Feature

Get the Table! : Dudley Boyz ตำนานแท็กทีมจอมพังโต๊ะแห่ง WWE | Main Stand

หากเป็นคอมวยปล้ำในปลายยุค 1990 เป็นต้นมา เชื่อว่าทุกคนน่าจะต้องรู้จักกลุ่มนักมวยปล้ำจอมพังโต๊ะอย่าง เดอะ ดั๊ดลี่ย์ บอยซ์ (The Dudley Boyz) กันเป็นอย่างดี

 


สองพี่น้อง บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน เป็นหนึ่งในคู่หูแท็กทีมมวยปล้ำที่มีคาแร็คเตอร์อันโดดเด่นที่สุดทีมหนึ่งแห่งสมาคม WWE นอกจากลีลาการปล้ำที่สนุกดุดันแล้ว ไฮไลท์เด็ดที่เป็นท่าไม้ตายของพวกเขาก็คือ การจับคู่ต่อสู้ฟาดใส่โต๊ะให้คนดูกู่ร้องด้วยความสะใจ จนกลายเป็นลายเซ็นที่ไม่มีใครเหมือน

และนี่คือเรื่องราวของตำนานแท็กทีม ดัดลี่ย์ บอยซ์ สองพี่น้องจอมพังโต๊ะ ที่ครองใจแฟนมวยปล้ำมาตลอดทุกยุคทุกสมัย

 

แท็กทีมสุดฮาในค่ายเอ็กซ์ตรีม

ก่อนจะเป็นที่รู้จักในชื่อของทีม ดั๊ดลี่ย์ บอยซ์ สองพี่น้องตระกูลดั๊ดลี่ย์ มีชื่อจริงว่า มาร์ค โลโมนาโก (บั๊บบ้า เรย์) และ ดีวอน ฮิวจ์ส (ดีวอน) พวกเขาจับคู่กันปล้ำให้กับสมาคมมวยปล้ำ ECW ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดิบ สนุกสนาน และโหด มัน ฮา ไม่เหมือนใคร

คาแร็กเตอร์ของ บั๊บบ้า เรย์ สมัยอยู่ ECW เขาเป็นไอ้หนุ่มบ้านนอก รูปร่างอ้วนท้วนพูดติดอ่าง ส่วน ดีวอน เป็นเด็กผิวดำหนึ่งเดียวของตระกูล นอกจากนี้ยังมีน้องชายอีกคนมาร่วมสร้างสีสันอย่าง สไปค์ ดั๊ดลี่ย์ (หรือชื่อจริง แมตต์ ไฮสัน ที่ความจริงแล้วอายุแก่กว่า 2 คนนี้อีก)

ทั้งสามคนร่วมกันโชว์ฟอร์มใน ECW จนเป็นที่รู้จักของคนดู ก่อนที่เวลาต่อมา บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน ได้จับมือกันเป็นคู่หูแท็กทีม The Dudley Boyz แบบจริงจัง และกลายเป็นขวัญใจของแฟน ๆ จากการไล่กระทืบคู่ต่อสู้จนคว้าแชมป์แท็กทีม ECW ร่วมกันถึง 8 สมัย

 

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ The Dudley Boyz สมัยอยู่กับ ECW คือแมตช์ชิงแชมป์แท็กทีมกับ บอลส์ มาโฮนีย์ และ สไปค์ ดั๊ดลี่ย์ ในศึก ECW Heat Waves ปี 1999 โดยแมตช์นี้จบลงที่ บอลส์ มาโฮนีย์ และ สไปค์ ดั๊ดลี่ย์ เอาชนะป้องกันแชมป์ได้ แต่ฉากสุดท้ายกลับจบไม่สวยเมื่อ บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน จัดการเอาโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้ามากาง แล้วจุดไฟ ก่อนจับ สไปค์ ทุ่มใส่โต๊ะติดไฟจนสิ้นสภาพ สะใจแฟนมวยปล้ำสายฮาร์ดคอร์กันไป

เหตุการณ์ที่ บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน จับคู่ต่อสู้ทุ่มใส่โต๊ะติดไฟในศึก Heat Waves 1999 ซึ่งมีการถ่ายทอดสด PPV ไปทั่วอเมริกา กลายเป็นเรื่องฮือฮาในทีวี เพราะเป็นครั้งแรกเลยที่ช็อตดังกล่าวถูกนำเสนอสู่สายตาคนดูมวยปล้ำทางบ้านเป็นวงกว้าง และทำให้ชื่อเสียงของทั้งคู่กระฉ่อนเข้าไปยิ่งกว่าเดิม

ก่อนที่ The Dudley Boyz จอมดีเดือดคู่นั้น จะได้ย้ายสู่บ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม และเป็นบ้านที่จะทำให้แฟนมวยปล้ำรู้จักลีลาความ โหด มัน ฮา ของพวกเขามากขึ้นไปอีก นั่นก็คือสมาคมมวยปล้ำระดับบิ๊กเบิ้มของวงการอย่าง WWF (หรือ WWE ในปัจจุบัน) 

 

เริ่มโดดเด่นยุคแอตติจูด

Dudley Boyz ของ บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน เปิดตัวสู่สายตาแฟนๆ WWF ครั้งแรกในศึก Smack Down วันที่ 2 กันยายน 1999 โดยยังคงใช้คาแร็กเตอร์เดิมสมัยอยู่ ECW มาต่อยอด และลีลาการปล้ำของพวกเขา สมัยอยู่ ECW เร้าใจยังไง ย้ายมา WWF ก็ยังเร้าใจ และฮาเหมือนเดิม

แน่นอนว่าการโยกย้ายสู่ WWF ทำให้ชื่อเสียงของ Dudley Boyz กระฉ่อนไปไกลกว่าเดิม โดยเฉพาะการจับคู่ต่อสู้ฟาดใส่โต๊ะด้วยท่าไม้ตาย 3D (Dudley Death Drop) สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่คนดูมวยปล้ำสายแมสอย่างมาก จนกลายเป็นว่าวันไหนไม่ได้เห็น บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน จับคู่แข่งฟาดโต๊ะ ก็เหมือนจะนอนไม่หลับ

ช่วงเวลาที่ Dudley Boyz โลดแล่นอยู่ใน WWF ซึ่งเป็นช่วงยุคแอตติจูดอันโด่งดังนั้น พวกเขาสร้างแมตช์สุดมันเอาไว้มากมาย กับคู่แข่งแท็กทีมร่วมยุคเดียวกัน โดยเฉพาะสองทีมคู่ปรับสุดคลาสสิคอย่าง Hardy Boyz พี่น้อง แมตต์ และ เจฟฟ์ ฮาร์ดี้ กับคู่แท็กทีมซูเปอร์สตาร์ เอดจ์ และ คริสเตียน เรียกว่า 3 กลุ่มนี้เจอกันทีไร การันตีความมันได้เสมอ

 

แน่นอนว่าแมตช์สุดคลาสสิคที่ทำให้ Dudley Boyz กลายเป็นตำนานอย่างแท้จริง ก็คือศึกชิงแชมป์แท็กทีมสามเส้า ใน Summerslam ปี 2000 โดยพวกเขาขึ้นเวทีสู้กับคู่ปรับแท็กทีมที่คุ้นเคยอย่าง Hardy Boyz และ เอดจ์ & คริสเตียน และความพิเศษของแมตช์นี้คือ นี่คือแมตช์ที่เรียกว่า Tables Ladders and Chairs (TLC) ที่ทุกทีมสามารถใช้ โต๊ะ เก้าอี้ บันไดเหล็ก เป็นอุปกรณ์เสริมหลักสูตรได้

แมตช์ TLC ใน Summerslam 2000 ที่กลายเป็นตำนาน ก็เพราะทั้งสามทีมต่างร่วมมือกันโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยอมลงทุนเจ็บตัวในทุกรูปแบบ โดนเก้าอี้ฟาด กระโดดทับบันไดเหล็ก โดยเฉพาะ บั๊บบ้า เรย์ ที่ลงทุนยอมโดน เอดจ์ กับ คริสเตียน ผลักตกจากบันไดเหล็กบนเวที ร่วงไปกระแทกโต๊ะที่อยู่ข้างล่างแบบหลับสนิท ก่อนที่ชัยชนะตกเป็นของ เอดจ์ กับ คริสเตียน ที่ปีนบันไดขึ้นไปปลดเข็มขัดแชมป์แท็กทีมมาได้สำเร็จ

ปีต่อมา Dudley Boyz, Hardy Boyz และ เอดจ์ & คริสเตียน โคจรมาเจอกันอีกรอบในศึก TLC ภาคสอง ที่คราวนี้มาสู้กันในศึก WrestleMania 17 ในปี 2001 ซึ่งทุกทีมก็ยังทุ่มเทโชว์ฟอร์มยอมเจ็บตัวกันเต็มที่เพื่อให้คนดูมีความสุข โดยเฉพาะ บั๊บบ้า เรย์ ที่ยอมโดนฉายภาพซ้ำ ถูกผลักตกจากบันไดเหล็กไปฟาดกับโต๊ะที่อยู่ล่างเวที สลบเหมือดแบบสะใจแฟน ๆ แล้วก็เป็น เอดจ์ กับ คริสเตียน ที่คว้าแชมป์ไปอีกตามเคย

 

แมตช์ TLC ทั้งสองภาค บวกกับช็อตการถล่มโต๊ะของ Dudley Boyz อีกมากมายในโชว์รายสัปดาห์และศึกใหญ่ ส่งให้คู่หู บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน กลายเป็นขวัญใจแฟนมวยปล้ำทั่วโลกโดยสดุดี โดยหลังจากนั้น พวกเขาก็มีเรื่องราวกับคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ และได้ สไปค์ ดั๊ดลีย์ น้องชายอีกคนมาร่วมทีมกันสร้างสีสันอยู่อีกพักหนึ่ง ก่อนที่ทั้งหมดจะไม่ได้รับการต่อสัญญา และจาก WWE ไปในปี 2005 ในแบบไม่ดีนัก เพราะทางสมาคมไม่ต่อสัญญา แถมสร้างบาดแผลแก่พวกเขาด้วยการห้ามใช้ชื่อ Dudley Boyz ในสมาคมอื่น จนเป็นเรื่องเป็นราวฟ้องร้องกัน

ถึงจะจากกันด้วยไม่ดีนักในตอนนั้น แต่ Dudley Boyz ก็สร้างตำนานของตัวเองเอาไว้ในโลกมวยปล้ำแบบไม่มีใครปฏิเสธได้ ด้วยตำแหน่งแชมป์แท็กทีม 8 สมัย และการพังโต๊ะที่กลายเป็นลายเซ็นเฉพาะตัวของพวกเขา ชนิดว่าเมื่อมีแมตช์มวยปล้ำที่ใช้โต๊ะสี่เหลี่ยมมาเป็นอาวุธกัน คนดูก็จะนึกถึง บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน เสมอ

 

ไปเอาโต๊ะมา !

นอกจากคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจน ท่าไม้ตายการปล้ำอันโดดเด่น อีกหนึ่งจุดที่เป็นภาพจำของ Dudley Boyz คงหนีไม่พ้นวลี "Get the Table!" หรือที่แฟนมวยปล้ำชาวไทย ได้ยิน น้าติง นักพากย์มวยปล้ำในตำนาน ตะโกนออกมาบ่อย ๆ ว่า "ไปเอาโต๊ะมา !"

ครั้งหนึ่ง ดีวอน ได้ออกมาเปิดเผยถึงที่มาของวลีนี้ผ่านทางรายการพ็อดแคสต์ของ คริส แวน วิเล็ตต์ ซึ่ง ดีวอน ก็ยอมรับว่าคำพูดนี้มันเกิดขึ้นโดยความบังเอิญ

"ในศึก RAW สักตอนหนึ่งนี่แหละ เราก็กำลังปล้ำกับคู่แข่งอยู่เป็นปกติ แต่แล้วผมก็ลืมบทว่าต้องลงไปเอาโต๊ะใต้เวที จน บั๊บบ้า ทนไม่ไหวต้องสั่งให้ผมไปเอาโต๊ะมา"

"และด้วยความที่สนามมันคนดูเยอะ บั๊บบ้า ก็เลยตะโกนบอกผมว่า เฮ้ย ! ดีวอน ไปเอาโต๊ะมา" ผมก็แบบ โอ้ ! ซวยแล้วลืมบท ก็เลยรีบลงไปเอาโต๊ะมากางบนเวที

"โอเค ครั้งแรกครั้งที่ 2 ยังพอเข้าใจนะ แต่นี่เอ็งเล่นพูดมันทุกครั้งเลย มันน่ารำคาญ ฉันไม่ใช่เด็กนะโว้ย ! ฉันจำได้ ดังนั้น เอ็งไม่ต้องมาบอกให้ฉันไปเอาโต๊ะอีกนะ พอเลย !"

 

จากคำที่ บั๊บบ้า ตะโกนเรียกสติกับ ดีวอน ให้ไปเอาโต๊ะมาใช้เพราะลืมบท แต่ดันกลายเป็นว่า ไอ้ประโยค "Get the Table!" ดันกลายเป็นวลีฮิตที่แฟน ๆ ชื่นชอบกันมาก จนทั้งคู่เกิดปิ๊งไอเดีย และตัดสินใจแล้วว่าจะเอาไอ้ประโยคนี้แหละ มาใช้บนเวทีแบบเป็นทางการเสียเลย

และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาจะงัดโต๊ะออกมาใช้ ก็จะเป็น บั๊บบ้า เรย์ ตะโกนใส่ ดีวอน ว่า "Get the Table!" เสมอ

หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้วลีนี้กันมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นคำพูดเฉพาะของแฟนมวยปล้ำ เมื่อเห็น Dudley Boyz ขึ้นปล้ำ เดี๋ยว บั๊บบ้า ก็จะผลักอก ดีวอน แล้วเอ่ยคำพูดที่ในเวลาต่อมาจะกลายเป็นตำนานอย่าง "D-Von! Get the Table!"

 

ตำนานที่ไม่มีวันตาย

6 ปีที่ The Dudley Boyz ขึ้นปล้ำให้กับ WWE ระหว่างปี 1999-2005 พวกเขาทำผลงานในลีกแท็กทีมได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์แท็กทีมและแชมป์เส้นเดี่ยวได้หลายสมัย 

แต่สมาคมกลับเลือกไม่ต่อสัญญากับทีมนี้ เพราะต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท ทำให้ปี 2005 The Dudley Boyz ก็ได้ออกจาก WWE ไปขึ้นปล้ำในสมาคมมวยปล้ำทางเลือกอย่าง Total Nonstop Action Wrestling (TNA)

ตอนที่ออกจาก WWE ด้วยความที่ชื่อกลุ่มและชื่อนักมวยปล้ำเป็นลิขสิทธิ์ของสมาคม ทำให้ The Dudley Boyz จำเป็นต้องใช้ชื่อทีมใหม่ในนาม Team 3D มีที่มาจากท่าไม้ตายของพวกเขาอย่าง Dudley Death Drop ส่วน บั๊บบ้า เรย์ ก็ต้องบิดชื่อให้เป็น Bully Ray เพื่อหลบเลี่ยงลิขสิทธิ์

พวกเขาใช้เวลาโลดแล่นนอกสมาคม WWE ยาวนานหลายปี ทั้งกับ TNA รวมถึงสมาคมในประเทศญี่ปุ่น และค่ายอินดี้อื่น ๆ ซึ่งทั้ง บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน ต่างกวาดแชมป์ทั้งเส้นเดี่ยวและเส้นแท็กทีมมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

 

จนวันที่ 24 สิงหาคม 2015 ขณะที่ The New Day แก๊งแท็กทีมตัวป่วนที่ประกอบไปด้วย เซเวียร์ วูด, บิ๊กอี และ โคฟี่ คิงสตัน กำลังฉลองชัยชนะหลังขึ้นปล้ำ

จู่ ๆ พลุลูกหนูก็ระเบิดที่หน้าเวทีเปิดตัว ปรากฏเป็นเพลงและภาพของ The Dudley Boyz ซึ่งทั้ง บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน ก็เดินออกมาจากหลังฉาก แฟน ๆ ต่างส่งเสียงเฮกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม บาร์เคลย์ เซนเตอร์ ในย่านบรู๊คลิน มหานครนิวยอร์ก

ก่อนที่ The Dudley Boyz จะมาสู้กับแก๊ง The New Day ซึ่งคู่นี้ก็ไม่ลืมที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนดูด้วยการผลักอก ดีวอน แล้วนับ 1 2 3 ให้คนดูตะโกนพร้อมกันสุดเสียงว่า "Get the Table!" ตามด้วยการใส่ท่า 3D ฟาด เซเวียร์ วูด ลงไปกลางโต๊ะที่กางไว้บนเวทีให้คนดูได้แสดงอารมณ์สะใจกันแบบสุดเหวี่ยง

แม้จะกลับสู่สมาคมอีกครั้งในรอบ 10 ปี แต่การคัมแบ็กรอบนี้กราฟผลงานของพวกเขาก็ดูจะพุ่งสูงแค่ตอนช่วงแรก เพราะหลังจากนั้น Dudley Boyz ก็กลายเป็นทีมที่คอยผลักดันรุ่นใหม่ในลีกแท็กทีมซะมากกว่า

ทำให้ในปี 2016 พวกเขาก็ออกจาก WWE อีกครั้ง และหลังไปขึ้นปล้ำกับสมาคมอินดี้ได้ไม่นาน ตัวของ ดีวอน ก็ตัดสินใจเลิกปล้ำก่อนกลับไปที่ WWE ในฐานะของโปรดิวเซอร์หลังฉาก ขณะที่ บั๊บบ้า เรย์ หรือ บูลลี่ เรย์ ยังคงขึ้นปล้ำในสมาคมอื่นต่อไป

เดือนมกราคม 2018 Dudley Boyz รีเทิร์นกลับสู่ WWE อีกหนึ่งรอบ แต่คราวนี้พวกเขาได้มามีเรื่องราวกับทีมอื่น ๆ แค่ช่วงสั้น ๆ ให้พอหายคิดถึงก็เท่านั้น    

 

ยอดแท็กทีมแห่ง WWE และ TNA

คู่หู Bubba Ray และD-Von Dudley ต่างมีช่วงเวลาในการขึ้นปล้ำที่ยอดเยี่ยมกับ 2 สมาคมมวยปล้ำอาชีพอย่าง WWE รวมไปถึง TNA

โดยกับ WWE ที่สมาคมแห่งนี้ได้ช่วยให้ Dudley Boyz กลายเป็นคู่แท็กทีมที่สร้างสีสันต่อแฟน ๆ ได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทำอะไร คนดูก็จะส่งเสียงเอาใจช่วยทุกจังหวะ เพราะพวกเขาทำให้มวยปล้ำเป็นกีฬาเพื่อความบันเทิงมากยิ่งขึ้น

การกลับมา WWE หลายครั้งแบบที่คนดูก็เฮทุกครั้งแสดงให้เห็นว่าคู่หู Dudley Boyz ยังคงเป็นที่ถูกอกถูกใจของแฟน ๆ อยู่เสมอ เช่นเดียวกับใน TNA พวกเขาก็รีเทิร์นกลับสู่สมาคมอยู่หลายครั้งพร้อมทั้งฝากฝังผลงานที่น่าจดจำไว้มากมาย 

นั่นเลยทำให้ในกลางเดือนตุลาคม 2014 Team 3D หรือ The Dudley Boyz ได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศของ TNA อย่างเป็นทางการ ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาเป็นแท็กทีมทีมแรกที่ได้เข้าสู่ Hall of Fame ของ TNA ด้วย 

 

ตัดภาพไปที่เดือนเมษายน 2018 The Dudley Boyz ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศของ WWE ด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่ ดีวอน เลิกปล้ำไปแล้ว แต่ บั๊บบ้า เรย์ ยังคงมีไฟในการปล้ำอยู่ 

นับเป็นการการันตีถึงความสุดยอดของแท็กทีมคู่นี้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะอยู่สมาคมใด จะกลับไปกลับมากี่รอบ แต่ทั้ง บั๊บบ้า เรย์ และ ดีวอน ก็ยังคงสร้างความประทับใจในการขึ้นปล้ำได้แทบทุกครั้ง

 

อำลาคู่หูจอมพังโต๊ะ

เป็นเวลาหลายปีที่ ดีวอน ตัดสินใจเลิกปล้ำ เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพที่เรื้อรังมานานและผ่านการผ่าตัดที่บริเวณหลังมาแล้วหลายครั้ง แต่วันเวลาผ่านไปอาการบาดเจ็บของเขาก็ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ ดีวอน อยากจะลองทิ้งทวนในวงการมวยปล้ำอีกสักครั้งในวัย 50 กว่าปี

ปี 2023 สมาคม TNA ที่ในตอนนั้นมีการเปลี่ยนชื่อเป็น Impact Wrestling ได้ฉลองการออกอากาศศึกมวยปล้ำครบ 1,000 ตอน ซึ่ง D-Von ก็รีเทิร์นมาช่วย บูลลี่ เรย์ ขึ้นปล้ำในนาม Team 3D อีกครั้งก่อนเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้

ผ่านการขึ้นปล้ำมาแล้วหลายสมาคม แถมอายุอานามก็มากขึ้นจนสภาพร่างกายต่างถดถอยกันทั้งคู่ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะขึ้นปล้ำเป็นแมตช์สุดท้ายและอยากหาคู่ปล้ำที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับการอำลาในครั้งนี้

25 กันยายน 2025 Team 3D ปรากฏตัวทางสมาคม TNA ออกมาเผชิญหน้ากับ The Hardys หรือ The Hardy Boyz ของคู่พี่น้อง แมตต์ และ เจฟฟ์ ฮาร์ดี้ ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าแก่ของพวกเขาตั้งแต่สมัยที่ WWE

ทั้งสองทีมต่างท้าดวลกันว่าจะจัดแมตช์ปล้ำแบบชิงแชมป์แท็กทีมด้วยกติกาพิเศษอย่าง Winner Takes All หรือถ้าฝ่ายใดชนะจะคว้าแชมป์แท็กทีมทั้งหมดไปครอง นับว่านี่จะเป็น "One Final Table" หรือ การจับคู่ปล้ำแมตช์สุดท้ายของคู่หู บูลลี่ เรย์ และ ดีวอน ด้วย

 

โดยในศึก Bound for Glory ของ TNA เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา The Hardys ในฐานะแชมป์แท็กทีมทั้งของ TNA และ NXT ได้ขึ้นสังเวียนมาป้องกันแชมป์แบบ Winner Takes All กับ Team 3D

แมตช์การปล้ำแมตช์นี้ทำให้สาวกมวยปล้ำโดยเฉพาะของ WWE น่าจะหวนคิดถึงความหลังสมัยที่ทั้งสองทีมนี้กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งสุดท้ายผลการปล้ำเป็น The Hardys ที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ก่อนที่ Bully Ray และ D-Von จะถอดรองเท้าบู๊ทมอบให้กับพี่น้องฮาร์ดี้ ตามด้วยการสวมกอดอย่างสุดซึ้งและเสียงปรบมือส่งท้ายอันกึกก้อง ปิดฉากอาชีพนักมวยปล้ำของคู่หูจอมพังโต๊ะอย่างเป็นทางการ

เกือบ 3 ทศวรรษที่คาแร็คเตอร์พี่น้องต่างมารดาอย่าง The Dudley Boyz โลดแล่นวนเวียนอยู่ในวงการมวยปล้ำ มีทั้งช่วงเวลาที่รุ่งเรืองคว้าแชมป์แท็กทีมด้วยกัน และมีช่วงที่ต้องแยกย้ายกันไปเติบโต 

ต่อให้คู่นี้จะแตกหักกันกี่รอบ แต่สุดท้ายวาสนาและความรู้อกรู้ใจก็ทำให้พวกเขากลับมาจับมือแท็กทีมกันครั้งแล้วครั้งเล่า และช่วยกันก่อร่างสร้างความสำเร็จได้อย่างมากมายในหลากหลายสมาคม

แม้ทั้งคู่จะเลิกปล้ำไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีโอกาสโผล่มาปรากฏตัวให้เห็นที่ WWE อยู่บ้างในบทบาทต่าง ๆ เช่น กรรมการพิเศษ หรือ โปรดิวเซอร์หลังฉาก  

และหนึ่งในภาพจำที่จะยังคงเป็นตำนานในวงการมวยปล้ำต่อไปสำหรับ The Dudley Boyz นั่นคือ วลีเด็ดอันฮิตติดปากที่เริ่มต้นมาจากแค่ความบังเอิญอย่าง "Get the Table!"

 

แหล่งอ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/Dudley_Boyz
https://www.facebook.com/share/p/19aET6rHzH/
https://en.wikipedia.org/wiki/Dudley_Boyz#Extreme_Championship_Wrestling_(1996%E2%80%931999)
https://en.wikipedia.org/wiki/Dudley_Boyz#Championships_and_accomplishments
https://tnawrestling.com/news/the-hardys-battle-team-3d-one-last-time-at-tna-bound-for-glory
https://www.wwe.com/superstars/the-dudley-boyz

Author

พงศทร​ อริ​ย​ภู​ชัย

เด็กสิงห์บลู​ส์เมืองคอน​ คลั่งฟุตบอล​ ชอบมวยปล้ำ

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

สรัช สวัสดีแป้น

ออกแบบภาพ กราฟิก Main Stand