News

รสนิยมทางเพศ และ ยาเสพติด สู่จุดดิ่งชีวิต เดวิด คูต ผู้ตัดสินฉาว

เชื่อว่าแฟนบอลน่าจะยังพอจำชื่อของ เดวิด คูต ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ ที่ตกเป็นข่าวฉาวในช่วงปลายปี 2024 กันได้

 


ด่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ตำนานบอสใหญ่ ลิเวอร์พูล, สูดโคเคนระหว่างช่วงที่ไปทำหน้าที่ใน ยูโร 2024, จัดปาร์ตี้เสพยา, แจกใบเหลืองตามอำเภอใจ ... แค่ข้อหาเหล่านี้ก็เกินพอที่จะทำให้ PGMOL องค์กรที่ดูแลผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพอังกฤษ ปลดเขาจากการทำหน้าที่

หลังตกเป็นขี้ปากชาวบ้านมาหลายเดือน ที่สุดแล้ว เดวิด คูต ก็ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความอื้อฉาวของเจ้าตัวจากปากตัวเอง

แม้ตลกร้ายไม่น้อย เพราะสื่อที่ได้สัมภาษณ์คูตแบบเอ็กซ์คลูซีฟคือ The Sun สื่อสายขายข่าวฉาว ที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายอาชีพของเขา จากการนำเรื่องต่าง ๆ มาเปิดเผย แต่กับเรื่องแบบนี้ บางทีนี่คือสื่อที่เหมาะสมที่สุดหากต้องการเปิดเผยเรื่องอะไรแบบนี้

และแค่เปิดเรื่องก็ฮือฮาแล้ว เมื่อคูตยอมรับว่า เขาเป็นชาว LGBTQ+

"ผมรู้สึกละอายใจอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ผมไม่เคยเปิดเผยตัวตนกับพ่อแม่จนกระทั่งอายุ 21 ปี และไม่เคยเปิดเผยตัวตนกับเพื่อนจนกระทั่งอายุ 25 ปี"

"รสนิยมทางเพศไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้ผมอยู่ในสถานการณ์นั้น แต่หากผมไม่บอกว่า 'ผมเป็นเกย์' ผมก็คงไม่สามารถเล่าเรื่องราวที่แท้จริงได้ และผมต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อปกปิดเรื่องนี้"

"ผมปกปิดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองในฐานะกรรมการรุ่นเยาว์ และปกปิดรสนิยมทางเพศของตัวเองเช่นกัน แม้เป็นเรื่องดีในฐานะกรรมการ แต่เป็นเรื่องแย่มากในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และนั่นทำให้ผมมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง"

คูตเปิดเผยต่อว่า โลกฟุตบอลอาชีพที่มีความ "ชายแท้" สูงมาก ทำให้เขามีปัญหากับความเชื่อมั่นในตัวเอง มิหนำซ้ำ เมื่อเขาต้องเผชิญกับข่าวฉาว ครอบครัวและเพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้ให้การสนับสนุน จนเจ้าตัวยอมรับว่า ถลำลงสู่ที่มืด จนไม่แน่ใจว่าจะมาถึงจุดที่ยืนอยู่ในวันนี้ได้หรือไม่

"ผมมีปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศของผม ผมเป็นเกย์ และผมต่อสู้ดิ้นรนกับความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นตัวของตัวเองมาเป็นเวลานาน"

"ผมได้รับการดูถูกเหยียดหยามอันไม่น่าพอใจอย่างยิ่งตลอดอาชีพการงานในฐานะผู้ตัดสิน และการมีรสนิยมทางเพศเป็นอีกเรื่องผสมด้วย ยิ่งทำให้ยากเข้าไปใหญ่"

"มีหลายอย่างที่ต้องทำในวงการฟุตบอล และในสังคมที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ แต่ผมเองก็ไม่ต้องการที่จะเอาหัวไปพาดเขียง เพราะเราทุกคนต่างก็ถูกดูหมิ่นในฐานะผู้ตัดสินอยู่แล้ว"

ความกดดันที่สั่งสม ทั้งจากการถูกกดทับทางอารมณ์ และตารางงานอันแน่นเอี๊ยด ที่สุดแล้ว ก็ทำให้เขาใช้ยาเสพติดอย่าง โคเคน เพื่อช่วยให้หลุดพ้น

"มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องพึ่งพาทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน ผมมีช่วงเวลายาวนานที่ไม่ได้ใช้โคเคนเลย แต่โคเคนเป็นหนทางหลีกหนีอย่างหนึ่งที่ผมมี เพียงแค่หลีกหนีจากความเครียด ความซ้ำซากจำเจของงาน แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกละอายใจมากที่ต้องบอกว่าผมเลือกทางนั้น"

"ปี 2023 ผมสูญเสียแม่ไปอย่างกะทันหัน ในเวลาเดียวกัน ลุงของผมก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังจากโควิดและการนำ VAR มาใช้ ก็จำเป็นต้องใช้ผู้ตัดสินถึง 6 คนในแต่ละเกมอย่างกะทันหัน"

"ผมได้รับเลือกจากฟีฟ่าไปตัดสินฟุตบอลโลก U17 ที่อินโดนีเซียเมื่อปี 2023 รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปและโอลิมปิกเมื่อปี 2024 นั่นหมายความว่า ตลอดฤดูกาล 2023-24 ผมมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่า 90 เกม ซึ่งมักจะเป็นเกมติดต่อกัน เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ผมเข้าสู่ฟุตบอลยูโรทันที และมันก็กดดันมาก แถมผมยังมีทัวร์นาเมนต์อื่นรออยู่ด้วย นั่นคือโอลิมปิกที่ปารีส"

"ผมจำตัวเองในวิดีโอโคเคนนั่นไม่ได้ ผมไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกตอนนั้นได้ แต่นั่นคือตัวผมเอง ผมกำลังดิ้นรนกับตารางการแข่งขันและไม่มีโอกาสที่จะหยุดได้ ดังนั้นผมจึงพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์นั้น กำลังหลบหนีจากความจริง"

แม้คูตยอมรับว่า คลิปที่เขาสูดโคเคนคือตัวเขาจริง ๆ แต่เจ้าตัวปฏิเสธอีกเรื่องฉาว นั่นคือการที่คูตถูกกล่าวหาว่า แจกใบเหลืองให้ เอซยาน อาลิออสกี้ นักเตะทีมชาติมาซิโดเนียเหนือ สมัยค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเกมแชมเปี้ยนชิพ นัดพบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เมื่อปี 2019 ตามใบสั่งจากเพื่อน ที่ลงเงินไว้

"ไม่มีข้อตกลงก่อนเกม ผมทำหน้าที่ของผม ผู้เล่นรายนี้ทำฟาวล์แบบที่ต้องโดนใบเหลืองจริง ผมไม่ได้อะไรเลยจากเรื่องนี้ ผมผิดหวังจริง ๆ ที่เรื่องแบบนี้ถูกเปิดเผยออกมา เพราะมันทำให้ความซื่อสัตย์ของเกมมัวหมอง และไม่ว่าผู้คนจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับผมในฐานะผู้ตัดสิน ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ผมก็ทำหน้าที่อย่างเต็มร้อยเสมอมา"

ถึงกระนั้น คูตยอมรับว่า เขาตัดสินใจผิดพลาดในการส่งข้อความกลับไปหาเพื่อนคนดังกล่าว เขาไม่ควรจะไว้ใจใคร และหวังจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ นอกจากนี้ คูตยังยืนยันอีกด้วยว่า ในตอนที่เขาด่าคล็อปป์ จนมีคลิปหลุดและกลายเป็นจุดเริ่มต้นวิบากกรรมชีวิต เขามีสติดี ไม่ได้เมายาแต่อย่างใด

เหตุการณ์ดราม่ามากมายที่เกิดขึ้น ทำให้คูตตกงาน ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเรื่องยากในการทำใจ เพราะเขารักกีฬาฟุตบอล และเริ่มทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินตั้งแต่อายุ 14 ปี

อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดทำให้คูตในวัย 42 ปีได้หันกลับมามองตัวเอง และในตอนนี้ เขาเลิกใช้ยาเสพติดได้แล้ว หลังเข้ารับการบำบัด

"ผมแสดงออกถึงความเข้มแข็งออกมา ฟุตบอลกลายเป็นสถานที่ที่ผมสามารถไปทำหน้าที่และจดจ่ออยู่กับเกมได้ แต่พอผมกลับบ้านมา มันก็จะยากขึ้น เพราะผมมีความรู้สึกสองแบบ"

"สำหรับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม ผมแนะนำให้หาความช่วยเหลือและคุยกับใครสักคน เพราะถ้าคุณเก็บความรู้สึกนั้นไว้เหมือนที่ผมทำ มันจะต้องระเบิดออกมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง"

"ผมพบว่ามันง่ายขึ้นตั้งแต่ที่รู้ชะตากรรมของตัวเอง และสามารถประเมินสิ่งที่สำคัญสำหรับตัวเองใหม่ได้ แต่การได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัวและเพื่อน ๆ มันทำให้ผมได้ตกผลึกความคิด เพื่อให้แน่ใจว่าผมอยู่ในจุดที่ดีที่สุดที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อไป"

 

ที่มา:

https://www.thesun.co.uk/sport/33035161/david-coote-cocaine-sexuality-referee/

Author

เจษฎา บุญประสม

Content Creator ผู้ชื่นชอบการกิน, ท่องเที่ยว และดูกีฬาแทบทุกประเภท โดยเฉพาะฟุตบอล, อเมริกันเกมส์, มอเตอร์สปอร์ต, อีสปอร์ต

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1