Feature

หมดเวลาแล้ว ? : หรือว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ อาจจะยังไม่ใช่กองหน้าที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหา | Main Stand

ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำประตูไปได้เพียง 8 ประตู จากการลงสนามไปทั้งหมด 45 นัดรวมทุกรายการให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2024-25

 


จากฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ส่งผลให้แฟนบอลปีศาจแดงส่วนใหญ่ต่างมองว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ ไม่มีทางที่จะทำผลงานได้ดีไปมากกว่านี้แล้วกับการเป็นศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ให้กับทีม 

เพราะอะไร แข้งดาวรุ่งค่าตัว 70 ล้านปอนด์รายนี้ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุ่มซื้อตัวเข้ามาร่วมทีมในปี 2023 ถึงพังไม่เป็นท่ากับทีม ติดตามเรื่องนี้ไปพร้อมกับ Main Stand

 

ปีแรก เพื่อนไม่ส่ง

อย่างที่ทราบกันว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการตัวมาร่วมทีม เพราะทาง เอริค เทน ฮาก และทีมงานได้วางเป้าหมายผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเป็นทางด้าน แฮร์รี่ เคน และ วิคเตอร์ โอซิเมน

แต่ด้วยค่าตัวที่ทางต้นสังกัดของนักเตะทั้ง 2 ราย ได้ตั้งไว้คนละมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจหันหลังให้กับทั้ง เคน และ โอซิเมน และหันมามองตัวเลือกที่ 3 นั่นคือ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งวัย 20 ปี จากทาง อตาลันต้า ที่ทัพปีศาจแดงสามารถปิดดีลคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยราคา 70 ล้านปอนด์

แม้ว่าในเวลานั้น ราสมุส ฮอยลุนด์ จะถูกมองว่ามีราคาค่าตัวในการย้ายทีมมากเกินไป แต่ถ้าหากไปย้อนดูฟอร์มของเขากับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงฤดูกาลแรก ถือว่า ฮอยลุนด์ ทำผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจด้วยเช่นกัน 

ถึงขั้นเคยมีอยู่ช่วงหนึ่งของฤดูกาล 2023-24 ที่ทาง ราสมุส ฮอยลุนด์ เคยสร้างสถิติด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สามารถทำประตูได้ 6 นัดติดต่อกัน ด้วยอายุเพียง 21 ปี 14 วัน ทำลายสถิติเดิมของ โจ วิลล็อก ที่เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2020-21 ด้วยอายุ 21 ปี 272 วัน

แม้ว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ จะสามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ช่วงแรกของการย้ายมาอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่หนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือเพื่อนร่วมทีมในแนวรุก อาทิเช่น มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ค่อนข้างหวงบอลไม่ค่อยส่งบอลให้กับ ฮอยลุนด์ ในการทำประตูมากนัก

ซึ่งหากไปดูจากเชิงตัวเลขสถิติก็ถือว่าเห็นภาพอยู่พอสมควร เนื่องจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ มีอัตราโอกาสในการทำประตูตลอดทั้งฤดูกาล 2023-24 เพียงแค่ 0.35 ครั้งเท่านั้นต่อ 90 นาที ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากสำหรับการเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า 

“ผมคิดว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ จะทำประตูได้มากกว่านี้ ถ้าเพื่อนร่วมทีมจ่ายบอลให้เขา เราได้เห็นแล้วว่าเขาเป็นเด็กที่มีความมั่นใจสูง แต่ผมว่าเขาจะได้รับความมั่นใจมากกว่านี้ หากทำประตูได้มากกว่าเดิม”

“แต่ถ้าหากดูนักเตะในแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาแทบไม่เคยมองหา ฮอยลุนด์ แม้แต่ครั้งเดียว พวกเขามีแต่พยายามก้มหน้าเลี้ยงบอลเพื่อไปทำประตูด้วยตนเอง” รุด กุลลิท ตำนานนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในฐานะผู้สันทัดกรณีด้านเกมลูกหนัง วิจารณ์ถึงแนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่ยอมส่งบอลให้ ฮอยลุนด์

แม้ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เพื่อนร่วมทีมในแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่ค่อยส่งบอลให้เขาทำประตู และเน้นไปการมุ่งทำประตูด้วยตัวเองเสียมากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากยกเรื่องผลงานในเรื่องของการทำประตูในปีแรกสำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็ถือว่าไม่ขี้เหร่มากนัก เพราะเขาจบฤดูกาลไปด้วยการทำประตูรวมทุกรายการไปได้มากถึง 16 ประตู และจบลงด้วยการเป็นดาวซัลโวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประจำฤดูกาล 2023-24

 

ปีที่สอง เพื่อนส่ง แต่ไม่ยิง

ปัญหาของผู้เล่นแนวรุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูได้ลดน้อยลงไปจากเดิมทำไปได้เพียง 57 ประตูเท่านั้นใน พรีเมียร์ลีก ส่งผลให้หลังจบฤดูกาล 2023-24 พวกเขาไม่รอช้าที่จะเสริมผู้เล่นในแนวรุกเข้ามาใหม่ เพื่อหวังยกระดับการจบสกอร์ให้ดีขึ้นมากกว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา เหตุนี้เองจึงเป็นที่มาให้สโมสรตัดสินใจทุ่มเงินราว 34 ล้านปอนด์ กระชากตัว โจชัว เซิร์กซี กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ จากสโมสร โบโลญญ่า เข้ามาร่วมทีม

นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องของการทำประตูให้มากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งสาเหตุที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกดึงตัว โจชัว เซิร์กซี เข้ามาร่วมทีม เป็นเพราะว่า เอริค เทน ฮาก ต้องการให้ เซิร์กซี เข้ามาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับทาง ราสมุส ฮอยลุนด์ ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของทีม

เนื่องจากหากย้อนกลับไปในช่วงฤดูกาลแรกของ ราสมุส ฮอยลุนด์ เขากลายเป็นนักเตะที่ครองสัมปทานผู้เล่น 11 ตัวจริงมาโดยตลอด ไม่ใช่เพราะว่า ฮอยลุนด์ โชว์ผลงานได้ดีเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาลแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่าทีมมีผู้เล่นที่ยืนในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวเท่านั้นภายในทีม 

เห็นได้ชัดเจนเลยว่าการย้ายเข้ามาของ โจชัว เซิร์กซี ส่งผลให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่มีความมุ่งมั่นและกระหายมากอยู่แล้ว ยิ่งกระหายมากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน นอกเหนือจากนั้นดูเหมือนว่าเรื่องของการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมในแนวรุกก็ดีขึ้นมากกว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา

เพราะว่าทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เริ่มมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่นที่แม้ว่าจะยังมีความเป็น “เดอะมุ่ง” ดั่งฉายาคุ้นหูแฟนบอลไทยที่ตั้งให้กับ 2 แข้งรายนี้ แต่เรื่องของการส่งบอลหรือหาโอกาสให้กับ ฮอยลุนด์ ก็เริ่มมีขึ้นให้เห็นด้วยเช่นกัน

ดูเหมือนว่าฤดูกาลที่ 2 ของ ราสมุส ฮอยลุนด์ กับทาง แมนฯ ยูไนเต็ด จะดีขึ้นมากกว่าเดิมหากดูจากผลงานช่วงต้นฤดูกาลที่เจ้าตัวสามารถยิงได้ติดต่อกันทั้งในการเล่นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงในฟุตบอลยุโรป แต่ทว่าพอนานเข้ากราฟผลงานการทำประตู ของ ฮอยลุนด์ กลับเริ่มดิ่งลงอย่างน่าตกใจ รวมไปถึงเรื่องของการเล่นโดยรวมที่แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างถอนหายใจกับการเล่นของดาวเตะรายนี้ และกลายเป็นนักเตะคนแรก ๆ ของทีมที่แฟนบอลอยากให้เฮดโค้ชคนปัจจุบันอย่าง รูเบน อโมริม ดรอปไว้ที่ม้านั่งสำรอง

“จับบอลกระดอน จ่ายบอลไม่ตรง หาตำแหน่งไม่ถูก ยืนให้กองหลังฝ่ายตรงข้ามประกบ ทำประตูไม่คม” คือภาพที่เห็นจนชินตาจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ ในฤดูกาล 2024-25 เหตุนี้เองเราจึงเห็นอยู่หลายครั้งในฤดูกาลนี้ที่เพื่อนร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด รายอื่นเริ่มแสดงกิริยาออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเบื่อหน่ายต่อความผิดพลาดของ ฮอยลุนด์

ยิ่งในรายของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่เห็นได้ชัดเลยว่ามีอยู่หลายครั้งที่ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้แสดงความไม่พอใจออกมาใส่ทาง ราสมุส ฮอยลุนด์ และมักหาทางเลือกส่งบอลให้กับนักเตะรายอื่นมากกว่าการที่จะเลือกส่งบอลให้กับทาง ฮอยลุนด์

“ผมไม่แปลกใจเลยกับภาษากายของ การ์นาโช่ ในตอนที่ ฮอยลุนด์ อยู่ในสนาม เขาแทบไม่มีประโยชน์อะไรสักอย่าง แต่หลังจากที่เจ้าหนู ชิโด โอบี ลงมาแทนที่ เกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด” อลัน เชียเรอร์ ตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ วิจารณ์ผลงานของ ฮอยลุนด์ ในเกม เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ ฟูแล่ม 1-1 ก่อนแพ้ดวลจุดโทษ 3-4 ตกรอบ

“เด็กหนุ่มคนนี้สามารถสร้างความอันตรายและคอยปั่นป่วนกองหลังของ ฟูแล่ม ได้มากกว่า ฮอยลุนด์ และลองมองย้อนกลับไปที่ การ์นาโช่ เขาดูไว้ใจเด็กคนนี้มากกว่า เขาส่งบอลให้กับ ชิโด โอบี อยู่ตลอดและทั้งสองก็เล่นร่วมกันได้ดีเยี่ยม ผิดกับตอนที่ ฮอยลุนด์ อยู่ในสนาม เขาแทบไม่ส่งบอลให้เลย นั้นเป็นเพราะว่าเขาไม่เชื่อใจในศักยภาพของ ฮอยลุนด์” เชียเรอร์ กล่าวต่อ

 

ปีที่สาม อาจไม่ได้เห็น

แม้ว่ากระแสในช่วงแรก แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังคอยให้กำลังใจและยืนเคียงข้าง ราสมุส ฮอยลุนด์ มาโดยตลอด ซึ่งพวกเขาต่างเชื่อว่าแข้งรายนี้จะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเหมือนกับช่วงฤดูกาลแรกได้อีกครั้ง 

แต่ดูเหมือนว่าในเวลานี้มันจะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากในปัจจุบัน ราสมุส ฮอยลุนด์ กลายเป็นตัวเลือกแรกที่แฟนบอลต่างโจมตีอย่างหนัก และเชียร์ให้ รูเบน อโมริม ถอดออกจาก 11 ตัวจริงของทีม 

ซึ่งหากนำเคสของ โจชัว เซิร์กซี มาเทียบกับ ฮอยลุนด์ ถือว่ากลายเป็นเรื่องที่กลับตาลปัตร เพราะว่าหากย้อนกลับไปในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก เซิร์กซี เป็นตัวเลือกแรก ๆ ให้แฟนบอลรวมไปถึงเหล่านักวิจารณ์ต่างโจมตีมาโดยตลอด และเป็นแข้งที่ถูกเรียกร้องให้ปล่อยตัวออกไปจากทีมเมื่อช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวเดือนมกราคม 2025

ทว่าในปัจจุบัน โจชัว เซิร์กซี กลับกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกับระบบการเล่นของ รูเบน อโมริม และกลายเป็นนักเตะที่แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างหลงรักไปเสียแล้วในทุกวันนี้ และยังเป็นที่มาให้เหล่าแฟนบอลต่างมองว่าการส่ง เซิร์กซี ลงสู่สนามจะมีประโยชน์ต่อทีมมากกว่าการเลือกใช้ ฮอยลุนด์ 

นอกเหนือจากกลุ่มแฟนบอลที่มองว่า เซิร์กซี มีประโยชน์มากกว่าทางฝั่งของ ฮอยลุนด์ อดีตตำนานนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเช่น ลี ชาร์ป ก็เป็นอีกรายที่เคยออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยมองว่าการใช้ โจชัว เซิร์กซี ยืนในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของทีม จะมีประโยชน์และมีความลื่นไหลมากกว่าการใช้ ราสมุส ฮอยลุนด์

“ผมชอบการเล่นของ เซิร์กซี เขาเอาตัวรอดได้เก่งแถมยังมีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีมได้หลายครั้ง ซึ่งผมมองว่าแตกต่างจากสไตล์ของ ฮอยลุนด์ อย่างชัดเจน แม้ว่า ฮอยลุนด์ จะมีความเร็วและความแข็งแกร่งที่มากกว่า แต่ถ้าให้ผมเลือกระหว่าง เซิร์กซี กับ ฮอยลุนด์ ผมขอเลือก เซิร์กซี”

“แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักเตะในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แต่ผมมองว่าเขาก็ยังมีประโยชน์มากกว่า ฮอยลุนด์ ในหลายอย่าง เขาลงมาเชื่อมเกมได้ดี และยังดึงตัวประกบให้ผู้เล่นคนอื่นภายในทีมเล่นง่ายขึ้น แตกต่างจาก ฮอยลุนด์ ที่ชอบยืนติดกับแนวรับทีมฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นผมมองว่ามี เซิร์กซี จะเป็นประโยชน์ต่อทีมมากกว่า” ลี ชาร์ป ตำนาน แมนฯ ยูไนเต็ด เปรียบเทียบระหว่าง เซิร์กซี และ ฮอยลุนด์

เหตุนี้เอง ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำให้ในปัจจุบันเป้าหมายแรกในการเสริมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าที่ทีมต้องการเสริมตัวเข้ามาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ครั้งต่อไป

มีผู้เล่นเข้ามาใหม่ ย่อมมีผู้เล่นที่จะถูกเนรเทศออกจากทีมไปเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งมีรายงานออกมาว่า ผู้เล่นคนที่อาจต้องเก็บกระเป๋าออกไป อาจเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่มีข่าวหนาหูว่าทางสโมสรขึ้นบัญชี “พร้อมขาย” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และได้ตั้งราคาเอาไว้แบบลดกระหน่ำเหลือเพียง 35-40 ล้านปอนด์เท่านั้น 

นอกเหนือจากนั้น หากยกฟอร์มการเล่นในปัจจุบันอย่างเช่นในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้ให้กับ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส คารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปด้วยสกอร์ 0-1 รูเบน อโมริม ที่ช่วงแรกให้การซัพพอร์ต ฮอยลุนด์ มาโดยตลอด ก็เริ่มหมดความอดทนแล้วด้วยเช่นกัน ถึงขั้นออกมาติงเรื่องการจบสกอร์ของแข้งหนุ่มรายนี้ว่าควรทำออกมาให้ได้ดีมากกว่าเดิม

“เราไม่ควรโทษ ฮอยลุนด์ เพียงคนเดียวที่พลาดโอกาสทำประตู คนอื่นก็พลาดโอกาสครั้งสำคัญเช่นกัน แต่เรื่องนี้ผมก็เคยพูดไปบ่อยครั้งกับเขาแล้วว่าควรทำประตูให้ได้มากกว่านี้ เพราะถ้าหากเขาไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ เราก็จะพบกับความพ่ายแพ้เหมือนกับในเกมนัดที่ผ่านมา”

ต้องจับตารอดูสถานการณ์ต่อไปของ ราสมุส ฮอยลุนด์ กับทาง แมนฯ ​ยูไนเต็ด จะเป็นต่อไปในทิศทางใด แต่เชื่อว่าในเวลานี้มุมมองของแฟนบอลปีศาจแดงเกือบทุกคน ต่างหมดแรงศรัทธากับกองหน้ารายนี้ไปแล้วอย่างชัดเจนและมองว่า ฮอยลุนด์ คงยังไม่เหมาะกับการเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปทั้งในปัจจุบัน รวมไปถึงในอนาคต

 

แหล่งอ้างอิง

https://manunews.com/blog/exclusive-lee-sharpe-manchester-united-joshua-zirkzee-ruben-amorim/
https://footystats.org/players/denmark/rasmus-hojlund
https://www.espn.co.uk/football/player/matches/_/id/309273/team/360/type/eng.1
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/44767036/man-united-vs-wolves-ruben-amorim-backs-misfiring-rasmus-hojlund
https://thepeoplesperson.com/2023/10/23/dutch-legend-ruud-gullit-blasts-selfish-man-united-players-for-ignoring-rasmus-hojlund-270971/
https://www.football365.com/news/man-utd-shearer-heaps-praise-chido-obi-fa-cup-real-handful

Author

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ