บาเยิร์น มิวนิค ยุคใหม่ของ แว็งซ็องต์ กอมปานี เมื่อยักษ์ใหญ่กลับมามีหัวใจของทีมอีกครั้ง

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา มีสองเหตุการณ์ที่ดูไม่เกี่ยวกันเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลยุโรป ... อตาลันต้า แพ้เป็นครั้งแรกใน เซเรีย อา ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิก ถล่ม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อย่างเด็ดขาด 3-0 

สกอร์สองคู่นี้ ทำให้ "เสือใต้" กลายเป็นทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปที่ยังไม่แพ้ใคร พวกเขาออกสตาร์ทใน บุนเดสลีกา ด้วยฟอร์ม 100% ชนะรวด 9 นัด เสียเพียง 4 ประตู และยังคงเดินหน้าอย่างสง่างาม

แม้หลายคนอาจมองว่า บุนเดสลีกาไม่ใช่ความท้าทายของบาเยิร์นอีกต่อไป แต่เมื่อมองย้อนกลับไปไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา ความจริงคือพวกเขาถูกท้าทายไม่น้อย ทั้งจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่พาเกมลุ้นแชมป์ไปถึงนาทีสุดท้ายในฤดูกาล 2022-23 รวมถึงจาก เลเวอร์คูเซ่น ที่แย่งบัลลังก์ไปในซีซั่น 2023-24

และบางที การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือคำตอบของคำถามที่แฟนบอลเสือใต้เฝ้ารอ

ยุคใหม่ที่เริ่มจากความสงบ

21 ตุลาคม 2025 แว็งซ็องต์ กอมปานี เพิ่งต่อสัญญากับบาเยิร์นออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2029 ถือเป็นผู้จัดการทีมเสือใต้คนแรกนับตั้งแต่ยุค หลุยส์ ฟาน กัล ที่ได้รับสัญญาใหม่ก่อนครบวาระ

ข่าวนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสโมสร แต่ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเชื่อว่า ชายคนนี้คือคนที่จะพาทีมกลับไปยืนบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างสง่างามอีกครั้ง

ภายใต้การคุมทีมของกอมปานี บาเยิร์นไม่เพียงกลับมาชนะ แต่พวกเขากำลังสนุกกับการเล่นฟุตบอลอีกครั้ง

ชนะเลเวอร์คูเซ่นด้วยทีมเกรดบี แต่หัวใจระดับเกรดเอ

สิ่งที่น่าสนใจในชัยชนะเหนือ เลเวอร์คูเซ่น ไม่ใช่แค่ผลสกอร์ 3-0 แต่คือวิธีที่กอมปานีจัดทีมลงเล่น

เขาเลือกพักตัวหลักอย่าง แฮร์รี่ เคน, ไมเคิล โอลิเซ่ และ หลุยส์ ดิอาซ พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งวัย 17 ปี เลนนาร์ต คาร์ล ลงสนามเป็นตัวจริง ผลที่ได้คือบาเยิร์นเดินหน้าโจมตีอย่างไม่เกรงกลัว และขึ้นนำถึงสามประตูตั้งแต่ครึ่งแรก

เลเวอร์คูเซ่นในยุคของ แคสเปอร์ ยูลมันด์ ที่เพิ่งมารับงานหลัง เอริก เทน ฮาก ถูกปลด เพิ่งเสียคีย์แมนอย่าง โฟลเรียน เวียตซ์, เฌเรมี่ ฟริมปง และ กรานิต ชาก้า จึงยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ก็ไม่มีใครคาดว่าบาเยิร์นจะข่มเกมได้ขนาดนี้ 

ด้วยชัยชนะเกมนี้ บาเยิร์นชนะครบสามทีมใหญ่ของลีกแดนอินทรีเหล็ก ทั้ง ไลป์ซิก, ดอร์ทมุนด์ และเลเวอร์คูเซ่นแล้ว ปิดฉากคำถามเรื่อง "คู่แข่งที่แท้จริง" ไปชั่วคราว

เสียงสะท้อนจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ใครที่ติดตามบอลของบาเยิร์นในยุคนี้ จะเห็นเงาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชัดเจนในแนวทางของกอมปานี

อดีตกัปตัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยเป็นลูกทีมของเป๊ปอยู่สามปีเต็ม และสิ่งที่เขาเรียนรู้คือ "ฟุตบอลแบบมีระบบหมุนเวียนที่มีชีวิต" การครองบอลที่มีจังหวะ, การเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างอิสระ แต่ยังคงรูปแบบของทีมไว้

ซีซั่น 2024-25 กอมปานีเน้นให้ผู้เล่น "ยืนในโซน" เพื่อสร้างโครงสร้างการเล่นที่มั่นคง ปีนี้เขาขยับไปอีกขั้น ด้วยการให้ผู้เล่นเคลื่อนที่เปลี่ยนโซนอย่างต่อเนื่อง จนแนวรับคู่แข่งตามประกบแทบไม่ทัน

มันคือฟุตบอลที่ผสมระหว่างความคิดเชิงระบบกับสัญชาตญาณของผู้เล่นในสนาม บอลแบบที่บาเยิร์นเคยพยายามทำในยุคกวาร์ดิโอล่า แต่ดูเหมือนเพิ่งลงตัวในยุคของกอมปานี

คิมมิช กับทีมที่ไม่ใช่แค่รวมซูเปอร์สตาร์

โยชัว คิมมิช ยังจำได้ดีถึงวันแรกที่เขาย้ายมาบาเยิร์นในปี 2015 ช่วงเวลาที่สโมสรเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์จากทั่วโลก

"ตอนนั้นเรามีนักเตะระดับโลกเกือบ 25 คน แต่ตอนนี้สิ่งที่ต่างออกไปคือเราทำงานร่วมกันในฐานะทีมจริง ๆ" คิมมิชเล่าหลังเกม

"เราช่วยกันวิ่ง เล่นเพื่อกันและกัน และมีความสุขที่ได้อยู่ในสนามด้วยกัน สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เมื่อสิบปีก่อนเรามีอัตตาในทีมมากกว่านี้ ตอนนี้เรามีหัวใจเดียวกันมากขึ้น"

นี่อาจเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดว่า ทำไมบาเยิร์นของกอมปานีจึงดูกลมกล่อมกว่าทุกยุคที่ผ่านมา

แฮร์รี่ เคน ผู้นำที่เงียบแต่ทรงพลัง

แม้จะไม่ได้ลงสนามในเกมพบเลเวอร์คูเซ่น แต่ แฮร์รี่ เคน ก็ยังเป็นตัวแทนของทัศนคติที่บาเยิร์นยุคใหม่ต้องการ กับความมุ่งมั่นที่ไม่ต้องแสดงออกด้วยการส่งเสียง

ดาวยิงทีมชาติอังกฤษนำตารางดาวซัลโวด้วย 22 ประตูจาก 15 นัดในทุกรายการ และยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิงมากที่สุดในลีก แม้จะถูกพักในบางนัด เขาไม่ได้มีเพียงสถิติที่สวยงาม แต่ยังมีความถ่อมตัว ที่สร้างสมดุลในห้องแต่งตัวของทีมซูเปอร์สตาร์แห่งนี้

พายุที่เงียบลงใน อลิอันซ์ อารีนา

ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บาเยิร์นเคยเผชิญข่าวความวุ่นวายภายใน โดยเฉพาะกรณีของ มักซ์ เอเบิร์ล ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของสโมสร แต่เมื่อฤดูกาลเริ่มต้นขึ้นและทีมเดินหน้าเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เสียงเหล่านั้นก็เงียบหายไป เพราะในสนาม ผลงานของกอมปานีคือคำตอบทุกอย่าง

บาเยิร์นอาจสะดุดในแชมเปี้ยนส์ลีกในวันใดวันหนึ่ง บางทีอาจเป็นเกมเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่รออยู่ในวันอังคารนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดคือ พวกเขากำลังกลับมาด้วย "ทัศนคติที่ถูกต้อง"

และเมื่อ จามาล มูเซียล่า กับ อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ ไม่มีใครรู้ว่า บาเยิร์น มิวนิค จะยังเป็นทีมที่ไร้พ่ายอยู่หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาจะพร้อมกลับไปท้าทายยุโรปในแบบที่พวกเขาเคยเป็น

เรื่อง : ชินภัทร มุทะสัง นักศึกษาฝึกงาน

ที่มา:

https://www.bbc.com/sport/football/articles/cj97yp7dvxmo