News

"เจลีก 2026/27" ฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของฟุตบอลลีกญี่ปุ่น

เจลีก ศึกฟุตบอลลีกของญี่ปุ่น ในปี 2026 พวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลเป็นอย่างมากต่อวงการลูกหนังแดนปลาดิบ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านการลงมติอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงปลายปี 2023

 

นั่นคือการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาเปิด/ปิดฤดูกาล ของทั้ง เจลีก 1, 2 และ 3 จากเดิมที่ตั้งแต่ฤดูกาล 1993 เป็นต้นมา ใช้มาตลอดอย่างระบบ "ฤดูใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง" หรือก็คือเปิดฤดูกาลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และปิดฤดูกาลในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม

เปลี่ยนมาใช้ระบบ "ฤดูใบไม้ร่วง-ใบไม้ผลิ" ก็คือเปิดฤดูกาลในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน และปิดฤดูกาลในช่วงเดือนพฤษภาคม หรือพูดง่าย ๆ ก็คือเปิด/ปิดฤดูกาล ตามปฏิทินการแข่งขันของบรรดาลีกฟุตบอลชั้นนำในทวีปยุโรป

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเกิดขึ้นหลังจบศึก เจลีก ฤดูกาล 2025 โดยเมื่อเข้าสู่ปี 2026 เกมการแข่งขันฤดูกาลใหม่ จะเริ่มต้นในเดือน สิงหาคม 2026 และสิ้นสุดลง คาดว่าอยู่ที่เดือน พฤษภาคม ของปี 2027 ถือเป็นการเปิดฉากฤดูกาลที่เตะกันแบบข้ามปี อย่างเป็นทางการ

และระหว่างฤดูกาล ก็จะมีช่วงพักเบรกหนีหนาวกันในเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ ด้วย ซึ่งเรื่องหิมะที่ตกอย่างรุนแรงในญี่ปุ่น ในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี จนสนามแข่งของหลายทีมไม่สามารถใช้งานได้นั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ เจลีก ไม่สามารถปรับเปลี่ยนช่วงเวลาเปิด/ปิดฤดูกาล ให้มาเป็นแบบปฎิทินข้ามปีได้เสียที

ประโยชน์ที่ เจลีก จะได้จากการเปลี่ยนช่วงเวลาเปิด/ปิดฤดูกาล มาเป็นแบบปฎิทินข้ามปี นั้นมี 2 ข้อใหญ่ ๆ ข้อแรก โปรแกรมการแข่งขันของ เจลีก จะมีความสอดคล้อง ไปในทิศทางเดียวกับปฏิทินช่วงเวลาการแข่งขันของลีกฟุตบอลชั้นนำในทวีปยุโรป

รวมถึงศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ปัจจุบันจะเริ่มการแข่งขันกันในช่วงเดือนสิงหาคม และปิดฉากในช่วงเดือนพฤษภาคมของปีถัดมา
ส่วนข้อที่สอง เพื่อให้นักเตะญี่ปุ่นที่ค้าแข้งอยู่ใน เจลีก สามารถย้ายไปเล่นในลีกยุโรปตอนช่วงเปิดฤดูกาลได้สะดวกขึ้น มีเวลาปรับตัวเข้ากับต้นสังกัดใหม่ในช่วงปรีซีซั่น

ซึ่งจุดนี้จะส่งผลดีต่อฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ด้วยทรัพยากรนักเตะที่มีปริมาณและคุณภาพมากขึ้น จากประตูสู่เวทียุโรปที่เปิดกว้างกว่าเดิม ให้กับเหล่านักเตะญี่ปุ่นใน เจลีก

ขณะเดียวกัน ทีมในเจลีกเอง ก็จะสามารถสร้างเม็ดเงินจากการขายนักเตะของพวกเขา ให้กับทีมในลีกยุโรปได้ง่ายขึ้นด้วย จากช่วงเวลาเปิด/ปิดฤดูกาลที่ใกล้เคียงกัน

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาหลังจากที่ เจลีก ฤดูกาล 2025 จบลงในเดือน ธันวาคม พวกเขาจะต้องเจอกับช่องว่างที่ไร้โปรแกรมการแข่งขัน ไม่รวมช่วงปรีซีซั่นในเดือน กรกฎาคม จำนวน 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2026) ก่อนที่จะเดินทางถึงฤดูกาล 2026/27

ดังนั้น เจลีก จึงได้จัดการแข่งขันพิเศษขึ้นมาให้กับทุก ๆ ทีมในลีก ทั้ง เจลีก 1,2 และ 3 เพื่อไม่ให้ช่วงเวลาที่ว่างเหล่านั้นสูญเปล่าไป ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มิถุนายน 2026

ระหว่างการแข่งขันพิเศษนี้ จะไม่มีโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลถ้วยภายในประเทศอย่าง เอ็มเพอเรอร์ส คัพ และ เลอแวง คัพ รวมถึงไม่มีเรื่องการเลื่อนชั้น-ตกชั้น เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน

การแข่งขันพิเศษ จะแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือรอบภูมิภาค กับรอบเพลย์ออฟ โดยในรอบภูมิภาค จะแบ่งทีมในแต่ละดิวิชั่นของ เจลีก ที่มี 20 ทีม ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม แบ่งทีมจากปัจจัยความสะดวกในการเดินทาง และพื้นที่ที่มีหิมะตกตกอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำการแข่งขันในบางช่วงเวลาได้

ทุกทีมในแต่ละกลุ่มจะแข่งแบบเจอกันหมด ทั้งเหย้า-เยือน รวม 18 เกม ในเดือน กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2026

มีระบบคะแนน ชนะได้ 3 คะแนน แพ้ได้ 0 คะแนน ไม่มีผลเสมอ หากไม่มีผู้ชนะในเวลา 90 นาที จะตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งผู้ชนะจุดโทษจะได้ 2 คะแนน ผู้แพ้ได้ 1 คะแนน

จากนั้น ทีมแชมป์ทั้งสองกลุ่มของดิวิชั่นนั้น ๆ จะมาแข่งกันในรอบเพลย์ออฟ แบบเหย้า-เยือน 2 เกม เลกแรกแข่งวันที่ 30-31 พฤษภาคม และเลกสองแข่งวันที่ 6-7 มิถุนายน

และขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งขันพิเศษ แน่นอนว่ามันก็ต้องมีรางวัลพิเศษให้กับทีมผู้ชนะ โดยทีมแชมป์กลุ่ม ใน เจลีก 1 ที่ชนะในรอบเพลย์ออฟ จะได้สิทธิ์ไปแข่งในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิท 2026/27 ทันที

ซึ่งโควตานี้จะเข้ามาแทนที่ทีมแชมป์ เอ็มเพอเรอร์ส คัพ ที่เดิมทีจะได้สิทธิ์ไปเล่น ACL Elite แต่ในฤดูกาล 2025 มีการปรับเปลี่ยนให้ทีมที่คว้าแชมป์ เอ็มเพอเรอร์ส คัพ จะได้สิทธิ์ไปแข่งในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิท ทู 2026/27

เมื่อการแข่งขันพิเศษจบลงไป ฤดูกาล 2026/27 ของ เจลีก ก็จะเปิดฉากในเดือน สิงหาคม 2026 และจบลงที่เดือน พฤษภาคม 2027 โดยระหว่างทางจะมีช่วงพักเบรกหนีหนาวกันในเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์

Author

อิสรา อิ่มเจริญ

ชายผู้สนใจญี่ปุ่นเพียงเพราะได้ดูฟุตบอลเจลีก โปรดปรานข้าวไข่เจียวเป็นที่สุด