ทันทีที่คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย เผยโฉมอย่างเป็นทางการ หนึ่งในประเด็นที่แฟนกีฬาหยิบมาพูดถึง คงหนีไม่พ้น "F1" หรือ "MotoGP" ?
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ F1 และการต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก MotoGP ที่จะหมดในปี 2026 เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง และปฏิเสธไม่ได้ว่า ถือเป็นหนึ่งในภาพแทนของการเมืองคนละขั้ว ที่นำมาซึ่งเหตุการณ์มากมายในระยะหลังมานี้
เรื่องดังกล่าว "รมต.เบนซ์" อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ Main Stand ไว้ดังนี้
การต่อสัญญาจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ?
"ผมมองว่า อิเวนต์ต่าง ๆ ก็ต้องดูเรื่องความคุ้มค่า จะสร้างชื่อเสียง จะสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศได้อย่างไร ซึ่งบางครั้ง การสร้างภาพลักษณ์ ก็ไม่สามารถแปลออกมาเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจได้ ผมมองว่า ในเรื่องนี้คงต้องคุยกัน แต่ถ้ามีโอกาสที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ผมก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ประเทศไทย จะได้จัดอิเวนต์ที่มันมีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากสากล ให้ไทยเป็นหนึ่งใน Destination ด้านกีฬาและการท่องเที่ยวไปในคราวเดียวกัน"
โมโตจีพี และ F1 คนมักถูกมองว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมือง คนละฝั่ง คนละฝ่าย ?
"ก็ให้คนอื่นมองไป ผมมองว่าเป็นเรื่องของความคุ้มค่า และเป็นเรื่องของความพร้อมของประเทศ ถ้าวันหนึ่ง มันเกิดมีขึ้น แล้วเราจัดได้ดี มันก็เป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ในสายตาของชาวโลก"
ดังนั้น ท่านจะเข้ามาดูเรื่องที่ไทย เคยทำ MOU กับทาง F1 ใช่หรือไม่ ?
"คงต้องเข้าไปดูนะครับ ถ้าบอกว่า ไม่เข้าไปดูเลย ก็คงไม่ได้ใช่ไหม"
ยืนกราน วันแรก คงไม่ปัดเรื่อง F1 ทิ้ง ?
"ไม่ครับ ก็อย่างที่ทราบว่า รัฐบาลนี้ เราก็คงจะมีเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ฉะนั้น ผมคงต้องเลือกภารกิจที่เร่งด่วนก่อน ส่วนเรื่องการปูพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปูพื้นฐานให้กับนักกีฬา ให้เขามีโอกาสมากกว่านี้ หรือว่าให้ Facility ต่าง ๆ มีความพร้อม ผมคงทำไปในคราวเดียวกัน แต่ว่าเรื่องเร่งด่วน ก็อย่างที่ทราบกันนะครับ เรื่องแรก ผมก็คงยังไม่โฟกัสอย่างอื่น โฟกัสเรื่องซีเกมส์ ก่อน ส่วนอย่างอื่น ก็ทำไปเรื่อย ๆ"