โอกลาโฮม่าซิตี้ ธันเดอร์ คว้าแชมป์บาสเกตบอล NBA ฤดูกาล 2024-25 แบบที่หลายคนมองว่า "เหนือชั้น" ตั้งแต่จบฤดูกาลปกติด้วยสถิติดีที่สุดเหนือทุกทีม เป็นทีมวางอันดับ 1 ก่อนฝ่าด่านสู่การเป็นแชมป์
อย่างไรก็ตาม อาจมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองว่า ความสำเร็จดังกล่าวควรเป็นของพวกเขา และกลุ่มที่ว่านั้นคือ ชาวเมืองซีแอตเทิล เมืองที่ทีมนี้เคยอาศัย
จาก ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ กลายมาเป็น โอกลาโฮม่าซิตี้ ธันเดอร์ ได้อย่างไร ? Main Stand ขอพาทุกท่านย้อนชมมหากาพย์การย้ายเมืองในบาสเกตบอล NBA ที่กลายเป็นตราบาปของผู้ขายไปชั่วชีวิต
ดีลนี้เพื่อถอนทุน
ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ ถือกำเนิดเมื่อปี 1967 หลัง NBA มอบสิทธิ์การตั้งทีมบาสเกตบอลให้แก่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เมื่อ 1 ปีก่อนหน้า หรือปี 1966 ซึ่งชื่อ "ซูเปอร์โซนิคส์" มีที่มาเพื่อเป็นการยกย่องความสัมพันธ์ของเมืองกับอุตสาหกรรมการบิน โดยเกียรติประวัติของทีม คือการคว้าแชมป์ NBA 1 สมัย เมื่อปี 1979 ด้วยผู้เล่นระดับฮอลล์ออฟเฟมในเวลาต่อมาอย่าง เดนนิส จอห์นสัน MVP ในรอบชิงชนะเลิศปีนั้น และ แจ็ค ซิกม่า
ทว่าในปี 2001 อนาคตของโซนิคส์กลับอยู่ในเครื่องหมายคำถาม แม้ทีมได้เจ้าของใหม่ เมื่อ แบร์รี่ แอ็คเคอร์ลี่ย์ ตัดสินใจขายทีมให้กลุ่มทุน Basketball Club of Seattle (BCOS) ที่มี ฮาเวิร์ด ชูลซ์ เป็นโต้โผใหญ่
ชื่อของ ฮาเวิร์ด ชูลซ์ อาจดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย เพราะเขาคือยอด CEO ของ Starbucks ร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกที่มีต้นกำเนิดในเมืองซีแอตเทิล แต่ความจริงแล้ว การซื้อทีมครั้งนี้โดยชูลซ์และกลุ่ม BCOS มีขึ้นเพื่อ "ถอนทุน" กับการหาเจ้าของทีมรายใหม่ที่จะมารับช่วงต่อ
อย่างไรก็ตาม บางครั้งการจะขายของได้ ก็จำเป็นต้องมีการขัดสีฉวีวรรณ แต่งเสื้อผ้าหน้าผมเสียใหม่ และสำหรับทีมกีฬา หนึ่งในสิ่งที่จะดึงดูดให้มีนักลงทุนเข้ามาซื้อทีมได้ง่ายที่สุดคือ สนามแข่ง ที่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงหรือสร้างใหม่
แต่เนื่องจากสนามกีฬาต้องใช้งบประมาณสูงในการสร้างหรือปรับปรุง งบประมาณสนับสนุนจากเมืองที่ทีมตั้งอยู่จึงเป็นสิ่งจำเป็น ทว่าชูลซ์ประสบความล้มเหลวในการโน้มน้าวสภาเมืองซีแอตเทิล ให้ช่วยออกเงิน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการปรับปรุงและขยาย ซีแอตเทิล เซ็นเตอร์ อารีนา (หรือ คีย์อารีนา ตามสปอนเซอร์ในเวลานั้น) สนามแข่งขันที่สภาเมืองซีแอตเทิลเป็นเจ้าของ และมีความจุเพียง 17,072 ที่นั่ง เล็กที่สุดใน NBA ณ เวลานั้น
ถือทีมไว้นาน ๆ ก็เข้าเนื้อ ชูลซ์และกลุ่ม BCOS พยายามหานายทุนซื้อทีมโซนิคส์ แต่เมื่อไม่สามารถหาใครในเมืองซีแอตเทิล หรือรัฐวอชิงตันมาซื้อกิจการได้ ก็จำเป็นต้องเปิดรับข้อเสนอจากเมืองอื่น อาทิ แคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี่, เซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่, ลาสเวกัส รัฐเนวาดา, ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย และ อนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
สัญญาไม่เป็นสัญญา
ที่สุดแล้ว ชูลซ์และกลุ่ม BCOS ตัดสินใจรับข้อเสนอของกลุ่มทุนจากเมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ รัฐโอกลาโฮม่า ที่เล็งเห็นถึงผลประโยชน์จากการเป็นเจ้าของทีมใน NBA หลังเมืองโอกลาโฮม่าซิตี้เคยได้เป็นรังเหย้าเฉพาะกิจให้ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เน็ตส์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นิวออร์ลีนส์ เพลิแกนส์) ระหว่างปี 2005–2007 ช่วงที่เมืองนิวออร์ลีนส์ต้องบูรณะเมืองครั้งใหญ่หลังเจอพายุเฮอร์ริเคนแคทริน่า
การซื้อขายทีมโซนิคส์ ระหว่างกลุ่มทุน Basketball Club of Seattle (BCOS) ที่นำโดย ฮาเวิร์ด ชูลซ์ กับเจ้าของใหม่ กลุ่ม Professional Basketball Club (PBC) นำโดย เคลย์ เบนเนตต์ เกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ด้วยเงินประมาณ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแม้กลุ่มทุนใหม่จะมาจากเมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ก็ตาม แต่เบนเนตต์ให้สัญญาว่า เขาจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ อยู่ที่เมืองซีแอตเทิลต่อไป
แต่ปัญหาเรื่องสนามแข่งก็กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง เมื่อ ซีแอตเทิล เซ็นเตอร์ อารีนา เล็กและเก่าเกินไป เบนเนตต์จึงเข็นโปรเจ็กต์ใหม่ สนามแข่งแห่งใหม่มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เมืองเรนตัน รัฐวอชิงตัน ซึ่งอยู่ชานเมืองซีแอตเทิล แต่โปรเจ็กต์ดังกล่าวก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้สภาเมืองซีแอตเทิลอนุมัติงบประมาณดังกล่าวเพื่อสร้างสนามได้อยู่ดี
ที่สุดแล้ว เบนเนตต์จึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ... "ย้ายเมืองเท่านั้น" คือคำตอบ
สู้เพื่อรั้ง ปะทะ สู้เพื่อย้าย
เมื่อสภาเมืองซีแอตเทิลไม่ตอบรับคำขอในการสร้างสนามใหม่ เบนเนตต์เดินเกมต่อด้วยการยื่นคำร้องต่ออนุญาโตตุลาการว่า มีลู่ทางในการยกเลิกสัญญาเช่าใช้งาน ซีแอตเทิล เซ็นเตอร์ อารีนา ก่อนกำหนดที่จะหมดในปี 2010 ได้หรือไม่ เมื่อได้รับคำตอบว่า ไม่ได้ เบนเนตต์จึงแจ้งต่อ เดวิด สเติร์น คอมมิชชันเนอร์ของ NBA เมื่อปี 2007 ว่า จะขอนำทีมโซนิคส์ย้ายเมืองจากซีแอตเทิลไปโอกลาโฮม่าซิตี้ ทันทีที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
ทันทีที่แผนการนำทีมโซนิคส์ย้ายเมืองออกสู่สาธารณะ เสียงต่อต้านจากชาวเมืองซีแอตเทิลก็ดังขึ้นทันที พร้อมกับที่กลุ่มทุนท้องถิ่นพยายามขอซื้อทีมกลับ แต่เบนเนตต์ตอบสั้น ๆ แค่ "ทีมนี้ไม่ได้มีไว้ขาย" แถมย้อนเกล็ดด้วยการยื่นข้อเสนอในปี 2008 เพื่อยกเลิกสัญญาเช่าสนามแข่งที่ทำไว้กับสภาเมืองซีแอตเทิลก่อนกำหนด 2 ปีอีกด้วย แต่สภาเมืองปฏิเสธ
ฟากกลุ่มทุนในซีแอตเทิลก็ขอยื้ออีกเฮือก นำโดย สตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอ ณ ขณะนั้นของ Microsoft บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองซีแอตเทิล ที่สัญญาว่า จะออกงบปรับปรุง ซีแอตเทิล เซ็นเตอร์ อารีนา ที่สูงถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้ครึ่งหนึ่ง แต่สภาเมืองซีแอตเทิลก็ยังปฏิเสธจะออกเงินส่วนที่เหลือ ทำให้การย้ายเมืองยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นมากกว่าเดิมเข้าไปอีก
อย่างไรก็ตาม การย้ายเมืองของทีมใน NBA ต้องผ่านความเห็นชอบของเจ้าของทีมทุกทีมใน NBA ก่อน ซึ่งผลการโหวตเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2008 อนุมัติให้ ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ ย้ายสู่เมือง โอกลาโฮม่าซิตี้ ได้ด้วยคะแนน 28-2 แต่ที่สุดแล้ว เรื่องการย้ายเมืองของทีมซูเปอร์โซนิคส์ก็ต้องไปถึงชั้นศาล
กลุ่ม PBC ต้องขึ้นศาลใน 2 คดี คดีแรก สู้กับภาครัฐ เมืองซีแอตเทิล ซึ่งจบลงด้วยการเจรจานอกศาล โดยกลุ่ม PBC ตกลงจ่ายเงินให้เมืองซีแอตเทิล 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยกเลิกสัญญาเช่า ซีแอตเทิล เซ็นเตอร์ อารีนา ก่อนกำหนด และจะจ่ายเพิ่มอีก 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเมืองซีแอตเทิลไม่มีทีม NBA ทีมใหม่ประจำเมืองภายใน 5 ปี หลังข้อตกลง (ซึ่งสุดท้ายต้องจ่าย) โดยหลังย้ายสู่เมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ ห้ามทีมใช้ชื่อ ซูเปอร์โซนิคส์ และสีทีมเดิม เพราะทีมในอนาคตของเมืองซีแอตเทิลจะได้สิทธิ์นั้น โดยทีมโอกลาโฮม่าซิตี้จะรักษาประวัติศาสตร์ของโซนิคส์ไว้ ซึ่งสามารถแบ่งปันประวัติศาสตร์ให้ทีมในอนาคตของเมืองซีแอตเทิลได้
ส่วนอีกคดี กลุ่ม PBC เจ้าของใหม่ ต้องสู้กับชูลซ์และกลุ่ม BCOS เจ้าของเดิม ที่ต้องการให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกข้อตกลงการขายทีม ทำให้เมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ประกาศว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย พร้อมบังคับให้ทีมโซนิคส์ต้องย้ายเมืองตามข้อผูกมัดที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ อนุมัติงบประมาณกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการปรับปรุง โอกลาโฮม่าซิตี้ อารีนา (หรือ ฟอร์ด เซ็นเตอร์ ตามสปอนเซอร์ในเวลานั้น) รวมถึงสร้างสนามซ้อมไว้ติดกันเพื่อรองรับทีมแล้ว ก่อนที่ NBA จะยื่นเรื่องเพื่อขอแทรกแซง โดยอ้างว่าคดีของชูลซ์จะขัดขวางการดำเนินงานในการย้ายเมืองที่ผ่านมติจากเจ้าของทีมแล้ว ซึ่งศาลได้อนุมัติให้ NBA เข้ามาแทรกแซงได้ ทำให้ชูลซ์และกลุ่ม BCOS ตัดสินใจถอนฟ้อง เพราะรู้ว่าฟ้องไปก็ไม่ชนะ และยอมให้การย้ายเมืองเกิดขึ้นในที่สุด
ความสุข, การรอคอย และตราบาป
ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ ย้ายสู่เมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ในปี 2008 และได้ชื่อทีมใหม่ว่า โอกลาโฮม่าซิตี้ ธันเดอร์
โดยชื่อ "ธันเดอร์" มีที่มาจากการที่รัฐโอกลาโฮมามักเกิดพายุทอร์นาโด และมีฟ้าผ่าหรือร้องคำรามบ่อย ๆ จากการตั้งอยู่ในแถบตอนกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เรียกว่า ทอร์นาโด อัลลี่ย์ รวมถึงการที่เมืองโอกลาโฮม่าซิตี้ คือฐานทัพของกองพลทหารราบที่ 45 ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ฉายา "Thunderbird" ที่มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลี
นับแต่นั้นมา ธันเดอร์กลายเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของ NBA จากการที่ผู้เล่นชื่อดังหลายคนเคยลงเล่นให้ทีมนี้ อาทิ เควิน ดูแรนท์ (ถูกดราฟต์เข้าทีมเมื่อปี 2007 สมัยทีมยังใช้ชื่อ ซูเปอร์โซนิคส์), รัสเซลล์ เวสต์บรูค (ถูกดราฟต์เข้าทีมเมื่อปี 2008 ในฐานะผู้เล่น ซูเปอร์โซนิคส์ แต่ลงเล่น NBA ในฐานะผู้เล่น ธันเดอร์ส), เจมส์ ฮาร์เด้น, เซิร์จ อิบาก้า, พอล จอร์จ กระทั่งปัจจุบันที่ เช กิลจัส-อเล็กซานเดอร์, เจเลน วิลเลี่ยมส์ และ เชท โฮมเกรน นำทีมคว้าแชมป์ NBA ได้สำเร็จในปี 2025
และ โอกลาโฮม่าซิตี้ ธันเดอร์ จะยังคงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อยก็เกือบ 30 ปีหลังจากนี้ เพราะสภาเมืองโอกลาโฮม่าซิตี้เพิ่งอนุมัติการสร้างสนามแข่งแห่งใหม่ย่านใจกลางเมือง เพื่อแทนที่ โอกลาโฮม่าซิตี้ อารีนา (ปัจจุบันใช้ชื่อ เพย์คอม เซ็นเตอร์ ตามสปอนเซอร์) ในปี 2025 ก่อนทีมคว้าแชมป์ NBA ได้ไม่นาน โดยจะเปิดใช้งานในปี 2028 และทีมจะใช้สนามแข่งใหม่ไปจนถึงปี 2053 เป็นอย่างน้อย
ชาวเมืองโอกลาโฮม่าซิตี้และรัฐโอกลาโฮม่าเปี่ยมด้วยความสุข สวนทางกับชาวเมืองซีแอตเทิลและรัฐวอชิงตันอย่างเห็นได้ชัด เพราะแม้สภาเมืองซีแอตเทิลจะยอมอนุมัติงบปรับปรุง ซีแอตเทิล เซ็นเตอร์ อารีนา ในปี 2018 (ปัจจุบันใช้ชื่อ ไคลเมต เพลดจ์ อารีนา ตามข้อตกลงกับ แอมะซอน บริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง) แต่ก็ยังไม่สามารถดึงดูดทีมใน NBA ให้มาใช้สนามแห่งนี้เป็นรังเหย้าได้ และแม้จะมีการทาบทามหลายทีมให้ย้ายมายังเมืองซีแอตเทิลก็ตาม แต่ก็ล้มเหลวทั้งหมด
ทุกวันนี้ ชาวเมืองซีแอตเทิลยังคงรอคอยทีมบาสเกตบอล NBA ประจำเมือง ไม่ว่าจะจากการย้ายทีม หรือการมอบสิทธิ์ตั้งทีมใหม่จาก NBA ก็ตาม และหนึ่งในคนที่เสียใจกับการหายไปของ ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ ไม่ใช่ใครที่ไหน ... ฮาเวิร์ด ชูลซ์ ที่ยอมรับว่า เรื่องนี้จะเป็นตราบาปติดตัวเขาไปชั่วชีวิต
"การขายทีมโซนิคส์ คือหนึ่งในความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานของผม ผมควรเต็มใจที่จะสูญเงินมากกว่านี้ จนกว่าจะมีคนท้องถิ่นมาซื้อทีมนี้ไปจากผม"
แหล่งอ้างอิง
https://www.sportingnews.com/uk/nba/oklahoma-city-thunder/news/thunder-leave-seattle-sonics-relocation-oklahoma-city/df0d17b1a991491e31307035
https://fadeawayworld.net/the-seattle-supersonics-saga-the-story-behind-the-move-to-oklahoma-city
https://www.cbssports.com/nba/news/thunder-to-remain-in-oklahoma-city-as-mayor-signs-lease-keeping-team-through-at-least-2053/
https://www.oklahoman.com/story/sports/nba/thunder/2025/06/11/how-okc-thunder-got-name-2008-seattle-supersonics-relocation-nba/84118165007/
https://www.si.com/nba/thunder-transfer-history-seattle-supersonics-expansion
https://en.wikipedia.org/wiki/Seattle_SuperSonics_relocation_to_Oklahoma_City