Feature

อวสานอัซซูรี่ : ทำไม อิตาลี ใน ยูโร 2024 จึงปวกเปียกเหมือนเล่นบอลพรีซีซั่น ? | Main Stand

ความทรงจำดีเพียงอย่างเดียวที่ อิตาลี ฝากให้แฟนฟุตบอลใน ยูโร 2024 คงเหลือเพียงแค่การยิงในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มจาก คริสเตียน ซัคคานญี่ ที่ทำให้พวกเขาหลุดจากนรก ทะยานสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

 

 

แต่นั่นก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้มากนัก เมื่อพวกเขาตกรอบไวเกินคาด เพราะเล่นแบบสู้ไม่ได้จนพ่าย สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ในรอบ 16 ทีม ซึ่งเป็นเกมที่ต่อให้ไม่ใช่แฟนอิตาลี ก็ต้องส่ายหัวให้กับฟอร์มการเล่นของพวกเขา 

ทำไมทีม ๆ นี้ถึงตกรอบแบบไม่ได้ลุ้น ทั้ง ๆ ที่ภาพจำของแฟน ๆ คือเมื่อถึงรอบน็อกเอาต์ อิตาลี มักจะปล่อยทีเด็ดออกมาเสมอ .... เราพบคำตอบที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เรื่องนี้ถูกคาดการณ์และทำนายไว้ตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มแล้วด้วยซ้ำ ... อะไรอยู่เบื้องหลังความล้มเหลวที่เคาเดาได้ไม่ยากนี้ ?

ติดตามที่ Main Stand 


ขุมกำลังที่โดนด้อยค่า

ภาพของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กอดกับ จานลูก้า วิอัลลี่ ในการฉลองแชมป์ ยูโร 2020 ที่สนาม เวมบลี่ย์ คือภาพที่ถูกจารึกไว้ในหัวใจแฟนบอลอิตาลีจนกระทั่งทุกวันนี้ 

และนั่นหมายความว่าเมื่อ ยูโร 2024 มาถึง ต่อให้วันนี้ วิอัลลี่ จะลาจากโลกใบนี้ไปแล้ว และ มันชินี่ ก็ลาออกจากตำแหน่งกุนซือทัพอัซซูรี่ไปรับเงินก้อนโตที่ซาอุดีอาระเบียแล้ว แต่ความคาดหวังยังคงอยู่เสมอในฐานะแชมป์เก่า โดยมีการสำรวจจาก Sky Italia ในช่วงก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มว่า แฟนบอล อิตาลี กว่า 71% มั่นใจว่าพวกเขาจะไปถึงรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย 

ตัดภาพกลับมาที่ความเป็นจริง การแบกศักดิ์ศรีแชมป์เก่าไม่ได้มีความหมายอะไร หากทีมชุดปัจจุบันนั้นคือความแตกต่างจาก 3 ปีที่แล้ว ที่พวกเขาหอบถ้วยแชมป์ยุโรปกลับบ้านอย่างสิ้นเชิง 

3 ปีที่แล้วขุมกำลังของ อิตาลี มีความพร้อมมากกว่าทีมนี้ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องของคุณภาพของนักเตะ ประสบการณ์ หรือแม้แต่เรื่องของสภาพจิตใจ ... ถามว่าทำไมรู้ ? คำตอบที่ง่ายที่สุดคือ สิ่งที่พวกเขาแสดงออกมาในสนามได้ตอบเราทุกอย่างแล้ว

และยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม อิตาลี ชุดนี้ เจอคำทำนายทายทักจากกูรูหลายคน หรือแม้กระทั่งยอดโค้ชอีกไม่น้อยที่ออกมาบอกว่า นี่คือทีมชุดที่ไม่มีทางจะไปถึงแชมป์ยุโรปได้ ... โดยแทบทุกคนเน้นย้ำเรื่องคุณภาพนักเตะที่แตกต่างจากที่แล้วอย่างสิ้นเชิง

"ผมไม่เห็นนักเตะระดับท็อปของทีมชาติอิตาลีชุดนี้ นอกเสียจากรายของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ในตำแหน่งผู้รักษาประตู ระดับท็อปของผมหมายนักเตะอย่าง อันเดรีย ปีร์โล่, ฟรานเชสโก้ ต็อตติ, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ความจริงคือเราต้องการเวลาอีกสักหน่อยเพื่อกลับไปอยู่จุดนั้น" คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือมาดมาเฟียแห่ง เรอัล มาดริด ว่าแบบนั้น 

ขณะที่นักเขียนของ Goal.com อย่าง มาร์ค ดอยล์ ก็พูดคล้าย ๆ โดยเขาเขียนบทวิเคราะห์ที่ชื่อว่า "ทำไมไม่มีใครทายว่า อิตาลี จะป้องกันแชมป์ยุโรป?" ... โดยเขาบอกว่า อิตาลี คือชาติที่เมื่อเข้าทัวร์นาเมนต์จะรวมกันเป็นหนึ่งได้เสมอ ทีมชุดนี้ก็เช่นกัน ไม่มีใครสักคนที่เป็นแกะดำทำให้แคมป์แตก แต่ก็ไม่มีใครมีออร่าที่โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ เลยแม้แต่คนเดียว

"อิตาลีชุดนี้ไม่มีนักเตะประเภทไอ้เวร(d*ckheads) แต่ก็ไม่มีใครเป็นสตาร์ตัวจริงที่จะนำทีมไปป้องกันแชมป์ได้เลย" เขาว่าไว้แบบนั้น  

ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงกับบทสัมภาษณ์ของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ "อิล ชีที" เฮดโค้ชทีมชาติอิตาลีคนปัจจุบัน ที่บอกว่า เขาพยายามหานักเตะที่สร้างความแตกต่างในจังหวะเกมได้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เจอคนที่ตามหาอยู่ดี 

"วันนี้เราเปลี่ยนทีม 6 ตำแหน่งเพื่อให้เหล่าผู้เล่นมีความสด แต่ความเร็วและจังหวะของเรายังเหมือนเดิม และมีบางคนยังไม่คุ้นเคยกับวิธีการเล่น" สปัลเล็ตติ พูดถึงปัญหาของทีมที่ไร้นักเตะที่ให้ฝากความหวัง และไร้ที่พึ่งพิง

ไม่มีสตาร์ ไม่มีวันได้แชมป์จริงหรือ ? 

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้อคติ อิตาลี ตอนนี้ขาดแคลนนักเตะระดับสตาร์แบบชัด ๆ ตามที่ อันเชล็อตติ และกูรูจาก Goal ว่า 

โดยเฉพาะนักเตะเกมรุกที่หนนี้ไม่ได้มีนักเตะจากทีมหัวตารางระดับลุ้นเเชมป์ หรือได้เล่นในฟุตบอลสโมสรยุโรปเลย ไล่เรียงไปตั้งแต่กองหน้าอย่าง มาเตโอ เรเตกี จาก เจนัว ผู้เป็น "ออริอุนดี" (Oriundi) หรือนักเตะต่างชาติที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวอิตาลี ที่ก่อนหน้านี้ไม่นานนักยังเล่นในอาร์เจนตินากับ โบคา จูเนียร์ส, หรือแม้แต่ จานลูก้า สคามัคก้า จาก อตาลันต้า ก็เป็นนักเตะที่แม้กระทั่ง ลูชาโน่ สปัลลเล็ตติ เคยออกมาติติงเรื่องความขี้เกียจในช่วงก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มมาแล้ว 

"สคามัคก้า มีทุกอย่างที่กองหน้าที่ดีควรจะมี แต่เขาขี้เกียจนิดหน่อย เราหวังว่าเขาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต แต่แน่นอนว่าตอนนี้เรายังโอเคกับสิ่งที่เขาสามารถทำได้" สปัลเล็ตติ กล่าวในเดือน มีนาคม ซึ่ง ณ ตอนนั้นเขาตัด สคามัคก้า ออกจากทีมไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม ก็ไม่มีใครดีกว่า สคามัคก้า จริง ๆ 

ต่อให้เขาจะบอกว่า สคามัคก้า ขี้เกียจ และความจริงอาจจะเป็นแบบนั้น เพราะจากสิ่งที่เห็นในยูโร 2024 เขาที่เป็นกองหน้าเบอร์ 1 กลับขยับเคลื่อนที่น้อยมากเสียจนแทบไม่มีบทบาทเลยตลอด 4 เกมที่ลงเล่น... อย่างน้อยพฤติกรรมเขาก็ดีขึ้น ไม่เป็นตัวปัญหาของทีม แต่กลับกันสำหรับบทบาทกองหน้า เขาก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับกองหลังคู่แข่งเช่นกัน (ยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียวตลอด 4 เกม) 

ไม่ใช่แค่ตำแหน่งกองหน้าเท่านั้น ตัวเกมรุกอื่น ๆ ยังมีปัญหาชัดเจน เฟเดริโก เคียซ่า ไม่ได้อยู่ในฟอร์มเดิมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แม้แต่กับ ยูเวนตุส ก็หลุดไปเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง อีกทั้งเบอร์ 10 อย่าง เปเยกรินี่ จาก โรม่า ที่ผลงานกับต้นสังกัดอาจจะดูดีในระดับหนึ่ง แต่สำหรับเบอร์ 10 ของ อิตาลี เขาเองก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่สร้างความแตกต่างได้เลย 

ขณะที่กองหลังนั้นแม้ทุกคนจะรู้ว่า จอร์โจ คิเอลลินี่ และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ จะเลิกเล่นไปแล้ว แต่หากว่ากันตามตรง การจับคู่ของ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ และ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ก็ทำผลงานได้โดดเด่น ในแบบที่แทบไม่มีอะไรให้ติ ในทุก ๆ เกมของพวกเขา   ซึ่งถ้าจะบอกว่า อิตาลี ชุดนี้ใครเด่น ก็น่าจะเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่นี้ และนายด่านอย่าง ดอนนารุมม่า เท่านั้น 

ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จิ้มตรงไหน อาการออกตรงนั้น เรียกได้ว่ามีเรื่องให้ติมากกว่าชมแทบทั้งหมด

แน่นอนว่าถ้าจะไล่เรียงเรื่องขุมกำลังคงต้องว่ากันอีกยาว แต่เอาคร่าว ๆ แค่ในเกมรุก ตั้งแต่กองหน้ายันตัวริมเส้น ไปจนถึงกระทั่งเพลย์เมคเกอร์ เราก็พอจะได้เห็นภาพแล้วว่าการที่คุณมีเกมรุกที่ทั้งอ่อนประสบการณ์, มีคุณสมบัติที่ไม่ได้โดดเด่นในทางไหนสักทาง และมีใครสักคนที่คุณสามารถมองหาได้เวลาต้องการประตู ต่อให้คุณจะอยากทำฟุตบอลที่เล่นเกมรุกแค่ไหน ก็ยากที่จะออกมาได้ดั่งใจคิด  

ทุกคนรู้ดีว่า ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เป็นกุนซือที่ชอบเล่นเกมรุกเป็นหลัก หากวัดจากผลงานสุดท้ายกับ นาโปลี ที่กระฉูดรูดชิ่ง ยิงประตูเป็นว่าเล่น … แต่กับ อิตาลี ชุดนี้ ภาพจำจาก นาโปลี กลับโดนลบทิ้งไปอย่างง่ายดาย

ว่ากันว่าการจะเลือกใช้วิธีการเล่นที่เหมาะกับนักเตะมากที่สุด ก็มีข้อแม้สำคัญมาก ๆ ข้อหนึ่งที่ว่า "คุณรู้จักนักเตะของคุณหรือนักเตะที่คุณมีทั้งหมดดีแล้วหรือยัง ?"

กุนซือ-นักเตะ ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน

ตัวของ สปัลเล็ตติ อาจจะได้คำชมเยอะจากการพา นาโปลี เป็นแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2022-23 แต่กับการเรียกนักเตะชุดนี้ เขาโดนสื่ออิตาลีจัดหนักตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ยังไม่เริ่ม หลายต่อหลายเรื่อง ทั้งการเรียก นิโคโล่ ฟาโจลี่ ติดทีมชาติ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งพ้นโทษแบน 7 เดือนจากข้อหาเล่นพนันฟุตบอลมาได้ไม่นาน ไหนจะเรื่องนักเตะลูกทีมเก่าของเขาอย่าง ราสปาโดรี่ และ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ จาก นาโปลี ที่ฟอร์มตก แต่ก็ยังถูกหนีบเอามาด้วยจากความคุ้นเคย 

ไม่ใช่แค่การเรียกนักเตะ แต่เมื่อลงสนามไปแล้ว อิตาลี เป็นทีมที่ไปคนละทิศคนละทาง ดูสับสนไปหมด เรื่องพื้นฐานที่สุดอย่างเรื่องของการต่อบอลนั้น อิตาลี ชุดนี้ผ่านบอลสำเร็จแค่ 88%  หากเทียบกับบรรดาทีมที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย มีเพียง 6 ทีมที่ผ่านบอลแม่นยำน้อยกว่า อิตาลี ได้แก่ สโลวีเนีย, จอร์เจีย, สโลวาเกีย, เดนมาร์ก, โรมาเนีย และ ออสเตรีย ซึ่งดูจากชื่อทีมก็ไม่น่าแปลกใจนัก  

โดยฟอร์มในนัดแพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ของ อิตาลี นั้นก็เป็นอย่างที่เห็น พวกเขาไม่มีความเชื่อมต่อกันเลยไล่ตั้งแต่แดนหลัง ยันแดนหน้า เรื่องนี้ จอห์น อลอยซี่ อดีตนักเตะทีมชาติออสเตรเลีย ที่เป็นกูรูให้ช่อง Optus Sport ถึงกับเปรียบเทียบได้อย่างเห็นภาพว่า "ฟอร์มของ อิตาลี ในเกมนี้เหมือนกับเกมพรีซีซั่นนัดแรกในระดับสโมสร" ... ซึ่งถ้าใครดูก็คงจะเข้าใจว่าประโยคนี้ไม่ได้เกินเลยไปนัก 

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาในการเรียกนักเตะที่จะไม่สร้างความพอใจให้กับแฟนบอลเสมอเมื่อทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาถึง นี่คือสิ่งที๋โค้ชทุกชาติล้วนต้องเจอ แต่เมืjอผลลัพธ์มันออกมาแบบนี้ สปัลเล็ตติ ก็หนีเสียงวิจารณ์ไม่ออกเช่นกัน 

โดยหลังเกมจบ เขาให้สัมภาษณ์ขอโทษและรับผิดแต่เพียงผู้เดียว โดยในท่อนหนึ่งของบทสัมภาษณ์บอกว่า "เขาไม่รู้จักลูกทีมมากพอ" ซึ่งนั่นก็เป็นการยืนยันอ้อม ๆ ว่า อิตาลี ชุด ยูโร 2024 มีข้อแตกต่างมากกว่า อิตาลี ชุดแชมป์ ยูโร 2020 มากโข 

"ผมไม่มีเวลาทำความรู้จักลูกทีมมากนัก หากคุณดูเหล่าเฮดโค้ชของเราก่อนหน้านี้ แทบทุกคนได้เวลาทดลองสิ่งต่างๆ ราว 20 เกมก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ... บางคนได้คุมถึง 30 นัด ส่วนผมได้แค่ 10 นัด ก่อนเริ่มฟุตบอลยูโรภายใต้ความกดดัน และหากได้ทำความรู้จักลูกทีมมากกว่านี้มันคงช่วยเหลือเราได้"

"เราล้มเหลวเพราะการเลือกตัวของผม มันไม่มีทางเป็นความผิดของลูกทีม สิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของ อิตาลี คือการตัดสินใจที่แตกต่างออกไป" สปัลเล็ตติ ว่าแบบนั้น 

กลับกันกับชุดปี 2020 ทีมชุดนั้นเรื่องขุมกำลังอาจจะไม่ใช่ระดับโลกทุกตำแหน่ง ไม่มีนักเตะระดับ ต็อตติ, เดล ปิเอโร่ หรือ ปีร์โล่ แบบที่ อันเชล็อตติ บอก แต่ โรแบร์โต้ มันชินี่ เอาคำว่า "เล่นเป็นทีม" มากลบเรื่องสตาร์ได้อย่างสนิท 

เรียกได้ว่าเรื่องของสปิริตในทีมชุดนั้น ถือเป็นสิ่งที่พวกเขาร่วมกันสร้าง ไม่ว่าจะการทำงานกันมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และการเข้าแคมป์ร่วมกันนานถึง 50 วันก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม (แม้อาจพูดได้ว่า ผลพวงจาก COVID-19 ที่ทำให้ ยูโร 2020 ต้องไปแข่งในปี 2021 มีส่วนไม่น้อย) มันทำให้ มันชินี่ รู้จักนักเตะที่เขาเลือกมาเป็นอย่างดี แตกต่างกับ สปัลเล็ตติ ที่หยิบจับอะไรก็ดูผิดไปหมด เพราะตัวเองยังไม่สามารถรู้ตื้นลึกหนาบางของนักเตะทุก ๆ คนที่เรียกมา 

"ผมเลือกกลุ่มนักเตะที่นอกจากจะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังเป็นคนที่ยอดเยี่ยมด้วย ถ้าคุณได้คุณสมบัติทั้ง 2 อย่าง นักเตะจะรู้หน้าที่กันเป็นอย่างดี นักเตะที่อายุมากจะช่วยสอนและแนะนำกับนักเตะดาวรุ่ง และนักเตะดาวรุ่งก็พร้อมจะรับฟังเพราะพวกเขารู้ว่าจะได้อะไรกลับมา" 

"ทีมชุดที่ผมเลือกมา เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานกว่า 50 วัน และเวลาเหล่านั้นทำให้ผมกับพวกเขาทุก ๆ คนเชื่อว่าด้วยทีมที่เรามี มันเป็นไปได้ที่เราจะกลายเป็นแชมป์ ผมคิดแบบนั้นตั้งแต่วันแรก" 

"พวกเรามาถึงแชมป์ไม่ใช่แค่เพราะพวกเราเป็นทีมที่ยิงจุดโทษเก่ง แต่พวกเรากลมกลืนกันด้วยมิตรภาพ และทุกคนร่วมกันสร้างช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิตขึ้นมา" มันชินี่ ว่าแบบนั้น และมันค่อนข้างชัดเจนว่า ความแข็งแกร่งทั้งสภาพจิตใจ สภาพร่างกาย รวมถึงการไว้ใจซึ่งกันและกันของ อิตาลี ทั้ง 2 ชุดมีความแตกต่างกันมากจริง ๆ 

ทีมชุด 2024 อาจจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ในเกมที่ตีเสมอ โครเอเชีย ในนาทีสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ เรื่องของความแข็งแรงของร่างกาย วินัยในการเล่น ทัศนคติในการเป็นผู้ชนะ และการพร้อมรับมือกับความกดดัน ต้องปรากฏออกมาให้เห็นเสมอ  

เรื่องนี้ยืนยันได้จากการให้สัมภาษณ์หลังเกมของ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ หลังเกมที่ สเปน เอาชนะ อิตาลี 1-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่ง วิลเลี่ยมส์ บอกว่าสาเหตุที่เขาเผาแนวรับอิตาลีได้ เนื่องจากสภาพจิตใจของ ดิ ลอเรนโซ่ กระเจิง จนเขาจับรังสีความกลัวได้ และจากนั้น วิลเลี่ยมส์ ก็จัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย 

"การดวลกันตัวต่อตัวเป็นเรื่องของจิตใจมาก ผมเห็นเลยว่าเขากลัว เขาเริ่มต้นจากขึ้นมารับสูง แล้วเปลี่ยนมารอรับต่ำ ซึ่งทำให้ผมได้เปรียบขึ้น" วิลเลี่ยมส์ ว่าแบบนั้น …ซึ่งเรานึกภาพไม่ออกจริง ๆ ว่าถ้าย้อนกลับไปชุด ยูโร 2020 จะมีการสัมภาษณ์ถึงนักเตะอิตาลีแบบนี้หรือไม่ ? 

มันไม่เคยมีเกมไหนง่ายในทัวร์นาเมนต์แบบนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันชัดเจนว่า อิตาลี ชุดนี้ไม่ดีพอจริง ๆ เพราะอีกหลายทีม แม้กระทั่งชาติเล็ก ๆ อย่าง จอร์เจีย หรือแม้แต่ สโลวีเนีย ... ไม่ต้องพูดถึง ออสเตรีย ที่ดีกว่าเยอะ ทีมเหล่านี้ดูชัดเจนในเรื่องคาแร็คเตอร์มากกว่าที่นักเตะอิตาลีแสดงออกมาเสียอีก 

พวกเขาไม่ดีพอตั้งแต่การถูกตั้งคาดหมาย และเมื่อทัวร์นาเมนต์มาถึง สิ่งที่จะทำให้ทีม ๆ หนึ่งหักปากกาเซียน หรือลบคำสบประมาทได้ ก็ไม่สามารถแสดงออกมาให้เห็นเช่นกัน 

ดังนั้นการตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ยูโร 2024 ถือว่าไม่มีอะไรน่าพลิกโผ หากเราได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามทุก ๆ เกมที่ อิตาลี แสดงออกมา 

พวกเขาไม่สามารถเป็น อิตาลี ทีมที่ถูกบอกว่าต่อให้กระท่อนกระแท่นแค่ไหนในรอบแบ่งกลุ่มก็ไม่สามารถมองข้ามได้ในรอบน็อกเอาต์ … ทั้งหมดเป็นเพียงภาพจำในอดีต ที่ต้องวนกลับไปยังช่วงต้นของบทความนี้ ที่เราบอกว่า เมื่อคุณภาพไม่ดี ก็ยากที่จะได้ผลงานที่ดี 

และยิ่งเขาซึ่งสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ทีมสปิริตที่พุ่งพล่าน และการมัดใจรวมเป็นหนึ่ง… ความมหัศจรรย์ หรือการเหนือความคาดหมายในแบบ อิตาลี ที่เราคุ้นเคยก็ยากที่จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน 

โลกนี้ไม่มีปาฏิหาริย์ และคำว่าโชคดีก็ไม่มีจริง … ถ้าคุณอยากจะเป็นแชมป์ คุณต้องเป็นทีมที่ดีที่สุด ไม่มีข้อแม้อื่น และ อิตาลี ชุดปัจจุบัน ยังห่างไกลคำจำกัดความของทีมระดับแชมป์เป็นอย่างมาก

และนั่นคือเรื่องที่พวกเขาต้องไปขบคิดหาทางกันต่อไปว่าจริง ๆ ปัญหานี้จะแก้อย่างไร ? … เพราะเรื่องนี้เป็นปัจจัยที่นอกเหนือกว่าที่แฟนบอลอย่างเราจะจินตนาการได้แล้ว

 

แหล่งอ้างอิง : 

https://football-italia.net/ancelotti-only-top-class-italy-player-leao/

https://sport.optus.com.au/news/uefa-euro-2024/os76684/italy-switzerland-euro-2024-luciano-spalletti-tactics-early-exit

https://www.bbc.com/sport/football/articles/c0xxd2j4zz7o

https://www.goal.com/en/lists/Italy-weakest-defending-champions-greece-nobody-tipping-luciano-spalletti-side-win-euro-2024/ 

https://www.uefa.com/euro2024/teams/66--italy/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ