กาแฟอาจเป็นเครื่องดื่มที่หลายๆคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติ กลิ่น ซึ่งความชื่นชอบในรสชาติของคาเฟอีนตรงนี้..ยังส่งต่อพลังงานให้บางคนตัดสินใจลงเรียนทำกาแฟเองกับมือ เหมือนเรื่องราวของ “ริกะ อิชิเกะ” นักชกหญิง MMA ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น
ชื่อของ ริกะ อิชิเกะ เป็นที่รู้จักในวงการกีฬาศิลปะการต่อสู่อย่างปฏิเสธไม่ได้เพระาเธอเคยมีโอกาสขึ้นไปชกในรายการ One Championship มาแล้ว
แต่อีกหนึ่งสิ่งนอกเหนือจากการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ริกะ อิชิเกะ ยังมีความชื่นชอบในรสชาติของกาแฟไม่แพ้กัน จนถึงขั้นลงเรียนทำกาแฟและมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันดริปกาแฟมาแล้วด้วย
“ปกติเวลาซ้อมหรือใช้ชีวิตประจำวันเราก็จะกินกาแฟอยู่แล้ว เพราะมันมีคาเฟอีนช่วยให้เราตื่นตัว เราก็เลยชอบกินกาแฟ”
“พอกินไปแล้ว เรารู้สึกว่ากาแฟมีวิธีการทำที่หลากหลาย ทั้งใช้เครื่องหรือแค่เติมน้ำร้อนก็กินได้เลย แต่พอย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ ประมาณ 5 เดือน ซึ่งที่เชียงใหม่ก็เป็นเมืองกาแฟ ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ เราเลยตัดสินใจไปเรียนทำกาแฟดีกว่า” ริกะ อิชิเกะ เล่าจุดเริ่มต้นก่อนที่เธอจะเริ่มลงเรียนดริปกาแฟ แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นเรียนได้แค่ 3-4 เดือนเท่านั้น
ในการตัดสินใจลงเรียนครั้งนี้เธอได้ทดลองทำกาแฟด้วยวิธีที่หลากหลายทั้งการใช้เครื่องทำกาแฟ การทำลาเต้อาร์ต ก่อนที่จะค้นพบวิธีที่ตนเองชื่นชอบและถนัดอย่างการดริปกาแฟ
“ตอนที่เราเรียนทำกาแฟ อาจารย์ที่สอนเขาก็เลยถามเราว่า ‘อยากลองไปแข่งไหม ?’ เพราะว่าเวลาเราดริป เราดูมีแวว เราก็เลยตัดสินใจไปลงแข่งดู”
“พอไปแข่งสนามแรกก็คือตกรอบ…พอมาสนามที่สองก็ได้ที่สาม คือเราก็อยากท้าทายตัวเองเหมือนกัน มันเหมือนศิลปะการต่อสู้เลย พอเราเริ่มทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เราเองก็อยากรู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน เหมือนตอนที่เราเริ่มลงแข่งครั้งแรก”
อย่างที่ ริกะ อิชิเกะ กล่าวไปข้างต้นแม้ว่าการดริปกาแฟกับการฝึกศิลกะการต่อสู้อาจจะดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ที่สุดแล้วสองสิ่งนี้กลับเหมือนกันอย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สมาธิ ความลื่นไหล และยังมีมุมมองของศิลปะอีกด้วย
นอกจากการดริปจะเป็นวิธีที่เธอถนัด ริกะ อิชิเกะ ยังนำสิ่งที่เธอไปเรียนมาประยุกต์ใช้กับการดริปกาแฟดื่มเองและนี่คือรสชาติที่เธอชอบ “มีดริปดื่มเองบ้าง จะชอบขั้วอ่อนหอมๆ ติดเปรี้ยวนิดหน่อยค่ะ”
และด้วยความชื่นชอบในกาแฟทำให้ ริกะ อิชิเกะ ตัดสินใจลงแข่งขันกาแฟเป็นครั้งที่ 3 ในรายการที่มีชื่อว่า “Royal Coffee from BCG to SDGs กาแฟพ่อหลวงสู่ความยั่งยืน” ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเธอจะลงแข่งขันในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
แม้ว่าจะชื่นชอบการดื่มกาแฟมาเพียงไหนแต่นักชกสาวลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น ยังไม่ทิ้งอาชีพนักกีฬาและหลังจบการแข่งขันดริปกาแฟแล้ว เธอจะมุ่งมั่นกลับมาซ้อมเพื่อเริ่มต้นลงแข่งขันใน บราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) กุยทางก่อนกลับขึ้นสังเวียน MMA