตียน สไตร์ช ยังปั่นจักรยานเพื่อไปทำงานที่สโมสร เยาวชนของสโมสรทุกคนจะได้รับเงินเท่ากันคือ 250 ยูโรต่อเดือนโดยไม่คำนึงถึงอายุหรือพรสวรรค์ แถมสนามของเยาวชนยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าและทำน้ำร้อนอีกด้วย 

นับว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้ทัพจิ้งจอกแห่งป่าดำสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นในทุกปี จากนี้ต้องตั้งตาดูว่าไฟร์บวร์กจะยังสามารถรักษาผลการแข่งขันจนได้อยู่ในอันดับที่ได้ไปฟุตบอลยุโรปได้หรือไม่

ในฤดูกาลถัด ๆ ไป ถ้าพวกเขายังสามารถรักษามาตรฐานแบบนี้ไว้ได้ การเป็นแชมป์แบบเทพนิยาย
อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2016 ก็อาจตะเกิดขึ้นในศึกบุนเดสลีกาก็เป็นได้…

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/what-is-the-secret-behind-freiburg-s-success-waldschmidt-koch-streich-7483
https://www.skysports.com/football/news/16414/12459258/inside-freiburgs-success-story-the-bundesligas-only-unbeaten-team-are-in-a-new-stadium-but-old-principles-remain
https://focussports.education/secrets-of-scfreiburgs-success-story/
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/vincenzo-grifo-who-is-freiburg-s-set-piece-specialist-record-italian-scorer-22880

Author

ยลดา เวียงสิงขรณ์

เด็กอักษรเอกเยอรมัน เชียร์เชลซีและการท่าเรือ ติดตามนางงามทุกเวที

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ