
จบไปแล้วกับการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ลาส เวกัส กรังด์ ปรีซ์ ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลปรากฏว่า มักซ์ เวอร์สแตพเพ่น แห่ง เรด บูลล์ คว้าชัยชนะที่มีความหมายยิ่งสำหรับตัวเขา
โดยเรซที่ 22 ของฤดูกาลที่ ลาส เวกัส สตริป เซอร์กิต เวอร์สแตพเพ่น เหยียบคันเร่งจากกริดที่ 2 ขึ้นมานำตั้งแต่โค้งแรก และขับได้อย่างยอดเยี่ยมจนซิ่งผ่านธงหมากรุกคันแรก ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 21 นาที 8.429 วินาที หลังวิ่งครบ 50 รอบสนาม และเป็นแชมป์เรซที่ 69 ในอาชีพของเขา
ขณะที่อันดับ 2 คือ แลนโด นอร์ริส แห่ง แม็คลาเรน ที่เข้าตามหลังแชมป์มาถึง 20.741 วินาที และอันดับ 3 เป็น จอร์จ รัสเซลล์ จากค่าย เมอร์เซเดส ส่วน ออสการ์ ปิอัสตรี อีกหนึ่งนักแข่งลุ้นแชมป์โลกจากแม็คลาเรน เข้าที่ 4
จบเรซนี้กลายเป็นทำให้ การชิงตำแหน่งแชมป์โลกนักขับแห่งฤดูกาล 2025 เพิ่มความเข้มข้นไปอีกขั้นเมื่อ เวอร์สแตพเพ่น ยังไม่ยอมยกธงขาวง่ายๆ ต่อลมหายใจลุ้นแย่งแชมป์กับสองนักแข่งจากค่ายแม็คลาเรนอย่าง นอร์ริส กับ ปิอัสตรี ต่อไปอีก
ส่วน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ของวิลเลี่ยมส์ โชคร้ายแข่งไม่จบ หลังรถได้รับความเสียหายบริเวณปีกหน้า จากการชนกับรถของ ลูอิส แฮมิลตัน จากเฟอร์รารี่ ในรอบที่ 15 แม้จะเข้าพิตไปแก้ไขสถานการณ์ แต่สุดท้ายก็ต้องออกจากเรซในรอบที่ 38 ไม่มีแต้ม
สำหรับ F1 จากนี้จะเข้าสู่สนามที่ 23 สนามรองสุดท้ายของฤดูกาลคือ กาตาร์ กรังด์ ปรีซ์ วันที่ 28-30 พฤศจิกายน นี้ ที่ลูเซล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ซึ่งเรซนี้จะทำให้ศึกชิงแชมป์โลกระหว่าง 3 คน เวอร์สแตพเพ่น, นอร์ริส และ ปิอัสตรี เห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น