
ถ้าคุณเป็นทั้งคนดูฟุตบอลและคนเล่นเกม FC (หรือ FIFA ในอดีต) ชื่อของ รุด กุลลิท ตำนานนักเตะชาวดัตช์ คือชื่อที่ไม่ต้องมีคำอธิบายต่อท้าย
เขาไม่ใช่แค่ตำนาน แต่คือมาตรฐานของคำว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์" และถึงแม้ในประวัติศาสตร์โลกฟุตบอลจะมีมิดฟิลด์ที่โด่งดังและประสบความสำเร็จมากกว่าเขา ทว่าในโลกแห่งเกม เขาคือ "เบอร์ 1" ที่โปรเพลเยอร์ทั่วโลกเลือกใช้
นี่คือเรื่องราวของนักเตะคนหนึ่ง ที่ค่าพลังในชีวิตจริงดันถูกออกแบบมาเพื่อเกมฟุตบอลโดยไม่รู้ตัว ไปรู้จักเขาเพิ่มเติมกับ Main Stand
รุด กุลลิท ในโลกแห่งความจริงเจ๋งแค่ไหน ?
เนื่องจากเรื่องนี้ผู้เขียนเองก็เกิดไม่ทันดูการเล่นของ รุด กุลลิท ในช่วงที่เขากำลังพีก และเป็น 1 ใน 3 ทหารเสือของ เอซี มิลาน และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับ มาร์โก ฟาน บาสเท่น และ แฟรงก์ ไรจ์การ์ด จึงต้องขออ้างอิงการบอกเล่าของคนที่เกิดทัน ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวสายต่างประเทศ หรือนักข่าวกีฬาชาวไทย โดยเฉพาะ "เม้ง ซัมเมอร์ฮิลล์" ชุมพตน์ ทรงสายสกุล ที่มักจะพูดถึง กุลลิท ในไลฟ์ของเขาอยู่บ่อย ๆ
"จ่าเม้ง" มักจะพูดเสมอว่า กุลลิท ไม่ใช่แค่นักเตะที่คว้าแชมป์มากมายกับ เอซี มิลาน รวมถึงอยู่ในทีมชุดแชมป์ยูโร 1988 ของทัพอัศวินสีส้มเท่านั้น เพราะถ้าจะบอกให้ถูก ต้องใช้คำว่า "นักเตะระดับโลก" ที่สามารถแบกทีมได้ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนในแทบทุกด้าน โดยคำที่สรุปความยอดเยี่ยมของ กุลลิท ได้ดีที่สุดก็คือคำว่า "ครบเครื่อง"

เหตุผลของความครบเครื่องนั้นมีปัจจัยประกอบมากมาย ประการแรก กุลลิท ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบที่สุด เนื่องจากมีการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างความได้เปรียบทางกายภาพ ด้วยส่วนสูงมากกว่า 190 เซนติเมตร เขามีรูปร่างแบบนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม สามารถขึ้นเล่นลูกกลางอากาศ และเอาชนะคู่แข่งด้วยพละกำลังได้ไม่ยาก
นี่อาจจะเป็นเรื่องปกติ เพราะนักเตะสายพลังมีมากมายในโลกฟุตบอล แต่สำหรับ กุลลิท นั้นแตกต่าง เพราะเขามีมันพร้อมกับ "ทักษะทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม"
ในเชิงทักษะนั้นมันยิ่งเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ เพราะคนตัวใหญ่อย่าง กุลลิท กลับสร้างสมดุลในการครอบครองบอลได้อย่างยอดเยี่ยม สวยงามไม่เทอะทะ เขาสามารถควบคุมบอลในระยะแคบได้ดี แม้จะไม่ได้เทียบเท่ากับนักเตะสายเทคนิคจัด ๆ อย่าง ลิโอเนล เมสซี่, ซีเนดีน ซีดาน หรือ อันเดรส อิเนียสต้า แต่ว่ากันว่า กุลลิท ก็เล่นกับลูกบอลได้อย่างนุ่มนวลชวนดู
โรนัลด์ คูมัน อดีตกองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยุคเดียวกับกุลลิท ซึ่งปัจจุบันรับบทเป็นเฮดโค้ชทัพกังหันสีส้ม เคยกล่าวถึง รุด กุลลิท เอาไว้ว่า:
"ในช่วงปลายยุค 1980s รุด กุลลิท เคยเป็นคู่แข่งกับ ดิเอโก้ มาราโดนา ในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดในโลก แถมยังเล่นได้ทุกตำแหน่ง ทั้งเซ็นเตอร์แบ็ก, ปีก, มิดฟิลด์ตัวกลาง หรือกองหน้า แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จมากไปกว่าที่เขาทำได้"
นอกจากตัวใหญ่ คล่องแคล่ว และทักษะดีแล้ว กุลลิท ยังเพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยความฉลาดในเชิงยุทธวิธีและวิสัยทัศน์ เขาได้รับการยกย่องด้านความเฉียบแหลมทางความคิดและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทำประตูได้มากมายแม้ไม่ได้เล่นเป็นตัวรุกตลอดเวลา หนำซ้ำเมื่อต้องถอยมาเล่นมิดฟิลด์ตัวคุมเกม (Deep Lying Playmaker) เขาก็ฉลาดหลักแหลมในการอ่านเกมและปรับสไตล์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้ทันที
และท้ายที่สุด ปัจจัยที่ทำให้เขาครบเครื่องก็คือ "ความเป็นผู้นำ" อิทธิพลของ กุลลิท ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทักษะ เขาเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ มีทั้งความบู๊และความบุ๋น เรียกได้ว่าถ้าเขาลงสนามเมื่อไหร่ เพื่อนร่วมทีมจะอุ่นใจเหมือนมีพี่ใหญ่เดินนำหน้าเสมอ
สรุปคือ กุลลิท อาจไม่ได้เก่งที่สุดหากวัดเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง แต่ถ้าวัดพลังแบบในเกมที่ว่าด้วยความสมดุลรอบด้าน เขานี่แหละคือ No.1 คือกองกลางในฝัน และไม่แปลกเลยเมื่อตัวเขาเข้าไปอยู่ในเกม FC มันจึงยิ่งทำให้เขาโหดทวีคูณขึ้นไปอีก
No.1 ในโลกแห่งเกม FC
เมื่อเอาพลังในโลกจริงมาปรับเป็นค่าพลังในเกม FC สิ่งที่คุณจะได้คือนักเตะจอมโหดในแดนกลางที่ทำได้ทุกหน้าที่ตามสั่ง
ในโลกแห่งเกม FC ค่าพลังที่ "โกง" ที่สุด ไม่ใช่แค่การยิง (Shooting) หรือการเลี้ยงบอล (Dribbling) แต่คือความสมดุลของ Pace (ความเร็ว), Strength (ความแข็งแกร่ง), Ball Control (การควบคุมบอล), Passing (การส่งบอล), Defensive Awareness (เกมรับ) และ Composure (ความนิ่ง)

นักเตะหลายคนอาจมีจุดเด่นเฉพาะทาง เช่น ซีดาน เก่งเทคนิค, โรนัลโด้ R9 วิ่งเร็วและยิงคม, ชาบี เอร์นานเดซ จ่ายบอลแม่นยำ แต่ กุลลิท มีพลังที่รอบด้านในระดับสูงทุกค่า
ในระดับการแข่งขัน (Competitive) พื้นที่กลางสนามคือโซนที่โดนกดดันหนักที่สุด ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวหมายถึงการเสียประตู กุลลิท จึงถูกเลือกเพราะเขาไม่แพ้แรงปะทะ ครองบอลนิ่ง มีความเร็วพอที่จะรับมือเกมสวนกลับ และไม่พลาดง่าย ๆ ในจังหวะสำคัญ
นอกจากนี้ กุลลิทยังถือว่า "ตรงเมตา" (Meta) เพราะตัวเกมในโหมดแข่งขัน (Ultimate Team / Competitive Rule Set) ให้ความสำคัญกับมิดฟิลด์แบบ Box-to-Box ที่ทำได้ 3 อย่างพร้อมกัน : แย่งบอลได้, พาบอลขึ้นหน้าได้ และจบสกอร์ได้จากแถวสอง กุลลิทคือไม่กี่คนที่ทำครบทั้งหมดโดยไม่ต้องเปลี่ยนตัว หรือปรับแท็กติกเพื่อซ่อนจุดอ่อน
โปรเพลเยอร์หลายคน หนึ่งในนั้นคือ "TDKeane" ธีเดช ทรงสายสกุล ลูกชายของจ่าเม้ง โปลเพลเยอร์เกม FC ONLINE ระดับแชมป์โลก ยังพูดคล้ายกันว่า "แค่วาง กุลลิท ไว้ในตำแหน่งมิดฟิลด์ คุณก็จะปล่อยวางเรื่องการยืนตำแหน่งในแดนกลางได้เลย" เพราะว่าเขาสามารถทำหน้าคุมพื้นที่ได้แทบทั้งสนาม
และเหตุผลสุดท้ายที่ทำให้ กุลลิท เป็นนักเตะที่ทุกทีมในเกม FC ต้องมีคือ "เขาคือนักเตะที่หาตัวแทนไม่ได้" กองหน้าและกองหลังยังมีตัวเลือกอื่นที่ทดแทนกันได้บ้าง แต่กองกลางที่สูงใหญ่ แข็งแกร่ง รวดเร็ว เทคนิคดี ยิงได้ และเล่นรับได้ในระดับเทพพร้อมกัน แทบไม่มีใครทำได้เท่ากุลลิทในเกม FC อีกแล้ว
จุดเชื่อมโยงของ 2 โลก
ความโหดของกุลลิทในเกม FC ไม่ได้เกิดจากการ "อวยตำนาน" แต่เกิดจากระบบเกมฟุตบอลที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบรางวัลให้กับนักเตะที่สมบูรณ์แบบ (Complete Player)
ถ้าวัดทุกมิติพร้อมกัน รุด กุลลิท คือหนึ่งในไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ที่สอบผ่านทุกข้อโดยไม่มีเครื่องหมายติดลบ เขาไม่ใช่นักเตะที่เก่งเพราะตัวเกม แต่เป็นตัวเกมต่างหากที่ยอมรับว่า "นักเตะแบบนี้แหละ คือแบบที่ดีที่สุด"

จุดเชื่อมโยงระหว่างโลกความจริงกับโลกดิจิทัลคือการเห็นตรงกันว่า "นักเตะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดในด้านเดียว แต่ต้องไม่เป็นรองใครในทุกด้าน"
และนั่นคือเหตุผลที่ รุด กุลลิท ไม่ใช่แค่ตำนานในสนามหญ้า แต่คือเทพเจ้าในโลกดิจิทัลที่ไม่มีใครโค่นได้จริง ๆ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แหล่งอ้างอิง
https://www.reddit.com/r/FUTMobile/comments/1fdfs1l/why_do_people_say_gullit_is_the_best_cm_in_the/
https://medium.com/@AstrofenixEAFCTactical/ea-fc-tactical-beta-icon-ruud-gullit-analysis-a9a252939aac
https://www.youtube.com/watch?v=Vjp-upmvuBU
https://www.reddit.com/r/championsleague/comments/1overuu/my_grandfather_says_ruud_gullit_is_the_greatest/