ศึกมวยปล้ำ WWE Smackdown เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2025 ช่วงท้ายของรายการ ซีเอ็ม พังค์ ออกมาเผชิญหน้ากับ จอห์น ซีน่า บนเวที ก่อนโดนอัดและจับใส่ท่าไม้ตาย Attitude Adjustment ฟาดกับโต๊ะ สลบเหมือดกลางเวที
ต่อจากนั้น ซีน่า ได้จับไมค์ด่าใส่ ซีเอ็ม พังค์ "ฉันเกลียดไอเดียที่ว่าแกคือ Best in the World เพราะแกไม่ใช่ แกเหนือกว่าฉันอย่างหนึ่งตรงที่ แกมันคือ Best Bullsh*ter in the world" และสารพัดคำด่าอีกมากมาย ทั้งต่อว่าเป็นพวกขี้โกหก เลียนายทุน ไม่ใช่นักมวยปล้ำหัวขบถอีกต่อไป
หากคุณติดตามมวยปล้ำมานาน และฟังที่ ซีน่า พูดในโชว์ครั้งนี้ คงรู้สึกคุ้นๆ กันบ้าง เพราะนี่คือการ Remake ซีน "pipe bomb" ในตำนานของ ซีเอ็ม พังค์ เมื่อปี 2011 เพียงแต่สลับบทบาทกัน โดยครั้งนั้น ซีเอ็ม พังค์ เป็นฝ่ายที่ด่า ซีน่า และผู้บริหารของ WWE ส่วนรอบนี้เป็น ซีน่า ซึ่งเป็นตัวโกง ที่ด่า ซีเอ็ม พังค์ ผู้เป็นธรรมะเสียเอง
"pipe bomb" คือเหตุการณ์ในตำนานที่เกิดขึ้นในศึก WWE Raw เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2011 - และเหตุการณ์นี้เองที่ส่งให้ ซีเอ็ม พังค์ ยกสถานะตนเอง กลายเป็นนักมวยปล้ำขวัญใจคนดู เป็นกระบอกเสียงของประชาชนที่ถูกมองข้าม
เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร...
ย้อนกลับไปในศึก WWE Raw วันที่ 27 มิถุนายน 2011 หลังจากที่ ซีเอ็ม พังค์ ออกมาป่วนในแมตช์ที่ จอห์น ซีน่า สู้กับ อาร์ ทรูธ แล้วโดน spear พุ่งใส่โต๊ะจนหลับคาโต๊ะไป ซีเอ็ม พังค์ ถือไมโครโฟนเดินไปที่ฉากทางเดิน แล้วพูดสิ่งที่อัดอั้นตันใจ เกี่ยวกับการที่เขาไม่ถูก WWE ผลักดันเท่าที่ควร รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์ วินซ์ แม็คแมน เจ้าของ WWE และพระเอกของสมาคมอย่าง จอห์น ซีน่า อย่างเผ็ดร้อน
"เมื่อผมออกไปพร้อมเข็มขัดแชมป์ WWE อีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ขอระบายความอัดอั้นออกจากอกหน่อยแล้วกัน กูไม่ได้เกลียดมึงนะจอห์น แต่กูเกลียดไอเดียของสมาคมที่ให้มึงเป็นที่ 1 เพราะมึงไม่ใช่ กูต่างหากที่เจ๋งที่สุด กูเจ๋งที่สุดในโลก สิ่งเดียวที่มึงทำได้ดีกว่าคือการจูบก้น วินซ์ แม็คแมน เหมือนกับที่ ฮัลค์ โฮแกน และ เดอะ ร็อค เคยทำ โอ้ ดันเอาเรื่องหลังฉากมาพูดซะงั้น"
"ผมว่าสมาคมนี้จะดีขึ้นถ้า วินซ์ แม็คแมน ตายไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดเดี๋ยวมันก็จะถูกสานต่อด้วยครอบครัวโง่ๆ ของเขา ถ้างั้นก็ขอเล่าเรื่องส่วนตัวของผมกับวินซ์อีกหน่อยแล้วกัน …. "
แล้วจากนั้น WWE ก็ตัดเสียงไมค์ของ ซีเอ็ม พังค์ ออกไป เพื่อไม่ให้เขาพูดอะไรมากกว่านั้น
นี่คือเหตุการณ์ pipe bomb อันสะเทือนเลือนลั่น คนดูทั้งในและนอกสนาม ตกใจและฮือฮาอย่างแรง เพราะไม่เคยมีนักมวยปล้ำคนไหนเอาเรื่องหลังฉากของ WWE มาด่าออกรายการสดมานานมาก ซึ่งมันก็มาจากความท้อแท้ในใจของ ซีเอ็ม พังค์ ที่มองว่าตัวเองถูกสมาคมมองข้าม ไม่ผลักดันเขาเท่าที่ควร ถูกทำให้เป็นตัวตลก ทั้งที่ความจริงเขาคือนักมวยปล้ำที่เพียบพร้อมทั้งความสามารถบนเวที และสกิลโปรโมที่จัดจ้าน
เหตุการณ์ pipebomb ครั้งนั้นทำให้ ซีเอ็ม พังค์ ยกระดับตนเองเป็นนักมวยปล้ำซูเปอร์สตาร์ในทันที การโปรโมอันร้อนแรงวันนั้นได้ใจคนดูมากๆ เขากลายเป็นกระบอกเสียงและตัวแทนของเหล่าคนตัวเล็กตัวน้อยที่ถูกคนใหญ่มองข้าม และเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง โดยเขาเรียกตนเองว่า "Voice of the Voiceless"
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ซีเอ็ม พังค์ พูดในคืนนั้น ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่เขาก็ได้รับอนุญาตจาก WWE ให้ออกไปโปรโมแบบนั้นเอง เรียกว่าคุยกันมาแล้ว ไม่ได้นอกบทแต่อย่างใด ซึ่งก็เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในการทำให้คนดูชื่นชอบประทับใจ
แล้วในที่สุด ศึกใหญ่ WWE Money in the Bank ปี 2011 ซีเอ็ม พังค์ก้าว กระชากเข็มขัดแชมป์โลก WWE จาก จอห์น ซีน่า พระเอกของสมาคม ในแมตช์คุณภาพระดับ 5 ดาว ต่อหน้ากองเชียร์ในบ้านตนเองที่ชิคาโก้ ก่อนเอาเข็มขัดแชมป์เส้นนี้ ออกไ ปจากสมาคม ต่อหน้าต่อตา วินซ์ แม็คแมน ประธานบ้าอำนาจที่เขาไม่ชอบขี้หน้า
แม้เรื่องราวจะผ่านมา 14 ปีแล้ว แต่เหตุการณ์ pipebome ก็เป็นหนึ่งในโมเมนต์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อชีวิตของ ซีเอ็ม พังค์ และประวัติศาสตร์โลกมวยปล้ำไปตลอดกาล ก่อนจะถูกนำมารีเมคใหม่อีกครั้ง เพื่อปูบทสู่แมตช์ชิงแชมป์โลกระหว่าง จอห์น ซีน่า กับ ซีเอ็ม พังค์ ในศึก Night of Champions วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน นี้ ที่ซาอุดีอาระเบีย
