แอนโธนี่ อีลังก้า กลายเป็นบิ๊กดีลในตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนปี 2025 เรียบร้อย จากการจ่อย้ายจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ได้ไปฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2025-26
2-3 ปีก่อน นักเตะชาวสวีเดนรายนี้ยังดูเป็นปีกที่มีแค่ความเร็วเพียว ๆ ด้านอื่นแทบไม่มีอะไรโดดเด่น ... ทว่าทำไมในตอนนี้ เขาจึงกลายเป็นปีกสายสวนกลับเบอร์ต้น ๆ ของพรีเมียร์ลีกได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ย้อนดูการเติบโตครั้งสำคัญที่เขาบอกว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกที่สุด" กับ Main Stand
ตัดสินใจถูกตั้งแต่ก้าวออกมา
อย่างที่เรารู้กัน เมื่อปี 2023 แมนฯ ยูไนเต็ด ขาย แอนโธนี่ อีลังก้า ให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยราคา 15 ล้านปอนด์ และ ณ เวลานั้น แฟน ๆ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนแสดงถึงความพอใจกับการขายดาวรุ่งออกไปในราคาที่สูงกว่านักเตะอีกหลาย ๆ คนที่ทีมเคยทำได้ ทำให้ทีมมีเงินเอามาเสริมทัพนักเตะใหม่ได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อแต่ละเดือนผ่านไป อีลังก้า คนนี้ กลับแจ้งเกิดใหม่กับ ฟอเรสต์ พร้อมด้วยผลงานที่ต้องบอกได้ว่า ดีกว่าแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกคนในช่วงซีซั่น 2024-25 ที่ผ่านมา และนั่นเป็นความจริงที่ยืนยันได้ด้วยการที่เขาถูกนิวคาสเซิ่ล ทีมที่คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก จ่ายเงินเป็นค่าตัวเขาถึง 50 ล้านปอนด์ และดีลนี้ใกล้จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการจากเหยี่ยวข่าวต่างประเทศหลาย ๆ เจ้า
การเลือกก้าวออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะสำหรับเขาเป็นอย่างยิ่ง อีลังก้า ในวัย 20 ปี พบว่าตัวเองไม่ใช่ปีกในแบบที่ เอริค เทน ฮาก กุนซือของทีมในเวลานั้นต้องการ ยิ่งคนที่เคยให้โอกาสเขาลงสนามกับทีมชุดใหญ่อย่าง ราล์ฟ รังนิก ถูกยกเลิกสัญญาการเป็นที่ปรึกษาของปีศาจแดง มันก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจย้ายออกของเขาง่ายขึ้น
ย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น แม้ รังนิก จะคุมทีมปีศาจแเดงช่วงสั้น ๆ แต่ อีลังก้า ในวัย 19 ปี ได้ลงเล่นไปรวม 1,439 นาที จากทั้งหมด 26 เกม และยิงได้ 3 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิงประตูใส่ แอตเลติโก มาดริด ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาต์ด้วย
อีลังก้า กำลังมีโอกาสที่เติบโตขึ้นและมีบทบาทมากขึ้น ทว่าอย่างที่หลายคนรู้กัน การทำงานของ รังนิก กับโค้ชผู้มาใหม่ช่วงฤดูร้อนปี 2022 อย่าง เอริค เทน ฮาก นั้นดูจะไม่ตรงกัน ทำให้บทบาทที่สโมสรเคยจะวาง รังนิก ไว้ในฐานะที่ปรึกษาจึงต้องพับไป ซึ่ง ณ จุดนั้น มันก็เหมือนเป็นการปิดตายประตูการแจ้งเกิดของ อีลังก้า ลงไปพร้อม ๆ กัน
เทน ฮาก ดึงปีกในแบบที่ตัวของเขาต้องการเข้ามาอย่าง อันโตนี่ นอกจากนี้นักเตะรุ่นน้องอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ก็ดูจะถูกสไตล์การทำทีมของกุนซือชาวดัตช์มากกว่า ทำให้ การ์นาโช่ แซงหน้า อีลังก้า ไปในเรื่องของโอกาสการลงเล่น
ซึ่งเมื่อโอกาสน้อยลง การพัฒนาก็น้อยตาม ไหนจะเรื่องการบาดเจ็บที่หลังทำให้เขาหายหน้าหายตาไป 4 เดือน เผลอแวบเดียว อีลังก้า ก็กลายเป็นนักเตะที่ถูกลืมในยุค เทน ฮาก ไปเป็นที่เรียบร้อย ... 1 ปีในยุค เทน ฮาก อีลังก้า ได้ลงเล่นแต่ 751 นาทีเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่เขาพูดตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจย้ายออกมาจากทัพปีศาจแดงว่า เขาไม่กังวล และเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่ถูกต้องกับการเดินทางในสายอาชีพของเขา
"นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง 100% สำหรับผม จริงอยู่ที่ผมเติบโตมากับ ยูไนเต็ด แต่ผมฟังเสียงในหัวใจตัวเองเสมอ ตอนนี้แหละเป็นช่วงเวลาที่ผมควรเลือกเดินหน้าก้าวเข้าสู่สเต็ปต่อไป ผมอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ผมมีดีอะไรบ้าง และผมมั่นใจว่าตัวเองจะเป็นนักเตะที่ดีขึ้น และสามารถทำประตู, แอสซิสต์ ได้มากกว่าที่หลายคนเห็น" อีลังก้า กล่าว
ความรู้สึกว่าการอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยากเกินจะพัฒนาได้เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะภายใต้แรงกดดันและโอกาสที่จำกัด การย้ายทีมครั้งนี้เป็นสเต็ปสำคัญตามที่เขาพูด เพราะความต้องการโอกาสลงเล่นแบบเต็มเวลา และเล่นแบบพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่แค่ "เล่นเพื่อให้ได้เล่น" แบบที่เขาได้รับบทบาทในยุคของ เทน ฮาก
"ผมโตขึ้นมาอีกนิดและในอดีตผมเคยคิดว่า นี่เรากำลังเล่นให้กับยักษ์ใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เลยนะ แต่ผมกลับลืมคิดไปว่าตัวเองไม่เคยได้รับการพัฒนามากขึ้นเลย ความพยายามของผมเหมือนมีค่าแค่ทำให้ผมได้มีชื่อบนม้านั่งสำรอง" อีลังก้า เล่าย้อนถึงวินาทีที่เขาตัดสินใจครั้งสำคัญของเขา
เลือกจากโอกาสลงเล่น
การตัดสินใจเลือกมาเล่นให้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในตอนแรกภายใต้โค้ชอย่าง สตีฟ คูเปอร์ คนที่เคยพาทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนคว้าแชมป์โลก คือเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกทีมเจ้าป่า เหนือทีมอย่าง นิวคาสเซิ่ล และ คริสตัล พาเลซ ที่อยากจะคว้าตัวเขาด้วยในเวลานั้น
อีลังก้า บอกว่าเขามองถึงโอกาสในการสอดแทรกตัวเองขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในระดับพรีเมียร์ลีก ลงเล่นเต็ม 90 นาทีให้ได้มากที่สุด ซึ่งนี่คือสิ่งที่ คูเปอร์ และ ฟอเรสต์ ยืนยันว่าจะมอบสิ่งนั้นให้กับเขา
มาถึงจุดนี้ เราต้องย้อนความกลับไปหน่อยเพื่อที่จะทำให้คุณรู้ว่า ทำไม ฟอเรสต์ และ คูเปอร์ จึงกล้าการันตีแบบนั้นกับนักเตะที่เป็นเหมือนกับตัวประกอบของ แมนฯ ยูไนเต็ด
คำตอบหลัก ๆ ของคำถามนี้คือ อีลังก้า เป็นนักเตะที่ได้รับการการันตีจากโค้ชที่เคยร่วมงานกันหลายคน ตั้งแต่โค้ชทีมเยาวชนปีศาจแดงชุดยู 21 อย่าง นีล วู้ด ที่ให้ข้อมูลว่า อีลังก้า อาจจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในรุ่นในแง่ของความสามารถและพรสวรรค์โดยรวม แต่เขาคือนักเตะที่มีทัศนคติ ความมุ่งมั่น พยายาม มากเหนือกว่าเด็กทุกคนในรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนจะจริงถ้าเทียบกับนักเตะอย่าง เมสัน กรีนวูด และ การ์นาโช่ ตัวท็อปของรุ่นที่ต่างก็มีข่าวเสีย ๆ หาย ๆ นอกสนามในภายหลัง
ขณะที่ ราล์ฟ รังนิก คนที่มีบทบาทมาก ๆ ในการผลักดันเขาก็เคยพูดผ่านสื่อว่า สิ่งที่เขาให้โอกาส อีลังก้า ไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้เก่งที่สุด แต่เกิดขึ้นเพราะทัศนคติ การรับฟัง และการพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่โค้ชอยากจะได้เสมอ แม้จะโดนตำหนิต่อว่า เขาก็จะตั้งใจรับฟังเพื่อเอาไปแก้ไขก่อนจะกลับมาแสดงพัฒนาการให้ดีขึ้นกว่าเดิมในวันต่อมา ... รังนิก ถึงกับบอกว่าสำหรับเขา อีลังก้า คือนักเตะดาวรุ่งของทีมที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดเหนือทุกคน
ตัดภาพกลับมาที่การเริ่มต้นกับ ฟอเรสต์ อีกครั้ง ทัศนคติที่ดีของ อีลังก้า ถูกบอกเล่าต่อผ่านนักเตะและโค้ชหลาย ๆ คนเช่น คริส วู้ด ที่บอกว่านับตั้งแต่ อีลังก้า มาร่วมทีม ฟอเรสต์ บรรยากาศในการซ้อมของทีมก็สนุกมากขึ้น เพราะเป็นคนที่ซ้อมเต็มที่ และพยายามจะแสดงจุดแข็งของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งทำให้คนอื่นในสนามซ้อมตื่นตัวไปด้วย
แม้จะห่างไกลคำว่าปีกระดับท็อปของลีกในเวลานั้น แต่ทุกฝ่ายใน ฟอเรสต์ ก็พอใจกับทัศนคติและการค่อย ๆ พัฒนาตัวเองขึ้นจากโอกาสที่ได้รับในการลงสนาม ... ไม่นานนักเมื่อผ่านช่วง 5 เกมแรกของซีซั่น เขาก็กลายเป็น 11 ตัวจริงของทีม และเป็นอาวุธที่ คูเปอร์ ไว้ใช้เล่นฟุตบอลในแบบตั้งรับและสวนกลับ ซึ่งเป็นการเล่นที่เหมาะกับนักเตะอย่าง อีลังก้า สุด
เรื่องราวคำบอกเล่าจากคนเก่า ๆ และเพื่อนร่วมทีมปัจจุบันทำให้ ฟอเรสต์ กล้าการันตี 11 ตัวจริงให้กับเขา ... แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่เขามี เพราะหลังจากที่ อีลังก้า พบว่าตัวเองเข้าใจแท็คติกของทีม และเข้าใจหน้าที่ในสนามของตัวเองได้ดีแล้ว เขาเลือกที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นในอีกด้าน นั่นก็คือเรื่องร่างกาย ที่เขาเข้าโหมดฝึกซ้อมพิเศษ
เรื่องการอัปศักยภาพด้านร่างกายของ อีลังก้า ถูกบอกเล่าผ่านตัวเขาเองในสารคดีสั้นของ BBC ที่ติดตามการถ่ายวีดีโอการซ้อมของเขาเอาไว้ โดยการซ้อมครั้งนี้ถูกออกแบบพิเศษจากโค้ชฝ่ายฟิตเนสของทีมอย่าง ไซม่อน โอไบรอัน ที่เข้ามาเป็นคนดูและเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย(Strength) ขณะที่โค้ชอีกคนอย่าง ทอม จอยซ์ เป็นคนดูแลเรื่องความฟิตและความทนทานของร่างกาย (Stamina)
ในสารคดีของ BBC คุณจะได้เห็น อีลังกา ซ้อมตั้งแต่การออกแบบท่าวิ่งบนหญ้าเพื่อเพิ่มความเร็วสปีดต้นให้ได้มากขึ้น รวมถึงการเข้ายิมของทีมเพื่ออกกำลังกายส่วนขา และแกนกลาง (Core Muscle) เพื่อทำให้เขาระเบิดพลังในก้าวแต่ละก้าวที่ออกวิ่งได้เร็วขึ้น ซึ่งในซีซั่นแรกกับ ฟอเรสต์ นั้น อีลังก้า เป็นนักเตะที่มีสถิติออกวิ่งเต็มความเร็ว (Sprint) มากที่สุดของทีม เช่นเดียวกับเป็นนักเตะที่ทำความเร็วในการวิ่ง (Max Speed) อยู่ที่ 35.85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีใครในทีมฟอเรสต์เร็วกว่าเขาอีกแล้ว
การซ้อมเพื่อยกระดับร่างกายเป็นระดับการซ้อมที่เข้มข้นมาก แต่โค้ชด้านสมรรถภาพร่างกายก็ชม อีลังก้า ว่าเป็นนักเตะที่มาถึงสนามซ้อมในแบบที่พร้อมจะลุยเต็มที่ โฟกัสกับการซ้อมอย่างเดียว ใส่ให้เต็มที่จนจบการซ้อม และจากนั้นก็กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่ ... สิ่งเหล่านี้มันทำให้เห็นได้ชัดว่าพลังกายที่เพิ่มขึ้นของเขา มีส่วนอย่างมากที่ทำให้การเล่นในสนามของเขาดีขึ้น
เมื่อร่างกายดีขึ้น เร็วขึ้น อึดขึ้น และแข็งแรงขึ้นแล้ว ยิ่งได้บวกเพิ่มกับประสบการณ์ที่ ฟอเรสต์ ส่งเขาลงสนามอย่างต่อเนื่อง มันยิ่งทำให้ความโดดเด่นที่มีของเขาชัดเจนขึ้น จังหวะการเล่นของเขาพัฒนาขึ้น ลดการเล่นแบบ "จังหวะนรก" เหมือนกับตอนที่เขาเป็นดาวรุ่งน้อยลง ทำให้เขากลายเป็นตัวริมเส้นที่อันตรายขึ้น
และภาพทุกอย่างก็ชัดเจนสุด ๆ ในวันที่ สตีฟ คูเปอร์ โดนปลดออกจากตำแหน่ง และถูกแทนที่ด้วยเจ้าพ่อฟุตบอลเกมรับและสวนกลับอย่าง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เข้ามาทำทีมแทนในช่วงกลางซีซั่น 2023-24
สู่การเป็นปีกสายสวนกลับตัวจริง
เมื่อกุนซือคนใหม่อย่าง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ มาถึงในเดือนธันวาคม 2023 พร้อมกับแท็คติก "ไม่เน้นครองบอล" และเลือกใช้การเล่นสวนกลับแบบเต็มรูปแบบ มันยิ่งทำให้อาวุธของ อีลังก้า อย่าง "ความเร็ว" ถูกลับคมให้ดียิ่งขึ้น และมันทำให้เขาอันตรายกว่าเดิมเป็นอย่างมากภายใต้ระบบการเล่นนี้
ความมั่นใจกลับมาที่เขาอีกครั้ง อีลังก้า ไม่เคยกลัวที่จะบอกว่าตัวของเขาเป็นนักเตะที่ "เร็วที่สุด" ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาแสดงให้เห็นมาหลายครั้งในซีซั่น 2024-25 ด้วยการวิ่งตัวเปล่าที่มีประสิทธิภาพ
ยิ่งเมื่อมีศูนย์หน้าตัวเป้า ตัวพักบอลอย่าง คริส วู้ด มีตัวเชื่อมบอลอย่าง มอร์แกน กิ๊บส์ ไวท์ ... แอนโธนี่ อีลังก้า ก็กลับมาสู่ร่างทองในแบบที่เขาวาดภาพเอาไว้มาเสมอ นั่นคือวันที่กองหลังทีมอื่นจะต้องวิตกกังวลกับการเล่นของเขา ไม่ว่าจะตอนมีบอลอยู่กับเท้า หรือตอนที่ไม่มีบอลก็ตาม
"หน้าที่ของผมในตอนนี้กับ ฟอเรสต์ มันชัดเจนเข้าใจได้ง่าย นั่นคือการบุกทะลวงพื้นที่ฝั่งตรงข้ามและไปให้ถึงหน้าประตูคู่แข่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" อีลังก้า กล่าว
"เมื่อผมได้ลงเล่นบ่อย ๆ สม่ำเสมอ ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือการคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้าที่ดีขึ้น ผมคิดว่าตอนนี้ผมพัฒนาการมองเห็นที่ว่างของฝั่งตรงข้ามได้มากขึ้น และแน่นอน ผมเชื่อว่าผมจัดการพวกเขาได้ เพราะผมมั่นใจว่าผมคือหนึ่งในนักเตะที่เร็วที่สุดของพรีเมียร์ลีก"
โอกาสการลงเล่น การพัฒนาตัวเอง และอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้ อีลังก้า ก้าวกระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่ทานทนของเขาทำให้ในฤดูกาล 2024-25 ที่ผ่านมา อีลังก้า เป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นให้ฟอเรสต์ในพรีเมียร์ลีกครบ 38 นัด ยิงไป 6 ประตูและทำไปอีก 11 แอสซิสต์ ซึ่งนั่นทำให้ นิวคาสเซิ่ล ที่กำลังเตรียมทีมลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้า ยอมจ่าย 50 ล้านปอนด์เพื่อตัวของเขา
การเล่นให้ ฟอเรสต์ ทำให้ อีลังก้า อันตรายมากขึ้นก็จริง แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือการไปนิวคาสเซิ่ล เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่า เพราะ นิวคาสเซิล ก็เป็นทีมสายโต้กลับเร็วเหมือนกัน มีฟุตบอลไดเร็กต์ในจังหวะสวนกลับ และนักเตะทุกคนพุ่งตะบึงไปข้างหน้าโดยใช้การดึงจังหวะน้อยมาก ๆ หากเทียบกับ ฟอเรสต์
กล่าวให้เห็นภาพคือ ในฤดูกาล 2024-25 นิวคาสเซิล ทำฟุตบอลแบบสวนกลับเร็วแบบไม่ดึงจังหวะมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยค่าเฉลี่ยต่อ 1 เกมของพวกเขาใช้จังหวะสวนกลับไปสร้างโอกาสยิงมากถึง 4.6 ครั้ง ไม่มีทีมไหนในพรีเมียร์ลีกทำได้มากกว่าอีกแล้ว
ซึ่งการสวนกลับเร็ว ๆ แบบนี้ดูจะเหมาะกับ อีลังก้า ซึ่งเป็นนักเตะที่พาบอลเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ด้วยตัวคนเดียวเป็นอย่างมาก ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วกว่าเดิม ช่องทางการวิ่งของเขาก็จะยิ่งมากขึ้นเพราะคู่แข่งไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นถ้า อีลังก้า ยังพัฒนาตัวเองไม่หยุด และอยู่ในระบบฟุตบอลที่สอดคล้องกับจุดแข็งของเขาแบบนี้ ... ไม่แน่ในอนาคตอันใกล้นี้ ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ของเขาอาจจะดูถูกไปเลยก็ได้
แหล่งอ้างอิง
https://www.unitedinfocus.com/news/what-ralf-rangnick-said-about-anthony-elanga-at-man-utd-his-words-still-ring-true/
https://www.manutd.com/en/news/detail/anthony-elanga-teamviewer-diaries-importance-of-competition
https://www.bbc.com/sport/football/articles/c5y4jrlp78wo
https://www.goal.com/en/lists/anthony-elanga-prime-lionel-messi-man-utd-haunted-nottingham-forest/bltd7c739da77c71635#cs9dceb6c90585c074
https://www.skysports.com/football/news/12040/12527179/anthony-elanga-manchester-united-academy-graduates-rise-to-prominence-at-old-trafford
https://www.nytimes.com/athletic/2165767/2020/10/29/anthony-elanga-manchester-united-interview/