Feature

เฮติ : "ราชาหมอผี" กับการไปฟุตบอลโลกของชาติที่เคยสูญเสียจนนับ 1 แทบไม่ได้ | Main Stand

จากชาติที่เคยล้มจนแทบเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ … สู่การยืนหยัดบนเวทีฟุตบอลโลก 2026

 


เฮติ ประเทศที่ผู้คนรู้จักในภาพของความสูญเสีย วิกฤต และความยากลำบาก กลับลุกขึ้นมาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยหัวใจ ความหวัง และความสามัคคีของทั้งชาติอีกครั้ง

บทความนี้จะพาคุณไปสัมผัส "ปาฏิหาริย์ลูกหนังของเฮติ" ว่าพวกเขาฟื้นฟุตบอลขึ้นมาจากซากปรักหักพังได้อย่างไร ติดตามกับ Main Stand 

 

บอลโลก ความเชื่อ และความจริง 

"อย่างแรก เราขอเตือนคุณไว้ว่า อย่าดื่มน้ำจากก๊อกที่นี่ เพราะมันอาจจะทำให้คุณต้องใช้ห้องน้ำทั้งวัน โรงแรมของเราเคยเป็นโรงแรมที่แสนทันสมัยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่ทุกสิ่งก็ถูกหยุดเวลาไว้ในตอนนั้นนั่นแหละ ... ตอนนี้เหลือแค่สถาปัตยกรรม, ดนตรี และฟุตบอลเท่านั้นที่ยังอยู่กับเรา" จอห์น สปอร์ลิ่ง นักข่าวชาวอเมริกัน เล่าถึงเหตุการณ์ที่เจ้าของโรงแรมใหญ่ ณ ใจกลางกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของ เฮติ พูดกับเขาในวันที่เขาพยายามหาความจริงบางอย่างเกี่ยวกับทีมชาติเฮติที่ได้ไปฟุตบอลโลกมาแล้ว 1 ครั้งในปี 1974

ย้อนกลับไป 30-40 ปีก่อน เฮติ ถือเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางด้านฟุตบอล มีนักฟุตบอลในประเทศที่เป็นดาวเด่นชื่อว่า อองรี ฟรองซิย็อง ที่เล่นให้กับ 1860 มิวนิค ในเยอรมนี นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่ค้าแข้งในลีกสหรัฐอเมริกา 

ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1974 เฮติ ชนะถึง 4 จาก 5 เกม โดยนัดสำคัญคือการพลิกชนะ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ที่เหนือกว่าพวกเขามาตลอด 2-1 ก่อนปิดท้ายด้วยการไล่ถล่มเจ้าภาพในรอบคัดเลือกครั้งนั้นอย่าง เม็กซิโก ถึง 4-0 จนได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายด้วยการอยู่สายเดียวกับทีมแกร่งอย่าง อาร์เจนตินา, อิตาลี และ โปแลนด์ 

ด้วยความที่เป็นประเทศซึ่งมีความเชื่อในแบบ "ทรงเจ้าเข้าผี" แม้จะยินดีกันถึงขั้นปิดถนนฉลองความสำเร็จ แต่สื่อทั่วโลกมองว่า เฮติ คงเป็นได้แค่ไม้ประดับและถูกยิงเละทุกเกม และการอยู่สายนี้พวกเขาอาจจะไม่ได้ยิงกลับเลยแม้ประตูเดียว แต่ชาว เฮติ ไม่คิดอย่างนั้น เขาคิดว่า "ผีบรรพบุรุษ" ส่งพวกเขามาถึงรอบสุดท้าย และจะอำนวยอวยชัยให้ทีมไปจนถึงวันสุดท้าย ... ใช่แล้ว พวกเขาหวังไกลถึงแชมป์โลก มันคือความหวังจากฝีเท้าของนักเตะ 50% และไสยศาสตร์อีก 50%

แน่นอนว่าพวกเขาตกรอบแรกด้วยการแพ้ทั้ง 3 เกม พร้อมด้วยประตูได้เสีย -12 แต่อย่างน้อย เฮติ ก็ยังยิงประตูใส่ อาร์เจนตินา และ อิตาลี ได้ มันคือการไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ผลงานไม่แย่จนเกินไปนัก และควรจะต่อยอดได้ 

ทว่านี่แหละที่เขาบอกกัน "ความมีวินัยและทำอย่างต่อเนื่องสำคัญกว่าการมีแค่แพชชั่นและความเชื่อ" ... หลังจากฟุตบอลโลก 1974 เฮติ ค่อย ๆ หายไปจากแผนที่โลกฟุตบอล และไม่เคยกลับมาอีกเลยจนกระทั่งพวกเขาเพิ่งมาทำสำเร็จในฟุตบอลโลก 2026 หรือกว่า 50 ปีให้หลัง ซึ่งเหตุผลของเรื่องก็ต้องยอมรับว่า แม้จะยาวนาน แต่ก็สุดยอดแล้วที่พวกเขากลับมาได้ 

 

การล้มที่แทบลุกไม่ขึ้น 

เหตุการณ์มากมายวนเวียนเกิดขึ้นตลอดช่วง 50 ปีที่ว่างเปล่าสำหรับประเทศเฮติและทีมฟุตบอลของพวกเขา หนึ่งในนั้นคือเรื่องของภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว 

หลายครั้งมันไม่ได้สร้างผลเสียอะไรมาก แต่เพียงครั้งเดียวที่ธรรมชาติไม่ปราณีพวกเขา คือแผ่นดินไหวในปี 2010 

ไม่มีแผ่นดินไหวครั้งไหนอีกแล้วที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตมากกว่า 2 แสนคนในคราวเดียว บ้านเมืองพังยับเยิน ชุมชนถูกทำลายจนแทบกลายเป็นเมืองร้าง และสถานที่ที่พอจะคงสภาพให้พอซุกหัวนอนสำหรับผู้ประสบภัยกว่า 7,000 คนได้มีที่เดียวเท่านั่น นั่นคือ สนามฟุตบอลแห่งชาติเฮติ 

"สำนักงานแห่งชาติของเราพังลงในเวลาเพียงไม่กี่วินาที คนในนั้นส่วนใหญ่เสียชีวิตเกือบหมด เราสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ไม่ต้องพูดถึงฟุตบอลเลยด้วยซ้ำ เราแทบไม่เหลือสนามให้ใช้แข่งขันกันอีกแล้ว" อีฟ ฌอง บาร์ต ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเฮติ (HFF) เล่าถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งสำคัญ ที่ทำให้ฟุตบอลของ เฮติ แทบจะสูญพันธุ์เลยทีเดียว

เฮติ พยายามขอความช่วยเหลือจากหลายชาติ อาทิ กายอานา, สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา รวมถึงพันธมิตรนอกทวีปอย่าง อังกฤษ และ กาตาร์ แต่ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะระหว่างที่พวกเขาพยายามกอบกู้สถานการณ์ฟุตบอล ด้วยการส่งทีมรุ่นอายุต่าง ๆ ไปลงแข่งขันในรายการของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ก็เกิดเหตุการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ส่งผลอย่างมากในการ "เกิดใหม่" ครั้งนี้ 

ลำพังแค่เรื่องแผ่นดินไหวก็รุนแรงเกินยากกลับมายืนได้ แต่ประเทศก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย เพราะกลุ่มติดอาวุธเข้ายึดครองกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของประเทศเกือบทั้งหมด ท่ามกลางความขัดแย้งที่บีบให้ประชาชนราว 1.3 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และก่อให้เกิดภาวะอดอยากรุนแรง

ทุกวันนี้ปัญหาเรื่องการเมืองและความปลอดภัยก็ยังไมสิ้นสุด มีเหตุการณ์ระทึกขวัญไม่เว้นแต่ละวัน แม้แต่รถบัสของทีมชาติ ก็เคยโดนคนขี่มอเตอร์ไซค์ประกบข้างพร้อมจ่ออาวุธปืนข่มขู่มาที่รถ จนนักเตะอกสั่นขวัญแขวนเลยทีเดียว 

ไม่ใช่แค่คนใน เพราะนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้รับคำเตือนไม่ให้เดินทางไปเยือนประเทศนี้ที่มีประชากร 12 ล้านคน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการลักพาตัว อาชญากรรม การก่อการร้าย และความไม่สงบทางสังคม สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อวงการฟุตบอลไม่แพ้วงการอื่น ๆ

มีการระบุว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเหลือแค่สนามแข่งจริง ๆ เพราะสนามซ้อมพัง ลีกไม่เป็นระบบ เงินสนับสนุนแทบไม่มี นักฟุตบอลในประเทศหลายคนอพยพไปที่อื่นและไม่กลับมาอีกเลย บางคนก็ถึงกับเลิกเล่นฟุตบอล เพื่อไปทำงานหาเงินด้วยวิธีอื่นแทน 

นี่เป็นเหตุผลที่ เฮติ หล่นจากเวทีฟุตบอลโลกอย่างยาวนานจนโลกแทบจำไม่ได้ มันไม่ใช่เพราะพวกเขาไร้ฝีเท้า แต่เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะเตรียมตัวเล่นฟุตบอล นั่นคือความจริงที่ยากจะยอมรับ

 

ลุกไม่ไหว ยังไงก็ต้องลุก 

ต้องบอกว่า โชคยังดีที่ชาติพันธมิตรต่าง ๆ ของ เฮติ ยังไม่มองข้ามพวกเขา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเฮติเกิดขึ้นจากความสามัคคีของคนทั้งชาติ หลังปี 2010 พวกเขาเริ่มสร้างทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ทั้งสนามซ้อม การปั้นนักเตะเยาวชน ระบบการแข่งขัน และความกล้าหาญที่จะเชื่อในฟุตบอลอีกครั้ง

องค์กรสาธารณะประโยชน์ หรือ NGO หลายแห่งร่วมมือกับ สหพันธ์ฟุตบอลเฮติ ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือรักษาจิตใจเด็ก ๆ ทำให้เยาวชนเฮติกลับมามีความหวัง และกล้าที่จะไล่ล่าความฝันอีกครั้ง 

สหพันธ์ฟุตบอลเฮติ ใช้ข้อดีของการที่ประชากรกว่า 1 ล้านคนอพยพไปอยู่ประเทศอื่นในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ด้วยวิธีการดึงนักเตะเชื้อสายเฮติจากต่างประเทศกลับมารับใช้ชาติ เพราะมีเด็กชาวเฮติมากมายย้ายไปเติบโตในฝรั่งเศส แคนาดา และสหรัฐอเมริกา ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอะไรที่เวิร์ก เพราะช่วยให้ความนิยมในฟุตบอลกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง 

สหพันธ์ฟุตบอลฯ เริ่มฟื้นตัวจากการสนับสนุนและแนวคิดนั้น พวกเขาเดินทางไปชวนผู้เล่นเหล่านั้นกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ฟื้นฟูฟุตบอล ... เฮติ ได้นักเตะอย่าง ดูค็องส์ นาซง และนักเตะอีกหลายคนที่เล่นกับหลายทีมในลีกเดอซ์ และลีกระดับดิวิชั่น 3 ในฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีนักเตะจากเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ อย่าง แดร์ริก เอเตียน จูเนียร์ และ ริการ์โด อิวา เข้ามาสร้างกระแส และยกระดับคุณภาพทีมในคราวเดียวกัน  

เพื่อเปรียบความตื่นเต้นให้เห็นภาพ ก็คงไม่แตกต่างจากวันที่แฟนบอลไทยได้เห็นนักเตะที่โตในต่างแดนอย่าง นิโคลัส มิคเกลสัน, จู๊ด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร กลับมายกระดับทีมชาติไทย นักเตะเหล่านี้ทำให้ทุกคนมีหวัง และเมื่อกระแสมวลชนเกิดขึ้น พวกเขาก็เริ่มนับผ่าน 1 ได้สำเร็จ ถึงเวลาที่พวกเขาจะต่อยอดในส่วนอื่น ๆ โดยจุดที่เห็นชัดที่สุดคือปี 2018 ที่ เฮติ สร้างโครงการพัฒนาเยาวชนเต็มรูปแบบ ด้วยการสร้าง "ศูนย์พัฒนาเยาวชน" ใหม่จากเงินสนับสนุนของฟีฟ่า 

นี่คือก้าวสำคัญที่ทำให้เด็กจำนวนมากมีโอกาสเริ่มต้นอย่างถูกต้อง พวกเขาใช้ระบบสเกาต์ที่จริงจังในลีกท้องถิ่น ร่วมกับการติดตามดาวรุ่งลูกครึ่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ ถึงตรงนี้สามารถพูดได้เต็มปากแล้วว่า นี่คือยุคที่เฮติเริ่ม "กลับมาหายใจอีกครั้ง" บนเวทีฟุตบอลโลก

 

จากเชื่อหมอผี สู่เชื่อในรากฐานที่แข็งแกร่ง 

ฟุตบอลโลก 2026 คือเวทีที่เฮติประกาศว่า "เรากลับมาแล้ว" แน่นอนว่าหลายคนอาจจะคิดว่า การเพิ่มโควต้าคือส่วนสำคัญของเรื่องนี้ ซึ่งมันก็ถูกต้อง แต่อาจจะเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาพร้อมที่สุดในรอบหลายปี นักเตะที่โตในต่างแดนมีมากขึ้น เช่นเดียวกับเด็กจากศูนย์ฝึกเยาวชนในประเทศก็เข้ามาเป็นตัวเลือกในทีมชาติมากขึ้นด้วย 

ว่ากันว่าในช่วงยุคที่พวกเขาหายไป พวกเขามีนักเตะให้เลือกใช้ในทีมชาติชุดใหญ่ไม่ถึง 20 คนเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขามีนักเตะที่พร้อมใช้งานในทีมชุดใหญ่มากกว่า 100 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปีที่ผ่านไป 

ขุมกำลังหลักยุคนี้คือปีกความเร็วสูงจาก วูล์ฟส์ อย่าง ฌ็อง เบลเลการ์ด รวมถึง แฟรนซ์ดี้ ปิแอร์ร็อต ดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 3 ของชาติที่เล่นในลีกสูงสุดของกรีซ และถึงตอนนี้ เฮติ มีนักเตะที่เล่นในยุโรปมากถึง 20 คน จากรายชื่อ 24 คนที่ใช้ในเกมล่าสุดที่ชนะ คอสตาริกา และ นิคารากัว 2 เกมติดต่อกัน จนคว้าตั๋วเวิลด์คัพได้สำเร็จ 

และแน่นอนว่า การที่ เฮติ ได้ไปฟุตบอลโลก 2026 ต้องให้เครดิตกับ เซบาสเตียน มิญเญ เฮดโค้ชยุคใหม่ที่ผสมผสานความรู้ฝรั่งเศส–คาริบเบียน เขานำระบบเพรสซิ่งที่วินัยสูงเข้ามาใช้ พร้อมกับการโจมตีที่ใช้ความเร็วเป็นอาวุธ

หลักคิดของเขามีอยู่สั้น ๆ ว่า "เฮติไม่ใช่ทีมที่ใหญ่กว่าใคร แต่เราจะเป็นทีมที่กล้าหาญที่สุดในสนาม" และเขาก็ซื้อใจผู้เล่นในทีมให้คิดแบบนั้นได้สำเร็จ 

เมื่อรากฐานดี นักเตะมีความรู้ และมีโค้ชทำงานจนเข้าใจวัฒนธรรมชาวคาริบเบียน เฮติ ก็สามารถเลือกใช้แท็คติกในสนามได้หลากหลายมากขึ้น พวกเขาได้รับคำชมจากเว็บไซต์ของ FIFA ว่า เป็นทีมที่เล่นเกมรับอย่างเป็นระบบ มีจังหวะสวนกลับที่รวดเร็ว และเข้าใจจุดแข็ง-จุดอ่อนของตัวเองเป็นอย่างดี โดยเลือกใช้ทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ ที่ทำให้พวกเขาได้ประตูสำคัญในรอบคัดเลือกหลายลูกในทัวร์นาเมนต์นี้ จนวิ่งเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ 

จากฟุตบอลโลก 1974 ที่ต้องเชือดวัวเชือดควายเพื่อถวายแด่ผีบรรพบุรุษ ตอนนี้ เฮติ ใช้หลักการสากลของฟุตบอล นั่นคือพัฒนาจากราก เลือกคนที่ดีที่สุด และพร้อมที่จะเล่นให้กับทีมชาติด้วยความภาคภูมิใจ ที่สำคัญคือการเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับนักเตะที่มี ... ส่วนเรื่องผีสาง แม้จะมีความเชื่อหลงเหลืออยู่ แต่มันก็กลายเป็นแค่เรื่องของขวัญกำลังใจเท่านั้น 

เซบาสเตียน มิญเญ กล่าวหลังจากพาทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2026 ได้ว่า "เราไม่ได้เล่นเพื่อตัวเอง แต่เล่นเพื่อผู้คนที่สูญเสียทุกอย่าง เราเล่นเพื่อแผ่นดินที่ต้องสร้างใหม่จากศูนย์ และเพื่อพิสูจน์ว่า เฮติยังยืนอยู่ได้ … เพราะพวกเราทุกคนยืนอยู่ข้างกัน" 

แม้ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบ หลายครั้งกุนซืออย่าง มิญเญ ก็ต้องทำงานจากประเทศอื่น และใช้การสื่อสารผ่านวีดีโอคอลในการคุยกับทีมงานของเขา เพราะโดนขู่ลักพาตัว แต่พวกเขาก็พยายามอย่างมากที่จะทำงานภายใต้ข้อจำกัดที่มีมากมายขนาดนี้

ด้วยสปิริต ความมุ่งมั่น และพลังของชาติทั้งประเทศชาติที่เคยถูกมองว่า "สูญเสียเกินกว่าจะฟื้นกลับมา" กลับได้ไปยืนบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตบอลอีกครั้ง 

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้มันมีหลักการเหมือนกับการ์ตูนโชเน็นที่เราเคยอ่านกัน เพราะสูตรสำเร็จของการไปถึงเป้าหมายของ เฮติ นั้นคือการเชื่อว่า "ความหวังไม่เคยตาย ความกล้าหาญสร้างปาฏิหาริย์ และความสามัคคีทำให้ฝันเป็นจริง" 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/articles/cwy70v7grl4o
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/46956814/haiti-road-world-cup-include-stop-home
bbc.co.uk/sport/football/articles/cwy70v7grl4o
http://edition.cnn.com/2011/SPORT/football/03/25/football.haiti.fifa.earthquake/index.html
https://sabotagetimes.com/football/how-voodoo-and-gangsters-took-haiti-to-the-world-cup-finals-part-1
https://www.theguardian.com/football/blog/2014/apr/29/25-stunning-world-cup-moments-haiti-italy-1974
https://www.prosoccerusa.com/mls/haiti-earns-historic-gold-cup-win-over-canada-reaches-first-semifinal/
https://prachatai.com/journal/2014/08/55209
https://reliefweb.int/report/haiti/8-years-after-haiti-earthquake-mo-se-playing-football-again

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ