Feature

เหมือนได้เล่นเกมใหม่ : Football Manager 26 คุ้มค่ากับการรอคอยแค่ไหน ? | Main Stand

Football Manager 26 ภาคล่าสุดของแฟรนไชส์เกมคุมทีมฟุตบอลระดับตำนาน ออกวางขายแล้ว  ในขณะที่หลายคนยังไม่ได้ซื้อและคิดอยู่ว่าจะซื้อดีหรือไม่ 

 

ชยันธร ใจมูล นักเขียนมือ 1 ของ Main Stand ที่เป็นแฟนคลับตัวยงของเกมซีรี่ส์นี้ และผ่านประสบการณ์เล่นแต่ละภาคมามากกว่า 1 พันชั่วโมง ได้ทดลองเล่น FM26 แบบเต็ม ๆ โดยใช้เวลาเล่นราว ๆ 10 ชั่วโมงแบบรวดเดียว 

นี่คือรีวิวที่จริงใจ และใช้ศัพท์ทางการให้น้อยที่สุด ... คุณอาจจะตัดสินใจได้ดีขึ้นหากได้อ่านรีวิวนี้ 

 

เหมือนได้เล่นเกมใหม่ 

"เหมือนได้เล่นเกมใหม่" คือคำแรกที่แวบเข้ามาในหัว เมื่อคิดจะเขียนรีวิวเกม FM26 อย่างแท้จริง 

แม้ผู้เขียนได้ยินข่าวเรื่องการปรับ "เอนจิ้น" ที่เปรียบได้กับสมองที่เอาไว้ใช้คิดและคำนวณเหตุการณ์ต่าง ๆ ในตัวเกมใหม่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรู้สึกเหมือนได้เล่นเกมใหม่มากขนาดนี้  

ขอสารภาพตรง ๆ ในตอนแรกคิดว่า เอนจิ้น ที่เปลี่ยนไปจากที่ Sports Interactive ผู้สร้างเกมทำเอง สู่ Unity จะเปลี่ยนแค่บรรยากาศในส่วนของการแข่งขันเท่านั้น ภาพที่คิดไว้ในหัวคือ การอัปเดตระบบจำลองการแข่งขัน เช่น ปรับให้การแสดงผลสวยขึ้น, การยิงสมจริงขึ้น, การเคลื่อนที่ของกองหลังไม่พลาดง่ายเกินไป รวมไปถึงสิ่งที่คาใจแฟน FM24 ที่สุดคือ การบุกจากริมเส้น ที่มักจะจบด้วยการยิงประตูมากกว่าการจ่ายเข้ากลาง ทั้ง ๆ ที่มีเพื่อนรออยู่โล่ง ๆ  

แต่เมื่อเล่นเกมนี้ครบ 1 ซีซั่น เรากลับพบว่าความแตกต่างที่เห็นชัดคือเรื่อง "ความสวยงามของภาพตอนแข่ง" ส่วนเรื่องการยิงสมจริง หรือการเคลื่อนที่ต่าง ๆ ของนักเตะในแต่ละเกมนั้นยังคงมีจังหวะที่ชวนขัดใจอยู่ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "จังหวะนรก" อย่างการแหวกริมเส้นทะลุเข้ามาในกรอบเขตโทษ ยังคงมีจังหวะการ "ซี้ซั้วยิง" ไม่ว่ามุมจะแคบแค่ไหนก็ตามเหมือนเช่นเคย ซึ่งว่ากันตามตรง ถ้าเป็นคนจริง ๆ ด้วยคอมมอนเซนส์ จังหวะแบบนี้ที่เพื่อนรอยิงโล่ง ๆ การตัดสินใจคงเป็นการเปิดสัก 80% และหลอกยิงเองสัก 20% ทว่าในตัวเกมภาคนี้กลับสลับกันกลายเป็นการเลือกยิงมากกว่าเปิด

นี่คือความหงุดหงิดที่เกิดขึ้น แต่ต้องขออกตัวไว้สักนิดว่า สำหรับบางคนที่เชี่ยวชาญเรื่องการปรับแท็คติกที่นักเตะรายตัวจริง ๆ อาจจะแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่เท่าที่ดูคอมเมนต์ตามคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ของแฟน FM ยังพบว่าจังหวะแบบนี้ ยังคงมีหลายคนที่บ่นอยู่เช่นกัน 

กลับเข้าสู่ประเด็นของคำว่า "เหมือนได้เล่นเกมใหม่" กันอีกสักครั้ง สาเหตุที่คิดแบบนั้น เพราะบรรยากาศในเกมทั้งก่อนแข่ง ระหว่าง และหลังแข่ง มีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร อย่างแรกเลย กราฟิกและการนำเสนอพัฒนาขึ้นจนออกมาดูดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเรื่องของแสงเงา แอนิเมชั่น คัทซีนต่าง ๆ 

โดยเฉพาะการนำเสนอในช่วงแมตช์เดย์ มีความสมจริงมากขึ้น ทั้งมุมกล้องแบบ TV, การให้ความสำคัญในบรรยากาศกาารฉลองแชมป์, การแสดงผลในสนาม ทำให้เรื่องของอารมณ์มาเต็ม ใกล้เคียงฟุตบอลจริง ๆ มากขึ้น  

นอกจากนี้ยังเชื่อว่า FM26 จะเป็นภาคที่แฟน ๆ สาย "หนอนแท็คติก" น่าจะชอบและถูกใจเป็นพิเศษ เพราะมีวิธีการปรับแท็คติกของทีมเยอะแยะมากมาย ตอนมีบอล ทีมของคุณจะยืนตำแหน่งแบบไหน ? ตอนที่ทีมเสียบอล นักเตะแต่ละคนในทีมของคุณจะมีบทบาทอย่างไร ? ใครจะเป็นคนไล่บอล ? ใครจะเป็นคนที่ยืนห้อยรอสวนกลับ ? 

ส่วนนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับแท็กติกได้ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ปรับรูปแบบทีมตามจังหวะรุกและตั้งรับ ... แต่สำหรับผู้เขียนที่ไม่ใช่สายแท็คติกจ๋า ๆ แต่เล่นแบบเพลิน ๆ ไม่ได้ลงลึกเรื่องวิธีการมากนัก แม้ปรับทีมได้หลากหลาย แต่ปัญหาคือกินเวลานานมากในส่วนนี้ บางเกมสำคัญ ๆ ที่คุณต้องเปลี่ยนระบบการเล่น และตำแหน่งการยืน คุณอาจจะต้องเสียเวลาปรับสิ่งเหล่านี้ราว ๆ 15-30 นาที กว่าจะได้เข้าแมตช์แข่งเลยทีเดียว 

แน่นอนว่าคนที่ชอบสายแท็คติกก็จะชอบแบบ "รักเลย" แต่คนที่เป็นสายเล่นเอาสนุก ๆ ชอบเล่นแบบเร็ว ๆ อาจจะมีหงุดหงิดบ้างในบางจังหวะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นต่อต้านอะไรมาก ในส่วนนี้อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันสักพัก เพื่อหาทางออกที่ทั้งสนุกด้วย เร็วด้วย และละเอียด (ขึ้น) ด้วยในคราวเดียวกัน 

 

สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้ 

เอาล่ะ มาถึงส่วนสำคัญจริง ๆ ที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ และหลายคนก็ "ติด" กับเรื่องนี้มากที่สุด นั่นคือเรื่องของ "UI" หรือ "อินเทอร์เฟซ" ... ซึ่งเมื่อได้ลองด้วยตัวเองแล้ว ก็ต้องขอใช้คำว่า "ปวดหัว และ สับสน" ดูจะเป็นคำที่เหมาะที่สุด

หน้าต่างข่าวที่เกี่ยวกับทีม ข่าวซื้อขาย และอัปเดตต่าง ๆ ดูไม่คุ้นตา เพราะ "หน้าหลัก" นั้นสับสนเกินไป มีหลายอย่างพยายามเบียดเข้ามาอยู่รวมกันในหน้าเดียว จนบางครั้งหาสิ่งที่อยากจะทำไม่เจอ ต้องใช้เวลาเพ่งมองสักพักว่า คำสั่งที่เราจะใช้อยู่ตรงไหน และด้วยสีที่ค่อนข้างแสบตา กับตัวหนังสือที่ค่อนข้างเล็ก จึงทำให้ปวดหัวและปวดตากับหน้านี้มากที่สุด (ผู้เขียนอาจจะแก่เกินไปจนสายตาไม่ดีเองก็ได้ในส่วนนี้) 

แม้จะดูจะเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับคอ FM จริง ๆ UI ของหน้าหลักเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมากที่จะทำให้สนุกกับเกมนี้มากขึ้น ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงใน FM26 ต้องบอกว่าคือการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไปหากเทียบกับ FM24 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ อาจจะทำให้แฟนเกมที่เล่นมาตั้งแต่ยุคที่เกมนี้ใช้ชื่อ Championship Manager หรือ CM ที่นับว่าเป็นแฟนยุคเก่า (หรือจะบอกว่าแก่ก็ได้) รู้สึกเบื่อได้ง่ายขึ้น เล่นเกมนี้ได้สั้นลง ไม่สามารถนั่งเล่นยาว ๆ แบบ 8-10 ชั่วโมงในรวดเดียวเหมือนกับภาคที่แล้วได้ 

ของแบบนี้อาจจะต้องใช้เวลาสักพักสำหรับผู้เล่นในการปรับตัว เพราะทุกอย่างถูกพัฒนาให้เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ตอน FM 2009 ซึ่งเป็นภาคแรกที่มีระบบ 3D Match, FM 2011 ที่เพิ่มระบบเอเย่นต์และการเจรจาสัญญาแบบใหม่ ๆ รวมถึง FM 2015 ที่เพิ่มบทบาทหน้าที่ของแท็คติกต่าง ๆ ให้ละเอียดขึ้น ... ตัวเกมภาคเหล่านี้ แรก ๆ ก็ได้รับเสียงบ่นระงม แต่ท้ายที่สุดก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา และทุกคนก็รับได้เมื่อเล่นจนกระทั่ง "เข้ามือ" และติดหนึบกับมันเหมือนกับที่ทุกคนเคยผ่านมา 

 

สรุปสั้น ๆ ถึง FM26 ควรซื้อหรือไม่ ?

FM26 เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ FM แต่พร้อมจะ “อดทน” กับการเปลี่ยนแปลง เพราะต้องยอมรับว่าใหม่มาก และบางส่วนของเกมยังมีบั๊ก ซึ่งทีมงานกำลังไล่แก้ไข และจะเพิ่มอัปเดตใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ  

ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่จะรักตัวเกม FM26 ได้อย่างรวดเร็ว คือแฟน ๆ ที่ไม่ได้ติดกับ UI แบบเก่า และในขณะเดียวกัน ต้องเป็นคนที่ชอบเล่นเกมแบบละเอียด ๆ จัดการทุกอย่างตั้งแต่แผนการซ้อมจนถึงเป็นคนที่สนุกกับการวางแท็คติกการเล่นให้กับทีม เพราะภาคนี้เพิ่มอะไรเข้ามาอย่างหลากหลาย มีอะไรให้เล่นเยะขึ้นแน่นอน 

ขณะที่แฟนบอลสายเก่าก็ต้องบอกว่า FM26 อาจจะไม่ถูกจริตสักเท่าไหร่ เพราะเกมนี้แทบจะไม่เหมือนดิมเลย UI ใหม่และฟีเจอร์หลายอย่าง อาจทำให้รู้สึกไม่เหมือนเดิม ซึ่งทางเดียวที่คุณจะรู้ได้ คือต้องลองเล่นด้วยตัวเองไปสักระยะ จึงจะสามารถตอบได้ว่าภาค FM26 นี้เหมาะกับสไตล์ของคุณหรือไม่ 

แต่ถ้าถามว่า "ควรซื้อ FM26 หรือไม่ ?" คำตอบเดียวคือ "ควร" เพราะคุณเล่น FM24 มานานถึง 2 ปีแล้ว และถึงเวลาที่ต้องลองอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง บางทีคุณอาจจะสนุกกับมันก็ได้

ตัวผู้เขียนเล่น FM24 เกือบถึง 2,000 ชั่วโมง ตัดสินใจซื้อ FM26 เพราะหมดความท้าทายกับ FM24 แล้ว และเมื่อได้ลองของใหม่ก็ต้องบอกว่า ยังไม่โดนใจมากนัก มีหลายอย่างที่ทำให้ยังเข้าไม่ถึงจุดที่นั่งเล่นแบบข้ามวันข้ามคืนได้ ซึ่งการนั่งเล่นทั้งคืนนี่แหละ คือสิ่งที่ยืนยันว่าเกมนี้ทำได้สำเร็จ เพราะมันทำให้คุณ "ติด" มันได้แล้ว 

สรุปสั้น ๆ คือ FM26 ควรซื้อและเปิดใจเล่น พยายามหาแนวทางที่ทำให้คุณสนุกกับเกมนี้ให้เจอ ... เพราะตัวเกมเลือกจะเดินไปข้างหน้าแล้ว 

ทว่าคุณมีทางเลือกเสมอ คุณจะเล่นภาคเก่าแล้วอัปเดตไปเรื่อย ๆ ก็ได้ แต่จะดีกว่าถ้าคุณได้เปิดใจลองเล่นและสัมผัสความใหม่นี้ด้วยตัวเอง ถ้าใช่ก็ไปต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุดคือการแจ้ง Refund (อย่าลืมกำหนดเวลาคืนเงินได้หลังจากซื้อด้วยนะ) ขาดทุนหน่อย แต่อย่างน้อยคุณก็จะได้รู้ว่า คุณชอบหรือไม่ชอบ FM26 ... ง่าย ๆ แค่นั้นเลย

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ