Feature

วิคตอร์ เยอเคอเรส : กระสุนปืนใหญ่ที่ อาร์เซน่อล & อาร์เตต้า รอมา 3 ปี | Main Stand

เข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการเข้ามาเป็นกองหน้าคนใหม่ของ อาร์เซน่อล สำหรับ วิคตอร์ เยอเคเรส ... และถ้าหากการย้ายทีมเกิดขึ้นจริง ก็จะเป็นการซื้อ "เบอร์ 9" แท้ ๆ คนแรกในยุคของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ด้วย 

 

การรอคอยอันยาวนานของแฟนปืนใหญ่จะสิ้นสุดจากการมาของ เยอเคเรส หรือไม่ ? เราจะลองไล่เรียงสถิติและสิ่งที่เขาสร้างไว้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมาเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้

 

เบอร์ 9 สำคัญไฉน ?

การซื้อนักเตะในตำแหน่งหมายเลข 9 ตั้งแต่การเข้ามาทำทีมอาร์เซน่อลของ มิเกล อาร์เตต้า เมื่อปลายปี 2019 แทบไม่เคยปรากฏเลยสักครั้ง ใกล้เคียงที่สุดก็คือการซื้อ กาเบรียล เชซุส จาก แมนฯ ซิตี้ มาด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2022 หรือไม่ก็การซื้อ ไค ฮาแวร์ตซ์ มาจาก เชลซี ด้วยราคา 60 ล้านปอนด์ ในปี 2023 ที่ขยับจากการเริ่มต้นจากการเป็นกองกลางหมายเลข 8 เปลี่ยนมาเป็นกองหน้าในระบบ False 9 ขาประจำของทีม 

ไม่ว่าจะเป็น เชซุส, ฮาแวร์ตซ์ หรือแม้แต่ มิเกล เมริโน่ นักเตะคนไหน ๆ ที่ได้เล่นกองหน้าให้ อาร์เซน่อล ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าผลที่ออกมามันดูจะไม่ตอบโจทย์ที่ทีมต้องการได้มากที่สุด แม้ทั้ง 3 คนจะไม่ได้แย่จนต้องโดนวิจารณ์ในแง่ลบตลอดเวลา แต่ว่าที่สุดแล้วสำหรับการเป็น "หัวหอก" หรือคนที่ต้องชี้ขาดเกม คนที่เปลี่ยน 0 แต้มให้เป็น 1 แต้ม หรือคนที่เปลี่ยน 1 แต้มให้เป็น 3 แต้ม ทั้ง 3 คนยังไม่ดีพอ

ไม่ใช่แค่เรื่องการจบรองแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อนเท่านั้น ที่หลายคนมองว่าเป็นเพราะอาร์เซน่อลไม่มีตัวจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ แต่ถ้าคุณดูสถิติในฤดูกาล 2024-25 จะพบว่าในเกมพรีเมียร์ลีก 38 นัด อาร์เซน่อล ไม่มีนักเตะคนไหนเลยที่ยิงประตูเกินหลักหน่วย คนที่ยิงได้มากที่สุดคือ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ยิงในลีกได้ 9 ลูก รองลงมาคือ เลอันโดร ทรอตซาร์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ คนละ 8 ลูก, มิเกล เมริโน่ 7 ลูก และ บูกาโย ซาก้า อีก 6 ลูก 

อาร์เซน่อล อาจจะทดแทนการยิงประตูของศูนย์หน้าเบอร์ 9 อาชีพ ด้วยความหลากหลายในการเข้าทำ เพราะมีนักเตะในทีมถึง 17 คนที่สามารถยิงประตูในลีกได้ แต่ที่แน่ ๆ สำหรับทีมจะเป็นแชมป์ เมื่อเราส่องไปที่ 5 ลีกใหญ่ในฤดูกาล 2024-25 ไม่มีทีมแชมป์ลีกของลีกไหนเลยที่ไม่มีตัวความหวังในการจบสกอร์ หรือเหมือนกับ อาร์เซน่อล ที่ในทีมไม่มีนักเตะที่ยิงประตูในลีกได้ถึง 10 ลูกเลย อย่างแย่ที่สุดคือ นาโปลี แชมป์ เซเรีย อา ที่กองหน้าตัวความหวังของพวกเขายิงประตูไม่ถึง 20 ลูกในลีก แต่ก็ทดแทนด้วยการมีนักเตะ 2 คนที่ติดในท็อป 5 ตารางดาวซัลโวของลีกนั่นคือ โรเมลู ลูกากู และ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ยิงรวมกันไป 26 ลูก

แม้ภาพรวมอาร์เซน่อลจะยิงประตูได้เยอะ ตลอดทั้งซีซั่นพวกเขายิงได้ทุกรายการถึง 112 ประตู แต่การขาดกองหน้าที่ดีมีผลจริง ๆ แบบที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ ไม่ว่าคุณจะมองในมุมของแฟนบอล หรือสถิติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่บางเกม อาร์เซน่อล มีโอกาสเปลี่ยนจังหวะการยิงให้เป็นประตู (xG) มากถึง 3.1 ในเกมกับ นิวคาสเซิล ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค แต่สุดท้าย อาร์เซน่อล ก็จบเกมด้วยการแพ้ไป 0-1 

"อาร์เซน่อล พึ่งพาลูกตั้งเตะของพวกเขามากเกินไป และนั่นเป็นจุดที่ช่วยสถิติการยิงประตูของพวกเขา ... ถ้าไม่นับลูกตั้งเตะ พวกเขากลายเป็นทีมที่ยิงประตูได้น้อยมากหากเปรียบกับทีมหัวแถวรายอื่น ๆ นั่นมันค่อนข้างชัดว่าพวกเขามีแนวรุกอยู่ในระดับทีมกลางตาราง" คำพูดของ แกรี่ เนวิลล์ ที่มักจะจิกกัดอาร์เซน่อล อาจจะทำให้แฟนปืนใหญ่หมั่นไส้เสมอ แต่อย่างน้อย ๆ ในสิ่งที่เขาพูดมานี้ก็มีความจริงปรากฏบางข้อเช่นกัน

"พวกเขาขาดผู้นำในการยิงประตูที่เฉียบคม คนที่เห็นช่องทางการวิ่งถูกที่ถูกเวลา มีคุณภาพเฉียบขาดในเวลาที่เหมาะสม คน ๆ นั้นจะเปลี่ยนผลเสมอให้กลายเป็นชัยชนะได้" นี่คือเหตุผลที่พวกเขาต้องทุ่มเงินซื้อกองหน้าอาชีพอย่าง วิคตอร์ เยอเคเรส 

 

เยอเคเรส คนแก้ปัญหา 

วิคตอร์ เยอเคเรส เป็นนักเตะที่มีสถิติการยิงประตูเหมือนกับหลุดออกมาจากวีดีโอเกม 2 ซีซั่นกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ดาวเตะวัย 28 ปี ชาวสวีดิช คนนี้ยิงได้ถึง 97 ประตูจาก 102 นัด ดูแค่สถิติการยิงก็ชัดเจนว่าอาร์เซน่อลต้องการซื้อเขามาเพื่ออะไร 

เมื่อคุณขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย ก็จำเป็นจะต้องมีนักเตะที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ซึ่ง เยอเคเรส ยืนยันว่าเขาอาจเป็นคน ๆ นั้นด้วยจำนวนประตู และสถิติการยิงประตูของเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมา 

เยอเคเรส เป็นกองหน้าที่เล่นได้หลายรูปแบบ ทั้งการเป็นกองหน้าสไตล์ Target Man การวิ่งหาพื้นที่ในการจบสกอร์ หรือแม้แต่การเลี้ยงจี้เข้าใส่แนวรับคู่แข่ง เพราะเขามีทั้งความแข็งแกร่ง, ความเร็ว, และทักษะการจบสกอร์ที่เฉียบคม

ดาวยิงรายนี้มีสถิติ ยิงประตูและแอสซิสต์เฉพาะในลีก ฤดูกาล 2024-25 รวมกันถึง 46 ครั้ง โดยเฉลี่ยแล้วเขาจะมีส่วนร่วมกับประตูทุก 90 นาที เกือบ 1.5 ครั้ง (1.48 G/A ต่อนาที 90) และ 0.87 Non-penalty xG ต่อ 90 นาที ไม่มีกองหน้าในลีกโปรตุเกสคนไหนทำได้ดีมากกว่าเขาแล้วในจุดนี้ 

และในส่วนของการจบสกอร์ล้วน ๆ ต้องบอกว่าสถิติของ เยอเคเรส เฉียบคมมาก เพราะเขาเป็นกองหน้าที่มีสถิติเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูโดยไม่รวมการยิงลูกจุดโทษตลอดซีซั่น 2024-25 อยู่ที่ 33.06 แต่เขากลับยิงได้ถึง 39 ประตู ซึ่งสูงกว่าจำนวนโอกาสที่มีถึง 6 ประตู 

เจาะเข้าไปให้ลึกอีกสำหรับค่า xG ของ เยอเคเรส คือ เขาเป็นนักเตะที่หาจังหวะจบสกอร์ได้เฉลี่ยถึง 3.53 ครั้ง ต่อ 1 เกม (รวมทั้งหมด 103 ครั้ง) ยิงเข้ากรอบ 73 ครั้ง (70.9%) และมีอัตราความแม่นยำอยูีที่ 36% เรียกได้ว่าหากเขาง้างเท้ายิงแต่ละครั้ง มีโอกาสเป็นประตูถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว

นอกจากการยิงเป็นประตูแล้ว สิ่งที่เราลืมไม่ได้เลยในฟุตบอลยุคใหม่คือการเล่นเกมรับ เยอเคเรส ได้รับความชื่นชมจาก รูเบน อโมริม อดีตเจ้านายของเขาว่าเป็นนักเตะที่มีความฟิต ร่างกายที่แข็งแกร่ง มีสภาพจิตใจของนักสู้ โดยเขาเคยชมว่า เยอเคเรส เป็นนักเตะที่มีวินัยในการเล่นเกมเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน  

"นี่คือนักเตะที่แข็งแกร่งมากทั้งในแง่สภาพร่างกายและจิตใจ นักเตะอย่าง วิคตอร์ สามารถทานทนความกดดันในเกมระดับสูงได้ดี มีความนิ่งมากพอที่จะจัดการกับโอกาสที่เข้ามา เขาเป็นกองหน้าที่ "ตอบโจทย์ทุกอย่าง" (tick many boxes) ทั้งเรื่องการเล่นเพรสซิ่ง ช่วยเกมรับ และโต้กลับเร็ว ผมคงต้องใช้คำว่า ครบเครื่อง สำหรับเขา" 

แน่นอนว่าการเล่นในลีกโปรตุเกสอาจจะนำมาซึ่งคำถามหลายข้อในแง่ของความแข็งแกร่ง และทีมอย่าง สปอร์ติ้ง ก็เปิดหน้าเล่นเกมบุกสนุกสนานใส่คู่แข่งจากสถิติที่กล่าวมา ซึ่งนั่นนำมาซึ่งความเป็นห่วงว่าเมื่อเขามาเล่นให้กับ อาร์เซน่อล และต้องเจอคู่แข่งที่คุณภาพสูงกว่า เขาจะทำผลงานได้ดีเหมือนที่โปรตุเกสหรือไม่ ?

และที่สำคัญคือ ฟุตบอลของ อาร์เซน่อล ยุคนี้ การเป็นกองหน้าไม่ได้มีไว้แค่ยิงเท่านั้น ... "อาร์เตต้า บอล" คือการเล่นเกมรุกและรับด้วยกันทั้งทีม ซึ่งจุดนี้เองทำให้หลายคนมอง เยอเคเรส ว่าอาจจะไม่เหมาะกับทีมมากเท่ากับแคนดิเดตกองหน้าคนใหม่อีกคนอย่าง เบนจามิน เซสโก้ ที่เห็นชัดเรื่องการเล่นฟุตบอลแบบ "ไปเป็นทีม" ช่วยกันต่อเกม และผสานงานกับนักเตะในทีมคนอื่น ๆ มากกว่า

อย่างไรก็ตาม สถิติอีกหลายข้อยังบอกว่าคุณอาจจะไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นมากนั้น เพราะ เยอเคเรส ไม่ใช่กองหน้าประเภทรอยิงหน้าประตูอย่างเดียวแบบที่หลายคนเข้าใจแน่นอน 

 

การเข้าทำแบบทีม "ไม่ใช่จุดอ่อน" 

เยอเคเรส ถูกจดจำในฐานะจอมถล่มประตูจากจำนวนที่เขายิงได้ และอาจทำให้ใครหลายคนคิดว่าเขาเป็นนักเตะเภทที่ยืนรอจบสกอร์ และอาศัยการปั้นจากนักเตะคนอื่น ๆ ในทีม ทว่าอันที่จริงแล้วคุณจะตัดสินเขาจากจำนวนประตูไม่ได้ เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่า "อย่าตัดสินหนังสือจากปก" ซึ่งเอามาเปรียบกับเรื่องของ เยอเคเรส ได้ดี 

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เยอเคเรส ทำสถิติแอสซิสต์ในลีกไป 7 ลูก และยังเป็นเจ้าของสถิติทำ Secondary assists (จ่ายให้คนที่ทำแอสซิสต์ต่อ) ได้ มากสุดในลีก (6 ครั้ง) นี่คือสถิติที่ไม่เลวเลยสำหรับตำแหน่งกองหน้าหมายเลข 9 และไปให้ลึกยิ่งกว่านั้น เขายังสามารถสร้างการจ่ายบอลแบบคีย์พาสได้อีกถึงเกมละ 2.16 ครั้งต่อเฉลี่ย สถิตินี้ยืนยันว่าถ้าคุณต้องการให้เขาเป็นตัวพักบอล และเปลี่ยนจังหวะให้นักเตะคนอื่น ๆ เป็นตัวเข้าทำแทน เขาก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน

นอกจากเรื่องของการจ่ายบอลแล้ว ยังเป็นนักเตะที่มีสถิติพาพาบอลขึ้นหน้า (Progressive carries) เฉลี่ยได้สูงเป็นอันดับ 3 ของลีกอยู่ที่ 107 ครั้ง แต่ละครั้งสามารถลากบอลไปข้างหน้าเฉลี่ยได้ถึง 13 เมตร ซี่งในอันดับท็อป 5 ของลีกโปรตุเกส ล้วนเป็นนักเตะในตำแหน่งริมเส้นทั้งหมด มีแค่เขาคนเดียวที่เป็นกองหน้าธรรมชาติ

เอาล่ะ คุณอาจจะบอกว่านี่คือสถิติของนักเตะที่เล่นในลีกโปรตุเกสที่ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก แต่อย่างน้อยเมื่อคุณเอาสถิติทั้งหมดที่กล่าวมาของ เยอเคเรส เทียบกับนักเตะที่เป็น "Big Money" หรือนักเตะกองหน้าที่ย้ายออกจากลีกโปรตุเกสด้วยค่าตัวแพง ๆ อาทิ ดาร์วิน นูนเญซ, ชูเอา เฟลิกซ์ และ กอนซาโล่ รามอส ก็จะพบว่า เยอเคเรส มีสถิติการเล่นร่วมกับทีม ทั้งการต่อบอล การทำแอสซิสต์ รวมถึงการพาบอลขึ้นหน้าได้ดีกว่าทั้ง 3 คนที่กล่าวมา 

สิ่งที่ อาร์เซน่อล จะได้จากเขาแน่ ๆ หากปิดดีลสำเร็จ คือพวกเขาจะได้กองหน้าที่ยิงประตูได้เฉียบคม และสามารถเชื่อมเกมกับนักเตะคนอื่น ๆ ในทีมได้ดี ซึ่งถือว่าเป็นการตอบโจทย์ทุกข้อที่อาร์เซน่อลตามหาเช่นกัน 

นอกจากนี้ เยอเคเรส ในวัย 28 ปี ยังถือเป็นช่วงอายุที่พีกที่สุดของอาชีพค้าแข้ง การซื้อตัวเขาในเวลานี้ทำให้เขามีพร้อมทั้งร่างกาย ความคิด และประสบการณ์ เหนือสิ่งอื่นใดคือเขากำลังมั่นใจมาก ๆ จากสถิติการยิงประตูที่ถล่มถลายตลอด 2-3 ปีหลังสุด ซึ่งจุดนี้จะช่วยให้เขาปรับตัวได้ดีกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก มากกว่าครั้งที่เขายังเป็นดาวรุ่งและเล่นให้กับ ไบรท์ตัน แน่นอน 

2-3 ปีที่ผ่านมา อาร์เซน่อล เป็นทีมที่มีองค์ประกอบที่ดี สามารถต่อกรกับทุกทีมบนโลกได้สนุก ไม่เป็นรอง เพียงแต่ขาดเรื่องของความเฉียบคมและคนชี้ขาดเกมอย่าง เยอเคเรส เท่านั้น 

การมาของเขาน่าสนใจมากว่า นักเตะจอมแอสซิสต์ภายในทีมทั้งหลาย จะได้ใครสักคนที่เข้ามาเป็นคนที่พวกเขามองหาได้ชัดขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ๆ นึกภาพการตัดเข้าซ้ายแล้วเปิดโค้ง ๆ ไปจุดนัดพบที่ ซาก้า ทำได้เป็นประจำ, การลากไปสุดเส้นหลังและตบเข้ามาให้เพื่อนแท็บอินของ มาร์ติเนลลี่ หรือกัปตันอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ที่มีหูตาและเซนส์ในการจ่ายบอลระดับแถวหน้าของโลก หากพวกเขามี เยอเคเรส มาปักอยู่ข้างหน้า ลูกเปิดของพวกเขาเหล่านี้คงไม่สูญเปล่าและคงได้เห็นน้ำเห็นเนื้อกันมากกว่าเดิมแน่

เหนือสิ่งอื่นใด คือรูปร่างที่ใหญ่โต เล่นลูกกลางอากาศได้ดีของ เยอเคเรส จะช่วยให้ทัพปืนใหญ่เพิ่มเป้าในการเล่นเซ็ตพีซ ที่ถือเป็นอาวุธอันทรงประสิทธิภาพของพวกเขาให้ได้ดีขึ้นอีก 

เรียกได้ว่าในตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ กองหน้าระดับตัวท็อปในราคาที่ไม่แพงเว่อร์จนเกินไป รวมถึงยังเป็นคนที่กำลังอยู่ในช่วงอายุที่พีกสุด ๆ เราจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไม อาร์เซน่อล จึงพร้อมปิดดีลแข้งสวีดิชรายนี้เพื่อมาเป็นลูกกระสุนที่ทำลายกำแพงเกมรับของคู่แข่งในซีซั่นที่จะถึง 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.teamtalk.com/arsenal/why-gunners-ditched-benjamin-sesko-signing-viktor-gyokeres-revealed
https://www.nytimes.com/athletic/6423793/2025/07/07/gyokeres-arsenal-transfer-style-analysis/
https://www.cannonstats.com/p/arsenal-pick-gyokeres
https://www.sporting.pt/en/news/football/main-team/2024-01-19/amorim-the-players-were-very-strong-under-pressure?utm_source=chatgpt.com
https://www.sporting.pt/en/news/football/main-team/2024-01-19/amorim-the-players-were-very-strong-under-pressure?utm_source=chatgpt.com
https://theanalyst.com/articles/viktor-gyokeres-sporting-goals-carries-creativity-transfer?utm_source=chatgpt.com

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ