การเมืองจะเปลี่ยนขั้วหรือไม่ไม่รู้ ยืนยันไทยจัดซีเกมส์ได้ตามปกติ แต่ขอลดโควต้านักกีฬากัมพูชา

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

ล่าสุดในที่ประชุมคณะกรรมการฝ่ายเทคนิคกีฬา สาขาจัดการแข่งขัน สนามแข่งขันและฝึกซ้อม การจัดการแข่งขัน มีการหยิบยกสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทยมาหารือ 

โดย นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ ประธานมนตรีซีเกมส์ ได้รับการยืนยันจาก นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ว่า การเมืองไม่เกี่ยวกับกีฬา ดังนั้น ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ยังคงดำเนินการต่อไป โดยหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องคือ นำนักกีฬาสร้างชื่อเสียง คว้าเหรียญทองให้มากที่สุด เพราะมีผลต่อการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 34 ที่ประเทศมาเลเซีย ในอีก 2 ปีข้างหน้า

พร้อมกันนี้ยังได้รับการยืนยันจากรัฐบาลอีกด้วยว่า นักกีฬาที่ได้รับเหรียญทอง จะได้รับเหรียญละ 5 แสนบาท / เหรียญเงิน 2.5 แสนบาท และ เหรียญทองเดง 1.25 แสนบาท

ขณะเดียวกัน เรื่องสถานการณ์ระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาก็ยังเป็นที่พูดถึง โดยทางมนตรีซีเกมส์ของไทยได้ร้องขอต่อคณะกรรมการโอลิมปิกของกัมพูชา ลดจำนวนนักกีฬาของกัมพูชาที่จะมาแข่งซีเกมส์หนนี้จากเดิมที่ส่ง 600 คน เหลือไม่เกิน 300 คน เพื่อให้สะดวกต่อการดูแล โดยฝั่งกัมพูชาพร้อมดำเนินการ เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ทีม และ กองเชียร์ โดยจะยืดเวลาส่งรายชื่อนักกีฬาของชาติอื่น ๆ เป็นวันที่ 5 กันยายน และของไทย วันที่ 7 กันยายน

ด้านงบประมาณจัดการแข่งขันยังคงเท่าเดิม 2,055 ล้านบาท ส่วนเรื่องเงินเบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อมของนักกีฬา ยืนยันว่า เงินมีพร้อมจ่ายทันที ขอเพียงส่งเอกสารเบิก-จ่ายมาให้ครบ คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนกันยายน เงินเบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อมของนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่ค้างจ่ายจะถึงมือนักกีฬาอย่างครบถ้วน

ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสด ณ ตอนนี้มีการถ่ายทอดสดเพียง 29 จาก 50 ชนิดกีฬา ยังขาดกีฬาอย่าง ฟลอร์บอล, ฟันดาบ, ขี่ม้าโปโล ที่ไทยมีลุ้นเหรียญทอง และทางการกีฬาแห่งประเทศไทยร้องขอให้มีการถ่ายทอดสด ซึ่งจะนำกลับไปแก้ไขอีกครั้ง