ย้อนกลับไปในปี 2021 เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ได้ทำการทุ่มเงินก้อนโตกว่า 97.5 ล้านปอนด์ กระชากตัว โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยียม มาจาก อินเตอร์ มิลาน เพื่อขจัดปัญหาการทำประตูในเกมรุก
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นไปตามคาด โรเมลู ลูกากู ยิงได้เพียง 8 ประตูในลีกในฤดูกาลเปิดตัวของเขา พร้อมกับมีประเด็นการให้สัมภาษณ์ที่เจ้าตัว ปรารถนาที่จะกลับไปอินเตอร์ มิลาน และวิพากษ์วิจารณ์แท็คติกของโทมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมสิงห์บลูส์ ณ ตอนนั้น
ส่งผลให้ในฤดูกาล 2022-23 เชลซี ตัดสินใจปล่อย โรเมลู ลูกากู ไปเล่นแบบยืมตัวกับ อินเตอร์ มิลาน ก่อนที่ศูนย์หน้าร่างยักษ์จะพา “งูใหญ่” ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ แม้สุดท้ายจะแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1
อย่างไรก็ตามล่าสุดในรายการ Koolcast Sport เมื่อถูกถามถึงช่วงเวลาที่กลับมาจากยืมตัวที่อินเตอร์ มิลาน โรเมลู ลูกากู เปิดเผยว่า อันที่จริงแล้วตัวเขาไม่ได้อยากย้ายออกจาก เชลซี
“ผมจะยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพ หลังจากนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน ผมกลับไปที่ เชลซี แล้วขอโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่”
“… แต่พวกเขาส่งผมไปเล่นกับทีมสำรอง แล้วสื่อก็ออกข่าวว่า ‘ผมอยากย้ายทีม!’ ไม่จริงเลย ผมไม่ได้อยากย้าย คุณเข้าใจที่ผมจะสื่อใช่ไหม?”
จากนั้นพิธีกรก็ขยี้ซ้ำเรื่องที่ โรเมลู ลูกากู พูดถึง อินเตอร์ มิลาน ทั้ง ๆ ที่ยังมีสัญญากับ เชลซี ซึ่ง ลูกากู ปกป้องตัวเอง ดังนี้
“ที่อังกฤษ พวกเขามีภาพจำบางอย่างเกี่ยวกับผม เพราะผมเป็นคนพูดตรง ๆ ตามความจริง และถ้าผมไม่เดินหรือพูดให้ตรงตามแบบที่พวกเขาต้องการ …”
“ลองนึกภาพว่าคุณพูดว่า ‘ผมอยากย้ายทีม’ แล้วพวกเขาจะตอบยังไง? พวกเขาจะตอบว่า ‘แต่นายมีสัญญาอยู่นะ’ … โอเค สัญญาอะไรล่ะ? เข้าใจที่ผมหมายถึงไหม?”
ทำให้ฤดูกาล 2023-24 โรเมลู ลูกากู ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับโรม่า ก่อนจะลาขาด เชลซี แบบถาวร ปัจจุบันเขาค้าแข้งอยู่กับนาโปลี ของ อันโตนิโอ คอนเต้ และเพิ่งช่วยทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 2024-25 โดยยิงไป 14 ประตู 10 แอสซิสต์ จาก 38 เกมรวมทุกรายการ
