ลูตัน ทาวน์ เก็บคะแนนไปได้เพียง 49 คะแนน จบในอันดับที่ 22 ของตารางคะแนนแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2024-25 ส่งให้พวกเขาต้องลงไปเล่นในลีกวัน ฤดูกาล 2025-26 เป็นที่เรียบร้อย
คงไม่มีใครคาดคิดว่า ลูตัน ทาวน์ จะลงไปเล่นถึงลีกระดับ 3 ของอังกฤษ เนื่องจากหากย้อนกลับไปในฤดูกาล 2023-24 พวกเขายังเล่นในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษอยู่เลย
แถมการที่พวกเขาตกชั้นลงมาอยู่ในลีกรองในซีซั่นนี้ ด้วยชื่อชั้นและประสบการณ์จากลีกสูงสุด ทำให้ ลูตัน ทาวน์ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมเต็งในปีนี้ที่จะกลับขึ้นไปสู่พรีเมียร์ลีก อีกครั้งได้ไม่ยาก แต่การคาดการณ์กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะจากทีมเต็งขึ้นชั้น กลายเป็นทีมที่ต้องตกชั้นลงไปอยู่ในลีกที่ต่ำกว่าเดิมในท้ายที่สุด
เพราะอะไร ผลงานของ ลูตัน ทาวน์ กลับดิ่งลงเหวไปมากกว่าเดิม ? ร่วมติดตามไปพร้อมกันได้ที่ Main Stand
นักเตะเปลี่ยนแปลงพอสมควร
ลูตัน ทาวน์ ถือว่าทำผลงานได้เกินความคาดหมายเป็นอย่างมากในตอนสมัยที่พวกเขาลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-24
แม้พวกเขาจะไม่สามารถอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ ลูตัน ทาวน์ สามารถเก็บคะแนนไปได้ถึง 26 คะแนน ก็ถือว่าเป็นผลงานในสนามที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด
นอกเหนือจากนั้น รูปแบบแผนการเล่นของ ลูตัน ทาวน์ ที่มาในสไตล์วิ่งเพรสซิ่งไล่บดคู่แข่งตลอดทั้ง 90 นาที ก็กลายเป็นสิ่งที่เหล่าทีมใหญ่ต่างรับมือ ลูตัน ได้ค่อนข้างยากเช่นกัน และด้วยการที่นักเตะทุกคนภายในทีมต่างวิ่งไล่ใส่สุดราวกับหมาล่าเนื้อ ก็เป็นอีกเหตุผลที่เหล่าแฟนบอลส่วนใหญ่ตามเอาใจช่วยให้ทีมดังจากแคว้นเบดฟอร์ดเชียร์ กลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดให้ได้อีกครั้ง
ทว่าการที่ ลูตัน ทาวน์ ตกชั้นในครั้งนี้ ก็เป็นเหตุผลสำคัญให้ดาวเตะตัวหลักของพวกเขาหลายรายต่างเลือกย้ายออกจากทีม เพื่อไปหาโอกาสในการเล่นให้กับสโมสรที่อยู่บนลีกสูงสุดและใหญ่มากกว่าเดิม
เริ่มจากในรายของ ชีโดซี่ อ็อกเบเน่ ย้ายไปร่วมทีม อิปสวิช ทาวน์ ค่าตัว 9.5 ล้านปอนด์, รอสส์ บาร์คลี่ย์ ย้ายไปอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 5.9 ล้านปอนด์, กาเบรียล โอโช่ และ แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ 2 แข้งกำลังสำคัญของทีมที่เลือกไม่ต่อสัญญากับ ลูตัน ทาวน์ พร้อมกับย้ายออกไปจากทีมในฐานะผู้เล่นฟรีเอเย่นต์
รวมไปถึงในรายของ อิสซ่า คาโบเร่ ดาวเตะตัวยืมจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เลือกขอไม่อยู่กับทีมต่อไป ทั้งที่ในเวลาแรกทางฝั่งของ ลูตัน ทาวน์ ได้ทำการยื่นข้อเสนอขอยืมตัวเพิ่มเติมไปอีก 1 ฤดูกาล และทางฝั่งของต้นสังกัดก็ได้ตอบรับแล้วเช่นกัน แต่กลับเป็นทางตัวนักเตะเองที่เลือกปฏิเสธข้อเสนอนี้ ก่อนย้ายไปอยู่กับ เบนฟิก้า ทีมยักษ์ใหญ่ในประเทศโปรตุเกสแทน
อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานบอร์ดบริหารของ ลูตัน ทาวน์ ก็ไม่นิ่งนอนใจเกี่ยวกับการเสียผู้เล่นกำลังหลักออกจากทีมไปเช่นกัน และทางบอร์ดได้ตัดสินใจทุ่มเงินจำนวนหนึ่งให้กับทาง ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ กุนซือของทีม ในการจับจ่ายใช้สอยดึงตัวผู้เล่นเข้ามาร่วมทีม เพื่อหวังพาทัพ “เดอะ แฮตเตอร์ส” คืนสู่พรีเมียร์ลีกให้ได้อีกครั้งภายในระยะเวลา 1 ปี
เราจึงได้เห็นชื่อของ รีล วอลเตอร์ส แบ็กขวาเด็กปั้นจาก อาร์เซน่อล, เลียม วอลช์ กองกลางจาก สวอนซี, แชนดอน บัปติสท์ กองกลางของ เบรนท์ฟอร์ด และ วิคเตอร์ โมเซส ริมเส้นสารพัดประโยชน์อดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล และ เชลซี ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016-17 ที่ต่างย้ายเข้ามาร่วมทีม ลูตัน ทาวน์ ในฐานะผู้เล่นฟรีเอเย่นต์
นอกเหนือจากนั้น ยังมีในรายของ มาร์ค แมคกินเนส กองหลังของ คาร์ดิฟฟ์ ที่พวกเขาใช้เม็ดเงินสูงถึง 12 ล้านปอนด์ในการดึงตัวดาวเตะรายนี้เข้ามาร่วมทีม, ลามีน ฟานเน ดาโบ้ กองกลางดาวรุ่งจาก เอไอเค ทีมในประเทศสวีเดน ค่าตัว 5 ล้านปอนด์ และ ทอม เคราส์ เพลย์เมคเกอร์จาก ไมนซ์ 05 ที่แม้ว่าจะย้ายมาร่วมทีมในรูปแบบของการยืมตัว แต่ทาง ลูตัน ทาวน์ ก็ต้องเสียเงินค่ายืมตัวให้กับทางต้นสังกัดด้วยจำนวนเงิน 1.5 ล้านปอนด์เช่นกัน
ปัญหารุมล้อมมากมาย
การเปลี่ยนแปลงที่เยอะมากพอสมควร เป็นเหตุให้ในช่วงผลงานครึ่งแรกในซีซั่นนี้ของ ลูตัน ทาวน์ พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะไปได้เพียง 6 นัดเท่านั้น และเผชิญกับความพ่ายแพ้มากถึง 12 นัด รั้งอันดับที่ 20 จาก 24 ของตาราง มีคะแนนห่างจาก ฮัลล์ ซิตี้ ทีมในโซนตกชั้นเพียง 2 คะแนนเท่านั้น
และด้วยผลงานที่ย่ำแย่ของสโมสร ส่งผลให้ทางบอร์ดบริหารเลือกที่จะทำการปลด ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชในทันที พร้อมกับแต่งตั้งทาง แมตต์ บลูมฟิลด์ อดีตนายใหญ่ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ทีมฟอร์มแรงใน ลีกวัน เข้ามาทำหน้าที่คุมทีมแทน
“ผมคิดว่า ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งช้าเกินไป เขาบริหารทีมได้ย่ำแย่มาก ความจริงพวกเราควรลุ้นขึ้นชั้น ไม่ใช่มาลุ้นหนีตกชั้น แล้วบอร์ดทำอะไรอยู่ ? ทำไมถึงเพิ่งจะมาปลดเขาออกจากตำแหน่ง” โรบิน วีลเลอร์ส กองเชียร์สายฮาร์ดคอร์ของ ลูตัน ทาวน์ ต่อว่าบอร์ดบริหารที่ไม่ยอมเปลี่ยนโค้ชเสียที จนทีมต้องมาดิ้นรนหนีตกชั้น
“การตกชั้นเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และหากพวกเราตกชั้นภายในระยะเวลา 1 ปี จากการที่เพิ่งตกมาจากพรีเมียร์ลีก มันเป็นอะไรที่รับไม่ได้ แต่ผมก็ยังพยายามคิดบวกอยู่เสมอว่า ลูตัน ทาวน์ จะไม่มีทางตกชั้น 2 ปีติดต่อกัน ผมขอให้มันเป็นจริงเถอะ” โรบิน วีลเลอร์ส ยังเชื่อว่า ลูตัน ทาวน์ จะไม่มีทางตกชั้นในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสาเหตุที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมองว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ลูตัน ทาวน์ มีผลงานที่ตกลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด นั้นคือเหล่าผู้เล่นแกนหลักของทีมจากฤดูกาลที่แล้วที่ต่างพากันมีฟอร์มส่วนตัวที่ย่ำแย่กันแทบทุกคนในฤดูกาลนี้
เริ่มจากในรายของ โธมัส คามินสกี้ นายทวารจอมเก๋าของทีมที่มีผลงานในการเซฟประตูตกลงไปมากพอสมควร เพราะถ้าหากย้อนกลับไปสมัยที่เจ้าตัวเฝ้าเสาให้กับ ลูตัน ทาวน์ ตอนลงเล่นในพรีเมียร์ลีก เขาได้สร้างสถิติการเซฟประตูไปมากถึง 144 ครั้ง ซึ่งเป็นรองเพียง อองเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงรายเดียวที่เซฟไปได้มากถึง 149 ครั้ง ในฤดูกาล 2023-24
ทว่าในฤดูกาลปัจจุบัน หากดูจากสถิติของการเซฟของ โธมัส คามินสกี้ ที่ลดเหลือเพียง 120 ครั้งเท่านั้น ทั้งที่ตอนเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวลงสนามไปเพียง 38 นัดเท่านั้น แต่หลังจากที่ลงมาเล่นในแชมเปี้ยนชิพ คามินสกี้ เฝ้าเสาให้กับ ลูตัน ทาวน์ ไปมากถึง 45 นัด
นอกเหนือจากนั้น ค่า xG การเสียประตูของ โธมัส คามินสกี้ ยังมีมากถึง 40.2 ซึ่งหากไปนับ ค่า xG รวมแล้ว คามินสกี้ เสียประตูในแต่ละนัดมากถึง 2 ถึงเกือบ 3 ประตูในแต่ละนัด และค่าจำนวนสถิติดังกล่าว ยังส่งให้ทาง คามินสกี้ กลายเป็นผู้รักษาประตูที่มีผลงานย่ำแย่เป็นอันดับที่ 4 ของลีกแชมเปี้ยนชิพในปีนี้
นอกจาก โธมัส คามินสกี้ ที่มีผลงานตกลงไปอย่างชัดเจนแล้ว ผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าของทีมอย่าง คาร์ลตัน มอร์ริส และ เอไลจาห์ อเดบาโย ที่ต่างเคยพังประตูในสมัยตอนเล่นพรีเมียร์ลีกไปมากกว่า 10 ประตูทั้งคู่ แต่หลังจากที่ตกมาเล่นในแชมเปี้ยนชิพ ผลงานการทำประตูของพวกเขาต่างลดลงไปมากพอสมควร
คาร์ลตัน มอร์ริส ทำไปได้เพียง 8 ประตูเท่านั้น จากการลงสนามไปทั้งหมด 41 นัด ส่วนในราย ของ เอไลจาห์ อเดบาโย สามารถทำประตูคู่แข่งเพียง 5 ประตู และด้วยสาเหตุที่ทั้ง มอร์ริส และ อเดบาโย ต่างมีผลงานที่ดร็อปลงไป กลายเป็นเหตุผลสำคัญส่งผลให้ทาง ลูตัน ทาวน์ เป็นทีมที่ทำประตูได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก ทำไปได้เพียง 45 ประตูเท่านั้น ซึ่งมากกว่าแค่ ฮัลล์ ซิตี้ เพียงทีมเดียวที่ทำไปได้ 44 ประตู
ไม่เว้นแต่นักเตะเนื้อหอมของทีมอย่าง เทเดน เมนจี้, อัลฟี่ ดอว์ตี้ และ ทาฮิธ ชอง ที่ก่อนหน้าฤดูกาล 2024-25 จะเริ่ม พวกเขาทั้ง 3 เป็นนักเตะที่หลายทีมในพรีเมียร์ลีกต่างให้ความสนใจอยากดึงตัวไปร่วมทีมทั้งหมด แต่ทาง ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ และบอร์ดบริหาร ต่างยกให้ เมนจี้, ดอว์ตี้ และ ชอง เป็นกุญแจสำคัญของทีมในการพา ลูตัน ทาวน์ เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด
แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบที่พวกเขาคิดเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากดาวเตะทั้ง 3 รายนี้ ต่างพากันได้รับอาการบาดเจ็บหนักอยู่ตลอดแทบทั้งฤดูกาล ยิ่งในรายของ เทเดน เมนจี้ ที่หายหน้าหายตาไปยาวนานถึง 5 เดือนเต็ม จากการบาดเจ็บบริเวณขาหนีบ เป็นที่มาให้ฤดูกาลนี้ เมนจี้ ลงสนามช่วย ลูตัน ทาวน์ ไปได้เพียง 20 นัดเท่านั้น
ส่วนทางฝั่งของ อัลฟี้ ดอว์ตี้ และ ทาฮิธ ชอง ที่แม้ว่าจะไม่เจออาการบาดเจ็บที่หนักถึงขั้นพักฟื้นยาวนานเท่ากับในรายของ เทเดน เมนจี้ แต่พวกเขาทั้งสองก็ต่างมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่แทบทั้งฤดูกาล เป็นเหตุให้ทั้ง ดอว์ตี้ และ ชอง ก็ได้ลงสนามให้กับ ลูตัน ทาวน์ ในปีนี้ไม่ถึง 30 นัดด้วยกันทั้งสิ้น
บอร์ดโฟกัสแต่เรื่องสร้างสนาม
ผลงานในครึ่งแรกของซีซั่นที่จมอยู่ในโซนท้ายตาราง จึงเป็นที่มาให้บอร์ดบริหารไม่รอช้าที่จะนำงบประมาณมาให้ทางกุนซือคนใหม่อย่าง แมตต์ บลูมฟิลด์ ใช้เสริมผู้เล่นเพื่อหวังจะยกระดับผลงานของทีมให้ดีขึ้นจนหนีโซนตกชั้นให้ได้สำเร็จ
จอร์ช โบว์เลอร์ และ คาล ไนล์สมิธ ย้ายจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ กับ บริสตอล ซิตี้ มาร่วมทีมในรูปแบบยืมตัว พร้อมกับยังทุ่มเงินซื้อตัว มิลเลนิก อัลลี, คริสต์ มาคอสโซ่, ธีโล อัสการ์ด, ลาสเซอ นอร์ดัส และ ไอเซอาห์ โจนส์ โดยใช้เงินในการช็อปปิ้งผู้เล่นครั้งนี้เป็นจำนวนราว ๆ 16 ล้านปอนด์
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้งบประมาณจำนวนนี้ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยต่อการเสริมทัพสำหรับทีมในศึกแชมเปี้ยนชิพ แต่ก็ยังถือว่าไม่เพียงพอต่อความต้องการแฟนบอลของ ลูตัน ทาวน์ เช่นกัน
เนื่องจากมีแฟนบอลฮาร์ดคอร์ส่วนหนึ่งของทาง ลูตัน ทาวน์ ที่ออกมาโจมตีบอร์ดบริหาร ถึงการเสริมทัพผู้เล่นที่พวกเขาต่างมองว่าทีมซื้อตัวเข้ามาน้อยจนเกินไป และเกรงว่าขุมกำลังที่ทีมมีอยู่ในเวลานี้จะไม่เพียงพอต่อการดิ้นรนหนีตกชั้น
แม้ว่าทางบอร์ดบริหารจะไม่ได้ออกมาแก้ต่างเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่จากการรายงานของแหล่งข่าวในประเทศอังกฤษแทบทุกสำนักต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เหตุผลที่บอร์ดบริหาร ลูตัน ทาวน์ เลือกที่จะไม่ทุ่มงบประมาณเพิ่มเติม เป็นเพราะว่าพวกเขาต้องรัดเข็มขัดในการใช้เงินและไม่สามารถใช้รายจ่ายไปได้มากกว่าจำนวนนี้แล้ว
ซึ่งเหตุผลหลักที่ทาง ลูตัน ทาวน์ ไม่สามารถใช้เงินได้ นั้นมาจากบอร์ดบริหารของทีมเพิ่งอนุมัติงบประมาณจำนวน 450 ล้านปอนด์ ในการสร้างรังเหย้าของพวกเขาขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่ใช้สนาม เคนิลเวิร์ธ โร้ด มาตั้งแต่ปี 1905 จะปรับเปลี่ยนมาใช้ เพาเวอร์คอร์ต สเตเดี้ยม ที่ทางสโมสรได้วางแผนให้สนามแห่งนี้เสร็จสิ้นและพร้อมใช้งานในปี 2028
โดยสาเหตุหลักที่ทาง ลูตัน ทาวน์ เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงสนามในครั้งนี้ มาจากสาเหตุที่บอร์ดบริหารต่างมองว่ารังเหย้าเดิมของพวกเขาอย่าง เคนิลเวิร์ธ โร้ด มีความจุทั้งสนามได้เพียงแค่ 12,000 คนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากในฟุตบอลยุคนี้ จึงเป็นเหตุผลหลักให้พวกเขาเลือกนำงบประมาณก้อนโตไปใช้ในการสร้าง เพาเวอร์คอร์ต สเตเดี้ยม ที่จะมีความจุคนดูได้จำนวนมากถึง 25,000 คน
“ความจุต่อผู้ชมในสนามถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อสโมสร พวกเรารับรู้ถึงปัญหาสนามของทีมเราที่มีหลายประการที่ควรปรับแก้ เราจึงยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า ลูตัน ทาวน์ จะมีการสร้างสนามแห่งใหม่ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า เพาเวอร์คอร์ต สเตเดี้ยม และคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในปี 2028” แกรี่ สวีท CEO ของสโมสร ลูตัน ทาวน์ กล่าวถึงเรื่องการสร้างสนามขึ้นมาใหม่
“เราจึงจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างจำกัดในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เพื่อให้สภาพการเงินของทีมอยู่ในเกณฑ์ปกติเช่นเดิม แม้ว่าปัจจุบันพวกเราจะยังมีรายได้งบดุลของสโมสรที่ยังดีอยู่ แต่เราก็ต้องคำนึงถึงเรื่องนั้นด้วยเช่นกัน ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นทีมที่ผมรักมีสนามขึ้นมาใหม่ ผมสัญญาว่าจะยกระดับ ลูตัน ทาวน์ ให้พัฒนาขึ้นไปมากกว่าเดิมให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้” แกรี่ สวีท กล่าวเพิ่มเติม
ตกชั้น 2 ปีซ้อน
จากคำกล่าวของ แกรี่ สวีท เรื่องที่ทีมต้องนำงบประมาณไปใช้ในการสร้างสนามขึ้นมาใหม่ ก็ดูเหมือนว่าจะมีกลุ่มแฟนบอลจำนวนหนึ่งที่เข้าใจและรับได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็มีอีกส่วนใหญ่เช่นกันที่ต่างมองว่าทีมกำลังตกอยู่ในสภาวะดิ้นรนหนีการตกชั้น ทำไมถึงไม่เลือกนำงบประมาณส่วนหนึ่งมาใช้จ่ายในการซื้อตัวนักเตะเสียก่อน
ซึ่งเรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นมรสุมที่ปะทุแรงมากขึ้น หลังจากที่ผลงานในช่วงครึ่งหลังของทีมก็ยังดูไม่กระเตื้องขึ้น จากเดิมในช่วงครึ่งแรกของซีซั่นที่ ลูตัน ทาวน์ ภายใต้การคุมทีมของ ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ทีมยังไม่เคยตกไปสู่พื้นที่ตกชั้นแม้แต่ครั้งเดียว
แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงมาใช้งานทางด้าน แมตต์ บลูมฟิลด์ ดูเหมือนผลงานของทีมจะดำดิ่งไปมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้เพียง 2 นัดเท่านั้น จากการคุมทีมในช่วง 15 นัดแรก ก่อนที่ ลูตัน ทาวน์ จะตกลงไปอยู่พื้นที่โซนตกชั้นในท้ายที่สุด
แม้ว่าในช่วงท้ายฤดูกาลผลงานของ ลูตัน ทาวน์ จะดูดีขึ้นมากกว่าเดิม พวกเขาพบกับความปราชัยเพียง 2 นัดเท่านั้น จากในโปรแกรมช่วง 9 นัดหลังสุด แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ทัพ เดอะ แฮตเตอร์ส ดีพอต่อการอยู่รอดต่อไปในศึกแชมเปี้ยนชิพ ส่งผลให้พวกเขาต้องพบกับการตกชั้นอีกครั้ง 2 ปีซ้อน
ถึงขั้นในเกมนัดสุดท้ายที่ทาง ลูตัน ทาวน์ บุกไปแพ้ให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 5-3 และส่งผลให้ทีมต้องกระเด็นตกไปอยู่ ลีกวัน ในฤดูกาลหน้า ได้มีแฟนบอลอาวุโสท่านหนึ่งที่ตามเชียร์ ลูตัน ทาวน์ มามากกว่า 20 ปี อย่าง นิคกี้ มาร์นิก-ฮอลล์ ถึงกับทนไม่ไหวในเหตุการณ์ครั้งนี้ และร่ำไห้ออกมาอย่างหนักในตอนที่ให้สัมภาษณ์ความรู้สึกที่ทีมตกชั้น ผ่านสำนักข่าวท้องถิ่นในเมืองลูตัน
“มันน่าทึ่งมากสำหรับผลงานของพวกเราตอนที่ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ในวันที่พวกเราต้องตกชั้นกลับมาอยู่ที่เดิม ฉันก็พอเข้าใจได้ และเชื่อว่า ลูตัน ทาวน์ จะสานต่อผลงานที่ดีเพื่อกลับขึ้นไปสู่ลีกสูงสุดให้ได้อีกครั้ง”
“แต่พอเปิดฤดูกาลแชมเปี้ยนชิพ มันกลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง พวกเราเสียผู้เล่นตัวหลักเยอะเกินไป ผู้เล่นตัวใหม่กับผู้เล่นเดิมที่มีอยู่ก็ยังไม่เข้าใจกัน ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูตัน ทาวน์ จะฟอร์มดิ่งได้ไวขนาดนี้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าทีมที่ฉันรักและตามเชียร์มามากกว่า 20 ปี จะต้องตกชั้นถึง 2 ปีติดต่อกัน บางทีฉันก็แอบกลัวว่าการตกชั้นในครั้งนี้ ฉันอาจจะไม่ได้เห็นทีมรักแห่งนี้กลับขึ้นมาสู่ลีกระดับสูงสุดของประเทศเช่นกัน”
คำพูดของ นิคกี้ มาร์นิก-ฮอลล์ ก็กลับมาทำให้น่าคิดได้เช่นกัน เนื่องจากเราได้เห็นหลายสโมสรชื่อดังในอดีต อาทิเช่น วีแกน แอธเลติก กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่ต่างเคยเป็นทีมในประเทศอังกฤษ แต่ในปัจจุบันทีมเหล่านี้ต่างตกชั้นลงไปเล่นในลีกล่างและชื่อเสียงก็เริ่มลดหายลงไปในท้ายที่สุด เหลือแต่เพียงเรื่องราวในอดีตเท่านั้นที่จะทำให้นึกถึงสโมสรเหล่านี้ได้
แม้ว่าทางฝั่งของ แมตต์ บลูมฟิลด์ เฮดโค้ชของทีม จะออกมาให้ความเชื่อมั่นต่อเหล่าแฟนบอลว่าตัวเขา, บอร์ดบริหาร และนักเตะในทีมทุกคนที่จะอยู่กับทีมในฤดูกาลหน้า จะพยายามทำทุกวิถีทางและขอเวลาเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นที่จะพา ลูตัน ทาวน์ กลับขึ้นมาสู่แชมเปี้ยนชิพให้ได้อีกครั้ง
“มันคือความเจ็บปวดที่เราต้องตกชั้นในครั้งนี้ ผมและทุกคนในทีมต่างรู้สึกผิดหวังและผมก็รับรู้ได้เช่นกันว่าแฟนบอลทุกคนเดือดดาลมากขนาดไหน ผมขอสัญญาเลยว่าผมจะพา ลูตัน ทาวน์ กลับขึ้นมาสู่แชมเปี้ยนชิพให้ได้ภายในระยะเวลาปีเดียว”
คงต้องติดตามเรื่องราวของ ลูตัน ทาวน์ ไปพร้อมกันว่า พวกเขาจะสามารถกลับขึ้นมาสู่ลีกระดับสูงได้อีกครั้งหรือไม่ เพราะถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเช่นกันหาก ลูตัน จะเป็นอีกหนึ่งทีมในอังกฤษที่หายไปจากสาระบบ เหมือนกับหลายทีมในอดีตที่หายไป หลังจากตกไปสู่ลีกล่าง ๆ จนไม่สามารถกลับขึ้นมาได้อีกเลยกระทั่งทุกวันนี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.besoccer.com/team/transfers/luton-town-fc
https://www.lutontown.co.uk/en/matches/luton-town/results/2024
https://www.lutontown.co.uk/en/news/major-power-court-milestone-announced
https://www.bbc.com/sport/football/articles/c98y5jy3ng9o
https://www.bbc.com/news/articles/cly50l6qwdko
https://www.bbc.com/sport/football/articles/cm2x6ky8x24o
https://www.statmuse.com/fc/ask?q=most+saves+in+premier+league+2023-24