เมื่อคู่รักตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการ IVF หลายคนมักคิดว่าเพียงแค่ได้ตัวอ่อนมาแล้วก็มีโอกาสสำเร็จสูง แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่ตัวอ่อนทุกตัวจะมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นลูกน้อยที่สมบูรณ์ การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จและลดความเสี่ยงของการแท้งหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมาก การเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุดกลายเป็นศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน
เหตุผลที่หลายคนยังไม่รู้ว่าทำไมต้องตรวจ
สิ่งที่น่าแปลกใจคือ แม้แต่คู่รักที่อายุยังน้อยและดูสุขภาพดี ก็ยังมีโอกาสได้ตัวอ่อนที่มีความผิดปกติทางโครโมโซม โดยเฉพาะเมื่ออายุของแม่เริ่มเข้าใกล้ 35 ปี ความเสี่ยงนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนจึงไม่ได้เป็นเรื่องของคนที่มีปัญหาพันธุกรรมเท่านั้น
อีกมุมหนึ่งที่หลายคนมองข้าม คือ การที่ตัวอ่อนดูสวยงามภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ไม่ได้หมายความว่าจะมีโครโมโซมที่สมบูรณ์ บางครั้งตัวอ่อนที่ดูไม่สวยเท่าไหร่ กลับมีพันธุกรรมที่ปกติ ขณะที่ตัวอ่อนที่ดูสมบูรณ์แบบ อาจมีความผิดปกติที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ประโยชน์ที่มากกว่าการเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์
หลายคนเข้าใจผิดว่า การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนเป็นเพียงการเพิ่มโอกาสให้ท้อง แต่จริง ๆ แล้ว ประโยชน์หลักคือการลดความเสี่ยงของการแท้งซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดมากสำหรับคู่รักทุกคู่
การตรวจยังช่วยลดความจำเป็นในการโอนถ่ายตัวอ่อนหลายครั้ง เพราะเราสามารถเลือกตัวอ่อนที่มีโอกาสสำเร็จสูงที่สุดไปใช้ก่อน ซึ่งไม่เพียงแต่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ยังลดความเครียดทางใจของคู่รักด้วย
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การป้องกันการเกิดโรคทางพันธุกรรมที่รุนแรง หากคู่รักมีประวัติครอบครัวหรือเป็นพาหะของโรคทางพันธุกรรมบางชนิด การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนจะช่วยให้มั่นใจว่าลูกจะไม่ได้รับความผิดปกตินั้น ๆ
ข้อจำกัดและความเป็นจริงที่ต้องรู้
การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนไม่ใช่เวทมนตร์ที่จะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ บางครั้งการตรวจอาจให้ผลลบปลอม หมายความว่าตัวอ่อนที่จริง ๆ แล้วปกติ อาจถูกตัดออกไป หรือในทางกลับกัน อาจมีความผิดปกติที่การตรวจไม่สามารถจับได้
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ กระบวนการนี้อาจทำให้ตัวอ่อนบางส่วนไม่รอดจากการเจาะเซลล์เพื่อตรวจ แม้ว่าเทคโนโลยีปัจจุบันจะปลอดภัยมากขึ้น แต่ความเสี่ยงนี้ยังคงมีอยู่ ดังนั้นการตัดสินใจจึงต้องชั่งน้ำหนักประโยชน์และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
เมื่อไหร่ควรพิจารณาการตรวจ
สำหรับคู่รักที่แม่อายุมากกว่า 37 ปี หรือมีประวัติแท้งซ้ำ ๆ การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง นอกจากนี้ หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคทางพันธุกรรม หรือเคยมีลูกที่เป็นโรคทางพันธุกรรม การตรวจนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก
แม้แต่คู่รักที่อายุยังน้อย หากประสบปัญหา IVF ไม่สำเร็จหลายครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ การตรวจตัวอ่อนอาจช่วยเปิดเผยปัญหาที่ซ่อนอยู่ได้
การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตัวอ่อนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มโอกาสความสำเร็จของ IVF และลดความเสี่ยงต่าง ๆ แม้ว่าจะไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคู่รัก แต่สำหรับหลายคู่แล้ว เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ความฝันในการมีลูกเป็นจริงได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น