ถ้าให้เอ่ยชื่อนักฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ค้าแข้งกับทีมมาอย่างยาวนานในสมัยปัจจุบัน แน่นอนว่าทุกคนย่อมนึกถึงนามของ "ดาบิด เด เคอา"
อย่างไรก็ดี สัญญาฉบับปัจจุบันของผู้รักษาประตูสแปนิชร่วมกับทีม "ปีศาจแดง" เหลืออยู่แค่ 6 เดือนเท่านั้น แม้สโมสรจะจะมีออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มได้อีก 1 ปี ทว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการขยายสัญญาออกไปแต่อย่างใด
เมื่อไม่นานมานี้จอมหนึบวัย 32 ปีให้สัมภาษณ์แล้วว่าเขาพร้อมจะอยู่กับทีมต่อ พร้อมลดค่าเหนื่อย ถึงขั้นแขวนถุงมือกับสโมสรได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจาก "ความผูกพัน" ระหว่างตัวเขาที่มีร่วมกับสโมสรซึ่งกินเวลาร่วมทศวรรษ
Main Stand ขอพาแฟนฟุตบอลมาติดตามเรื่องราวของ ดาบิด เด เคอา จากนายทวารดาวรุ่งแดนกระทิง สู่สายใยผูกพันในโรงละครแห่งความฝัน ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องของเม็ดเงินมาเกี่ยวข้องเสมอไป
มรดกจากยุคเฟอร์กี้
2009-10 คือฤดูกาลแรกที่ ดาบิด เด เคอา ในวัยไม่ถึง 20 ปี ได้ลงเล่นเกมฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการกับ แอตเลติโก มาดริด
ที่จริงแล้วในฤดูกาลดังกล่าวเขาเป็นเพียงผู้รักษาประตูมือสามของทีมเท่านั้น เป็นอะไหล่ให้สองนายประตูอย่าง เซร์คิโอ อเซนโฆ รวมถึง โรแบร์โต้ มือหนึ่งและมือสองในเวลานั้น
อย่างไรก็ดี ทันทีที่ฤดูกาล 2009-10 เริ่มต้นได้ไม่นาน จู่ ๆ โชคก็เข้ามาหาเยาวชนที่ชื่อดาบิด เมื่ออเซนโฆดันมีภารกิจต้องเล่นให้ทีมชาติสเปน ในฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ขณะที่โรแบร์โต้ก็ดันมาโชคร้ายบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ แอตฯ มาดริด บุกเยือน เอฟซี ปอร์โต้
แม้แมตช์ดังกล่าวทีมจากสเปนจะบุกพ่าย 2-0 ทว่านี่คือสัญญาณแรกของ ดาบิด เด เคอา กับการเดบิวต์ให้แอตเลติโก มาดริด ด้วยวัยแค่ 18 ปีเท่านั้น
จากนั้นแอตเลติโก มาดริด มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือจาก อเบล เรซิโน่ มาเป็น กีเก้ ซานเชส ฟลอเรส พร้อมทีมงานผู้รักษาประตูคนใหม่อย่าง เอมิลิโอ อัลวาเรซ ซึ่งรายหลังนี้เองที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้โค้ช กีเก้ ซานเชส ฟลอเรส ตัดสินใจเลือกเด เคอา ขึ้นมาเป็นนายประตูมือหนึ่งแทน
เพราะเขาเชื่อว่า "เพชรต้องได้รับการเจียระไน"
"จากการฝึกซ้อมครั้งแรก ผมจำได้ชัดเจนว่ามันจัดขึ้นที่สนามบิเซนเต้ กัลเดรอน พูดอย่างมืออาชีพเลย ผมเห็นศักยภาพที่น่าอัศจรรย์ เพชรต้องผ่านการเจียระไน เรามีการประชุมกลุ่มกับสตาฟ เราเคยอยู่ด้วยกันที่บาเลนเซียและเบนฟิก้า ดังนั้นเราจึงเชื่อใจซึ่งกันและกันมาก เมื่อถึงตาผมที่จะพูดถึงผู้รักษาประตู ผมพูดว่า 'เรามีปัญหานะ เพราะคนที่เก่งที่สุดคือดาบิด' กีเก้ถึงกับพูดว่า 'เจ้าเด็กนี่น่ะเหรอ ?' ผมตอบว่า ใช่" อัลวาเรซ อดีตโค้ชนายประตูทีมตราหมี เผยกับ The Athletic
ในวัยไม่ถึง 20 ปีเศษ เด เคอา กลายเป็นมือหนึ่งของแอตเลติโก มาดริด เต็มตัว ผลงานชิ้นโบว์แดงก็หนีไม่พ้นการช่วยทีมผงาดแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2009-10 หนึ่งในแมตช์ตราตรึงใจแฟน ๆ คือการทำคลีนชีตในเกมเปิดบ้านเฉือน ลิเวอร์พูล 1-0 (รอบรองชนะเลิศนัดแรก) รวมถึงแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2010
เวลาต่อจากนั้นชื่อเสียงเรียงนามของ ดาบิด เด เคอา ก็ถูกพูดถึงบนหน้าสื่ออย่างต่อเนื่อง เขากลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูเนื้อหอมมากที่สุดคนหนึ่งของยุโรป ได้รับการยกย่องว่าจะเป็นผู้รักษาประตูตัวตายตัวแทนของ อิเกร์ กาซิยาส มือหนึ่งทีมชาติสเปน
เส้นทางลูกหนังของเด เคอา สดใสสุด ๆ และสโมสรก็ไม่ยอมเสียเด็กในคาถาของตัวเองไปให้ทีมอื่นโดยง่าย แอตฯ มาดริด ตัดสินใจยืดสัญญาให้มือกาวดาวโรจน์คนนี้ออกไปจนถึงปี 2013
เพราะฝีเท้าเด่นจนได้รับการจับตา หนึ่งในทีมที่จริงจังกับการอยากได้ดาบิด เด เคอา มากที่สุดก็คือ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ที่อยู่ในช่วงหาตัวแทนของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายด่านจอมเก๋าที่เตรียมแขวนถุงมือในปี 2011
แม้ตอนนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวว่าอยู่ในช่วงพิจารณาโกลฝีมือดีหลายคน เช่น มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก, เซร์คิโอ โรเมโร่, อูโก ญอริส, รุย ปาทริซิโอ และ มานูเอล นอยเออร์ เป็นต้น แต่ด้วยการที่ เอริค สตีล โค้ชผู้รักษาประตูของสโมสรในตอนนั้น เคยเห็นฟอร์มของเด เคอา สมัยลงเล่นให้ทีมชาติสเปนชุดเยาวชน ทำให้มีชื่อนี้อยู่ในโผด้วย
สื่อหลายสำนักรายงานเป็นเสียงเดียวกันว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ค่อยพลาดลงคุมทีมข้างสนามหากไม่มีเหตุจำเป็นจริง ๆ และในศึกลีก คัพ ในเดือนกันยายน 2010 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ดวลกับ สคันธอร์ป ยูไนเต็ด เกมนั้นไม่มีกุนซือจอมเก๋าคุมทีมข้างสนาม ว่ากันว่าเหตุจำเป็นในตอนนั้นของเฟอร์กี้คือการเดินทางไปยังสเปนด้วยตัวเอง เพื่อส่องฟอร์มของเด เคอา ในเกมที่แอตเลติโก มาดริด ฉะแข้งกับ บาเลนเซีย
และแล้วทีมดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ก็เลือกนายด่านที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของฟาน เดอร์ ซาร์ จนได้ ซึ่งหวยก็ไปออกที่โกลอนาคตไกลอย่างดาบิด เด เคอา ดีลเสร็จสิ้นในปลายเดือนมิถุนายน 2011 โดยแมนฯ ยูไนเต็ด ย่อมทุ่มเงินราว 18.9 ล้านปอนด์ เป็นสถิติผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดของพรีเมียร์ลีกและของโลกในตอนนั้น
การย้ายมาเล่นในลีกใหม่กับวัย 20 ปี แถมยังกลายมาเป็นมือหนึ่งแทนที่ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่อำลาทีมไป เด เกอา เป็นเหมือนกับนักเตะป้ายแดงของพรีเมียร์ลีกหลาย ๆ คนที่ต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่
ช่วงแรก เขาตกเป็นเป้าวิจารณ์เรื่องการย้ายมาเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเรื่องความกำยำของร่างกาย การสร้างกล้ามเนื้อเพื่อบู๊ในลีกที่อุดมไปด้วยเกมรุกแกร่ง ๆ ไปจนถึงเรื่องการจัดการกับลูกกลางอากาศ และการตัดสินใจเล่นที่บอลในช่วงเวลาสำคัญ
ถึงขั้นว่ามีช่วงหนึ่ง เด เคอา โดนดร็อปเป็นตัวสำรองเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา แล้วลองดัน อันเดรียส ลินเดการ์ด ลงเฝ้าเสาแทนมาแล้ว ทั้งยังมีข่าวลือด้วยว่า เด เคอา เคยมีความคิดถอดใจลาทีมตั้งแต่ปีแรก
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เด เคอา กำลังเผชิญ แต่เพราะผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์รายนี้เป็นคนเลือกเขาเข้ามา เฟอร์กูสันจึงมีแต่คำพูดที่สนับสนุน และเชื่อว่าดาวรุ่งเลือดกระทิงรายนี้จะก้าวข้ามอุปสรรคในช่วงแรก ๆ ของการค้าแข้งที่อังกฤษได้
"เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีแต่คำพูดสนับสนุนดาบิด เด เคอา ว่าอยู่ในช่วง 'การเรียนรู้' เขาบอกแบบนี้ และผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เล่าต่อไปว่า ปีเตอร์ ชไมเคิล ก็เคยอดทนกับช่วงเวลาที่ยากลำบากของตัวเองในช่วงต้นอาชีพในอังกฤษ" ดาเนียล เทย์เลอร์ คอลัมนิสต์ The Guardian เขียนบทความอธิบายสถานการณ์ในตอนนั้น
เวลาผ่านไป 1 ฤดูกาล ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามคำกล่าวของ "เฟอร์กี้" อย่างแท้จริง เพราะเด เคอา เริ่มปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษได้ดีขึ้น ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับตอบแทนความไว้วางใจ และมีส่วนสำคัญในการพาแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อยู่คุมบังเหียนเป็นปีสุดท้ายจบลงด้วยตำแหน่งแชมป์
เด เคอา ลงเฝ้าเสาในฤดูกาล 2012-13 ไปทั้งสิ้น 28 นัด ช่วยทีมเก็บ 11 คลีนชีต และได้รับการโหวตให้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ หรือพีเอฟเอ ด้วย
"มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวผมในฤดูกาลแรก แต่ผมเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองเสมอครับ ความกดดันที่สโมสรชั้นนำอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นยิ่งใหญ่มาก แต่เฟอร์กูสันบอกให้ผมทำในสิ่งที่ผมทำ" เด เคอา ให้สัมภาษณ์
เสมอต้นเสมอปลาย
หลังการอำลาตำแหน่งคุมทัพ "เรด เดวิลส์" ซึ่งกินเวลานานถึง 26 ปีของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สโมสรมีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือมากมาย (รวมถึงขัดตาทัพ) ไม่ว่าจะเป็น เดวิด มอยส์ ซึ่งเป็นคนแรกที่รับไม้ต่อ ตามด้วย ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ไมเคิล คาร์ริค, ราล์ฟ รังนิค และ เอริค เทน ฮาก กุนซือคนปัจจุบัน
นักเตะเองก็เช่นกัน มีการสลับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนผ่านมือกุนซือหลาย ๆ คน ทว่าคนหนึ่งที่ยังคงยืนยงมาถึงยุคเทน ฮาก และเปรียบเสมือนเป็นซีเนียร์ที่ทุกคนให้การยอมรับ นั่นคือ "ดาบิด เด เคอา"
ไม่ว่าในแต่ละฤดูกาล แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบด้วยผลงานแบบไหน เด เคอา คือนักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นอยู่เสมอ แน่นอนว่าภาพจำของผู้รักษาประตูชาวสเปนคนนี้ก็คือการเซฟประตูที่งัดทั้งมือ แขน และขา จนปฏิเสธประตูคู่แข่งมานักต่อนัก จนแฟน ๆ อาจจะเห็นประโยคอันเป็นภาพจำที่มีต่อเขาอย่างคำกล่าวที่ว่า "กองหลังปั้นให้" "เซฟมือแตก" "เซฟแล้วเซฟอีก" เป็นต้น
สถิติเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่บ่งบอกถึงความสุดยอดของนายประตูเจ้าของส่วนสูง 192 เซนติเมตรได้ดี ทั้งตัวเลขเรื่องการลงสนามอย่างการถูกบันทึกว่าเป็นนักเตะที่ลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด มากสุดตลอดกาลในอันดับท็อป 10 (ปัจจุบันลงเล่นเกิน 500 นัด) รวมถึงลงสนามในพรีเมียร์ลีกนานที่สุดเป็นอันดับหนึ่งที่ 35,039 นาที จากการบันทึกสถิติเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ฯลฯ
หรือแม้แต่สถิติเซฟสุดโหดในฤดูกาล 2018-19 เกมเฉือน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเจ้าตัวทำไป 11 เซฟ กลายเป็นสถิติเซฟมากที่สุดต่อหนึ่งเกมของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนั้น
รางวัลความสำเร็จส่วนตัวของ "บิ๊กเดฟ" ตลอดการเฝ้าเสาให้แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2011 มาจนถึงปัจจุบันก็ชี้ถึงความสัมพันธ์ที่ดีที่เขาทำไว้กับทีม อาทิ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร โดยเจ้าตัวทำได้ถึง 4 ฤดูกาลด้วยกัน ประกอบไปด้วยฤดูกาล 2013-14, 2014-15, 2017-18 และ 2021-22 เป็นต้น
จริงอยู่ที่ เด เคอา เป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมตั้งแต่ที่ย้ายเข้ามา และแม้จะมีหลาย ๆ ช่วงเวลาที่เขาเคยโดนแย่งมือหนึ่งไปบ้าง อย่างช่วงที่ทีมใช้ เซร์คิโอ โรเมโร่ ผู้รักษาประตูทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นมือหนึ่งแทน เนื่องด้วยสถานการณ์ที่เขาตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ เรอัล มาดริด จนเกือบจะได้ย้ายจริง ๆ ในซัมเมอร์ปี 2015 แต่ก็ไม่เกิดขึ้นเนื่องจากเรื่องเอกสารที่ล่าช้า
และพอสถานการณ์คลี่คลาย สโมสรก็จับ เด เคอา ต่อสัญญาไปจนถึงซัมเมอร์ 2023 พร้อมกลับมาเป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม
เช่นเดียวกับช่วงที่ ดีน เฮนเดอร์สัน กลับมาเป็นประตูมือสอง ในฤดูกาล 2020-21 ก็มีช่วงที่นายด่านชาวอังกฤษได้ลงเล่นแทนเด เคอา อยู่พักหนึ่ง เพราะฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงไปบ้างตลอดจนเรื่องภารกิจส่วนตัว แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ท้ายสุดแล้วการพึ่งพาความเก๋าก็ยังมาก่อน เด เคอา กลับมาเป็นมือหนึ่งอีกเช่นเคย
แม้ช่วงหลังมานี้ทีมจะไม่ได้ประสบความสำเร็จผ่านการคว้าโทรฟี่เหมือนก่อน แต่การที่มีจอมหนึบสแปนิชคอยคุมอยู่ที่เส้นปากประตู "ความอุ่นใจ" และ "ความผูกพัน" ก็ยังคงเป็นเรื่องเดียวกันอยู่เรื่อยมา
กับสถานการณ์ปัจจุบัน
ในฤดูกาล 2022-23 นี้ ดาบิด เด เคอา เผชิญกับความท้าทายในอนาคตการค้าแข้งอีกครั้งหนึ่ง การเข้ามาของกุนซือคนใหม่ เอริค เทน ฮาก ที่นำสไตล์การเล่นฟุตบอลสมัยใหม่เข้ามา เหมือนกับที่เคยทำให้ อาหยักซ์ อัมสเตอร์ดัม ประสบความสำเร็จ
มันจึงทำให้ผู้รักษาประตูในฟุตบอลยุคใหม่ไม่ได้มีหน้าที่แค่เฝ้าปากประตูอย่างเดียวอีกต่อไป นายด่านยุคโมเดิร์นจะต้องมีคุณสมบัติในการเป็นผู้รักษาประตูที่ออกบอลด้วยเท้าได้ดี เสมือนเป็นนักเตะเอาต์ฟิลด์อีกคนหนึ่งยามที่ทีมตั้งเกมบุก และจะต้องจัดการกับสถานการณ์ในกรอบเขตโทษได้ดี เป็นต้น
สำหรับเด เคอา เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันประตู "มากกว่า" การเล่นในบทบาทของผู้รักษาประตูยุคใหม่ จุดนี้เขาถูกตั้งคำถามอยู่บ่อย ๆ ว่ายังทำได้ "ไม่ดี" เท่าเรื่องการเซฟแบบอุตลุต
ยกตัวอย่างเกมบุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด 4-0 ในช่วงต้นฤดูกาล 2022-23 ที่เจ้าตัวออกบอลสั้นในแดนตัวเองไม่ดีจนทำให้ คริสเตียน เอริกเซ่น โดนคู่แข่งแย่งบอลจนนำมาสู่การเสียประตู 2-0
นั่นก็นำมาซึ่งข่าวลือที่มีทั้งในช่วงก่อนหน้าและในปัจจุบัน จากสถานการณ์ที่สัญญาของเขาจะหมดลงในซัมเมอร์นี้ว่าเขาจะได้รับการขยายสัญญาออกไปหรือไม่
สองเรื่องหลักนี้แสดงให้เห็นถึงความรักที่ ดาบิด เด เคอา มีให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด จากรายงานที่สื่อหลายสำนักนำเสนอ นั่นคือเขาพร้อมที่จะลดค่าเหนื่อยจากเดิมที่ได้อยู่ประมาณ 375,000 ปอนด์หรือ 15.75 ล้านบาทต่อสัปดาห์ เพื่ออยู่ต่อ
เช่นเดียวกับบทสัมภาษณ์ที่ระบุว่าเขาพร้อมอย่างยิ่งกับการอยู่จนเป็นตำนาน และเลือกแขวนถุงมือกับสโมสรแห่งนี้
"ใช่แล้ว ผมผ่อนคลายมากเลยล่ะ" เด เคอา เผยกับ Manchester Evening News "แค่ต้องโฟกัสไปกับการฝึกซ้อมให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ แต่มันจะจบลงด้วยทางที่ดีแน่นอน ผมหวังแบบนั้นนะ (อยู่ค้าแข้งกับทีมจนเลิกเล่น) ผมบอกเสมอว่านี่คือสโมสรของผม ผมอยู่ที่นี่มาหลายปีมาก ๆ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้อยู่ที่นี่ ผมมีความสุขกับที่นี่เหลือเกิน"
อนาคตของการค้าแข้งของ ดาบิด เด เคอา ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด จะเป็นอย่างไร เราก็อาจจะต้องรอให้คำว่า "Official" มาช่วยยืนยัน
ทว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องใช้คำใด ๆ มาช่วยการันตี นั่นคือ "ความผูกพัน" ที่เขามีต่อสโมสร รวมถึงแฟนบอล โดยที่ "เงิน ๆ ทอง ๆ" ไม่ใช่ปัจจัยหลักของเรื่องนี้แต่อย่างใด
แหล่งอ้างอิง
https://theathletic.com/3143135/2022/02/23/david-de-gea-and-atletico-madrid-its-complicated/
https://youtu.be/Yji9lZCHbmM
https://www.planetfootball.com/in-depth/six-years-david-de-gea-man-utd-horrendous-hero/
https://www.sportskeeda.com/player/david-de-gea
https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/1664111
https://www.theguardian.com/football/blog/2011/aug/14/football-manchester-united-david-de-gea https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/man-united-de-gea-contract-25900866
https://en.wikipedia.org/wiki/David_de_Gea
