News

ตำนานบทใหม่ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับบทบาทกุนซือเฟเยนูร์ด

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตกองหน้าระดับตำนานของอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาสู่สโมสรที่เคยปลุกปั้นเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะนักเตะ หากเป็นกุนซือคนใหม่ของเฟเยนูร์ด สโมสรดังแห่งศึกเอเรดิวิซี

 


ย้อนกลับไปในวัยหนุ่ม เฟเยนูร์ดคือบ้านหลังแรกของฟาน เพอร์ซี่ในเส้นทางลูกหนัง เขาก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2001 ก่อนจะฉายแววโดดเด่นจนถูกอาร์เซนอลดึงตัวไปร่วมทัพในปี 2004 และกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก

ต่อมาเขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรกของเขา

ภายหลังจากอำลาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟาน เพอร์ซี่เริ่มต้นเส้นทางใหม่กับเฟเนร์บาห์เช่ ยอดทีมแห่งตุรกี ซูเปอร์ลีก ในช่วงปลายอาชีพ ก่อนตัดสินใจหวนคืนสู่บ้านเกิดเพื่อปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับ ทีมอย่างเฟเยนูร์ด สโมสรที่ปลุกปั้นเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายในฐานะนักเตะ

การกลับมาครั้งนี้แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขากลับมาในฐานะเฮดโค้ชคนใหม่ของเฟเยนูร์ด พร้อมกับภารกิจหลักในการพาทีมกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่

"ทุกคนรู้ดีว่าสายสัมพันธ์ของผมกับเฟเยนูร์ดนั้นพิเศษแค่ไหน ผมตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับทีมงานและนักเตะ เพื่อพัฒนาและนำทีมไปสู่ความสำเร็จ" ฟาน เพอร์ซี่กล่าว

การแต่งตั้งของเขาเกิดขึ้นหลังจากเฟเยนูร์ดปลดไบรอัน พริสเก้ เนื่องจากฟอร์มที่ตกต่ำ โดยทีมชนะเพียงหนึ่งจากหกเกมหลังสุด และตอนนี้รั้งอันดับสามของตารางลีก ตามหลังจ่าฝูงอย่างอาแจ็กซ์ถึง 11 คะแนน

แม้ว่าเส้นทางการเป็นกุนซือของฟาน เพอร์ซี่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เขาไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าสำหรับงานโค้ช

ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นผู้ช่วยของดิ๊ก อัดโวคาท ที่เฟเยนูร์ด และมีบทบาทในการพัฒนานักเตะเยาวชน ก่อนจะได้รับโอกาสคุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับฮีเรนวีนในปีที่ผ่านมา
แม้ว่าผลงานของเขากับฮีเรนวีนจะยังไม่โดดเด่น โดยพาทีมจบอันดับ 9 ของลีกดัตช์ ด้วยสถิติชนะเพียง 7 จาก 23 นัด แต่ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับก้าวต่อไปของเขา

สิ่งที่ทำให้ฟาน เพอร์ซี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของเฟเยนูร์ดคือปรัชญาการเล่นของเขา หากพิจารณาจากเส้นทางค้าแข้งของ ฟาน เพอร์ซี่ เห็นได้ว่าเขาเติบโตมากับสโมสรที่เน้นเกมรุกและการเข้าทำที่สวยงามถูกใจเเฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นอาร์เซนอลของอาร์แซน เวนเกอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

หรือแม้แต่ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยหล่อหลอมให้เขามีแนวคิดแบบกุนซือที่ต้องการให้ทีมเล่นเกมรุกที่สร้างสรรค์

เเละนอกจากจะได้ผลงานการเเข่งขันในสนามเเล้วคุณภาพระหว่างที่เเฟนๆดูทีมของตัวเองก็สนุกเเละน่าติดตามไม่เเพ้กันที่สำคัญคือ DNA ของเเชมป์เปี้ยนที่ได้สะสมมาเป็นเวลาอย่างยาวนาน

ตัดภาพไปที่เฟเยนูร์ดเองก็เป็นสโมสรที่มีปรัชญาการเล่นที่สอดคล้องกับแนวทางของ ฟาน เพอร์ซี่ มาโดยตลอด เดนนิส เทอ คลูเซอ ผู้จัดการของสโมสร ได้กล่าวไว้ว่า

"วิสัยทัศน์ของเขาสอดคล้องกับเฟเยนูร์ด ทั้งสไตล์ในการเล่นเกมรุก ความกล้าในการตัดสินใจ และจิตวิญญาณนักสู้ ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของสโมสรในการพัฒนานักเตะและสร้างทีมที่มีรูปแบบการเล่นตามแนวทางของเฟเยนูร์ด"

นอกจากนี้ ฟาน เพอร์ซี่ ยังมีมุมมองการทำทีมที่สอดคล้องกับ DNA ของเฟเยนูร์ดอย่างชัดเจน โดยเขามองว่าความสำเร็จของทีมไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักเตะคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำงานร่วมกันของทั้งทีม

“ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของทีม และการทำงานร่วมกันคือกุญแจสำคัญในการพาทีมไปข้างหน้าต่อไป” ซึ่งสิ่งที่ ฟาน เพอร์ซี่ เคยพูดเอาไว้นี้ สะท้อนถึงแนวคิดแบบฟุตบอลทีมเวิร์กที่เฟเยนูร์ดให้ความสำคัญมาโดยตลอด

เดนนิส เทอ คลูเซอ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แต่งตั้ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นหัวหน้าโค้ช เขาเป็นตำนานของเรา และเขารู้จักสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าเขารู้ว่าทีมต้องการอะไรเพื่อกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง"

ช่วงเวลาต่อจากนี้จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญสำหรับฟาน เพอร์ซี่ ว่าเขาจะสามารถพา เฟเยนูร์ด กลับมายิ่งใหญ่ได้หรือไม่ หรือว่านี่จะเป็นเพียงอีกหนึ่งบทเรียนความล้มเหลวของกุนซือหน้าใหม่ ฤดูกาลนี้จะเป็นบททดสอบที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยง และโลกฟุตบอลกำลังจับตาดูว่า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะเขียนตำนานบทใหม่ของเขาอย่างไร



Author

ทรงวุฒิ อุ่นบริบูรณ์

ผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายและหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของรถยนต์จากโมเดล

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1