2023/24 เป็นฤดูกาลที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอโจทย์ใหญ่ที่ต้องรับมืออยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเรื่องการรักษามาตรฐานของตัวเองให้คงความต่อเนื่องจากความสำเร็จในซีซั่นก่อนหน้าที่ทีมคว้าเทรเบิลแชมป์มาครองได้ ไปจนถึงการจัดการกับขุมกำลังทีมให้คงความลงตัวและแข็งแกร่ง รอต่อกรกับบรรดาคู่แข่งที่ต่างก็เตรียมทีมกันแบบไม่มีใครยอมใคร
และหนึ่งในอาวุธเด็ดที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือใหญ่ เลือกเข้ามาเติมเต็มให้ทัพเรือใบสีฟ้าก่อนสู้ศึกฤดูกาลใหม่นี้ คือการได้ตัว ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ปราการหลังอนาคตไกลแห่งโลกลูกหนังเข้ามาร่วมก๊วน พร้อมสัญญาระยะยาว 5 ปี รวมออปชั่นยืดสัญญาไปอีก 1 ปี ด้วยค่าตัวถึง 90 ล้านยูโร
ประเด็นน่าสนใจครั้งนี้คือ เหตุใด แมนฯ ซิตี้ ถึงเลือกเสริมผู้เล่นตำแหน่งเกมรับมาสู่ทีมอีกราย ทั้ง ๆ ที่ทีมอุดมไปด้วยกองหลังฝีเท้าระดับแถวหน้าของโลกมากมาย และทำไมถึงต้องเป็นชื่อของดาวเตะที่เพิ่งอายุได้ 21 ปี
มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand
“ลิตเติลเป๊ป” จากซาเกร็บ
ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังระดับซูเปอร์สตาร์ได้ในทุกวันนี้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เป็นเหมือนกับเด็กชายชาวโครแอตทั่วไปที่เกิดและเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเกมลูกหนังที่อยู่รายล้อมแบบยากจะเลี่ยงหลีก
ด้วยการที่โครเอเชียเป็นประเทศที่มีประชากรราว 4 ล้านคน มีฟุตบอลเป็นกีฬามหาชนที่กล่าวว่าเป็นกีฬาอันดับหนึ่งของชาติก็ย่อมไม่ผิด ชาวโครแอตหลาย ๆ คนต่างก็มีลูกหนังใบกลมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะทั้งการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เป็นนักฟุตบอลระดับสมัครเล่น ไปจนถึงการเป็นแฟนฟุตบอลทั่วไป
ในรายของเด็กชายยอสโก้ เขาโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อ ธิโฮเมียร์ (Tihomir) ทำอาชีพค้าขาย (ขายปลา) เป็นนักเตะสมัครเล่น และชื่นชอบการดูฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ว่ากันว่าธิโฮเมียร์ได้พาลูกชายไปเล่นฟุตบอลในละแวกบ้านตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ แน่นอนว่าความคาดหวังของคนเป็นพ่อที่มีต่อบุตรชายคนนี้คือการได้เห็นลูกไปได้ไกลกว่าตัวเขาเองที่ทำได้แค่เตะฟุตบอลในเวลาว่าง
เวดราน เปริช โค้ชเยาวชนของ เอ็นเค เตรสเยฟก้า (NK Tresnjevka) ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลทีมแรกที่ยอสโก้ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เคยกล่าวถึงพรสวรรค์ด้านฟุตบอลของเด็กชายคนนี้ โดยเฉพาะความโดดเด่นยามที่เล่นเป็นกองหลัง
“ทีแรกเขามักจะขอเล่นเป็นกองหน้า เพราะคุณต้องปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ลองทำทุกอย่าง ตอนนั้นผมยอมนะ”
“แต่จริง ๆ แล้วเขามีความสามารถในการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม เรารู้ว่าถ้าเขาเล่นเกมรับเมื่อไรทีมเราจะไม่เสียประตูแน่นอน เขาสกัดบอลได้ทุกทาง ไม่ว่าจะบอลยาวหรือบอลสั้น เขามีความเร็วมาก ๆ”
จากนั้นเพียงหนึ่งปี ยอสโก้พาตัวเองไปยังจุดที่ครอบครัวต้องภูมิใจ เมื่อหนึ่งในทีมที่แสดงความสนใจในตัวเจ้าหนูแห่งตระกูลกวาร์ดิโอลที่ถึงขั้นพร้อมจะดึงไปปั้นฝีเท้าต่อในระดับอคาเดมีและต่อยอดสู่เวทีอาชีพคือ ดินาโม ซาเกร็บ ยักษ์ใหญ่แห่งแวดวงลูกหนังตาหมากรุก
เมื่อโอกาสดีเข้ามาหาก็ยากจะปฏิเสธ เป็นเหตุให้ปี 2010 กลายเป็นขวบปีแรกที่กวาร์ดิโอลอยู่ร่วมชายคาทีมแกร่งของประเทศ ก่อนจะอยู่โยงเป็นเวลาร่วมทศวรรษ
ด้วยการที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ฉายแววเด่นเรื่องเกมรับมาตั้งแต่ยังวัยเยาว์ สิ่งนี้ได้ส่งต่อมายังพัฒนาการของเขาในระดับทีมเยาวชนดินาโม ซาเกร็บ ไปโดยปริยาย โดยเฉพาะการเล่นตำแหน่ง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งดาวเตะผู้ที่เกิดในปี 2002 รายนี้ก็ยึดโยงตำแหน่งดังกล่าวเบิกทางสู่ทีมชุดใหญ่จนได้
“ผมเริ่มจากการเล่นเป็นแบ็กซ้าย แต่โค้ช (เยาวชนดินาโม ซาเกร็บ) สังเกตว่าผมเล่นกองหลังตัวกลางได้ แม้ตอนแรกผมจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในครั้งนั้น แต่สุดท้ายมันก็ออกมาดีครับ” กวาร์ดิโอล เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ Sportske Novosti ในปี 2019
กับการลงเล่นให้ทีมเยาวชนดินาโม ซาเกร็บ ดาวรุ่งที่ได้รับฉายาว่า “เป็ปน้อย” ดั่งสกุลที่คล้ายคลึงกับเป๊ป “กวาร์ดิโอลา” เคยช่วยให้ทีมไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า ยูธ ลีก ทั้งยังเคยคว้าแชมป์ลีกเยาวชนโครเอเชียมาไม่น้อย
เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่สโมสรแห่งนี้จะดันเขาสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการในวัยไม่ถึงยี่สิบ
2019-20 และ 2020-21 คือช่วงเวลาที่ยอสโก้ได้สวมเสื้อแข่งดินาโม ซาเกร็บ ชุดใหญ่ (ฤดูกาลหลังปรากฏในรูปแบบสัญญายืมตัวจาก แอร์เบ ไลป์ซิก) ซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดแชมป์ลีกทั้งสองซีซั่น แชมป์ฟุตบอลถ้วยของประเทศอีกหนึ่งสมัย ทั้งยังได้สัมผัสประสบการณ์ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เรียบร้อย
ในเวลาเดียวกันนั้น ฟอร์มการเล่นและชื่อเสียงของกวาร์ดิโอลเริ่มเป็นที่ประจักษ์ในแวดวงลูกหนังโลกแล้ว เห็นได้ชัดจากการมีชื่อติดเป็นนักเตะเยาวชนมากพรสวรรค์จากการคัดเลือกของสื่อดังอย่าง The Guardian ในปี 2019 รวมถึงซีรีส์พิเศษ "NXGN: The 50 beat wonderkids in football" ที่ยกย่องบรรดาแข้งยังบลัดทั่วทุกมุมโลกของสำนักข่าว Goal ในปี 2021
เช่นเดียวกับโอกาสครั้งใหญ่ในเดือนกันยายน 2020 เมื่อ แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมแกร่งระดับบุนเดสลีกา จรดปากการดึงเขามาร่วมทีมเป็นเวลาถึง 5 ปี พร้อมค่าตัวถึง 16 ล้านยูโร ส่งให้กวาร์ดิโอลกลายเป็นแข้งสัญชาติโครแอตที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปด้วย
ภายหลังเสร็จสิ้นสัญญายืมตัวหนึ่งปีที่ซาเกร็บ กวาร์ดิโอลก็กลับมาสู่ต้นสังกัดที่แท้จริงอีกครั้ง คราวนี้เขาเตรียมจะได้ลงเล่นร่วมกับทีมกระทิงแดงแห่งลีกสูงสุดเมืองเบียร์ในฤดูกาล 2021-22
และอย่างที่แฟนฟุตบอลรับรู้โดยทั่วกัน เวลาต่อจากนั้น ยอสโก้ กวาร์ดิโอล สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นกองหลังระดับท็อปของโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ
แจ้งเกิดเต็มอัตราในบุนเดสลีกา
ในระหว่างเป็นแข้งดาวโรจน์เนื้อหอมอยู่ที่ ดินาโม ซาเกร็บ กวาร์ดิโอลเคยมีทางเลือกในเส้นทางลูกหนังอาชีพสองทาง นั่นคือการตกลงปลงใจย้ายไปเล่นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยุคขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีกหมาด ๆ ภายใต้กุนซือขรัวเฒ่า มาร์เซโล่ บิเอลซ่า หรือเลือกย้ายมาเล่นกับ แอร์เบ ไลป์ซิก
แน่นอนว่านี่ต่างก็เป็นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ ในรายของทีมยูงทอง นี่คือทีมจากอังกฤษที่เตรียมจะโลดแล่นบนลีกสูงสุดและกองหลังดาวรุ่งรายนี้ตกเป็นเป้าหมายของสโมสร นอกจากนี้ ธิโฮเมียร์ กวาร์ดิโอล พ่อของยอสโก้ยังเป็นแฟนตัวยงของพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก
ขณะที่ไลป์ซิก นี่คือทีมระดับหัวแถวของบุนเดสลีกา ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปอยู่บ่อย ๆ ทั้งยังมีเพื่อนเก่าสมัยอยู่ที่ซาเกร็บด้วยกันอย่าง ดานิ โอลโม่ ค้าแข้งอยู่ด้วย
เมื่อไตร่ตรองโดยละเอียดแล้ว ยอสโก้มองถึงพัฒนาการของตัวเองเป็นลำดับขั้นตอน จริงอยู่ที่ฝันใหญ่คือการลงบู๊ในพรีเมียร์ลีก แต่การจะไปถึงฝันได้บางทีอาจต้องพัฒนาตัวเองให้มากกว่านี้เสียก่อน กอปรกับการมีเพื่อนอย่างโอลโม่ค้าแข้งอยู่ก่อน ท้ายสุดเขาจึงเลือกเล่นให้ แอร์เบ ไลป์ซิก
“ผมรู้ดีว่าผมต้องพัฒนาอีกหลายขั้น ก่อนที่วันหนึ่งจะก้าวไปสู่พรีเมียร์ลีก สุดท้ายผมมองว่าไลป์ซิกคือสโมสรที่เหมาะสม”
“ก่อนมาถึงไลป์ซิก ผมมีโอกาสได้คุยกับ ดานี่ โอลโม่ บ่อยมาก” กวาร์ดิโอล เปิดใจถึงการย้ายซบไลป์ซิก
เพียงแค่ฤดูกาลเดียวในถิ่นเรดบูลส์ อารีนา ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ทำราวกับว่าตัวเองอยู่ค้าแข้งในบุนเดสลีกามานานนม เขายกระดับตัวเองจนกลายเป็นนักเตะระดับแถวหน้าของลีกได้ทันที
ผลงานชิ้นโบว์แดงที่เขาอยู่ร่วมจารึกกับทีมในซีซั่น 2021-22 คือการช่วยทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการยูโรป้า ลีก ได้ โดยเฉพาะแชมป์ฟุตบอลถ้วยแห่งเยอรมนี นี่ถือเป็นโทรฟี่ระดับเมเจอร์โทรฟี่แรกของไลป์ซิกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรในปี 2009
“การที่เราเซ็น ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เข้ามา บอกได้เลยว่าเราได้เซ็นสัญญากับหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์เรื่องเกมรับที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดคนหนึ่งของยุโรป” มาร์คุส โครเช่ ผู้อำนวยการกีฬาแอร์เบ ไลป์ซิก ตอกย้ำถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาของกวาร์ดิโอล
ขณะที่ผลงานส่วนตัวของเขาก็โดดเด่นเกินใคร เขามีสถิติลงสนามในลีก 29 นัด และแสดงให้เห็นถึงการเป็นกองหลังที่เล่นได้มากกว่าเกมรับ กับผลงาน 2 ประตู 2 แอสซิสต์ให้กับทีม
ต่อเนื่องมายังฤดูกาลที่สองที่ทัพกระทิงแดงเยอรมนี กวาร์ดิโอลช่วยทีมผงาดแชมป์บอลถ้วยรายการเดิมได้อีกสมัย ขณะที่สกิลการเป็น “กองหลังผู้ทันสมัย” ก็ยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง โดยในซีซั่น 2022-23 เขาทำประตูให้ทีมได้ถึง 3 ลูก โดย 2 จาก 3 ลูกที่ทำได้เกิดขึ้นในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ในเวลาเดียวกัน เขายังเป็นแกนหลักให้กับทีมชาติโครเอเชียลุยฟุตบอลโลก 2022 แน่นอนว่าเขามีส่วนช่วยทีมตาหมากรุก รุกฆาตใส่คู่แข่งจนไปจบที่อันดับสามในเวิลด์คัพที่กาตาร์ แถมยังไม่ลืมติดสกิลกองหลังที่เป็นมากกว่ากองหลัง กับผลงาน 1 ประตูในเกมดับ ทีมชาติโมร็อคโก 2-1 ในนัดชิงที่สาม
ตลอดช่วงเวลากับ แอร์เบ ไลป์ซิก ดาวเตะเจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตร “เนื้อหอม” แบบไม่มีพัก จนอาจกล่าวได้ว่าในทุก ๆ รอบตลาดซื้อขายโดยเฉพาะหลังผ่านครึ่งซีซั่นกับสโมสร เขามักจะปรากฏเป็นชื่อบนข่าวหน้าหนึ่งทั้งกับสื่อออนไลน์และออฟไลน์
อาทิ เชลซี ที่แสดงความจริงจังสุด ๆ ทั้งในรอบตลาดซัมเมอร์ 2022 และวินเทอร์ 2023 ถึงขั้นที่ว่า มาเตโอ โควาซิช เป็นผู้โน้มน้าวให้ผู้บริหาร เดอะ บลูส์ คว้าแข้งเพื่อนร่วมชาติรายนี้มาให้ได้
“สโมสร (เชลซี) ถามผมเกี่ยวกับยอสโก้ ผมบอกสโมสรไปทั้งหมดว่าดีมาก ๆ ที่จะดึงตัวเขามา ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลของเขา สโมสรก็รู้ว่าเขาเป็นนักเตะแบบไหน และคาแร็กเตอร์ของเขาก็ยอดเยี่ยม ผมหวังว่าวันหนึ่งเราจะได้เล่นร่วมกันในระดับสโมสร” โควาซิช กล่าวถึงแข้งรุ่นน้องไว้เมื่อปี 2022
และอย่างที่คอลูกหนังทราบกัน สุดท้ายสิงห์บลูส์ต้องคว้าน้ำเหลว เพราะไลป์ซิกยืนกรานว่าสตาร์รายนี้ยังอยู่ในแผนการทำทีม นักเตะอนาคตไกลรายนี้ “ยัง” ไม่ได้มีไว้ขาย
ถึงเชลซีจะอกหัก แต่สำหรับโควาซิชอาจจะเป็นนักเตะที่แฮปปี้มากที่สุดคนหนึ่งหลังจบฤดูกาล 2022-23 เพราะเขากำลังจะได้ลงเล่นร่วมกับซูเปอร์สตาร์รุ่นน้องที่ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้”
เมื่อเรือใบสีฟ้าเปิดตัวแนวรับผู้นี้มาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว ในวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2023
กวาร์ดิโอล กับ (เป๊ป) กวาร์ดิโอลา
กับค่าตัว 90 ล้านยูโร (78 ล้านปอนด์) เป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลในอันดับที่สอง พร้อมสัญญายาว 5 ปี บวกออปชั่นขยายอีก 1 ปี ร่วมด้วยค่าเหนื่อยที่ว่ากันว่าสูงถึง 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จากของเดิมที่รับกับไลป์ซิกคิดเป็นเงินปอนด์อยู่ราว ๆ 59,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
จากรายละเอียดเรื่องค่าตัว ค่าเหนื่อย และอายุของสัญญา บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าดีลของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มาจากความตั้งใจทุ่มทุนของสโมสรเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากฤดูกาลสามแชมป์
และที่สำคัญ กวาร์ดิโอล เป็นนักเตะที่ กวาร์ดิโอลา คัดสรรด้วยตัวเอง
กับคำถามว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงตัดสินใจดึงผู้เล่นตำแหน่งเกมรับมาเพิ่ม ทั้ง ๆ ที่สโมสรมีนักเตะกองหลังฝีเท้าดีเต็มทีมอยู่แล้ว เหตุผลประการแรก เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเล่นฟุตบอลรายการน้อยใหญ่ “มากกว่า” ทีมใด ๆ ไล่มาตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ฟุตบอลถ้วยสองรายการของอังกฤษอย่างเอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ
และยังไม่นับทัวร์นาเมนต์พิเศษที่พลพรรคเรือใบแห่งแมนเชสเตอร์ต้องลงบู๊ในฐานะแชมป์เจ้าสโมสรยุโรปปีก่อนอีก อย่าง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ตลอดจน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
ดังนั้นการหมุนเวียนนักเตะให้ใช้งานคือปัจจัยสำคัญที่พวกเขามองเห็นความสำคัญ
ประการต่อมา เพราะ “ความสารพัดประโยชน์” ที่มีในตัวของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ เลือกดึงตัวเขามาเติมแกร่ง
อย่าลืมว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไม่เคยหยุดคิดเรื่องการปรับแต่งแท็กติก ระบบการเล่น ตลอดจนกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้กับทีม ดังที่แฟนฟุตบอลได้เห็นวิธีการแปลกตาที่เทรนเนอร์สแปนิชทำให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่มีความยืดหยุ่นอยู่เสมอ ซึ่งบางทีการแก้เกมด้วยรูปแบบใหม่ ๆ อาจเกิดขึ้นในระหว่างเกมการแข่งขันด้วยซ้ำไป
อย่างในแผงเกมรับ จะเห็นได้ว่านักเตะแต่ละคนไม่ได้ทำหน้าที่แค่ตำแหน่งที่ตัวเองถนัด ผู้เล่นอย่าง จอห์น สโตนส์ เคยถูกดันขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์, นาธาน อาเก้ และ มานูเอล อคานยี่ เคยทำหน้าที่เป็นแบ็กซ้ายมาแล้ว ขณะที่ เจา คันเซโล่ ในสมัยพีก ๆ กับทีมก็เล่นได้ทั้งแบ็กซ้าย-ขวา ฯลฯ
การมาของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล นับว่าเข้ามาเติมเต็มส่วนนี้อย่างชัดเจน เพราะเขาเป็นกองหลังประเภทเท้าซ้ายธรรมชาติที่เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลาง กองหลังฝั่งซ้ายในระบบเกมรับสามคน ทั้งยังขยับไปยืนเป็นแบ็กซ้ายก็ยังได้
ยิ่งไปกว่านั้นกวาร์ดิโอลยังมีความพิเศษที่เป็นกองหลังที่สามารถเติมเกมรุกสนุกเท้า ยกตัวอย่างสถิติสุดแกร่งจากการเปิดเผยของ Squawka ที่เปรียบเทียบผลงานของเจ้าหนูวัยยี่สิบต้นกับบรรดาผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กอายุไม่เกิน 23 ปี ในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรปนับตั้งแต่ซีซั่น 2021-22 เป็นต้นมา
สถิติระบุว่า กวาร์ดิโอลเป็นกองหลังที่ผ่านบอลทะลุช่องมากที่สุดด้วยสถิติ 11 ครั้ง เป็นกองหลังที่พาบอลผ่านคู่ต่อสู้สำเร็จมากที่สุด (53 ครั้ง) เป็นเจ้าของสถิติปราการหลังผู้ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายมากที่สุดเป็นอันดับ 2 (486 ครั้ง) เป็นแนวรับที่ครอบครองบอลในแดนตัวเองมากสุดเป็นอันดับ 3 (178 ครั้ง) และเป็นแนวรับที่มีสถิติชนะการดวลมากสุดเป็นอันดับ 9 (266 ครั้ง)
“เขารวดเร็ว หนักแน่น มีไดนามิก และเปลี่ยนทิศทางบอลเก่งมาก ๆ แถมยังเล่นได้ดีทั้งเกมรับและเกมรุก” จัสมิน บาบา ผู้สันทัดกรณีฟุตบอลเยอรมัน วิเคราะห์ความสามารถของกวาร์ดิโอลผ่านพอดคาสต์ “We're Not Really Here” ของ BBC Radio Manchester
“เขาเป็นกองหลังที่เก่ง มีความไว มีจุดเด่นเรื่องการจ่ายบอล แม้เขาจะต้องครองบอลในสถานการณ์ที่กดดัน แต่เขาก็ยังหาทางแก้ไขสถานการณ์เพื่อพาบอลไปข้างหน้าได้เสมอ”
“จอห์น สโตนส์ ถูกผลักดันให้เล่นมิดฟิลด์มากขึ้น ผมเห็นว่าสิ่งนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นกับกวาร์ดิโอลด้วยนะ คือแทบไม่ต้องคิดเลยว่าทำไม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถึงอยากได้เขามาร่วมทีม”
ด้วยศักยภาพที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล สังเกตง่าย ๆ กับอายุอานามแค่ 21 ปี จากปี 2019 เขายังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากทีมสำรองดินาโม ซาเกร็บ กับทีมชุดใหญ่ อยู่เลย
กาลเวลาเปลี่ยนผ่านมาราว ๆ 4 ปี เขากลายเป็นนักเตะที่แฟนฟุตบอลน้อยใหญ่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามและพาตัวเองมาอยู่กับทีมระดับท็อปของโลกได้แล้ว
จับตาดูกันต่อว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา หรือเป๊ปใหญ่ จะปลุกปั้นและดึงศักยภาพของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล หรือเป๊ปน้อย ไปได้ไกลขนาดไหน
ที่สุดแล้วเราคงต้องใช้คำกว้าง ๆ ไปก่อนว่า “ผลงานในสนาม” จะเป็นผู้ให้คำตอบ
แหล่งอ้างอิง
https://www.mancity.com/news/mens/josko-gvardiol-joins-manchester-city-63826818
https://www.mancity.com/news/mens/josko-gvardiol-10-things-63826819
https://www.bbc.com/sport/football/66019220
https://www.siamsport.co.th/football-international/premierleague/27880/
https://twitter.com/Squawka/status/1687753351264419840
https://theathletic.com/4667350/2023/08/02/manchester-city-josko-gvardiol-rb-leipzig/
https://rbleipzig.com/en/news/2021-2022/interview-gvardiol-en/
https://www.transfermarkt.com/josko-gvardiol/leistungsdaten/spieler/475959/plus/0?saison=2022
