ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2024 จนถึงตอนนี้ นิวคาสเซิล ชนะมา 8 เกมติดรวมทุกรายการ นักเตะเกมรุกอย่าง แอนโธนี่ กอร์ดอน และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กำลังท็อปฟอร์ม ยิงประตูเป็นว่าเล่น กลายเป็นพระเอกของงาน
ทว่า ณ จุดที่แสงสปอตไลท์ยังส่องไม่ถึง 3 มดงานในแดนกลาง คือส่วนสำคัญของโชว์ระดับมาสเตอร์พีซของทัพสาลิกาดงในเวลานี้ พวกเขาทำงานหนักอยู่เบื้องหลัง ขับเคลื่อนด้วยความสม่ำเสมอ มั่นคง และแข็งแรง ในขณะที่หลายคนยังไม่สังเกตเห็น
นี่คือเรื่องราวของทริโอย่าง บรูโน่ กิมาไรส์, ซานโดร โตนาลี่ และ โชลินตอน ที่ทำให้ผลงานสุดยอดนี้เกิดขึ้น
พวกเขาสำคัญอย่างไร ? ติดตามกับ Main Stand
ความลงตัวที่ ฮาว ตามหา
นับตั้งแต่กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย เข้ามาเทคโอเวอร์นิวคาสเซิล เมื่อปี 2021 เป้าหมายของทีมถูกตั้งไว้ที่การเป็นทีมระดับท็อป พวกเขาเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง เริ่มจากกุนซือ เปลี่ยนจาก สตีฟ บรูซ โค้ชอังกฤษสไตล์บอลโบราณ มาเป็น เอ็ดดี้ ฮาว โค้ชอังกฤษในแบบที่โดดเด่นเรื่องการเล่นฟุตบอลกับพื้น ครองบอลเหนียวแน่น และการเพรสซิ่งที่ดุดัน ตามแบบฉบับของฟุตบอลสมัยใหม่
สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมทีมงานของ ฮาว และ นิวคาสเซิล ก็คือเรื่องการเสริมทัพนักเตะแต่ละครั้งแต่ละคน พวกเขาอาจจะโดนกฎ PSR ครอบเอาไว้ จึงทำให้เงินมหาศาลจากเจ้าของไม่สามารถถูกดึงมาใช้ได้โดยตรงแบบไม่อั้น แต่ทุกดีลของพวกเขาล้วนเป็นดีลที่สามารถสร้างอิมแพ็คต์ เรียกได้ว่าหยิบถูกตัว วางถูกจุด จนสามารถยกระดับทีมได้ในทันที โดยเฉพาะตำแหน่งที่กลายเป็นพระเอกของพวกเขาในเวลานี้นั่นคือ 3 แดนกลางอย่าง บรูโน่ กิมาไรส์, ซานโดร โตนาลี่ และ โชลินตอน
เดิมที โชลินตอน เป็นนักเตะอยู่กับทีมมาก่อนใครเพื่อน ตั้งแต่ยุคที่มี ไมค์ แอชลี่ย์ เป็นเจ้าของ และมีกุนซืออย่าง สตีฟ บรูซ เป็นโค้ชใหญ่ เพียงแต่ว่าบทบาทและหน้าที่ของเขาในตอนแรกคือการซื้อมาเพื่อเป็นกองหน้า ทว่าทำไปทำมาชักไม่เวิร์ก จึงถูกขยับเปลี่ยนตำแหน่งเรื่อยมา จนมาจบที่ตำแหน่งกองกลางในท้ายที่สุด
แรกเริ่มต้องยอมรับว่า โชลินตอน ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนักกับตำแหน่งกองกลาง เพราะไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติ และหน้าที่ที่ถูกวางไว้ก็ไม่ชัดเจน มีเพียงความโดดเด่นเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย และความอึดในการวิ่งขึ้นวิ่งลงเท่านั้นที่พอจะชูโรงได้บ้าง แต่เรื่องของชั้นเชิงนั้น ต้องบอกว่ายังห่างไกลจากคำว่าแดนกลางระดับท็อปอีกหลายขุม
แต่อย่างที่กล่าวไว้ การมาของ เอ็ดดี้ ฮาว เปลี่ยนแปลงทีมได้จริง นักเตะหลายคนถูกวางไปในตำแหน่งงานที่ใช่ และ โชลินตอน คือหนึ่งในนั้น
ฮาว ทำให้ตำแหน่งของ โชลินตอน ชัดเจน ด้วยการมอบมายให้ปักหลักเล่นเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 8 ในแบบฟุตบอลสมัยใหม่ ที่จะต้องทำหน้าที่วิ่งขึ้นลง ช่วยทั้งเกมรับ และเกมรุกที่บางครั้งต้องสอดเข้าไปเล่นในกรอบเขตโทษ ซึ่งตำแหน่งตรงนี้ดูจะเหมาะกับคุณสมบัติที่เขามีที่สุด และเห็นได้ชัดเมื่อมีการซื้อนักเตะบราซิเลี่ยนอีกคนเข้ามา นั่นคือ บรูโน่ กิมาไรส์ คนที่จะเข้ามารับตำแหน่งกองกลางเบอร์ 6 ให้กับทีม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ "โคตรสำคัญ" ของฟุตบอลยุคนี้
การมาของ บรูโน่ กิมาไรส์ จาก ลียง ทำให้กองกลางนิวคาสเซิลมีความเสถียรมากขึ้น ว่าง่าย ๆ คือเหมือนได้เจอแม่ทัพที่ใช่ คนที่คอยเอาบอลจากกองหลัง ขึ้นไปต่อเกมในแดนกลาง และสร้างโอกาสในเกมรุกด้วยการแจกจ่ายไปให้กับเหล่าแข้งสายบุกตำแหน่งต่าง ๆ
โชลินตอน เล่าว่าในช่วงแรก ฮาว บอกให้เขาทำตัวเหมือนเป็น "ไลน์แบ็คเกอร์" ในอเมริกันฟุตบอล หรือถ้าพูดให้ชัดก็คือ เป็นเหมือนองครักษ์คอยปกป้อง บรูโน่ ทำให้ บรูโน่ ได้เล่นบอลง่ายที่สุด ทำให้ บรูโน่ ได้มีเวลาเล่นกับบอลมากขึ้น และท้ายที่สุด คือทำให้ บรูโน่ เอาแรงทั้งหมดไปใช้ในการพาตัวเองไปเป็นจุดเริ่มต้นในเกมบุกของทีม ส่วน โชลินตอน จะคอยทำหน้าที่ไล่บวก ไล่ปะทะ เก็บกวาดในแดนกลาง ... เปรียบเสมือนการเล่นร่วมกันของ อันเดรีย ปีร์โล่ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ 2 กองกลางระดับไอค่อนของ เอซี มิลาน ในช่วงยุค 2000s คนหนึ่งเป็นสมอง อีกคนเป็นแขนขา ประมาณนั้น
อย่างไรก็ตาม ในระบบ 4-3-3 ที่ เอ็ดดี้ ฮาว โปรดปราน แดนกลางจะสมบูรณ์แบบได้ต้องมี 3 คน พวกเขาจึงต้องการมิดฟิลด์อีกสักคนที่จะมาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย เข้ามาประกอบให้เกิดความลงตัวที่สุด
ซานโดร โตนาลี่ จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย
หลังจากได้ โชลินตอน และ บรูโน่ มาแล้ว ฮาว ใช้เวลาสักพักในการประกอบแดนกลางของเขาขึ้นใหม่ แรกเริ่มมีการลองใช้ลูกหม้ออย่าง ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ เข้ามาเป็นลูกหาบอีกคน แต่ก็พบว่า ลองสต๊าฟฟ์ นั้นยังค่อนข้างมีข้อจำกัดพอสมควร
ในสายตาของแฟนบอลอย่างเราก็น่าจะพอนึกภาพออก ลองสต๊าฟฟ์ เป็นนักเตะที่แข็งแรง เป็นกองกลางแบบอังกฤษแท้ ๆ ที่ทำได้เกือบทุกอย่าง แต่ถ้าจะเอาให้ดี เอาให้สุด ชนิดที่ว่าจิ้มเข้าไปแล้วต้องบอกได้ว่านี่คือนักเตะที่เหมาะกับฟุตบอลสมัยใหม่ ก็ต้องยอมรับว่าเขายังไปไม่ถึงจุดนั้น
กองกลางคือตำแหน่งที่คุณจะเสียบอลง่าย ๆ ไม่ได้ เพราะคู่แข่งที่ล้อมรอบตัวคุณ จะเอาสามารถเอาบอลไปเล่นเกมรุกได้ทันที ยิ่งกองกลางยุคใหม่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง การตัดและปะทะแบบฮาร์ดแมนยุคเก่ามันไม่เพียงพอแล้ว ในยุคนี้คุณต้องมีความเป็นไฮบริด
กล่าวคือ คุณจะตัดบอล แล้วแปะให้คนอื่นเอาไปเล่นเกมรุกต่ออย่างเดียวไม่ได้ ทุกอย่างจะต้องจบได้ในตัวคนเดียว นั่นคือนอกจากจะแย่งบอลได้แล้ว คุณต้องเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ด้วย ... นี่คือจุดที่ ลองสต๊าฟฟ์ สอบตก จนทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว ต้องหยิบ โจ วิลล็อค ที่ย้ายมาจาก อาร์เซน่อล ไม่นานก่อนเขาเข้าคุมทีม ลงเล่นตำแหน่งนี้
แม้ วิลล็อค จะคล่องแคล่วว่องไว และเป็นคนที่เคยทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 7 เกมติดต่อกัน แต่ วิลล็อค เองก็มีข้อจำกัดเรื่องของอาการบาดเจ็บที่มา ๆ หาย ๆ อีกทั้งชั้นเชิงในแดนกลาง หรือสมองแบบมิดฟิลด์แท้ ๆ ก็ยังคงไม่ตอบโจทย์ทีมอยู่ดี ทำให้สุดท้ายพวกเขายอมกระตุกขนหน้าแข้งครั้งสำคัญ ด้วยค่าตัวทีแพงที่สุดที่สโมสรเคยจ่าย นั่นคือการซื้อ ซานโดร โตนาลี่ มาจาก เอซี มิลาน ในฤดูกาล 2023-24 ด้วยราคา 60 ล้านปอนด์
แม้จะต้องเสียเวลารอ โตนาลี ไปเกือบ 1 ปี จากการโดนแบนเรื่องเกี่ยวกับการเล่นพนันฟุตบอล ... แต่สุดท้ายเมื่อ โตนาลี่ กลับมา การประกอบร่างที่ เอ็ดดี้ ฮาว จิตนาการไว้ ก็กลายเป็นภาพที่ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลานี้ ... เพราะการมาของ ซานโดร โตนาลี่ เพียงคนเดียว เข้ามาเปลี่ยนแปลงมิติการเล่นในแดนกลางของพวกเขาอย่างแท้จริง
ฮาร์ดแมนทริโอ
เดิมที บรูโน่ กิมาไรส์ จะปักหลักเป็นเบอร์ 6 ดังที่กล่าวมาตลอด แต่นับตั้งแต่การมาของ โตนาลี่ การเล่นในแดนกลางของ นิวคาสเซิล เปลี่ยนไปอีกระดับ กองกลาง 3 คนของพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องยึดติดกับการยืนตำแหน่งเฉพาะอีกต่อไป ความสุดยอดในเวลานี้คือพวกเขาสามารถสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตลอด ทำให้จังหวะของเกม ไม่ว่าจะตอนเล่นเกมรับ และเกมรุกของ นิวคาสเซิล สมดุลเป็นอย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อ บรูโน่ ได้บอลและพยายามจะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกด้วยตัวเอง เขาจะมีทั้ง โชลินตอน และ โตนาลี่ คอยประคองเป็นตัวเลือก เช่นเดียวกันถ้าสบโอกาสดี ๆ บรูโน่ ก็สามารถเติมเกมไปจนจังหวะสุดท้ายได้โดยไม่ต้องกังวลเกมรับเลยว่า ถ้าหากเขาถูกตัดบอลจะเป็นอย่างไร ?
นั่นก็เพราะว่าทันทีที่มีคนหนึ่งขึ้นไปเล่นสูง พวกเขาจะมีอีกคนคอยเข้ามาซ้อนในตำแหน่งนั้นทันที เรียกได้ว่าทั้ง 3 คน สามารถสลับกันเล่นเป็นเบอร์ 6 หรือเบอร์ 8 ได้อย่างอิสระในเกม ๆ หนึ่ง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่าย ๆ เพราะ 3 กองกลางจะต้องมีความเข้าใจเกม และเข้าใจกัน สูงมาก ๆ พวกเขาจะต้องมีไหวพริบ เลือกเล่นในจังหวะที่ถูกต้องเพื่อให้สมดุลในแดนกลางไม่เสียไปตลอดทั้งเกม
เรื่องนี้ แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตนักเตะของ ลิเวอร์พูล ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วยการเปรียบเทียบกับ 3 กองกลางของ ลิเวอร์พูล ชุดแชมป์ยุโรปในปี 2019 อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ทั้ง 3 คนสามารถเล่นเกมรับและเกมรุกได้อย่างสมดุล และมีพลังงานที่จะไล่ล่าฟุตบอล ทำให้ภาระของกองหลังเบาลง แถมเหล่าตัวรุกจะได้รับบอลที่ 3 กองกลางคอยเสิร์ฟมาให้ตลอดทั้งเกม
"เอ็ดดี้ ฮาว ปรับกองกลางของเขาได้อย่างชาญฉลาด ตอนนี้พวกเขาสลับกันเล่นเบอร์ 6 ไปแล้ว โดยเฉพาะ โตนาลี่ กับ บรูโน่ เมื่อ โตนาลี่ คุมกลาง บรูโน่ กับ โชลินตอน จะดันขึ้นไปเล่นเกมรุกอย่างไร้กังวล สร้างสมดุลให้กับทีม ๆ นี้ได้อย่างชัดเจนจากผลงานที่เกิดขึ้น"
"นี่คือกองกลางในแบบที่คุณอยากได้ พวกเขาดูแข็งแรงและมีพละกำลังพุ่งพล่านมาก ๆ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือพวกเขาไม่ได้มีแค่แรง แต่ชั้นเชิงฟุตบอลของพวกเขายอดเยี่ยม ทัศนติความคิดความอ่านของเขาพวกเขาทำให้แต่ละคนมีความสามารถในการเปลี่ยนกันมาเป็นตัวควบคุมเกม"
"และท้ายที่สุดคือทัศนคติของทั้ง 3 คน ที่พวกเขาเต็มใจจะทำหน้าที่ซัพพอร์ทกันและกัน ไม่เคยมีใครทิ้งงานกลางทาง พวกเขาพร้อมจะช่วยเหลือกัน นั่นทำให้แต่ละคนสามารถกล้าจะเล่นในจังหวะเสี่ยง ๆ ที่สามารถชี้ขาดเกมได้ เพราะเขารู้ว่าต่อให้เล่นจังหวะนั้นผิดพลาด จะมีคนคอยช่วยพวกเขาแก้ปัญหาอยู่ข้างหลังเสมอ"
"สำหรับฟุตบอลยุคใหม่ที่ต้องการทั้งแรง สมอง และทัศนคติ คุณสามารถบอกได้เลยว่า ทริโอของ นิวคาสเซิล คือมิดฟิลด์ในฝันที่ทุกทีมอยากมี" เมอร์ฟี่ ว่าแบนนั้น
ไม่มีอะไรที่จะชัดเจนและเห็นภาพได้มากกว่านี้อีกแล้ว ถ้าคุณได้เห็นนิวคาสเซิล ลงเล่นแต่ละนัด คุณจะนึกภาพออกและร้องอ๋อทันทีในสิ่งที่กล่าวมา และอย่างที่เขาบอกในฟุตบอลยุคใหม่ นักเตะทุกคนต้องจะต้องถูกเรียกร้องอะไรต่าง ๆ นานามากมายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาต้องเล่นไป คิดไป จินตนาการไปเวลาที่มีบอลหรือเวลาที่ทีมเล่นเกมบุก เช่นเดียวกับที่พวกเขาต้องมีทัศนคติ ความสามัคคี และมีวินัย ในเวลาที่ไม่มีบอลหรือตอนที่ทีมเล่นเกมรับ
3 กองกลางของ นิวคาสเซิล ปกป้องกองหลังที่เปราะบางของพวกเขาได้ดีในช่วงเวลาที่นักเตะตัวหลักในแนวรับบาดเจ็บ และเช่นเดียวกันเมื่อ 3 ประสานในแดนกลางประสานงานเป็นร่างทองพร้อม ๆ กัน คนที่จะโดดเด่นตามมาก็คือเหล่าตัวรุกที่จะได้สนุกกับการเล่นมากขึ้น พวกเขาจะได้บอลมากขึ้น และพวกเขาจะมีทางเลือกมากขึ้น จากการเติมขึ้นมาของแดนกลางที่รู้จังหวะ รู้งาน
อย่างที่คุณเห็นในตอนนี้ที่นักเตะแนวรุกของนิวคาสเซิลอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค, แอนโธนี่ กอร์ดอน หรือแม้กระทั่งปีกโลว์โปรไฟล์อย่าง เจค็อบ เมอร์ฟี่ ที่กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจ ยิ่งได้ดูพวกเขาเล่นก็ยิ่งสนุกและตื่นตาตื่นใจ เพราะ 3 กองกลางอย่าง บรูโน่, โตนาลี่ และ โชลินตอน เอาบอลมาเสิร์ฟให้พวกเขาสวย ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส
นิวคาสเซิล กำลังเดินเครื่องไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง พวกเขาชนะมา 8 เกมรวด ด้วยรูปเกมที่ชักจะโดดเด่นเป็นสง่ามีราศีขึ้นทุกที ไม่ต้องสงสัยเลยว่า 3 มิดฟิลด์ของพวกเขามีความสำคัญมากสำหรับความยอดเยี่ยมที่เกิดขึ้น
ที่เหลือก็คือการวัดกันในระยะยาว เรื่องของความสม่ำเสมอเท่านั้น เพราะเท่าที่ดูด้วยตาเปล่า ณ ตอนนี้ บรูโน่, โตนาลี่ และ โชลินตอน เป็น 1 ในแผงกองกลางที่ดีที่สุดในลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แหล่งอ้างอิง
https://www.newcastleworld.com/sport/football/newcastle-united/the-best-bruno-guimaraes-talks-sandro-tonali-and-joelinton-insane-newcastle-united-midfield-inbound-4729814
https://www.themag.co.uk/2024/09/will-this-newcastle-united-trio-really-work/
https://www.footboom1.com/en/news/football/2261756-newcastle-united-s-midfield-trio-draws-praise-as-one-of-the-best-in-the-premier-league
https://www.nytimes.com/athletic/6021415/2024/12/27/newcastle-tonali-howe-no-6-tweak/
https://sport.optus.com.au/news/premier-league/os78358/newcastle-star-joelinton-astonishing-transformation-midfielder
