วอยเชียค เชสนี่ นายทวารจอมเก๋าทีมชาติโปแลนด์ ตัดสินใจยุติเส้นทางอาชีพของตนเอง หลังจากเลือกไม่ต่อสัญญากับ ยูเวนตุส ด้วยเหตุผลที่เจ้าตัวเคยออกมากล่าวว่า "หมดแพชชั่น" กับการเป็นนักฟุตบอล
อย่างไรก็ตาม หลังเวลาผ่านไปเพียง 1 เดือนเศษ เชสนี่ ตัดสินใจกลับมาสวมถุงมืออีกครั้ง หลังจากได้รับข้อเสนอจากทาง บาร์เซโลน่า ให้มารับหน้าที่ผู้รักษาประตูมือ 3 ของทีม
จากคนที่ทีมเซ็นเข้ามาเพื่อเป็นตัว "สแตนด์บาย" เท่านั้น แต่ เชสนี่ กลับขึ้นมายึดมือ 1 ของทีมแบบหน้าตาเฉย และปัจจุบันเขาได้สร้างสถิติสุดน่าเหลือเชื่อด้วยการลงสนามให้กับ บาร์เซโลน่า ทั้งหมด 21 นัด และทีมไม่พบกับความปราชัยแม้แต่แมตช์เดียว
เรื่องทั้งหมดมีที่มาเป็นอย่างไร ร่วมติดตามเรื่องราวของ เชสนี่ ไปพร้อมกับ Main Stand
แขวนถุงมือเพราะหมดแพชชั่น
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2017 ยูเวนตุส ตัดสินใจทุ่มเงินราว 18 ล้านยูโร ดึงตัว วอยเชียค เชสนี่ นายทวารชาวโปแลนด์ จาก อาร์เซน่อล เข้ามาร่วมทีม
เหตุผลสำคัญที่ยูเว่ตัดสินใจดึงตัว เชสนี่ เข้ามาร่วมทีม เป็นเพราะว่าพวกเขาต้องการให้นายทวารผู้นี้เข้ามาสานต่อตำแหน่งผู้รักษาประตูถัดจาก จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารตำนานของทีมที่ตัดสินใจอำลาย้ายออกจากสโมสรหลังจบฤดูกาลดังกล่าว
"ผมจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ เพราะผมเคารพการตัดสินใจของสโมสร พวกเขาซื้อตัวผู้รักษาประตูที่เก่งกว่าและอายุน้อยกว่าผมเข้ามาร่วมทีม ผมไม่อยากให้สโมสรและเฮดโค้ช ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการตัดสินใจเลือกผู้รักษาประตูในแต่ละนัด เพราะผมรู้ว่าพวกเขาจะต้องชั่งใจในการที่ผมยังอยู่ในทีม" บุฟฟ่อน ระบุ
"ผมคิดว่าเขาเลือกถูกที่คว้าตัว วอยเชียค เชสนี่ เข้ามาร่วมทีม เขาเป็นผู้รักษาประตูยุคใหม่ที่มีฝีมือยอดเยี่ยม ผมได้คุยกับเขาและบอกให้เขาฝึกซ้อมรวมไปถึงการทำงานหนักในทุกช่วงเวลาที่ได้ลงเล่นให้กับ ยูเวนตุส" ตำนานมือกาวอิตาเลียน ว่าต่อ "ซึ่งผมเชื่อว่าเขาจะมาแทนที่ผมได้อย่างแน่นอน ผมอยากฝากถึงแฟนบอลทุกคนอย่าเพิ่งไปด่วนตัดสินเขา หากเขาเกิดแสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็น เพราะผมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่ยากพอ สมควรในการเป็นผู้รักษาประตูให้กับทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งของโลกอย่าง ยูเวนตุส" บุฟฟ่อน กล่าวเพิ่มเติมถึง เชสนี่
หลังจากเวลาผ่านไปร่วม 7 ปี วอยเชียค เชสนี่ ครองสัมปทานผู้รักษาประตูมือ 1 ของ ยูเวนตุส มาอย่างยาวนาน แต่ด้วยสาเหตุในช่วง 4 ปีหลังสุด ผลงานของทัพม้าลายตกต่ำลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้ถึงการคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ได้เลยแม้แต่ปีเดียว
ส่งผลให้ ยูเวนตุส จากเดิมที่ถูกยกให้เป็นทีมสัมปทานลุ้นแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ในทุกปี เริ่มลดเหลือเป็นเพียงแค่ทีมที่ต้องมาลุ้นโควต้าฟุตบอลยุโรปอันดับ 3 หรือ 4 เท่านั้น และยังเคยตกต่ำถึงขั้นจบในอันดับที่ 7 ของตารางในฤดูกาล 2022-23 ไม่สามารถคว้าโควต้าไปลุยฟุตบอลยุโรปแม้แต่รายการเดียว
ทีมผลงานแย่ ย่อมมี "แพะ" ให้ถูกแฟนบอลด่า ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ซึ่งชื่อของ เชสนี่ ก็ถือได้ว่าเป็นแข้งเบอร์ต้น ๆ ของสโมสรที่ถูกแฟนบอลบ่นด่า และต้องการให้ปล่อยตัวออกจากทีม
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ วอยเชียค เชสนี่ กลายเป็นนักเตะที่ถูกวิจารณ์จากเหล่าแฟนบอล เป็นเพราะการเข้ามาสานต่อจากตำนาน จานลุยจิ บุฟฟ่อน ด้วยเช่นกัน เพราะผลงานของเขาถือว่าไม่ใกล้เคียงกับ บุฟฟ่อน แม้แต่นิดเดียว และยังมีลูกความผิดพลาดเสียประตูง่าย ๆ ออกมาให้แฟนบอลม้าลายเห็นอยู่บ่อยครั้ง
เหตุนี้เองในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนปี 2024 ยูเวนตุส จึงตัดสินใจทุ่มเงิน 20 ล้านยูโร ดึงตัว มิเคเล่ ดิ เกรกอริโอ้ ผู้รักษาประตูจาก มอนซ่า มาร่วมทีม โดยหวังให้นายทวารชาวอิตาลีรายนี้ เข้ามาขับเคี่ยวกับตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวจริงที่ทาง เชสนี่ ครองมาอย่างยาวนาน
ทว่าทางฝั่งของ เชสนี่ ที่ในเวลานั้นสัญญาของเขากับทาง ยูเวนตุส ก็ใกล้ที่จะหมดลงด้วยเช่นกัน แม้ทางสโมสรจะมีการยื่นข้อเสนอให้พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยสัญญา 1 ปี แต่กลับเป็นตัวของ เชสนี่ เองที่ตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว และเลือกยุติเส้นทางของตนเองกับต้นสังกัด ปิดฉากการค้าแข้งของเขากับทาง ยูเวนตุส ที่อยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนานถึง 7 ปีเต็ม
อายุของ วอยเชียค เชสนี่ ในเวลานั้นเพิ่งจะ 33 ปีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากนักในการเป็นผู้รักษาประตู เหตุนี้เองจึงมีหลายสโมสรในยุโรป รวมไปถึงทีมจากตะวันออกกลางที่ได้ยื่นข้อเสนอต้องการดึงตัว เชสนี่ ไปร่วมทีม
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดและชวนให้คาดไม่ถึงไปตาม ๆ กัน นั่นคือการตัดสินใจประกาศ "แขวนถุงมือ" ของเจ้าตัวในทันที พร้อมกับได้กล่าวถึงเหตุผลในการเลิกเล่นครั้งนี้ เป็นเพราะว่าตัวเขาเองต้องการกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวที่ประเทศบ้านเกิดอย่างโปแลนด์ รวมไปถึงการ "หมดแพชชั่น" ในการเป็นนักฟุตบอลที่เขาไม่ต้องการลงเล่นต่อไปอีกแล้วในอนาคต
"ผมทุ่มเทให้กับการเล่นฟุตบอลมามากว่า 18 ปี ผมได้ลงเล่นในเกมระดับสูงร่วมกับนักฟุตบอลชื่อดังหลายคน มันเป็นความทรงจำที่ผมไม่เคยลืมได้เลย มันถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากกับการเป็นนักฟุตบอลสำหรับตัวผม ผมถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้" เชสนี่ กล่าวความรู้สึกผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียส่วนตัวถึงการตัดสินใจแขวนถุงมือ
"แท้จริงแล้วร่างกายของผมยังสามารถลงเล่นต่อไปได้ ผมเพิ่งจะอายุ 33 ปี ในการเป็นผู้รักษาประตูอายุจำนวนนี้ถือว่ายังเล่นในระดับสูงได้อีกยาวนาน แต่ผมยอมรับเลยว่าแพชชั่นและหัวใจของผมไม่ได้มีความต้องการอยากเล่นฟุตบอลต่อไปอีกแล้ว ผมรู้สึกว่ามันถึงช่วงเวลานี้แล้วที่ผมจะตัดสินใจเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ"
กลับลำสวมถุงมืออีกครั้ง
แต่หลังจากการประกาศแขวนสตั๊ดไม่ถึง 2 เดือน วอยเชียค เชสนี่ ตัดสินใจกลับมาสวมถุงมืออีกครั้ง หลังจากที่เขาได้รับข้อเสนอจากทาง บาร์เซโลน่า ยอดทีมดังแห่งประเทศสเปน ที่ยื่นข้อเสนอมาให้ในช่วงเดือนตุลาคม 2024
เหตุผลสำคัญที่ทาง บาร์เซโลน่า ตัดสินใจเลือกพิจารณาดึงตัว วอยเชียค เชสนี่ เข้ามาร่วมทีม เป็นเพราะว่าขุมกำลังในตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมเวลานั้น เหลือเพียงแค่ อินากี้ เปนญ่า นายทวารมือ 2 รายเดียวเท่านั้นที่พร้อมลงสนามให้กับทีม
เหตุมาจากผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีมอย่าง มาร์ค อังเดร แทร์-สเตเก้น ได้รับอาการบาดเจ็บหนักบริเวณเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขวาฉีกขาด ส่งผลให้นายทวารทีมชาติเยอรมนีรายนี้จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลายาวนานถึง 9 เดือน และจะทำให้หมดสิทธิ์ลงสนามให้กับ บาร์เซโลน่า ไปตลอดฤดูกาล 2024-25
แม้ เชสนี่ กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่ประเทศโปแลนด์แล้ว แต่หลังจากที่เจ้าตัวได้รับข้อเสนอจากทาง บาร์เซโลน่า ให้ย้ายมาร่วมทีมเป็นเวลา 1 ฤดูกาล ก็ไม่รอช้าที่จะตอบรับและยินดีย้ายมาร่วมทีมในทันที เนื่องจากตัวเขาและครอบครัว มองว่าการได้มาอยู่ที่สโมสรแห่งนี้ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธได้ลง
"ตอนแรกผมยืนยันกับตัวเองชัดเจนว่าต้องการเลิกเล่นฟุตบอล เพราะผมไม่มีความต้องการอยากเล่นอีกต่อไป ผมอยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของผมให้มากกว่านี้ แต่ว่าหลังจากที่ผมได้รับข้อเสนอจากทาง บาร์เซโลน่า ผมได้ปรึกษากับครอบครัว และพวกเขาได้บอกว่ามันจะเป็นการตัดสินใจครั้งที่ผิดพลาดในชีวิตของผม หากผมไม่รับข้อเสนอนี้" เชสนี่ กล่าวความรู้สึกของตนเองในวันที่ตัดสินใจย้ายมาร่วมทีม บาร์เซโลน่า
แม้ในช่วงแรกของการย้ายมาอยู่ที่ บาร์เซโลน่า วอยเชียค เชสนี่ จะต้องนั่งรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง เนื่องจากทางฝั่งของ ฮันซี่ ฟลิค กุนซือของทีม ยืนยันว่าต้องการให้โอกาสกับ อินากี้ เปนญ่า ที่ลงฝึกซ้อมอยู่กับทีมมาก่อนหน้าทาง เชสนี่ ให้พิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้รักษาประตูตัวจริงของทีมเสียก่อน
เชสนี่ ต้องรอโอกาส "เดบิวต์" ของตนเองกับทาง บาร์เซโลน่า มากกว่า 3 เดือนเต็ม ก่อนจะได้รับโอกาสประเดิมสนามเป็นครั้งแรกวันที่ 4 มกราคม 2025 ในฟุตบอล โคปา เดล เรย์ และสามารถทำ "คลีนชีต" ได้ตั้งแต่ในเกมนัดแรกที่เขาลงสนาม โดยเป็นการเอาชนะทีม บาร์บาสโตร ทีมในลีกล่างของประเทศสเปน ไปด้วยสกอร์ 4-0
เชสนี่เฝ้าเสา = ไม่แพ้
จากการที่ วอยเชียค เชสนี่ ได้โอกาสลงสนามในเกมนัดดังกล่าว ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมองว่าอาจเป็นเพียงแค่การให้โอกาสผู้รักษาประตูสำรองได้ลงเล่นในรายการฟุตบอลถ้วยเท่านั้น เหมือนกับที่สโมสรส่วนใหญ่ต่างทำกันโดยทั่วไป
แต่กลับไม่ใช่ในกรณีนี้แต่อย่างใด เพราะหลังจากนั้นยาวมาจนถึงปัจจุบัน (ต้นเดือนเมษายน 2025) เชสนี่ ได้ลงสนามในฐานะผู้รักษาประตูตัวจริงของ บาร์เซโลน่า มาโดยตลอด และเบียดแย่งทางฝั่ง เปนญ่า นายทวารรุ่นน้องหลุดไปเป็นตัวสำรองในท้ายที่สุด
หากพูดถึงผลงานโดยรวมของ อินากี้ เปนญ่า ตลอดการลงสนามตลอดช่วงครึ่งฤดูกาลแรกให้กับ บาร์เซโลน่า ถือว่าทำหน้าที่ของตนเองได้ยอดเยี่ยมไม่เป็นรองฝีมือของ มาร์ค อังเดร แทร์-สเตเก้น นายทวารมือ 1 ของทีมเลยด้วยซ้ำ
กระนั้น เหตุผลสำคัญที่ทำให้ อินากี้ เปนญ่า ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรอง เกิดจากเรื่องวินัยส่วนตัว รวมไปถึงความเป็นมืออาชีพของเขาที่มักจะมีการเดินทางมารายงานตัวประชุมทีมก่อนการแข่งขันช้ากว่ากำหนด และนอกเหนือจากนั้นก็ยังมีเรื่องของการเดินทางมาฝึกซ้อมสายให้เห็นด้วยเช่นกัน
แม้ ฮันซี่ ฟลิค จะเคยออกมาต่อว่าผ่านสื่อเกี่ยวกับเรื่องวินัยส่วนตัวของ อินากี้ เปนญ่า อยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้นายทวารผู้นี้ปรับปรุงในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าทาง เปนญ่า จะไม่สามารถแก้ไขในเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่น้อยและยังทำผิดซ้ำซ้อนออกมาให้เห็นมากกว่าเดิมถึง 3 ครั้ง จึงเป็นเหตุให้เขาถูกดร็อปจากตำแหน่งผู้รักษาประตูตัวจริงในท้ายที่สุด
การได้รับโอกาสลงสนามในฐานะตัวเลือกแรกในครั้งนี้ของ วอยเชียค เชสนี่ ถือว่าเขาไม่ทิ้งโอกาสครั้งสำคัญให้หลุดลอยออกไป เพราะนับตั้งแต่ที่ เชสนี่ ได้รับโอกาสลงสนามให้กับ บาร์เซโลน่า เขายังไม่เคยพาต้นสังกัดเผชิญกับความพ่ายแพ้แม้แต่นัดเดียว มิหนำซ้ำยังสามารถทำคลีนชีตไปได้มากถึง 11 นัด จากการลงสนามรวมทุกรายการไปทั้งหมด 21 นัด ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนครึ่งต่อครึ่งกับการลงสนามไปทั้งหมดของเจ้าตัว พร้อมคว้าแชมป์ ซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า หรือ ซูเปอร์คัพ สเปน ไปเป็นที่เรียบร้อย
และถ้าหากนำสถิติดังกล่าวไปเทียบกับทางด้าน อินากี้ เปนญ่า ถือว่าค่อนข้างแตกต่างกันมากพอสมควร เพราะทาง เปนญ่า สามารถเก็บคลีนชีตไปได้เพียง 3 นัดเท่านั้น จากการลงสนามไปทั้งหมด 16 นัดรวมทุกรายการ
นอกเหนือจากนั้น เปอร์เซ็นต์อัตราการเซฟของทาง อินากี้ เปนญ่า ยังถือว่าอยู่ในจำนวนที่ห่างจากอัตราการเซฟของ วอยเชียค เชสนี่ มากเช่นกัน โดยทาง เปนญ่า ทำไปได้ทั้งหมด 59 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทางฝั่งของ เชสนี่ ทำไปได้สูงถึง 69 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนอัตราการเซฟที่อยู่ในระดับท็อปเป็นอันดับต้น ๆ ของบรรดาผู้รักษาประตูในลีกยุโรปเวลานี้
"การเลือกนักเตะแต่ละคนลงสู่สนามในฐานะผู้เล่นตัวจริง มันไม่ใช่จากการตัดสินของผมเพียงผู้เดียว ผมต้องรับฟังจากทีมงานด้วยเช่นกันที่เขาได้ให้ทั้งการวิเคราะห์และคำปรึกษาให้กับผม ตำแหน่งผู้รักษาประตูก็เป็นหนึ่งในนั้น"
"เปนญ่า ก็ทำหน้าที่ของตนเองได้ดีมากในช่วงเลกแรก แต่เขามีเรื่องบางอย่างที่ทำให้เขาต้องถูกดร็อป และ เชสนี่ ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขายอดเยี่ยมมากขนาดไหน เขาจึงได้รับโอกาสยาวมาจนถึงปัจจุบัน เขาช่วยเราได้มากจริง ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง ถ้าเราไม่มีเขาทีมอาจไม่ได้ มาอยู่ถึงจุดนี้เช่นกัน" ฟลิค กล่าวชื่นชม เชสนี่
ผลงานดีและเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ทีมไม่พบกับพ่ายแพ้ในเวลานี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ทาง บาร์เซโลน่า จะอยากเก็บ วอยเชียค เชสนี่ ไว้ใช้งานต่อไปในฤดูกาลหน้า และได้มีการยื่นข้อเสนอสัญญาให้ทางตัวนักเตะพิจารณาเป็นที่เรียบร้อยด้วยสัญญา 1 ปี
แม้ว่าในเวลานี้ วอยเชียค เชสนี่ จะยังไม่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว เพราะเจ้าตัวมองว่าการกลับมาลงสนามในครั้งนี้ เขาต้องการกลับมาลงเล่นในระยะสั้นเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น ซึ่งต้องมารอติดตามเช่นกันว่า เชสนี่ จะตัดสินใจกับอนาคตการเป็นนักฟุตบอลของเขาอย่างไร
แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องราวของเขากับทาง บาร์เซโลน่า นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ "วิน-วิน" สำหรับทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้วในเวลานี้ เพราะทางฝั่งของเจ้าบุญทุ่มก็ได้นายทวารฝีมือดีอย่าง เชสนี่ ไปใช้งานแก้ขัดในช่วงที่ มาร์ค อังเดร แทร์-สเตเก้น ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ และยังกลายเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมลุ้นแชมป์รายการใหญ่ทั้ง ลาลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ในเวลานี้เสียด้วย
ส่วนฝั่งของ วอยเชียค เชสนี่ ก็ถือว่าได้เติมเต็มชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของเจ้าตัวเช่นกัน ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ลงเล่นให้กับทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" สโมสรที่มีความยิ่งใหญ่และมีเกียรติประวัติมาอย่างยาวนาน
และเชื่อว่าชื่อของ เชสนี่ ก็จะกลายเป็นที่รักต่อเหล่าแฟนบอล "อาซูลกราน่า" อย่างแน่นอน แม้ในวันที่เขาอำลาสโมสรเดินออกจากทีมไปในท้ายที่สุด
แหล่งอ้างอิง
https://www.thescore.com/seri/news/1405882
https://footystats.org/players/poland/wojciech-szczesny
https://www.beinsports.com/en-us/soccer/serie-a/articles-video/szczesny-announces-retirement-from-football-after-not-renewing-with-juventus-2024-08-27
https://www.beinsports.com/en-us/soccer/la-liga/articles-video/szczesny-talks-about-his-move-to-barcelona-smoking-and-his-return-to-football-2024-10-09
https://www.nytimes.com/athletic/6054037/2025/01/11/barcelona-goalkeeper-pena-szczesny-supercopa/