"ชีวิตมันก็แปลก ... เวลาแค่ 1 สัปดาห์ชีวิตของคุณสามารถพลิกเป็นคนละเรื่องได้เลย" รูเบน อโมริม กุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด อธิบายความมหัศจรรย์ของ อัลตาย บายินดีร์ นายทวารสำรองที่งัดฟอร์มเซฟยับ ๆ ในเกมเอฟเอคัพ นัดชนะจุดโทษ อาร์เซน่อล 5-3 หลังจบ 120 นาที เสมอ 1-1
เรื่องราวของเขาพลิกผันแบบนี้เสมอตั้งแต่ยังเด็ก ... และเราอยากให้คุณติดตามเรื่องราวของนายด่านชาวตุรกีรายนี้ไปกับ Main Stand
กฎคลาสสิก
เชื่อว่าคุณผู้อ่านทุกคนคงเคยได้เตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ในวัยเด็กมาด้วยกันทั้งนั้น และหนึ่งในกฎที่พวกเราตั้งขึ้นเองแบบเด็ก ๆ อยู่เสมอเพื่อหาคนมาเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่มีใครอยากจะเล่น ก็คือ "ใครตัวใหญ่ มึงไปเป็นโกล"
แปลกดีที่แม้ ตุรกี จะอยู่กันคนละทวีปแต่ที่นั่นก็มีกฎคลาสสิกแบบเด็ก ๆ กฎนี้อยู่เช่นกัน และ อัลตาย บายินดีร์ ถือเป็นคนที่รับบทบาทนั้นไปโดยปริยาย และเรื่องนี้ถูกเปิดเผยในวันแรกที่เขาได้ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันถ่ายภาพเปิดตัว และ เดวิด เมย์ อดีตนักเตะของทีมได้เข้ามาทักทายเขาว่า "เยี่ยมเลยนะ ตอนเด็ก ๆ ผมก็เคยเล่นเป็นประตูมาก่อน"
ก่อนที่ อัลตาย จะตอบกลับแบบติดตลกว่า "ส่วนผมน่ะ ตอนเด็กเล่นทุกตำแหน่งที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตู" ... จากนั้นการสัมภาษณ์จึงเกิดขึ้น
ย้อนกลับไปสัก 15 ปีก่อน อัลตาย เกิดที่เมือง บูซาร์ ในประเทศ ตุรกี และมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ทีมอคาเดมี่ของ บูซาร์สปอร์ ทีมดังในท้องถิ่น ซึ่งในตอนแรกก็ตรงตามที่เขาบอกทุกประการ เพราะ บายินดีร์ เล่นทุกตำแหน่งยกเว้นผู้รักษาประตูจริง ๆ ในตอนเริ่มต้นของเขา
"ผมน่ะไม่เคยเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาก่อนเลย ตั้งแต่จำความได้ตำแหน่งแรกที่ได้รับมอบหมายคือกองหลัง จากนั้นก็ขยับขึ้นมาเป็นกองหน้า ซึ่งผมคิดว่าจะลงหลักปักฐานในตำแหน่งนี้ แต่แล้วเรื่องมันก็เป็นไปในอีกทิศทางหนึ่ง"
"วันหนึ่งที่ผมเล่นกับ บูซาร์สปอร์ อยู่ดี ๆ โค้ชก็บอกกับผมว่า อัลตาย วันนี้ลงไปเล่นเป็นผู้รักษาประตูนะ ผมงงมาก ส่วนเหตุผลที่ผมได้เล่นตรงนั้นเป็นเหตุผลง่าย ๆ ก็คือเด็กที่รับหน้าที่เป็นประตูดันไม่มาซ้อมในวันนั้น ซึ่งผมก็ไม่เชื่อใจตัวเองเท่าไรหรอก จนกระทั่งโค้ชบอกว่า แกนั่นแหละตัวสูงใหญ่ที่สุดแล้ว ลงไปเล่นได้แน่ ๆ อย่าลืมสนุกกับมันนะ นายจะโอเคเชื่อ เชื่อฉัน ลงไปเป็นผู้รักษาประตูซะ ไม่ต้องเถียง ไปลองดูก่อน" บายินดีร์ เล่าถึงจุดเริ่มต้น
การที่โค้ชอ้างว่าเด็กคนนั้นที่รับตำแหน่งประตูไม่มาซ้อม อาจจะเป็นกุศโลบายหรืออ้างเหตุผลยกเมฆก็ได้ เพราะอันที่จริง โค้ชของ บูซาร์สปอร์ คนนั้นอาจจะเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขาจริง ๆ ซึ่งเมื่อ บายินดีร์ ได้ลองเล่นประตูวันแรก เขาก็ต้องถามตัวเองว่าไอ้ความรู้สึกที่เขาเป็นอยู่มันคืออะไร ?
"ผมรู้สึกดีจัดเลยหลังจากได้พุ่งและปัดบอล แล้วทุกคนก็บอกว่า เยี่ยม ! อัลตาย !" เขากล่าวเริ่ม
"จากนั้นผมเริ่มมาสำรวจว่าตำแหน่งนี้มันพิเศษยังไง อย่างแรกคือผู้เล่นทุกคนในทีมใส่เสื้อสีเดียวกัน แต่ประตูใส่ชุดไม่เหมือนใคร เท่กว่าเขาเพื่อน ผมว่ามันแจ๋วเลย ยิ่งตอนที่คุณรับบอลได้คุณจะรู้สึกว่าตัวเองพิเศษ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเซฟจุดโทษได้ และเพื่อนทุกคนกรูเข้าหาคุณ นั่นแหละ ... ความรู้สึกสุดยอดของผู้รักษาประตูล่ะ"
บายินดีร์ จึงเป็นผู้รักษาประตูตั้งแต่อายุ 12 ปี เป็นต้นมา ส่วนสูงของเขาเพิ่มขึ้น ตัวของเขาโตขึ้นทุกปี ยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งเหมาะกับตำแหน่งนี้ และความรู้สึกคาใจที่อยากจะเล่นตำแหน่งอื่นก็แทบไม่เหลือแล้ว
บายินดีร์ ยอมรับว่าเวลาที่เขาต้องการมั่นใจกับอะไรสักอย่าง เขามักจะเชื่อสัญชาตญาณของแม่ เขาถามแม่ว่าตำแหน่งไหนที่เหมาะกับเขามากที่สุด และแม่ของก็ตอบว่า 'ลูกจะเป็นโกลก็ดีนะ หรือจะเป็นกองหน้าก็ได้'
"แต่ผมรู้ว่าแม่ผมจะให้คำตอบที่ดีได้ เพราะแม่ดูเกมของผมตลอดแม้แม่จะเล่นและดูฟุตบอลไม่เป็น เธอบอกมาอีกคำแบบชัดเจนในท้ายที่สุดว่า 'ลูกไปเล่นผู้รักษาประตูดีกว่า แม่คิดว่าเหมาะกว่า เพราะลูกตัวสูง ไม่ต้องวิ่งเยอะด้วย ดีจะตายไป เพราะแม่เห็นในทีวีคนอื่นเขาวิ่งกันหมดแล้ว ปล่อยให้เรื่องวิ่งเป็นหน้าที่ของคนอื่นดีกว่า'"
เขารู้อยู่แล้วว่าแม่จะต้องตอบแบบนี้ เพราะตัวเขาเองก็รู้สึกชอบกับตำแหน่งผู้รักษาประตูจริง ๆ ไม่นานนัก ชื่อเสียงของ อัลตาย บายินดีร์ ก็โด่งดังขึ้นมาในฟุตบอลท้องถิ่นของตุรกี
เขาย้ายออกไปอยู่กับ อันการากูคู ตั้งแต่อายุ 18 ปี ใช้เวลาเล่นในลีกรองช่วงสั้น ๆ แต่กับทีมชาติเขาติดทีมเยาวชนแทบทุกรุ่น ก่อนที่จะขึ้นมาเป็นมือ 1 ของ อันคารากูคู ตั้งแต่อายุ 19 ปี ลงเล่นเป็นตัวหลักได้แค่ปีเดียว เขาก็ได้โอกาสย้ายไปเล่นให้กับหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในประเทศอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2019 ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านยูโร และบททดสอบจริง ๆ เกิดขึ้นหลังจากนั้น
จอบหนึบแห่งลีกตุรกี
ที่ เฟเนร์บาห์เช่ มีผู้รักษาประตูระดับปูชนียบุคคลของสโมสรและวงการฟุตบอลตุรกีอย่าง โวลคาน เดมิเรล เฝ้าเสาอยู่ และ เดมิเรล นั้นเล่นกับทีมมาตั้งแต่ยุค 2000s ต้น ๆ จนกระทั่งจะประกาศวางมือในปี 2019 นั่นทำให้สโมสรต้องเล็ง บายินดีร์ มารับตำแหน่งต่อ เนื่องจากตัวของ เดมิเรล ประกาศเตรียมวางมือในเร็ววัน
อย่างไรก็ตาม บททดสอบที่รออยู่คือ เขาจะไม่เป็นมือ 1 อัตโนมัติ เพราะถัดจาก เดมิเรล ที่กำลังจะเลิกเล่น เฟเนร์บาห์เช่ ยังมีเด็กปั้นของตัวเองอย่าง ฮารูน เทคิน ที่รอจ่อคิว ดังนั้นในช่วงแรกจึงเป็นศึกชิงมือ 1 ของโกลดาวรุ่งอย่าง เทคิน กับ บายินดีร์ วัดกันแบบตัวต่อตัว
และเป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะช่วงเวลานั้นเป็นช่วงปรีซีซั่นที่ เฟเนร์บาห์ จะได้เล่นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง อาวดี้ คัพ โดยจะต้องแข่ง 2 เกม เกมแรกคือเกมกับ บาเยิร์น ที่ เทคิน ได้เฝ้าเสาก่อน และ เฟเนร์บาห์เช่ แพ้ไป 1-6 ก่อนที่เกมสอง ในอีก 1 วันถัดมาจะเป็นการเจอกับ เรอัล มาดริด ซึ่งหนนี้เป็นคิวของ บายินดีร์ ที่ได้ลงเฝ้าเสา แม้จะแพ้ไป 3-5 แต่วันนั้นเขามีจังหวะเซฟจัง ๆ ไปถึง 12 ครั้ง และหลังจบเกมเขาได้รับคำชมมากมายจากสื่อ ซึ่งเข้าใจเรื่องการวัดกันของ เทคิน กับ บายินดีร์ เป็นอย่างดี สุดท้าย บายินดีร์ ก็ได้ลงสนามต่อไปในเกมอุ่นเครื่องกับ กายารี่ ก่อนจะมีสถิติเซฟเพิ่มอีก 6 ครั้ง
เรียกได้ว่าฟอร์มของ บายินดีร์ ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสื่อและโค้ชใหญ่ของทีมอย่าง เออร์ซุน ยานาล ที่ตัดสินใจอย่างรวดเร็วด้วยการมอบตำแหน่งโกลมือ 1 ให้กับ บายินดีร์ นับตั้งแต่หลังจบเกมนั้นเป็นต้นมา
และผ่านไปอีก 5 ปี บายินดีร์ ก็ไม่เคยเสียตำแหน่งมือ 1 ในทีมให้ใครเลย จนกระทั่งเขามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ และกลายเป็นผู้รักษาประตูที่ได้รับความสนใจจากทีมระดับกลาง ๆ ของยุโรปหลายทีมทั้ง อตาลันต้า, กายารี่, โมนาโก ทว่าสุดท้ายและท้ายสุด หลังจากอิ่มตัวกับลีกตุรกี จะเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ติดต่อเข้ามาพอดี ซึ่งโดยตำแหน่งแล้ว เขารู้ดีว่าเขาจะกลายเป็นมือ 2 เพราะ อังเดร โอนาน่า เป็นผู้มาก่อน และมาด้วยราคาถึง 50 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ชิงมือ 1 แบบนี้ เป็นสิ่งที่เขาเคยทำได้มาแล้ว และเขาขอเพียงแค่โอกาสเท่านั้น และเขาจะแสดงให้ดูว่าเขาทำอะไรได้บ้าง
1 สัปดาห์พลิกชีวิต
เมื่อย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยราคาราว ๆ 5 ล้านยูโร ในฤดูกาล 2023-24 บทความจากหลายสื่ออธิบาย บายินดีร์ ว่าเป็นโกลที่มีคุณสมบัติความนิ่ง มีเบสิคที่ดี และมีรูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งจากผลงานที่ฝากไว้กับ เฟเนร์บาห์เช่ รวมถึงการกำลังจะขึ้นมาเบียดมือ 1 ในทีมชาติตุรกี ทำให้หลายสื่อสงสัยว่า ทำไมเขาเลือกมาเป็นมือ 2 ที่นี่ ? คำตอบของเขาก็คือ เขามาเพื่อแข่งขัน ไม่ว่าจะกับ โอนาน่า หรือกับตัวเองก็ตาม
"พวกเรากำลังต่อสู้เพื่อเป็นมือ 1 ในการฝึกซ้อม เราทุกคนต่างรู้เรื่องนี้ดี และจะไม่มีใครยอมใครแนนอน เพียงแต่หลังจากจบการซ้อม ผมสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ ผมยินดีที่จะมอบพลังงานดี ๆ ให้กับคนอื่น ผมบริสุทธิ์ใจกับที่จะมอบมิตรภาพ และแน่นอนว่าเราทุกคนล้วนเป็นแบบนั้น เพื่อจะทำให้ทีมกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ให้ได้" บายินดีร์ กล่าว
พูดง่าย ๆ ก็คือ ความเป็นมืออาชีพ ... ไม่ว่าใครจะถูกรับเลือก อีกคนมีหน้าที่ยินดี และให้ความช่วยเหลือ ส่วนในสนามซ้อมก็สู้ตายและให้โค้ชตัดสินว่าใครจะเป็นเบอร์ 1 ซึ่ง ณ ตอนนี้ โอนาน่า เป็นคน ๆ นั้น
แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นกัน นับตั้งแต่ย้ายมา บายินดีร์ ได้รับโอกาสน้อยมาก แต่สิ่งหนึ่งคือเขาไม่เคยงอแงออกสื่อ ไม่มีปัญหาพฤติกรรมอะไรเลยสักครั้ง จนกระทั่งโอกาสของเขามาถึงในฤดูกาล 2024-25 ที่ เอริค เทน ฮาก รวมถึง รูเบน อโมริม ใช้งานเขาบ่อยขึ้นในฐานะโกลมือ 2 โดยเฉพาะในเกมฟุตบอลถ้วยในประเทศ
ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ... ในฤดูกาล 2023-24 บายินดีร์ ได้ลงเล่นแค่เกมเดียวทั้งซีซั่น และการขาดเกมเป็นปีแบบนี้ ทำให้ความเฉียบคม ทั้งเรื่องทักษะและการตัดสินใจ ขาดตกบกพร่องไป
เขาทำพลาดโดนยิงประตูง่าย ๆ แม้กระทั่งลูกเตะมุมเขาก็เคยโดนยิงเข้ามาแล้ว ... ชื่อของ บายินดีร์ จึงเป็นชื่อที่แฟนบอลไม่ชอบใจนักเมื่อเห็นเขาเป็นมือ 1 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 3 พบ อาร์เซน่อล ที่เพิ่งจบลง ก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่า พวกเขาคิดผิดที่มองข้ามนายทวารคนนี้มากจนเกินไป
การได้ลงเล่นบ่อยครั้งขึ้น ทำให้ บายินดีร์ เข้าสู่ร่างทองได้ทันเวลา และถูกแมตช์ เขาได้รับบททดสอบมากมายจากนักเตะ อาร์เซน่อล ไม่ว่าจะเตะลูกนิ่ง โอเพ่นเพลย์ ยิงไกล หรือแม้แต่ลูกแฉลบ
เขาปัดป้อง ทำทุกสิ่งทุกอย่างออกมาได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ และสุดท้ายเขาปิดฉากตอนจบของเรื่องได้อย่างสวยงามจากการเซฟจุดโทษทั้งใน 90 นาที และในการดวลจุดโทษ จนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านคู่แข่งไปอย่างพลิกล็อก แม้จะต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คน นานกว่า 1 ชั่วโมงก็ตาม
ถ้าคุณได้เห็นสีหน้าของเขาหลังเกมจบ คุณจะเข้าใจทุกอย่าง นี่คือเรื่องของโกลมือ 2 ตำแหน่งที่เหงาและอ้างว้างที่สุดในโลกฟุตบอล (หากไม่นับโกลมือ 3) ... งานที่ต้องใช้ทั้งความอดทน และเจอกับความกดดัน สุดท้ายเขาก็ได้ใจทุกคนด้วยความสามารถและความพยายามที่แสดงออกมาในเกม ๆ นี้ ชนิดที่ รูเบน อโมริม ยังต้องชมแบบไม่ขาดปาก
"ชีวิตของนักฟุตบอลคนหนึ่งมีวัฏจักรและช่วงเวลาของตัวเอง บางครั้งในสัปดาห์เดียวชีวิตของคุณอาจจะเปลี่ยนไปเป็นคนละอย่าง และคุณก็ได้เห็นตัวอย่างแล้วจากสิ่งที่อัลตายแสดงออกมา ... ผมรู้ว่าหลายคนแทบอยากจะกรีดร้องในวันที่เขาลงเล่นกับ ท็อตแน่ม ในคาราบาวคัพ แต่ผมเข้าใจ และผมเห็นความมุ่งมั่นในตัวเขา ผมจึงให้โอกาส และถึงวันนี้ ... เขาคือฮีโร่ของพวกเรา"
"นี่คือคนหนุ่มที่มีทัศนคติชั้นยอด ทำงานหนัก มีชีวิตที่เข้มแข็ง จิตใจที่แข็งแกร่ง ... และที่นี่เราพร้อมที่จะให้โอกาสทุกคน ไม่ว่าคุณจะได้เล่นแค่เกมเดียว หรือกี่เกมก็ช่าง ถ้าคุณได้รับเลือก คุณต้องทุ่มสุดตัว เพราะนั่นแสดงว่าคุณได้แสดงให้ผมเห็นแล้วว่าคุณคู่ควรกับโอกาสนั้น" อโมริม ชมไม่ขาดปาก
แน่นอนว่าหลังจากนี้ กลับสู่เกมลีก อังเดร โอนาน่า ก็คงจะได้กลับมาเป็นมือ 1 ของปีศาจแดงต่อ แต่จากนี้จิตใจของ บายินดีร์ จะเปลี่ยนไปมาก เขาได้เจอจุดเปลี่ยนของอาชีพแล้ว ถ้ามีโอกาสอีกครั้งเขาอาจจะทำได้ดีและแย่งตำแหน่งมือ 1 มาได้ถาวร
แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างน้อยฟอร์มของเขาในเกมกับ อาร์เซน่อล จะถูกกล่าวถึงไปอีกนาน และเชื่อว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นมือ 1 ที่นี่ ก็ยังมีอีกหลายทีมที่อยากจะได้ผู้รักษาประตูอย่างเขาเป็นปราการด่านสุดท้าย ... ชายที่ไม่ยอมจะให้ใครผ่านไปง่าย ๆ
แหล่งอ้างอิง
https://www.fenerbahce.org/haberler/futbol/2021-tr/10/gecmis-olsun-altay-bayindir
https://tr.wikipedia.org/wiki/Altay_Bay%C4%B1nd%C4%B1r
https://www.sporx.com/altay-bayindir-sahalardan-ne-kadar-uzak-kalacak-altay-bayindir-ne-zaman-donecek-SXHBQ947074SXQ
https://www.bbc.com/sport/football/articles/cg45q0gd0reo
https://www.manutd.com/en/news/detail/how-altay-bayindir-became-a-goalkeeper-utd-podcast-preview
https://www.manutd.com/en/news/detail/altay-bayindir-interview-on-man-utd-goalkeepers-union-and-why-he-plays-the-position
