Feature

4 นักเตะที่อาร์เซน่อล ยืม/ซื้อ จาก เชลซี แต่ผลลัพธ์ล้มเหลว | Main Stand

เชลซี และ อาร์เซน่อล สองสโมสรยักษ์ใหญ่ ถือเป็นอริร่วมกรุงลอนดอน โดยเฉพาะนับตั้งแต่ยุค 2000s เป็นต้นมา และมักจะข่มกันอยู่ตลอดด้วยวลี "London is red" หรือ "London is Blue" หากทีมที่ตนเองสนับสนุนทำผลงานได้ดีกว่า 

 


แต่ในทางกลับกัน เชลซี และ อาร์เซน่อล มีความสัมพันธ์อันดีในแง่ของการซื้อ-ขายนักเตะมาโดยตลอด เช่น แอชลี่ย์ โคล ที่ย้ายข้ามขั้วจากลอนดอนเหนือ มายังลอนดอนตะวันตก ในปี 2006 (แม้เหตุผลที่แท้จริงคือ อาร์เซน่อล ไม่ยอมเพิ่มค่าเหนื่อยตามที่นักเตะร้องขอ เลยย้ายทีมก็ตาม) และ วิลเลียม กัลลาส ที่ย้ายสวนทางกัน จากการเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงดีล แอชลี่ย์ โคล

นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่ย้ายข้ามขั้วโดยตรงไม่ว่าจะยืมตัวหรือซื้อขาด เช่น ยอสซี่ เบนายูน (ยืมตัวจาก เชลซี มา อาร์เซน่อล ปี 2011), ปีเตอร์ เช็ก (เชลซี ไป อาร์เซน่อล ปี 2015 ค่าตัว 11 ล้านปอนด์), โอลิวิเยร์ ชิรูด์ (อาร์เซน่อล ไป เชลซี ปี 2018 ค่าตัวราว 18 ล้านปอนด์), จอร์จินโญ่ (เชลซี ไป อาร์เซน่อล ปี 2023 ค่าตัวประมาณ 12 ล้านปอนด์), ไค ฮาแวร์ตซ์ (เชลซี ไป อาร์เซน่อล ปี 2023 ค่าตัวราว 65 ล้านปอนด์) 

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ทั้งสองสโมสรทำการซื้อ-ขายนักเตะกัน มีอยู่ 4 ดีลที่หลายคนมองว่า อาร์เซน่อล โดน เชลซี ย้อมแมว หากนับแค่เรื่องในสนาม ... ดีลดังกล่าวมีใครบ้าง ติดตามได้ที่ Main Stand

 

1. ลาสซานา ดิยาร์ร่า (ปี 2007, ไม่เปิดเผยค่าตัว)

ลาสซานา ดิยาร์ร่า ได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปีของเชลซีในฤดูกาล 2005-06 พร้อมได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ครั้งแรก

แต่ในฤดูกาลต่อมาเขาไม่สามารถเบียดตำแหน่งกองกลางตัวรับของ โคล้ด มาเกเลเล่ ได้ และลงเล่นให้กับทีมเพียง 31 นัดตลอดสองฤดูกาล ซึ่งส่วนใหญ่ลงสนามเป็นตัวสำรอง และรายการบอลถ้วย 

ส่งผลให้ ลาสซานา ดิยาร์ร่า ตัดสินใจย้ายออกจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อหาโอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริง โดยเขาย้ายมาอาร์เซน่อล ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะหน้าร้อนปี 2007

กระนั้น ลาสซานา ดิยาร์ร่า ก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงที่เอมิเรตส์ได้เช่นกัน โดยลงสนามไปเพียง 13 นัดรวมทุกรายการ ก่อนจะย้ายไป พอร์ตสมัธ ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม 2008 ก่อนไปแจ้งเกิดเต็มตัวกับทีมปอมปีย์หลังจากนั้น

เมื่อพูดถึงช่วงเวลา 4 เดือนครึ่งที่ไม่มีความสุขกับอาร์เซน่อล ลาสซานา ดิยาร์ร่า ย้อนความว่า

"อาร์แซน เวนเกอร์ สอนผมเพียงแค่ให้สงสัยในทุกสิ่ง ความสัมพันธ์ของผมกับเขาไม่ดีเลย คุณไม่สามารถเข้าใจทั้งโลกได้หรอก ผมเคารพวิธีการซ้อมของเวนเกอร์นะ แต่ผมได้เรียนรู้อะไรมากกว่ากับ โชเซ่ มูรินโญ่ มูรินโญ่สอนให้ผมสู้ ผมพูดคุยกับเขาแบบมองตาตรง ๆ"

"ถ้าคุณมีปัญหาตอนอยู่กับ โชเซ่ มูรินโญ่ มันจะถูกพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ทว่า เวนเกอร์ ไม่เคยคุยกับผมเลย จนกระทั่งผมบอกเขาว่าผมจะไป เขาคุยแต่กับคนอื่น แต่ไม่คุยกับผมเลย"

 "ผมรู้สึกเหมือนไม่เคยเล่นให้กับอาร์เซน่อลถ้าไม่มีใครพูดถึงพวกเขากับผม ผมก็ลืมพวกเขาไปแล้ว มันถูกลบไปจากความทรงจำของผม"

 

2. ดาวิด ลุยซ์ (ปี 2019, ค่าตัว 8 ล้านปอนด์)

หลังถูก แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี ขณะนั้น มองว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม ดาวิด ลุยซ์ ก็ย้ายไปอาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ในปี 2019

สองฤดูกาลของเขาที่รังเอมิเรตส์เต็มไปด้วยความผิดพลาดมากมาย โดยสถิติชี้ให้เห็นว่ากองหลังรายนี้โดนใบแดงถึง 3 ใบและทำให้เสียจุดโทษ 6 ครั้งจาก 53 นัดในพรีเมียร์ลีกกับอาร์เซน่อล 

ซึ่งหากเทียบกับตอนอยู่เชลซี เดวิด ลุยซ์ โดนใบแดงแค่ใบเดียว และทำเสียจุดโทษเพียง 3 ครั้ง ตลอด 160 เกมที่ลงเล่น 

อย่างไรก็ตาม ดาวิด ลุยซ์ มีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2019-20 เขาเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ในเกมรอบรองฯ ที่ชนะ แมนฯ ซิตี้ ก่อนจะช่วยทีมเอาชนะ เชลซี ทีมเก่าในรอบชิงชนะเลิศ

 

3. วิลเลี่ยน (ปี 2020, ย้ายฟรี)

ตัวรุกเลือดแซมบ้า มีช่วงเวลา 7 ปีที่ประสบความสำเร็จกับเชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ ยูโรป้า ลีก

เขาต้องการต่อสัญญาอยู่กับเชลซีต่อหลังจบฤดูกาล 2019-20 แต่ "สิงห์บลูส์" ไม่ให้สัญญา 3 ปีอย่างที่ต้องการ ทำให้ วิลเลี่ยน ต้องออกจากเชลซีแบบไม่มีค่าตัว ก่อนจะเข้าซุ้มปืนด้วยสัญญา 3 ปีตามที่เขาต้องการ

วิลเลี่ยน เริ่มต้นได้ยอดเยี่ยม ทำ 2 แอสซิสต์ในเกมที่ชนะฟูแล่ม 3-0 ในวันเปิดฤดูกาล 2020-21 แต่หลังจากนั้น ฟอร์มก็ตกลงไปอย่างน่าใจหาย จบฤดูกาลด้วยผลงานเพียง 1 ประตู 7 แอสซิสต์ จาก 37 นัดที่เขาลงสนาม 

ยิ่งไปกว่านั้น วิลเลี่ยน ยังกลายเป็นตัวร้ายในสายตาแฟนบอล อาร์เซน่อล ก่อนจะยอมตกลงยกเลิกสัญญาในเดือนสิงหาคม 2021 หลังจากมาอยู่กับทีมแค่ 1 ปี

เมื่อถูกถามว่าข้อความแสดงความเกลียดชังจากแฟนบอลอาร์เซน่อลมีผลต่อการตัดสินใจย้ายทีมของเขาหรือไม่ วิลเลียน ตอบว่า 

"ใช่ มันมีผล ผมได้รับข้อความมากมายทางโซเชียลมีเดียจากแฟน ๆ และเพราะว่าผมมาจากเชลซี ผมคิดว่าถ้าผมมาจากทีมอื่น แฟนบอลอาจจะดีกับผมกว่านี้ก็ได้ แต่เพราะผมมาจากเชลซี และฟอร์มไม่ดี ผมคิดถึงเรื่องนี้และรู้ดีว่าต้องไป"

 

4. ราฮีม สเตอร์ลิง (ปี 2024, ยืมตัว)

อดีตริมเส้นของ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยถูกวางตัวเป็นแกนหลักสำหรับแผงเกมรุกของเชลซี ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่พอเล่นไปเล่นมาปรากฏว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ไม่สามารถสร้างอิมแพคได้เท่าที่ควร 

ก่อนที่เวลาของเขาจะหมดลงในตอนที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เข้ามาคุมทีมเชลซีในฤดูกาล 2024-25 และเป็น มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซน่อล คนคุ้นเคยตอนอยู่เรือใบด้วยกันและทีมงานหลังบ้าน ที่เจรจาจนคว้าตัว ราฮีม สเตอร์ลิง มาร่วมทีมได้สำเร็จ 

ในขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง เองก็ประกาศกร้าวว่า "คุณกำลังจะได้เห็นร่างที่ดีที่สุดของผม" แต่ทุกอย่างที่อาร์เซน่อล ไม่เป็นไปตามที่ ราฮีม สเตอร์ลิง คาดหวังไว้ เขาแทบลงสนามเป็นตัวจริง มีสถานะแค่อะไหล่เท่านั้น ยิงได้เพียงประตูเดียว กับอีก 5 แอสซิสต์จาก 28 เกมรวมทุกรายการที่เขาลงสนาม 

สุดท้าย อาร์เซน่อล ไม่ซื้อขาด ปล่อยกลับไปให้ เชลซี เตรียมขายต่ออีกทอด

 

Author

รณกฤต ตุลยะปรีชา

วัยรุ่นคู้บอน

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา