"เขาเหมือนกลัวผม” บาโลเตลลี จัดหนัก ไม่โอเคกับ วิเอร่า ที่เจนัว หลังหมดสัญญา

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2024 มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าชาวอิตาลี ได้ย้ายมาร่วมทีมเจนัว ในฐานะแข้งฟรีเอเย่นต์ ตามคำชักชวนของ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ กุนซือของทีม ณ ขณะนั้น

แต่ปรากฏว่าไม่กี่สัปดาห์ต่อมา อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ โดนเด้งพ้นเก้าอี้ และเป็น ปาทริค วิเอร่า ที่เข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งผู้จัดการทีมคนใหม่กับ มาริโอ บาโลเตลลี มีประวัติไม่ค่อยดีต่อกันตั้งแต่สมัยร่วมงานที่ นีซ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส

ผลลัพธ์คือ มาริโอ บาโลเตลลี ได้ลงเล่นให้ เจนัว เพียง 6 นัดเท่านั้น และทั้งหมดเป็นการลงจากม้านั่งสำรอง ก่อนจะถูกตัดออกจากทีมโดยสิ้นเชิง

หลังหมดพันธะกับ เจนัว มาริโอ บาโลเตลลี จึงออกมาให้สัมภาษณ์ระบายความในใจแบบจัดหนักถึงปัญหาในทีมเจนัว ตอนที่เขาอยู่ โดยเฉพาะกับ ปาทริค วิเอร่า ผ่านพอดคาสต์ Centrocampo ว่า

“ตอนที่ ปาทริค วิเอร่า มาถึง เขาโทรมาหาผม ถามสารทุกข์สุขดิบ ถามเรื่องทีม เหมือนมีเจตนาดี แต่หลังจากนั้นก็ส่งผมลงแค่ไม่กี่นาทีใน 2-3 เกมแรก”

“ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับเขาว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ผมไม่ได้ขอเล่นเต็ม 90 นาทีสักหน่อย แต่เขาส่งผมลงเล่น 2 หรือ 4 นาทีเท่านั้น แล้วเกมเจอเลชเช่ ก็ให้ผมนั่งสำรองเฉย ๆ แถมเกมกับมิลาน เราได้ฟรีคิกนาทีที่ 86 แต่เขาก็ไม่เรียกผมลงสนาม”

“ซึ่ง ปาทริค วิเอร่า บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่แค่เลือกใช้นักเตะที่วิ่งเยอะกว่า ก็เข้าใจนะว่า อันเดรีย ปินามอนติ เป็นตัวจริงเพราะช่วยเกมรับได้เยอะ แต่ผมไม่ควรได้เล่นแค่ 2 นาที ผมมั่นใจว่าสามารถเปลี่ยนเกมได้”

“ผมได้ลงเล่น 4 นาทีในเกมกับ นาโปลี และเกือบยิงได้ มันรู้สึกเหมือน วิเอร่า กลัวว่าถ้าผมยิงได้ เขาจะต้องจำใจส่งผมลงเล่น เขาอยากเป็นฮีโร่ของเจนัว และรำคาญเวลานักข่าวเอาแต่ถามถึงผม”

“ผมรู้สึกผิดหวังมากในทุกด้าน ทั้งที่ตอนเรายังเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน ผมไม่เคยมีปัญหากับเขาเลย ตอนอยู่ที่นีซ ผมก็ได้ลงเล่นเป็นประจำ บางครั้งเขาถอดผมออกแล้วบอกว่าผมต้องวิ่งมากกว่านี้ แต่ผมก็ยิงได้เยอะ แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปหมด?”

“วิเอร่า ไม่สามารถยอมรับได้ ผมให้คำแนะนำเขา แต่เขากลับตอบผมด้วยการไล่ให้ไปไกลๆ มันเป็นแค่ความต้องการจะเป็นพระเอกของเรื่อง เขาอยากเป็นจุดสนใจ ผมหาเหตุผลอื่นไม่เจอเลย หรือไม่ก็ผมทำให้เขาหงุดหงิดนั่นแหละ”

“ผมสรุปเลยนะ ปัญหาคือ ปาทริค วิเอร่า ไม่ชอบผม มันไม่เกี่ยวกับฟุตบอลเลยแม้แต่นิดเดียว”

นอกจากนี้ มาริโอ บาโลเตลลี ยังซัดบอร์ดบริหารเจนัว ด้วยว่าไม่มีความกล้าที่จะออกมาแสดงจุดยืนหลังการมาของ ปาทริค วิเอร่า และสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

“สโมสรไม่มีความกล้าที่จะพูดอะไรเลย ผมพยายามหาเหตุผลที่แท้จริงสำหรับเบื้องหลังเรื่องนี้มาตลอด ผมเขียนข้อความยาวๆ ถึงเขาในวันหนึ่ง และจะเผยแพร่ในที่สุด แต่เขาไม่เคยให้คำตอบผมเลย แม้แต่จะมองตาผมก็ยังไม่ทำ สุดท้ายผมถูกบังคับให้ฝึกซ้อมคนเดียว”

“เจนัวบอกผมว่า วิเอร่า กลัวว่าผมจะไม่ยอมรับบทบาทตัวสำรอง ซึ่งมันไร้สาระสิ้นดี แค่พูดมาตรง ๆ เถอะว่าผมทำให้เขารำคาญ!”

“เรามีการคุยกัน 2 ครั้ง เขาเอาแต่พูดซ้ำไปซ้ำมาบอกว่าผมอาจจะสร้างปัญหา แต่ถามหน่อยว่าผมเคยสร้างปัญหาให้ทีมตอนไหน? ทุกคนในห้องแต่งตัวรักผมนะ ผมไม่มีปัญหากับใครเลย”

“ถ้าผมได้ซ้อมร่วมกับทีม ผมน่าจะยกระดับให้ทีมได้ ผมไม่รู้สึกว่าปัญหามันหนักหนาถึงขนาดที่ผมวิ่งไม่พอสำหรับแท็กติกของวิเอร่า … ผมเคยคิดจะย้ายออกตั้งแต่ธันวาคม แต่ผมอยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นก่อน”

ก่อนที่ มาริโอ บาโลเตลลี จะทิ้งท้ายแบบเจ็บแสบว่าสโมสรเจนัว ไม่มีความเคารพให้เขาเลย “ผมไม่คิดเลยว่าคนที่ผมทำงานด้วยที่เจนัวจะไร้ความเคารพได้ขนาดนี้ แม้แต่ในฐานะเพื่อนมนุษย์”

“ผมคาดหวังว่าพวกเขาจะไม่ติดต่อผมอีกเลยตลอดชีวิต พวกเขามีเวลาตั้ง 7 เดือนที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่แสดงความเคารพใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีแม้แต่คำขอโทษด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม”