ริดสีดวง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย และสร้างความอึดอัดในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อโรคนี้ แต่ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันอย่างละเอียด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคริดสีดวงอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งแนะนำวิธีการป้องกันและรักษาเบื้องต้น เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ริดสีดวงคืออะไร ?
ริดสีดวง คือ โรคที่เกิดจากเส้นเลือดบริเวณทวารหนักบวมและอักเสบ ทำให้เกิดอาการเจ็บ ปวด และมีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระ โดย
ริดสีดวงแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
• ริดสีดวงภายใน : เกิดขึ้นภายในทวารหนัก มักไม่มีอาการปวด แต่จะมีเลือดออก
• ริดสีดวงภายนอก : เกิดขึ้นบริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก มักมีอาการปวด คัน และเห็นก้อนเนื้อยื่นออกมา
สาเหตุของริดสีดวง
สาเหตุหลักของริดสีดวงเกิดจากความดันในเส้นเลือดบริเวณทวารหนักเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
• การเบ่งอุจจาระแรง ๆ หรือเป็นเวลานาน : การเบ่งอุจจาระเป็นเวลานานหรือบ่อยครั้ง จะทำให้เส้นเลือดบริเวณทวารหนักถูกกดทับและบวม
• การนั่งนาน : การนั่งทำงานหรือเล่นคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
• การยกของหนัก : การยกของหนักเป็นประจำจะเพิ่มแรงดันในช่องท้อง ทำให้เส้นเลือดบริเวณทวารหนักได้รับผลกระทบ
• ท้องผูก : การท้องผูกทำให้ต้องเบ่งอุจจาระแรงขึ้น ทำให้เกิดริดสีดวงได้ง่ายขึ้น
• ท้องเสียเรื้อรัง : การท้องเสียเรื้อรัง ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณทวารหนัก
• การตั้งครรภ์ : การตั้งครรภ์ทำให้มดลูกโตขึ้นไปกดทับเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก
• กรรมพันธุ์ : ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นริดสีดวงจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงขึ้น
อาการของริดสีดวง
อาการของริดสีดวงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค อาการที่พบบ่อย ได้แก่
• เลือดออกทางทวารหนัก : มักเป็นเลือดสีแดงสด
• ก้อนเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนัก : มักเกิดขึ้นกับริดสีดวงภายนอก
• ปวดบริเวณทวารหนัก : อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อมีการถ่ายอุจจาระ
• คันบริเวณทวารหนัก : มักเกิดจากการระคายเคืองจากอุจจาระ
• รู้สึกไม่สบายตัวขณะถ่ายอุจจาระ : อาจรู้สึกเจ็บหรือแสบ
วิธีการป้องกันริดสีดวง
การป้องกันริดสีดวงทำได้ง่าย ๆ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนี้
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ลดปัญหาท้องผูก
• รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง : ผัก ผลไม้ ธัญพืช ช่วยเพิ่มกากใยในอาหาร ทำให้อุจจาระนิ่มและถ่ายออกได้ง่าย
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่าย
• หลีกเลี่ยงการนั่งนาน ๆ : ควรลุกขึ้นยืนและเดินบ่อย ๆ
• หลีกเลี่ยงการยกของหนัก : หรือหากจำเป็นต้องยกของหนัก ควรยกอย่างถูกวิธี
• รักษาสุขอนามัยส่วนตัวให้ดี : ทำความสะอาดบริเวณทวารหนักหลังการถ่ายอุจจาระด้วยน้ำสะอาด
ริดสีดวงเป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่ก็สามารถป้องกันได้หากเราดูแลสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ดี หากคุณมีอาการสงสัยว่าเป็นริดสีดวง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้อาการบรรเทา และไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกได้