Feature

โยชิโนบุ ยามาโมโตะ : ไพ่ตาย แอลเอ ดอดเจอร์ส ผู้ที่ โชเฮ โอตานิ ยกให้เป็นพิทเชอร์ No.1 ของโลก | Main Stand

ลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส คว้าแชมป์ประจำฤดูกาลของ เมเจอร์ ลีก เบสบอล (MLB) หรือที่คุ้นหูในชื่อ เวิลด์ซีรี่ส์ ได้ในปี 2025 หลังเฉือนชนะ โตรอนโต้ บลู เจย์ส ในเกม 7 ไปแบบบีบหัวใจ ปิดซีรี่ส์ชนะ 4-3 เกม ฉลองแชมป์เวิลด์ซีรี่ส์สมัยที่ 9 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกในรอบ 25 ปี ที่ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ

 


ด้านผู้เล่นทรงคุณค่า หรือ MVP ประจำเวิลด์ซีรี่ส์ปีนี้ ไม่ใช่ตัวดังชาวญี่ปุ่นของ ดอดเจอร์ส อย่าง โชเฮ โอตานิ ที่ปีนี้รับบทบาทตัวตีและขว้างเช่นเดิม แต่เป็น โยชิโนบุ ยามาโมโตะ พิทเชอร์เพื่อนร่วมทีมและเพื่อนร่วมชาติของเขา ที่ ดอดเจอร์ส ใช้ผู้เล่นรายนี้เป็นไพ่ใบสุดท้าย ในเกมที่พวกเขา "ต้องชนะ"

หากในฤดูกาลปกติ โชเฮ โอตานิ คือตัวสำคัญของ ดอดเจอร์ส มาตลอดซีซั่น แต่ถ้านับเฉพาะในรอบชิงฯ ยามาโมโตะ คือคนที่โดดเด่นที่สุด การขว้างบอลของเขานั้น เซฟทีมให้รอดพ้นจากการเสียแต้มหลายต่อหลายครั้ง และเป็นส่วนสำคัญให้ ดอดเจอร์ส คว้าแชมป์เวิลด์ซีรี่ส์ 2 สมัยซ้อน

จน โอตานิ ที่เป็นตัวท็อปของวงการเบสบอลในปัจจุบัน ถึงกับต้องเอ่ยปากชื่นชมว่าเพื่อนร่วมทีมคนนี้คือ "พิทเชอร์ เบอร์ 1 ของโลก"

 

ค้นพบตัวเอง

โยชิโนบุ ยามาโมโตะ เกิดที่เมืองบิเซน จังหวัดโอคายามะ จังหวัดเดียวกับบ้านเกิดของพ่อและแม่ของตัวเอง

ชื่อ "โยชิโนบุ" นั้นได้มาจากการนำตัวอักษรตัวหนึ่งในชื่อคันจิของ ยูมิ ผู้เป็นแม่ ที่สามารถอ่านออกเสียงได้ว่า "โยชิ" มารวมเข้ากับคำว่า "โนบุ" จากชื่อของผู้เป็นพ่อ ทาดาโนบุ โดยยายของเขาเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้

"ผมถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายครั้ง ดังนั้นผมอยากจะชี้แจงให้ทุกคนได้รู้ จริง ๆ แล้ว ชื่อของผมได้มาจากตัวคันจิ 'ยู' ในชื่อแม่ของผม ซึ่งสามารถอ่านว่า 'โยชิ' ได้ด้วย และ 'โนบุ' จากชื่อพ่อของผม และยายของผมก็เป็นคนตั้งชื่อนี้ให้" โยชิโนบุ ยามาโมโตะ เผยถึงที่มาของชื่อตัวเอง ผ่านทาง Full-Count.jp

พ่อของเขา ทาดาโนบุ ยามาโมโตะ เคยเล่นเบสบอลในสมัยเรียน ม.ปลาย แม้ว่าจะไม่ได้เก่งถึงขั้นไปเล่นในระดับอาชีพ แต่ก็มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อความนิ่งและความทุ่มเทของเขาเมื่อต้องลงสนาม คำแนะนำต่าง ๆ ของ ทาดาโนบุ ได้หล่อหลอมความคิดของผู้เป็นลูกชาย ให้เป็นคนที่มีความพยายาม และเป็นสิ่งที่ โยชิโนบุ ยามาโมโตะ ยึดมั่นมาตลอดเส้นทางอาชีพเบสบอลของตัวเอง

โยชิโนบุ ยามาโมโตะ เริ่มเล่นเบสบอลตั้งแต่วัยประถม สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนอิเบะ ในเมืองบิเซน ก่อนจะเข้าเรียนในระดับ ม.ต้น ที่โรงเรียนมัธยมต้นบิเซ็น แล้วค้นพบว่าตัวเองถนัดในการเล่นตำแหน่งพิทเชอร์ นำไปสู่การฝึกฝนและเล่นในตำแหน่งนี้อย่างจริงจัง ตั้งแต่ปีแรกของการเข้าสู่ช่วง ม.ปลาย ที่โรงเรียนมัธยมปลายมิยาโกะ

เขาเริ่มฉายพรสวรรค์ให้เห็นกับการเล่นตำแหน่งพิทเชอร์ หลังขว้างบอลได้เร็ว 147 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในช่วง ม.5 และพัฒนาขึ้นเป็น 151 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วง ม.6

นอกจากความเร็วแล้ว ยามาโมโตะ ยังมีเทคนิคในการขว้างบอลที่หลากหลาย จนคู่แข่งจับทางได้ยาก เช่น ลูกสไลเดอร์, ลูกเคิร์ฟ ที่เวลาต่อมากลายเป็นท่าไม้เด็ดของเจ้าตัว อย่างการขว้างลูกเคิร์ฟที่โค้งราวกับเป็นสายรุ้ง

ฝีมือการขว้างบอลของ ยามาโมโตะ ทำให้หลังจบ ม.ปลาย ปี 2016 เขาได้รับความสนใจจากทีมเบสบอลระดับอาชีพในญี่ปุ่น และถูกดราฟท์เข้าสู่ทีม โอริกซ์ บัฟฟาโลส์ ในวัย 18 ปี รับรายได้ 5 ล้านเยนต่อปี (ราว 1,045,000 บาท)

แน่นอนว่า ด้วยอายุที่น้อยและประสบการณ์ที่ยังมีไม่มาก ปี 2017 ยามาโมโตะ จึงไม่ได้เป็นตัวหลักของ โอริกซ์ บัฟฟาโลส์ ในฤดูกาลแรกของตัวเอง และมีโอกาสลงเล่นที่ค่อนข้างจำกัด เพียง 5 เกม อย่างไรก็ตาม ชื่อของเขาก็ได้ถูกเอ่ยถึงโดย โชเฮ โอตานิ นักเบสบอลของ ฮอกไกโด นิปปอน-แฮม ไฟเตอร์ส ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เล่นตัวตึงที่สุดของญี่ปุ่นในเวลานั้น

ปีดังกล่าว มีเกมหนึ่งที่ ยามาโมโตะ ได้ลงเล่นเจอกับ ฮอกไกโด นิปปอน-แฮม ไฟเตอร์ส และต้องทำหน้าที่เป็นพิทเชอร์ ดวลกับ โชเฮ โอตานิ ที่เป็นแบตเตอร์ของทีมอีกฝั่ง เขาสามารถขว้างบอลให้ โอตานิ โดนเอาท์ได้ในอินนิ่ง 1 และสร้างปัญหาให้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ของ นิปปอน-แฮม ได้อยู่เรื่อย ๆ เรียก 5 เอาท์ ตลอด 5 อินนิ่งที่ได้ลงเล่นในเกมนั้น

หลังจบการแข่งขัน โอตานิ ได้กล่าวชื่นชม ยามาโมโตะ ว่า "นี่คือพิทเชอร์ที่เก่งกาจที่สุดที่ผมเจอมาในปีนี้" และนั่นคือครั้งแรกที่ โชเฮ โอตานิ ได้เมนชั่นถึงพิทเชอร์น่าจับตามอง วัย 19 ปี

การได้ลงเล่นเพียง 5 เกมในฤดูกาลแรกกับเบสบอลระดับอาชีพ ทำให้ ยามาโมโตะ รู้ดีว่าตัวเองยังต้องพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นกว่านี้ ซึ่งต้นสังกัด โอริกซ์ บัฟฟาโลส์ ก็ได้หาวิธีการฝึกฝนที่เหมาะสมให้ จนเขาค่อย ๆ แกร่งขึ้น และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในฤดูกาลต่อมา

 

พุ่งแหลนเหวี่ยงค้อน

ยามาโมโตะ ได้เปิดเผยว่า โอริกซ์ ให้เขาไปศึกษากีฬาพุ่งแหลน และลองนำศาสตร์ของกีฬาชนิดนี้มาปรับใช้กับการขว้างลูกเบสบอลของเขา

ในการฝีกซ้อมแต่ละวันของ ยามาโมโตะ เขาไม่ได้เล่นเพียงแค่เบสบอลอย่างเดียว แต่ใช้เวลาไปกับการฝึกขว้างแหลนพลาสติกอย่างเงียบ ๆ อยู่คนเดียวด้วย

แหลนที่มีความยาว 60-70 เซนติเมตร และน้ำหนัก 400 กรัม ขนาดใหญ่กว่าลูกเบสบอลแบบเห็นได้ชัด หากสามารถขว้างอุปกรณ์กีฬาชนิดนี้ได้อย่างชำนาญ ขว้างได้เป็นเส้นตรงและทำความเร็วได้ มันจะส่งผลดีต่อการขว้างลูกเบสบอลด้วยเช่นกัน นั่นคือมุมมองของ โยชิโนบุ ยามาโมโตะ ที่มีกับการฝึกขว้างแหลน

"ผมขว้างแหลนด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับตอนที่ขว้างลูกเบสบอล ผมพยายามทําให้ภาพของการขว้างลูกเบสบอล เห็นชัดที่สุด ระหว่างขว้างแหลน ผมพยายามมองหาความรู้สึกและความสมดุลนั้น" โยชิโนบุ ยามาโมโตะ ให้สัมภาษณ์กับ SPORTS BULL

"มีคนที่ต่อต้านการฝึกขว้างแหลน โดยบอกว่ามันเป็นการฝึกที่แตกต่างออกไปจากการขว้างลูกเบสบอล แต่ผมคิดว่ามันเป็นการฝึกที่ดี และผมจะทําให้มันเห็นผลลัพธ์ที่มั่นคงในอนาคต ถ้าทำให้แหลนพุ่งตรงด้วยความเร็วและสวยงาม นั่นถือเป็นสัญญาณว่าทุกอย่างกำลังเป็นไปในทางที่ดี"

นอกจากขว้างแหลนแล้ว ยามาโมโตะ ยังได้ฝึกกำลังแขนของตัวเอง ด้วยการเหวี่ยงค้อน น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม เพื่อทำให้เขามีเรี่ยวแรงมากพอสำหรับการทำหน้าที่พิทเชอร์ในเกมที่มีความเข้มข้นสูงขึ้น นับตั้งแต่ปี 2018

"ผมฝึกเหวี่ยงค้อนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นการเหวี่ยงค้อนเป็นวงกลมคล้ายกับวงสวิงกอล์ฟ โค้ชแนะนำให้ผมยกเท้าซ้ายขณะเหวี่ยงค้อน เพื่อถ่ายโอนน้ำหนักไปยังด้านขวาของร่างกาย มันจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เมื่อได้ขว้างบอลด้วยมือขวา" โยชิโนบุ ยามาโมโตะ กล่าวกับ Sponichi

ฤดูกาล 2019 เป็นต้นมา ยามาโมโตะ ได้ลงเล่นให้กับ โอริกซ์ มากขึ้น และออกสตาร์ทเป็นพิทเชอร์ตัวจริงของทีมอย่างต่อเนื่อง เขาไม่ทำให้ต้นสังกัดผิดหวัง ด้วยการคว้ารางวัลพิทเชอร์ยอดเยี่ยมแห่งญี่ปุ่น หรือ ซาวามุระ อวอร์ด ไป 3 สมัยซ้อน ในปี 2021, 2022, 2023 และได้รับรางวัล MVP ของ แปซิฟิก ลีก 3 สมัยซ้อน ในปี 2021, 2022, 2023

ผลงานของเขายอดเยี่ยมจนเบสบอลทีมชาติญี่ปุ่น ต้องเรียกติดทีมครั้งแรกในปี 2019 ก่อนจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยทีมคว้าเหรียญทอง โอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในปี 2021 ตามด้วยแชมป์โลก เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค (WBC) ในปี 2023 เรียกได้ว่าในนามทีมชาติ ยามาโมโตะ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

อีกหนึ่งสิ่งที่อาจทำให้ โยชิโนบุ ยามาโมโตะ โชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอก็คือ "การนอนหลับ" โดยเขาเคยเปิดเผยว่า ตัวเองสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะบนรถบัส หรือในสนาม ซึ่งนั่นช่วยให้เขาไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยล้าสะสมมากนัก แม้ว่าจะผ่านการลงเล่นเกมแข่งขันมาอย่างหนักหน่วงก็ตาม

หลังประสบความสำเร็จในหลาย ๆ อย่าง ทั้งในสโมสร และทีมชาติ ก็ถึงเวลาที่ โยชิโนบุ ยามาโมโตะ จะต้องออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการลงเล่นลีกต่างแดน โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ เมเจอร์ ลีก เบสบอล (MLB) ที่สหรัฐอเมริกา

ปี 2023 ลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส ทุ่มทุนสร้าง คว้าตัว โยชิโนบุ ยามาโมโตะ มาจาก โอริกซ์ บัฟฟาโลส์ ด้วยค่าตัวกว่า 50.6 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับมอบค่าจ้างให้กับผู้เล่นญี่ปุ่นรายนี้ ถึง 325 ล้านดอลลาร์ ในสัญญา 12 ปี สร้างสถิติเป็นพิทเชอร์ที่มีค่าจ้างแพงที่สุดตลอดกาลของ MLB

ดอดเจอร์ส ต้องการตัว ยามาโมโตะ เข้ามาสู่ทีมของพวกเขา เพื่อสร้างคอนเนคชั่นผู้เล่นญี่ปุ่น ร่วมกับ โชเฮ โอตานิ เจ้าของฉายา "ซามูไรดาบคู่" ที่เทพทั้งการขว้างและการตี อีกทั้ง ยามาโมโตะ ก็พกดีกรีผู้เล่นพิทเชอร์ยอดเยี่ยมของลีกญี่ปุ่น 3 ปีซ้อนมาด้วย

ฤดูกาลแรกของ ยามาโมโตะ ในศึก MLB ปี 2024 แม้ ลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส จะคว้าแชมป์เวิลด์ซีรี่ส์ แต่เขายังไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก ก่อนจะใช้เวลาปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ และยกระดับตัวเองขึ้นมาอีกขั้นในฤดูกาลต่อมา

 

กายแทบไม่ไหวแต่ใจขอสู้

ชื่อของ โยชิโนบุ ยามาโมโตะ เริ่มปรากฏอยู่ในการแข่งขัน MLB มากขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาล 2025 การขว้างบอลของเขาเริ่มสําแดงฤทธิ์ และมีบทบาทสำคัญในหลาย ๆ เกมของ ลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส จนช่วยทีมผ่านเข้ามาถึงรอบเวิลด์ซีรี่ส์ได้สำเร็จ

ลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส ฝ่าฟันแต่ละรอบเข้ามาเรื่อย ๆ จนทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ MLB หรือเวิลด์ซีรีส์ 2025 เจอกับงานหนักอย่าง โตรอนโต้ บลู เจย์ส ที่ฤดูกาลนี้ ผลงานและสถิติโดดเด่นกว่าฤดูกาลก่อนหน้าอย่างมาก เปอร์เซนต์ชนะในฤดูกาลปกติ เหนือกว่า ดอดเจอร์ส นิดเดียว ด้วยอัตราชนะ .580 ต่อ .574 ทำให้ บลู เจย์ส ได้เปรียบในการเป็นเจ้าบ้านมากเกมกว่า

6 เกมแรกในรอบชิงฯ ทั้ง 2 ทีมผลัดกันนำ ก่อนจะเสมอกันที่ 3-3 เกม ต้องไปตัดสินชี้ชะตากันในเกม 7 ที่บ้านของ บลู เจย์ส วันที่ 1 พฤศจิกายน 2025

ยามาโมโตะ ที่เกม 6 ทำหน้าที่พิทเชอร์ได้อย่างดีเยี่ยม ยืน 6 อินนิ่ง ขว้างบอล 96 ลูก เสียแต้มเดียว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 เดิมทีเขาจะต้องได้พักในเกม 7 ซึ่งแข่งวันที่ 1 พฤศจิกายน เพราะสภาพร่างกายที่ใช้ไปเต็มสูบแล้วในเกม 6 หากให้ลงเล่นเกม 7 ในวันต่อมาเลย คงไม่น่าไหว โดยก่อนหน้าที่จะลงเล่นเกม 6 ยามาโมโตะ ได้ลงเล่น เกม 2 เพียงเกมเดียว ในวันที่ 25 ตุลาคม ยืนครบ 9 อินนิ่ง ขว้างบอล 105 ลูก เสียแต้มเดียว แล้วได้พักยาว 6 วัน

ตำแหน่ง พิทเชอร์ ในเบสบอล ถือเป็นตำแหน่งที่ใช้พลังงานเยอะมาก เพราะพวกเขาต้องใช้แรงไปกับการขว้างบอลแบบสุดกำลัง หากบางเกมลงเล่นครบทุกอินนิ่ง ก็มีโอกาสที่จะต้องยืนขว้างบอลแตะหลัก 100 ลูก ลองนึกสภาพคนทั่วไปแบบเรา ๆ ขว้างบอลแบบสุดแรง สัก 10-15 ครั้ง ก็คงจะเมื่อยแขนเมื่อยไหล่กันแล้ว ดังนั้น ยามาโมโตะ ที่ลงเล่นในเกม 6 แทบจะเต็มเกมไปแล้ว ในเกม 7 เขาต้องนั่งสำรองไปก่อน

เกม 7 เป็น บลู เจย์ส ที่เปิดฉากขึ้นนำไปก่อน 3-0 แต่ ดอดเจอร์ส ก็ไล่ตามทีละนิด จนจบอินนิ่ง 8 บลู เจย์ส นำอยู่ 4-3 หากรักษาสกอร์แบบนี้ไว้ได้ หรือทำแต้มทิ้งเพิ่มไปอีกในอินนิ่ง 9 บลู เจย์ส จะเป็นแชมป์

เข้าสู่อินนิ่ง 9 ดอดเจอร์ส เป็นฝ่ายบุกก่อน แล้วได้แต้มเพิ่ม ตีเสมอ 4-4 จากนั้น บลู เจย์ส เปลี่ยนเป็นฝ่ายบุกบ้าง โดยขอเพียงแต้มเดียว เพื่อปิดเกม

ดอดเจอร์ส สับเปลี่ยนผู้เล่นพิทเชอร์มาตลอดทั้งเกม โดยไม่มี โยชิโนบุ ยามาโมโตะ ในอินนิ่ง 9 พวกเขาใช้ เบลค สเนลล์ ทำหน้าที่ขว้างบอล แต่ด้วยความกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ ไม่มีโอกาสให้พลาดเสียแต้มอีกแล้ว สเนลล์ ทำเสีย 2 เบสรวด ทำให้มีผู้เล่น บลู เจย์ส ได้ยืนอยู่ที่ เบส 1 และ 2

วินาทีนั้น ดอดเจอร์ส ตัดสินใจครั้งสำคัญ ส่งไพ่ใบสุดท้ายของพวกเขาลงสู่สนาม เลือก โยชิโนบุ ยามาโมโตะ ที่ยังคงล้าจากเกมที่แล้ว และไม่เคยลงเล่นเกม 2 วันติดต่อมาก่อน ในเบสบอลระดับอาชีพ ทำหน้าที่พิทเชอร์แทน เบลค สเนลล์ ในช่วงเวลาที่เหลือของเกม

การส่ง ยามาโมโตะ ลงสนามในครั้งนี้ ดอดเจอร์ส หวังให้เขาขว้างบอลช่วยเซฟทีมเอาตัวรอดจากอินนิ่ง 9 ไปก่อน แล้วไปเริ่มกันใหม่ในอินนิ่ง 10 ซึ่งเป็นกฎต่อเวลาพิเศษ Golden Pitch ใครแต้มมากกว่าในอินนิ่ง 10 ชนะไปเลย แต่หากเสมอกัน ต้องไปลุยกันในอินนิ่งต่อไป เล่นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผู้ชนะ

ยามาโมโตะ ลงมาในอินนิ่ง 9 ยังเล่นได้ไม่เข้าฝัก ต้องใช้เวลาปรับจูนในสนามเพิ่ม ขว้างบอลไปโดนผู้เล่น บลู เจย์ส หวดใส่ 2 ครั้งติด แต่ยังดีที่ผู้เล่น ดอดเจอร์ส ยังช่วยกันเก็บบอลเซฟทีมเอาไว้ได้ บลู เจย์ส ที่เสีย 1 เอาท์ไปแล้ว โดนเพิ่มอีก 2 กลายเป็นครบ 3 เอาท์ โดยที่ไม่สามารถทำแต้มได้ จบอินนิ่ง 9 เสมอกัน 4-4

ขึ้นอินนิ่ง 10 ดอดเจอร์ส บุกก่อน แล้วทำแต้มเพิ่มไม่ได้ โอกาสเลยมาอยู่ที่ บลู เจย์ส แต่พวกเขาก็เจอกับความยอดเยี่ยมของ ยามาโมโตะ ที่เริ่มแผลงฤทธิ์ เก็บ 3 เอาท์ได้สำเร็จ เกมยังคงเสมอ 4-4

อินนิ่ง 11 ดอดเจอร์ส ได้บุกก่อนอีกครั้ง และทำหนึ่งแต้มสำคัญ ขึ้นนำ 5-4 ก่อนส่งให้ บลู เจย์ส เป็นฝ่ายบุก ทางด้าน ยามาโมโตะ บทสรุปของเกมนี้ ขึ้นอยู่กับการขว้างบอลของเขาแล้ว หากไม่ละเอียดพอ พลาดทำทีมเสีย 2 แต้ม ทุกอย่างจะจบลงทันที

สถานการณ์ในอินนิ่งนี้ บลู เจย์ส สามารถพาผู้เล่นไปยืนอยู่ที่เบส 1 และ 3 โดยเสียไปเพียง 1 เอาท์ มีโอกาสที่พวกเขาจะทำได้เพิ่มเน้น ๆ 2 แต้ม ด้วยการที่ไม้ต่อไป ตีบอลซื้อเวลาได้สวย หรือทำโฮมรันไปเลย

แต่ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความกดดันถึงขีดสุด ยามาโมโตะ กลับแสดงความนิ่งออกมาในสนาม บอลที่เขาขว้างออกไป แรงและแม่นยำจนผู้เล่น บลู เจย์ส ต้านไม่อยู่ สุดท้ายแม้จะตีโดนจนไม้หัก แต่บอลก็ไม่ได้ลอยไปอยู่ในจุดที่ทำให้ ดอดเจอร์ส เล่นยาก พวกเขาฉวยโอกาสเก็บบอล แล้วปิดฉากเกมนี้ด้วยการทำ "ดับเบิ้ล เพลย์" 2 และ 3 เอาท์มาติด ๆ กัน เกมจบลงด้วยชัยชนะของ ลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส 5-4 ป้องกันแชมป์เวิลด์ซีรี่ส์ได้อีกหนึ่งสมัย

ยามาโมโตะ คว้ารางวัล MVP ในศึกเวิลด์ซีรี่ส์ประจำปีนี้ ไปแบบที่ไม่มีข้อครหา จาก 3 เกมที่ได้ลงเล่นในรอบชิงฯ เขาขว้างบอลไปกว่า 235 ลูก แต่ทำทีมเสียไปเพียง 2 แต้ม 

3 เกมที่ได้ลงเล่น เขาพา ดอดเจอร์ส เก็บชัยชนะได้ทุกเกม ขณะที่อีก 4 เกมที่เขาไม่ได้ลงเล่น กลายเป็น บลู เจย์ส ที่โกยแต้มเป็นกอบเป็นกำ

แม้ว่า โยชิโนบุ ยามาโมโตะ จะมีส่วนสูงเพียง 178 เซนติเมตร ซึ่งต่ำกว่าความสูงเฉลี่ยของพิทเชอร์ใน เมเจอร์ ลีก เบสบอล เกือบ 10 เซนติเมตร แต่ปัจจุบันเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพิทเชอร์ที่เก่งที่สุดของวงการ ด้วยพลังการขว้างบอลเร็วเฉลี่ย 153 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บวกกับเทคนิคการขว้างบอลอันหลากหลาย ที่สร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งมานักต่อนัก

และ โชเฮ โอตานิ กล่าวถึง โยชิโนบุ ยามาโมโตะ หลัง แอลเอ ดอดเจอร์ส คว้าแชมป์ เมเจอร์ ลีก เบสบอล ฤดูกาล 2025 โดยเขายังคงชื่นชมความเป็นพิทเชอร์ที่ยอดเยี่ยม ของเพื่อนร่วมทีมคนนี้เหมือนเดิม ไม่ได้ต่างจากตอนที่ทั้งคู่ยังเล่นอยู่ในลีกญี่ปุ่น ว่า

"ผมไม่รู้เลยว่าเขาทำได้ยังไง แต่ผมเชื่อจริง ๆ ว่าเขาคือ พิทเชอร์ เบอร์ 1 ของโลก"

 

แหล่งอ้างอิง :

https://full-count.jp/2018/02/25/post109177/3/
https://cocokara-next.com/athlete_celeb/new-ace-candidate-of-japanese-baseball/2/
https://sportsbull.jp/p/463927/
https://www.sponichi.co.jp/baseball/news/2021/02/02/articles/20210202s00001173013000c.html
https://nesn.com/2025/11/this-historical-stat-makes-yoshinobu-yamamotos-world-series-seem-impossible/
https://bleacherreport.com/articles/25276282-ohtani-calls-yamamoto-no-1-world-kershaw-reacts-historical-gutsy-feat

Author

อิสรา อิ่มเจริญ

ชายผู้สนใจญี่ปุ่นเพียงเพราะได้ดูฟุตบอลเจลีก โปรดปรานข้าวไข่เจียวเป็นที่สุด

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

สรัช สวัสดีแป้น

ออกแบบภาพ กราฟิก Main Stand