ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคมปี 2018 เชลซี ที่เสีย ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ไปให้กับ เรอัล มาดริด ตัดสินใจควักเงินก้อนโตกว่า 71.6 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิตินายทวารที่แพงที่สุดในโลก เพื่อดึงตัว เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า นายด่านฝีมือดีมากจาก แอธเลติก บิลเบา
หลังจากนั้นปรากฏว่า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า สามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาลี เก็บคลีนชีตได้ 6 ครั้ง ช่วยให้ เชลซี มีสถิติไม่แพ้ใคร 12 เกมติดต่อกันในลีก
แถมยัง พา “สิงห์บลูส์” ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ด้วยการเอาชนะ สเปอร์ส ในรอบรองฯ เซฟลูกยิงของลูคัส มูรา ในการดวลลูกจุดโทษ ก่อนเอาชนะไป 4-2 (สกอร์รวมสองเลก เชลซี กับ สเปอร์ส เสมอในเวลา 2-2)
กระทั่งในรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ที่ เชลซี โคจรมาพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นในโลกฟุตบอลก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ปฏิเสธที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ทำเอา เมาริซิโอ ซาร์รี่ หัวร้อนเอามาก ๆ กำบุหรี่ในมือแน่น พร้อมสีหน้าแดงก่ำ
เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ติดตามไปพร้อมกันกับ Main Stand
เกมรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ 2019 ระหว่างเชลซี และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นด้วยความตึงเครียด ทั้งสองทีมเล่นด้วยความรัดกุม และไม่มีสกอร์ในเวลาปกติเกิดขึ้น รวมถึงในช่วงต่อเวลาพิเศษ 120 นาที ส่งผลให้ถ้วยใบนี้ต้องตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ
อย่างไรก็ตามจุดเริ่มต้นความคิดเปลี่ยนตัว เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ออกจากสนามในช่วงท้ายเกมนั้นเป็นเพราะ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผู้จัดการทีมเห็นว่า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ หลังพุ่งไปปัดลูกยิงของ เซร์คิโอ อเกวโร่
ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองภายในเวลา 120 นาทีที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ต้องให้ทีมแพทย์เข้ามาปฐมพยาบาล เนื่องจากในระหว่างเกม เกป้า ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลังต้นขาเล็กน้อยมาก่อนแล้ว
เมาริซิโอ ซาร์รี่ จึงสั่งให้ วิลลี่ กาบาเยโร่ ผู้รักษาประตูสำรองเปลี่ยนยูนิฟอร์มและเตรียมพร้อมลงสนาม แต่เมื่อ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า รู้ตัวว่ากำลังจะโดนเปลี่ยนตัวออก เขากลับเลือกทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาตะโกนว่า “ไม่” พร้อมแสดงท่าทีปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนแรกที่ออกคำสั่ง เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไม่ได้สังเกตว่า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ไม่ยอมถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ซึ่ง จิอันฟรังโก้ โซล่า ผู้ช่วยเชลซีตอนนั้น พยายามเรียกให้ผู้รักษาประตูชาวสเปน ออกจากสนามตามคำสั่งของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ขณะที่ วิลลี่ กาบาเยโร่ ยืนทำท่าเก้ ๆ กัง ๆ รออยู่ริมเส้น
เมาริซิโอ ซาร์รี่ เดินหันหลังเพื่อกลับมานั่งที่ซุ้มสำรอง แต่พอเงยหน้าขึ้น ผู้จัดการทีมเชลซี รู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับการกระทำของ เกป้า ก่อนจะเริ่มโวยวายกับคนรอบข้างบนม้านั่งสำรอง
ดาวิด ลุยส์ กองหลังเชลซี ก็พยายามเดินเข้าไปบอกให้ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า เคารพการตัดสินใจของโค้ช มิหนำซ้ำยังมี โจนาธาน มอสส์ ผู้ตัดสิน ช่วยพูดอีกแรง อย่างไรก็ดีในท้ายที่สุดเหตุการณ์นี้ลงเอยที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ยังอยู่ในสนาม การเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูก่อนดวลจุดโทษไม่เกิดขึ้น
เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เห็น เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ไม่ยอมปฏิบัติตามการตัดสินใจ ถึงกับโกรธจัด รูดซิปเสื้อแจ็คเก็ตออก และตะโกนโวยวายพร้อมกับโบกมืออย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ผู้เล่นบนม้านั่งอย่าง วิลเลียน, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ รอสส์ บาร์คลีย์ จ้องมองมาที่เขาด้วยความตกใจ จากนั้น เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็เดินเลี้ยวไปทางอุโมงค์ แต่ยังดีที่เขากลับมาในอีกไม่กี่อึดใจ
ขณะประชุมทีมก่อนดวลจุดโทษ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ พยายามเลี่ยงไม่ให้ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า กับ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เผชิญหน้ากันโดยตรงเพื่อรักษาบรรยากาศโดยรวมของทีม แต่สุดท้ายแล้ว เชลซี ก็แพ้จุดโทษให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 จอร์จินโญ่ และ ดาวิด ลุยซ์ ยิงพลาด
หลังจบเกมเชลซี ตระหนักได้ทันทีว่าสิ่งที่พวกเขาเสียหายจากเกมนี้ไม่ใช่แค่พลาดถ้วยแชมป์ มันยังรวมถึงการเกิดความกังวลว่าซาร์รี่ จะยังรักษาตำแหน่งของเขาไว้ได้อย่างไรในเมื่อถูกลูกทีมปฏิเสธคำสั่ง โดยที่มีแฟนบอลทั่วโลกเห็นเหตุการณ์
เชลซี จึงเรียกตัว เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ให้ออกมาให้สัมภาษณ์อธิบายถึงการตัดสินใจขัดคำสั่งโค้ช ซึ่งอดีตนายด่านบิลเบา ชี้แจงว่าทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ เขาแค่พยายามจะบอก ซาร์รี่ ว่าตนเองฟิตพอที่จะลงเล่นต่อได้และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัว
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดจาขัดแย้งกับผู้จัดการทีม” เกป้า กล่าว
ขณะที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็ได้บอกไปในแนวทางเดียวกับ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ดังนี้ “ผมเข้าใจว่าเขาเป็นตะคริว ดังนั้นผมไม่อยากให้ผู้รักษาประตูไปดวลจุดโทษในสภาพร่างกายแบบนั้น”
“ผมเพิ่งรู้เรื่องนี้หลังจากผ่านไป 3-4 นาที เมื่อทีมแพทย์ของเรากลับมาถึงม้านั่งสำรอง ผมอยากให้ กาบาเยโร่ ลงสนาม แต่ เกป้า ต้องการบอกผมว่าเขาอยู่ในสภาพที่พร้อมจะไปเล่นจุดโทษ … มันเป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ เกปาพูดถูก แต่ผิดวิธี”
ทั้งนี้ทั้งนั้นหลังผ่านเหตุการณ์ข้างต้นเกือบ 4 ปี หรือในปี 2023 มัสซิโม เนนซี โค้ชผู้รักษาประตูชาวอิตาลีคนเก่าแก่ได้ยืนยันว่าเหตุผลที่แท้จริงในการเปลี่ยนตัวครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องแทคติก
“เมาริซิโอ คิดว่าเราควรเปลี่ยนเกป้า ออกแล้วส่งกาบาเยโร่ ลงมาแทน เพราะกาบาเยโร่ เป็นผู้รักษาประตูที่เซฟจุดโทษเก่งมาก และการเจอกับแมนฯ ซิตี้ (สโมสรเก่าของเขา) เขาน่าจะเหมาะกับสถานการณ์แบบนั้นอย่างมาก"
แต่ไม่มีใครบอกเกป้า มาก่อนว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น ทำให้เขาเข้าใจไปโดยอัตโนมัติว่าการตัดสินใจของซาร์รี่ นั้นเป็นเพราะคิดว่าเขาบาดเจ็บ “เมื่อ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า รู้ตัวว่าเข้าใจผิด เขาร้องไห้ เขาร้องไห้ในห้องแต่งตัว เขาเป็นคนดีมาก เขาพูดว่า ‘ผมขอโทษ ผมขอโทษ ผมไม่เข้าใจจริง ๆ’”
บทสรุปสำหรับทั้งสองคน เมาริซิโอ ซาร์รี่ แยกทางกับเชลซี หลังอยู่ในตำแหน่งได้แค่ฤดูกาลเดียว แม้จะพาทีมจบอันดับสามในพรีเมียร์ลีก และคว้าแชมป์ยูโรปาลีก
ส่วน เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ยังมีช่วงเวลาดี ๆ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่ออีกหน่อย ได้ลงตัวจริงบ้าง เป็นตัวสำรองบ้าง ก่อนที่จะหลุดตัวจริงอย่างถาวร เสียมือหนึ่งให้ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ย้ายมาจาก แรนส์ ในเดือนกันยายน ปี 2020
และโดนปล่อยยืมตัวไปให้ เรอัล มาดริด ใช้งานในปี 2023–2024 ต่อด้วยบอร์นมัธ ในซีซั่น 2024-25 ... ตอนนี้มีข่าวว่า อาร์เซน่อล บรรลุข้อตกลงกับ เกป้า เรียบร้อยมูลค่าฉีกสัญญา 5 ล้านปอนด์ ไม่แน่ว่าการย้ายทีมครั้งนี้ของ เกป้า อาจทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตค้าแข้งดีขึ้นก็เป็นได้