Feature

แพ้ความคาดหวัง : ทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด มักโยนความเชื่อมั่นจากแฟนบอลทิ้งในเกมสำคัญ? | Main Stand

ถ้าเกมนี้ชนะจะก้าวขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง หากชนะเกมนี้จะกระโดดขึ้นมาอยู่ในท็อป 4 หรือแม้แต่เมื่อคืนนี้ หากเอาชนะเวสต์แฮมได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5 ของตาราง

 

ไม่ว่าจะเงื่อนไขไหน ๆ ทุกครั้งที่มีเกมลักษณะนี้และแฟนบอลคาดหวังให้ทีมชนะ คว้า 3 แต้ม พวกเขามักจะตกม้าตายทุกครั้งไป

เราจะลองหาเหตุผลเรื่องนี้ ทั้งจากปัจจัยในสนาม และสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจของนักเตะจนเป็นปมที่แก้ไม่หายสักที

ติดตามกับ Main Stand

 

อาการปกติของทีมที่ยังไม่โตเต็มวัย

ในโลกฟุตบอล มีแพทเทิร์นหนึ่งเกิดขึ้นกับหลายทีมที่อยู่ระหว่าง "กลางตาราง > ลุ้นพื้นที่ยุโรป > ลุ้นแชมป์" ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้มันชัดเจนว่า ยูไนเต็ด พยายามยกระดับตัวเองขึ้นมาอยู่ในทีม "ลุ้นพื้นที่ยุโรป (ท็อป 4)" สำหรับฤดูกาล 2025-26 ที่พวกเขาใช้เงินเสริมทัพไปกว่า 200 ล้านปอนด์

แพทเทิร์นที่ว่านั้นคือ การทำผลงานสวนทางกับความคาดหวังของคนดู หรือว่าง่าย ๆ ก็คือทีมอยู่ในระดับที่ "ดีพอใช้" ถ้าวันไหนเกิดรวมใจกันขึ้นมาได้ และต่างคนต่างเข้าฝัก พร้อมลงเล่นด้วยความฮึกเหิม ไม่ว่าจะเจอทีมแกร่งแค่ไหนก็สามารถสู้ได้สนุก บางครั้งในเกมที่มองว่าพวกเขาควรจะแพ้ พวกเขากลับเล่นได้ดี จบสกอร์ได้เฉียบขาดจนน่าตกใจ

และด้วยความอยู่ในมาตรฐานที่ไม่ถึงขั้นดีที่สุด ความไม่สม่ำเสมอก็เกิดขึ้นได้ง่าย เราจึงได้เห็น ยูไนเต็ด ตกม้าตายประจำในเกมเล็กที่ควรชนะได้สบาย ๆ เช่นการแพ้ เอฟเวอร์ตัน คาบ้าน 0-1 ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งต้องเล่น 10 คนเป็นเวลากว่า 80 นาที รวมไปถึงเกมล่าสุด ที่พวกเขาเปิดบ้านเสมอกับ เวสต์แฮม 1-1 ในแบบที่คู่แข่งแทบไม่เหลือความอันตรายในการบุกแบบโอเพ่นเพลย์แล้วด้วยซ้ำ

ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขันที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่คุณภาพเกมในสนามก็ยังคาดเดาได้ยาก ในเกมที่ควรจะดูเหนือกว่าด้วยชั้นเชิงของนักเตะและสถานการณ์ที่ได้เล่นในบ้าน พวกเขากลับเล่นเชื่องช้า อืดอาด เสียสมาธิง่าย และทำแต้มหลุดมือ ทีมที่ควรจะก้าวขึ้นไปอีกขั้น กลับสะดุดกับงานที่ "ควรปิดได้"

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมที่ "กำลังจะดี แต่ยังไม่ดีพอ" เป็นสเตปของทีมที่ยังสร้างคาแร็คเตอร์ของทีมขึ้นมาใหม่ แต่ก็ยังห่างไกลคำว่าสมบูรณ์แบบ มันทำให้ทีมไม่สามารถเล่นอย่างมีมาตรฐานได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ยูไนเต็ด มาเสมอ คือพวกเขายังต้องพึ่งอารมณ์ของเกม หรือโมเมนตัมของเกม มากกว่าความเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างได้ยากกว่าหลายเท่า

ความไม่สม่ำเสมอนี้ไม่ได้เกิดจากคุณภาพนักเตะเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสัญญาณชัดว่า ทีมยังไม่สามารถพัฒนาขึ้นเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ ที่ต้องพลาดเกมลักษณะนี้ให้น้อยที่สุด สถานะของ ยูไนเต็ด จึงยังเป็น "ทีมที่ลุ้นติดท็อปโฟร์" เท่านั้น

ทีมที่ยังไม่โตเต็มวัย คือทีมที่ต้องเอาชนะความคาดหวังของคนอื่น (แฟนบอล) ให้ได้ก่อน แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับแพ้ความคาดหวังนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะฟอร์มการเล่นเพียงอย่างเดียว …

 

ความเด็ดขาด, ประสบการณ์ และ อารมณ์

ถ้าดูแบบผิวเผิน แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะค่าตัวแพง, ดาวรุ่งพรสวรรค์ และชื่อชั้นที่ดูดีกว่าหลาย ๆ ทีมในพรีเมียร์ลีก แต่ในเชิงโครงสร้าง พวกเขายังเป็นทีมที่กำลังเรียนรู้ มากกว่าทีมที่พร้อมจะเป็นผู้ชนะ

ส่วนไหนในทีมชุดนี้บ้างที่บอกได้ว่าพวกเขายังไม่ดีพอ? ... พูดแบบสั้น ๆ กำปั้นทุบดิน มีหลายประการ แต่ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง

เรื่องความเด็ดขาด คือสิ่งที่เห็นภาพชัดมาก ๆ ในซีซั่น 2025-26 เนื่องจากพวกเขาเป็นทีมที่สร้างโอกาสยิงประตูได้มากมาย และสร้างค่า xG (ความน่าจะเป็นที่การยิงแต่ละครั้งจะกลายเป็นประตู) มากถึง 26.23 ลูก นี่คือสถิติที่เป็นรองแค่ อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี เท่านั้น แถม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเป็นทีมที่ยิงได้น้อยกว่าค่า xG มากที่สุดหากเทียบกับ 3 ทีมที่กล่าวมาด้วย (ยิงได้ 22 ประตู)

สถิตินี้บอกเราว่า นักเตะของพวกเขามีคุณภาพในการสร้างเกมรุกระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ยังขาด คือการใช้โอกาสที่มีให้ได้แบบเด็ดขาด ซึ่งถ้าใครได้ชมเกมของ ยูไนเต็ด แต่ละนัด น่าจะได้เห็นความผิดพลาดในการจบสกอร์อยู่บ่อย ๆ ทั้งจังหวะที่ควรยิงให้คม กลับลังเล, จังหวะที่ควรจ่ายให้เพื่อนยิง กลับครองบอลนาน และจังหวะที่ควรปิดเกมให้จบ กลับปล่อยให้คู่แข่งฮึดสู้ นี่คืออาการของทีมที่เกมรุกมีทักษะดี แต่ความเรื่องความนิ่งนั้นกลับมีต่ำเกินไป

ความนิ่งที่กล่าวไป คือเรื่องการจัดการด้านอารมณ์ และมันไม่ได้สะท้อนแค่การยิงประตูพลาดเท่านั้น แต่ความนิ่งที่มีน้อยมากในแทบทุกพื้นที่ของสนามของพวกเขา ทำให้ทีมมีปัญหา นำไปสู่ความโกลาหล และจบลงด้วยการทำได้ต่ำกว่าความคาดหวังอยู่บ่อย ๆ ซึ่งอาการที่แฟนบอล ปีศาจแดง เห็นกันจนเบื่อ คือสเต็ปความผิดพลาด ที่เริ่มจาก เริ่มเกมเฉื่อยชา, ขึ้นนำแล้วผ่อนเกม, โดนกดดันเล็กน้อยก็เสียรูปทรง, นาทีท้าย ๆ เล่นแบบไร้แผน, ความผิดพลาดซ้ำซ้อนจากการลนลาน และนำไปสู่การเสียประตูในท้ายที่สุด

นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนไม่เติบโตทางอารมณ์เท่าที่ควรจะเป็นเมื่อเล่นในระดับสโมสรใหญ่ และมันสะท้อนผ่านทุกเกมที่พวกเขาควรชนะง่าย ๆ แต่กลับเอาไม่อยู่ ซึ่งนำไปสู่สิ่งที่ลึกกว่านั้น นั่นคือเรื่องจิตวิทยาการกดดัน ที่มองเหลี่ยมไหนก็ตรงกับทีมตอนนี้จริง ๆ

 

ปรากฏการณ์ "แพ้ความคาดหวัง"

เรื่องในสนาม หลายคนคงจะเห็นไม่แตกต่างกันนักกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่การแพ้ความคาดหวังของ ยูไนเต็ด มันก็ตรงกับหลักจิตวิทยาหลาย ๆ ข้อเช่นกัน

งานวิจัยด้านจิตวิทยาการกีฬาหลายชิ้น ให้คำอธิบายอย่างน่าสนใจต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่น "เมื่อยิ่งต้องชนะยิ่งเล่นแย่" (Choking Under Pressure) ซึ่งเป็นงานวิจัยของนักจิตวิทยากีฬาหลายคน ชี้ให้เห็นตรงกันว่า นักกีฬาหลายคนที่ขาดความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความมั่นใจ มักจะคิดเยอะเกินไป กลัวความผิดพลาด และสูญเสียความเป็นธรรมชาติของตัวเอง เมื่อต้องเจอกับความกดดันและความคาดหวังสูง ๆ

เหตุผลที่ทำให้เกิดอาการ "สั่นเดิมพัน" แบบนี้ เกิดขึ้นเพราะพวกเขากำลังเล่นด้วย "สมองที่กลัวผลลัพธ์" มากกว่า "สมองที่เล่นฟุตบอล" พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือกลัวไม่ชนะจนไม่มั่นใจในตัวเอง

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยด้านจิตวิทยากีฬาที่ชื่อว่า "Automaticity Research" หรือแปลเป็นไทยง่าย ๆ คือ "ทักษะอัตโนมัติไม่พอ" ที่ดูจะเข้าเค้ากับสิ่งที่นักเตะปีศาจแดงเป็นในเวลานี้

งานวิจัยดังกล่าวพยายามอธิบายว่า อาการสั่นเดิมพันสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ แม้ไม่หายไปทั้งหมด 100% แต่ก็มีวิธีที่ทำให้พวกเขาสามารถรับมือกับสถานการณ์กดดันและความคาดหวังสูงได้ดีขึ้น ทางแก้ก็คือ พวกเขาต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต และลงเล่นในเกมใหญ่ ๆ ให้มากขึ้นในอนาคตเพื่อเก็บประสบการณ์ "เล่นภายใต้ความกดดัน" ซึ่งเมื่อได้เล่นสถานการณ์แบบนี้บ่อย ๆ นักเตะจะลงเล่นด้วยความเป็นธรรมชาติ และแสดงทักษะที่ตัวเองมีออกมาได้อย่างอัตโนมัติ กล่าวคือไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องกลัวพลาด แต่สามารถเล่นไปตามสัญชาตญาณและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นก็พอ

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะสมองคิดมากเกินไป แทนที่จะ "ปล่อยให้ร่างกายเล่นเอง" ซึ่งความอัตโนมัตินี้คุณสามารถดูตัวอย่างจากยอดทีมทั้งในอดีตและปัจจุบันได้ อาทิ ลิเวอร์พูล ยุค เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่เดินหน้าฆ่ามันตลอดทั้งเกม นักเตะสามารถแย่งบอลกลับมาทำเกมรุกได้ทุกรูปแบบ หาทางโจมตีได้ตลอดไม่ว่าจะจากบอลริมเส้น การโยนเข้าไปลุ้น หรือแม้กระทั่งการต่อบอลในพื้นที่แคบ ๆ เจาะแนวรับคู่แข่งเข้าไปทำประตู ซึ่งท้ายที่สุดพวกเขามักจะทำได้ตามเป้า แม้จะเหลือเวลาช่วงท้ายเกมไม่กี่นาทีก็ตาม

ตอนนี้ สิ่งที่ ยูไนเต็ด ต้องแก้ไข แม้จะพูดง่าย แต่ก็ทำไม่ง่าย นั่นคือทีมต้องการระบบ ที่ต่อให้ในวันที่มาตรฐานตกต่ำที่สุดก็ยังดีพอที่ไม่แพ้ หรือเบียดเอาชนะได้ในเกมที่พวกเขาเป็นต่อคู่แข่ง ซึ่งนี่คือคุณสมบัติของทีมระดับลุ้นแชมป์ที่สามารถทำให้เห็นเป็นประจำ ยกตัวอย่างเช่น อาร์เซน่อล ในปีนี้ ที่เก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง แม้บางเกมพวกเขาจะเล่นได้ไม่ดีนักก็ตาม

ยูไนเต็ด จะต้องเริ่มใช้เกมง่าย ๆ เป็นพื้นที่ฝึกความนิ่งและการปิดเกมให้เด็ดขาด ซึ่งในอนาคตพวกเขาจะทำมันได้ดีขึ้น หากซื้อนักเตะที่เหมาะสมกับทีม ซึ่งตอนนี้ทีมไม่ได้ต้องการซูเปอร์สตาร์ แต่ต้องเป็นคนที่มีความสามารถ และสามารถทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ภายในสถานการณ์ที่กดดัน ถ้ามีนักเตะแบบนี้ในทีมหลาย ๆ คน ก็จะสามารถช่วยยกระดับเรื่องความมั่นใจให้เพื่อนในทีมให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

ปัญหาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่ที่แท็คติกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้อยู่ที่การซื้อขายหรือชื่อชั้นนักเตะ แต่เป็นการผสมกันของหลากหลายปัญหาที่ไม่สามารถจะแก้ไขได้เพียงในชั่วข้ามคืน

ยูไนเต็ด แพ้ความคาดหวังของแฟนบอล เพราะพวกเขายังไม่พร้อมที่จะเป็นทีมที่ชนะความคาดหวังนั้นในตอนนี้ … และเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาต้องใช้เวลาเท่าไหร่ จึงจะแก้ปัญหาซ้ำซากนี้ได้อย่างเด็ดขาดเสียที

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.skysports.com/football/news/11095/13477502/man-utd-plagued-by-consistent-inconsistency-as-alexander-isak-and-florian-wirtz-finally-shine-for-liverpool
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/amorim-man-utd-west-ham-36354761
https://www.beinsports.com/en-us/soccer/premier-league/articles/amorim-rues-man-utds-loss-of-control-in-west-ham-draw-2025-12-04
https://www.premierleague.com/en/news/4261716
https://understat.com/league/EPL

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ