Feature

"โจรจับโจร" ที่ ฟีฟ่า : คดี "FIFA GATE" เมื่อผู้ยิ่งใหญ่ถูกโค่นโดย "สายลับสีเทา" | Main Stand

จากองค์กรที่ควบคุมกีฬาฟุตบอลทั้งโลก … สู่การล่มสลายของยุค "เซ็ปป์ แบลตเตอร์"

 


เบื้องหลังความเน่าเฟะของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ถูกเปิดโปงโดยชายร่างใหญ่ที่ครั้งหนึ่งก็มีส่วนร่วมในเกมโกงนั้นเอง ด้วยยุทธวิธี "โจรจับโจร" อันแสนเร้าใจจนโค่นยักษ์ใหญ่ในฟีฟ่าให้ลงจากคอนได้ 

เรื่องมัน ๆ บันเทิง ๆ ที่เหมือนกับภาพยนตร์นี้ คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ ... ติดตามทั้งหมดกับ Main Stand 

 

เมื่อเสียงซุบซิบกลายเป็นไฟ

ช่วงต้นทศวรรษ 2010 ฟีฟ่า องค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอล กำลังถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อย ๆ และเราสามารถพูดได้ว่าช่วงยุค 2010 นี่แหละ เป็นยุคที่ข่าวสารกับโซเชี่ยลมีเดียเข้าถึงได้ทุกที่ และเรื่องบางเรื่องโดยเฉพาะเรื่องเทา ๆ ที่เคยแอบทำกันมาเงียบ ๆ ในอดีตมักจะถูกเปิดโปงง่ายขึ้น ไม่ว่าเรื่องนั้นจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม

เบื้องหน้าของ ฟีฟ่า คืออาณาจักรลูกหนังที่จัดฟุตบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่เสมอ แต่เบื้องหลัง กลับมีเสียงระแคะระคายว่า "มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล" 

เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ คือประธานของ ฟีฟ่า ที่ดำรงตำแหน่งมายาวนานตั้งแต่ปี 1998 แม้จะเจอกระแสดราม่ามากมายหลังผ่านหลายยุคหลายสมัย แต่ก็ไม่เคยมีใครเจอหลักฐานที่จะเอาผิดเขาเต็ม ๆ ได้เลยสักครั้ง เรียกได้ว่าช่วงเวลาที่เขาดำรงอำนาจตั้งแต่ 1998-2015 ฟีฟ่า ถูกกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงและคอร์รัปชั่นนับครั้งไม่ถ้วน แต่เรื่องที่เราจะพูดถึงนี้ คือเรื่องที่สามารถทำให้ แบล็ตเตอร์ ต้องออกจากตำแหน่งที่เขาครองมานานถึง 17 ปีได้ 

จุดเริ่มของเรื่องทั้งหมดมาจาก "การให้สิทธิ์เจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก" ที่เต็มไปด้วยข้อกังขา โดย 2 คำถามหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดการพยายามสอบสวนเรื่องนี้คือ 

"ทำไม รัสเซีย ถึงได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 ทั้งที่มีคู่แข่งอย่างอังกฤษและสเปน ?" และ "ทำไม กาตาร์ ประเทศที่อากาศร้อนเกือบ 50 องศาเซลเซียส ถึงได้สิทธิ์จัดฟุตบอลโลกปี 2022 ?"

ข่าวลือเริ่มหนาหูว่ามี "เงินใต้โต๊ะ" ไหลจากชาติที่ได้เป็นเจ้าภาพไปถึงผู้บริหารระดับสูงในฟีฟ่า ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสิทธิ์จัดฟุตบอลโลกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิทธิ์การตลาด, สัญญาถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์, และการเลือกตั้งภายในองค์กร ทั้งหมดกลายเป็นเครือข่ายผลประโยชน์ซับซ้อนที่ไม่มีใครกล้าแตะ ... ดังนั้นการจะเข้าถึงความผิดของ แบล็ตเตอร์ ได้ต้องใช้วิธีที่แยบยลจริง ๆ 

และถึงวันหนึ่งเสียงซุบซิบกลายเป็นไฟลามทุ่งจนกระทั่ง สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา หรือ FBI เข้ามาเกี่ยวข้องกับการสืบคดีนี้

ทว่าเป้าหมายแรกของพวกเขา ไม่ใช่ "ประธานฟีฟ่า" … แต่คือชายคนหนึ่งที่อยู่ตรงกลางระหว่าง "โลกแห่งฟุตบอล" และ "เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ" อย่าง ชัค เบลเซอร์ หนึ่งในคนที่ แบล็ตเตอร์ ไว้ใจมากที่สุด

 

ตัวละครสีเทาที่กลายเป็นจุดแตกของระบบ

ชัค เบลเซอร์ เป็นเลขาธิการของ คอนคาเคฟ หรือ สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาเหนือ กลาง และแคริบเบียน ชายอเมริกันร่างใหญ่ ผมยาว หนวดเฟิ้ม ที่ใช้ชีวิตหรูหราในมหานครนิวยอร์ก มีอพาร์ตเมนต์อยู่บนตึก ทรัมป์ ทาวเวอร์ เขาเป็นคนสำคัญในระบบเลือกตั้งของฟีฟ่า เพราะ "เสียงโหวต" ของแต่ละประเทศในโซนนี้ มีอิทธิพลสูง

แต่หลังฉากของความสำเร็จ เบลเซอร์ คือ "จุดศูนย์กลางของการหมุนเงิน" ในระบบนี้ เขารับเงินใต้โต๊ะจากการขายสิทธิ์จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอย่าง คอนคาเคฟ โกลด์คัพ, สิทธิ์ถ่ายทอดสด, และดีลการตลาดต่าง ๆ ทั้งหมด โดยไม่ผ่านบัญชีฟีฟ่าอย่างเป็นทางการ ในบางปี รายได้ส่วนตัวของเขาพุ่งถึงหลักล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่าเงินมาจากไหน

จนกระทั่งในปี 2011 กรมสรรพากรสหรัฐอเมริกา หรือ IRS พบว่า "ชัค เบลเซอร์ ไม่เคยยื่นภาษีเลยตลอด 10 ปี" พวกเขาเริ่มขุดลึก จนพบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปถึงการติดสินบนเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าในหลายประเทศ

"นายมีสองทางเลือก ... หนึ่ง เข้าคุก สอง ช่วยเราจับพวกที่อยู่เหนือกว่า" ข้อเสนอแบบบีบให้เลือกเกิดขึ้นแล้ว เบลเซอร์ นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบเพียงคำเดียว ... "ตกลง" เพราะเขารู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วที่เขาสามารถเลือกได้ในเวลานี้ 

เบลเซอร์ โดนเรียกสอบ และยอมรับผิดพร้อมตัดสินใจ "ร่วมมือรวบปลาตัวใหญ่กว่า" ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องนี้มันจะเวิร์กหรือไม่ แต่นั่นแหละ การจะจับคนที่แนบเนียน คุณก็ควรจะใช้ทุกวิถีทางที่ทำได้ แม้บางครั้งจะต้องเสี่ยงด้วยการใช้คนสนิทของพวกเขานั่นแหละ ที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้แทน และแล้วยุทธวิธี "โจรจับโจร" ก็เริ่มขึ้น และ เบลเซอร์ ก็กลายเป็น "สายลับระดับตำนาน" ที่จะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกไปตลอดกาล

 

แผนโค่น เซ็ปป์ แบลตเตอร์

หลังจากตกลงร่วมมือกับ FBI และหน่วยข่าวกรอง IRS แผนกอาชญากรรม ชัค เบลเซอร์ ถูกจัดให้เป็นสายลับเต็มตัว

เขาเริ่มพก "ไมค์บันทึกเสียง" ซ่อนไว้ในพวงกุญแจรถและกระเป๋าเสื้อสูท เข้าออกการประชุมลับของฟีฟ่าอย่างแนบเนียน บางครั้งเขาเดินทางไปประชุมใหญ่ของฟีฟ่า ใน ลอนดอน ปารีส หรือ ซูริก พร้อมเครื่องอัดเสียงที่บันทึกทุกคำพูดของผู้บริหารระดับสูง

สิ่งที่ได้จากเทปเหล่านั้น คือหลักฐานสำคัญของ "ขบวนการคอร์รัปชั่นระดับโลก" ตั้งแต่การจ่ายสินบนเพื่อซื้อเสียงโหวต การรับเงินแลกสิทธิ์จัดฟุตบอลโลก, ไปจนถึงการฟอกเงินผ่านบริษัทสื่อกีฬา

เมื่อ FBI มีหลักฐานแน่นหนา พวกเขาจึงเปิดปฏิบัติการใหญ่ในเดือนพฤษภาคม 2015 ในชื่อ "Operation FIFA Gate"

เช้าตรู่วันที่ 27 พฤษภาคม 2015 ที่โรงแรมหรูในนครซูริก ตำรวจสวิตเซอร์แลนด์พร้อมหมายจับจากสหรัฐอเมริกา บุกจับกุมเจ้าหน้าที่ฟีฟ่า 14 ราย ในจำนวนนี้มีรองประธานฟีฟ่าและผู้บริหารระดับสูงหลายคน สื่อทั่วโลกถ่ายทอดสดภาพ "ชายชุดสูทถูกพาออกจากโรงแรมห้าดาว" ด้วยสีหน้าที่เศร้าและวิตกกังวลคละเคล้ากันไป และในที่สุด แรงสั่นสะเทือนนี้ก็กระแทกถึง "เซ็ปป์ แบลตเตอร์" ประธานฟีฟ่า ที่ครองอำนาจมายาวนานกว่า 17 ปี

แม้ แบลตเตอร์ จะไม่ถูกจับทันที แต่แรงกดดันจากทั้งโลกฟุตบอลและหลักฐานจาก FBI รวมถึงข้อมูลใหม่ ๆ จากกลุ่มผู้บริหารวงในที่โดนสอยเพิ่มทีละคน ทีละคน ทำให้เขาต้องลาออกในปีเดียวกัน และถูกแบนจากวงการฟุตบอลนานหลายปี และมีหลายคดีที่ต้องสู้บนชั้นศาล ซึ่งในช่วงต้นปี 2025 เขาในวัย 89 ปี กับ มิเชล พลาตินี่ อดีตผู้บริหารของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ก็เพิ่งเอาชนะคดีฉ้อโกง ที่เคยถูกฟ้องร่วมกันเมื่อปี 2011 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย 

ปฏิบัติการ "โจรจับโจร" และคดี "FIFA Gate" ไม่เพียงแค่ทำให้ฟีฟ่าเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารใหม่ทั้งหมด แต่มันเผยให้เห็นว่า "ระบบฟุตบอลโลก" ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องกีฬาแท้ ๆ แท้จริงเต็มไปด้วยการเมืองและผลประโยชน์

ชัค เบลเซอร์ อาจเป็น "โจร" ที่ร่วมเล่นเกมสกปรกในตอนแรก แต่เขาก็กลายเป็น "โจรที่จับโจร" ที่ช่วยเปิดโปงความจริงขององค์กรที่มั่งคั่งที่สุดในวงการกีฬา และทั้งหมดนั้น … เริ่มต้นจากกุญแจรถที่มีไมค์ซ่อนอยู่เท่านั้นเอง  

 

แหล่งอ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/Chuck_Blazer
https://www.espn.com/espn/feature/story/_/id/14767250/the-exclusive-story-how-feds-took-fifa
https://www.theguardian.com/football/2017/nov/06/fifa-scandal-fbi-new-york-trial-chuck-blazer-sepp-blatter
https://www.theguardian.com/football/2015/jun/15/chuck-blazer-fifa-ban-undercover-back-taxes-plea-deal

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ