โอกาสไป ฟุตบอลโลก 2026 ของ ซาอุดีอาระเบีย น้อยลงเรื่อย ๆ หลังจากบุกแพ้ อินโดนีเซีย 0-2 และผลสกอร์ดังกล่าว ชวนให้คิดถึงประโยคที่โค้ชเก่าของพวกเขาอย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ ว่าไว้
"ถ้านักเตะท้องถิ่นยังไม่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดต่อเนื่อง ผมก็ไม่กล้ารับประกันว่าเราจะสามารถไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้หรือเปล่า"
เกิดอะไรขึ้นในลีกซาอุดีอาระเบียเวลานี้ และมันส่งผลกระทบกับทีมชาติของพวกเขาอย่างไรบ้าง ติดตามกับ Main Stand
แก้โควต้า
ลีกซาอุฯ ถือเป็นหนึ่งในลีกเก่าแก่ของเอเชีย จากการมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1974 และเป็นแหล่งผลิตนักเตะสู่ทีมชาติมากมาย รวมถึงชุดที่เคยไปลุยฟุตบอลโลกทั้ง 5 สมัย (1994, 1998, 2002, 2006, 2018, 2022)
แต่ถึงอย่างนั้น สโมสรในลีก ที่ปัจจุบันใช้ชื่อ ซาอุดี โปรลีก เกือบทั้งหมด ก็ยังไม่ได้เป็นสโมสรอาชีพอย่างแท้จริง เมื่อพวกเขายังมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับหน่วยงานของรัฐ และได้รับเงินอัดฉีดมหาศาลจากรัฐบาล ซึ่งมีรายได้หลักจากการค้าน้ำมันในแต่ละปี
นั่นคือเหตุผลว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่ายอดแฟนบอลเฉลี่ยในสนามจะลดน้อยแค่แค่ไหน สโมสรและลีกก็ยังสามารถไปต่อได้ แถมยังมีเงินไปจับจ่ายใช้สอยดึงแข้งจากยุโรปมาร่วมทีมได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ทรัพยากรน้ำมันของพวกเขา มีได้ก็หมดได้ ทำให้ ซาอุฯ ที่นำโดย มกุฎราชกุมาร มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน พยายามจะลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน และเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ภายใต้แนวคิด "Saudi Vision 2030" และการแปรรูปสโมสรฟุตบอลให้เป็นเอกชนก็เป็นหนึ่งในนั้น
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสำคัญเริ่มขึ้นเมื่อปี 2023 เมื่อกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของรัฐบาลซาอุฯ (PIF - Public Investment Fund) กองทุนเดียวกับเจ้าของสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เทคโอเวอร์ อัล นาสเซอร์, อัล ฮิลาล, อัล อาลี และ อัล อิตติฮัด 4 สโมสรยักษ์ใหญ่ของซาอุฯ และเตรียมแผ่ขยายออกไปให้กว้างขึ้นอีก โดยเป้าหมายที่พวกเขาตั้งไว้ในโครงการนี้ นอกจากจะเป็นการโปรโมตความมั่งคังและก้าวหน้าของประเทศแล้ว มันยังรวมถึงการทำให้ลีกซาอุก้าวขึ้นมาติดลีกท็อป 10 ของโลก และส่งผลต่อเนื่องไปยังทีมชาติให้กลายเป็นทีมชั้นนำของโลกด้วย
วิธีที่พวกเขาคิด เริ่มด้วยการพยายามโปรโมตลีก จากการซื้อนักเตะดังเข้ามาหลายคนอย่างที่ทุกคนได้เห็นในข่าว เพื่อเรียกกระแสจากสื่อ สร้างความน่าสนใจจากทั่วโลกมายังฟุตบอลซาอุฯ และเหนือสิ่งอื่นใดคือ พวกเขาหวังว่าการที่นักเตะท้องถิ่นมีโอกาสได้ร่วมงาน และได้เห็นการปฏิบัติตัวต่าง ๆ ของนักเตะระดับโลก จะทำให้พวกเขาเป็นนักเตะที่ดีขึ้น
และเพื่อทำให้ทุกอย่างไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้น ซาอุดี โปรลีก ได้ทำการเปลี่ยนกฎโควต้านักเตะต่างชาติใหม่ในเดือน กุมภาพันธ์ 2024 และนำมาซึ่งการถกเพียงกันเป็นอย่างมากว่ามันดีจริงหรือ ?
(แทบจะ) ฟรีโควต้าต่างชาติ
จากเดิม ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเดินเครื่องปรับลีกเต็มกำลัง ลีกซาอุดีอาระเบีย สามารถลงทะเบียนักเตะต่างชาติได้ 7 คน และส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนามออกสตาร์ทได้ไม่เกิน 4 คนเท่านั้น และในตำแหน่งผู้รักษาประตูห้ามใช้นักเตะต่างประเทศ (กฎนี้เริ่มใช้ในฤดูกาล 2016-17)
กฎดังกล่าวจำเป็นต้องมีการแก้ไข เพราะเมื่อมีการเปิดตลาดครั้งใหญ่จนนักเตะต่างชาติระดับเกรดท็อปของโลกตบเท้ามาที่นี่ พวกเขากจึงปรับโควต้าให้มากขึ้นแบบสะใจเต็มกำลังไปเลย เพราะในฤดูกาล 2024-25 หรือฤดูกาลที่ 2 หลังจากที่นักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และใครอีกหลายคนมาถึง ทีมใน ซาอุดี โปรลีก สามารถลงทะเบียนนักเตะต่างชาติได้ถึง 10 คน
เพิ่มเติมคือใน 1 เกมจะสามารถใช้นักเตะต่างชาติได้ทั้งหมด 8 คนเท่านั้น ทว่ามีคำว่า "แต่" ต่อท้าย ... พวกเขาสามารถส่งนักเตะต่างชาติลงเพิ่มอีก 2 คนได้ (รวมเป็น 10 คน) ถ้านักเตะต่างชาติ 2 คนนั้น เกิดหลังปี 2003 (อายุต่ำกว่า 21 ปี) ส่วนในฟุตบอลถ้ว ไม่มีการจำกัดโควต้า มีนักเตะต่างชาติเท่าไหร่ สามารถส่งลงสนามทั้งหมดเลยก็ได้ไม่ใช่ปัญหา
โดยกฎนี้เริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากกฎนี้เริ่มใช้ไปได้สักพัก สิ่งที่น่าแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ที่เพิ่งทำผลงานได้ดีในฟุตบอลโลก 2022 กลับกลายเป็นทีมทีมที่มีคุณภาพการเล่นต่ำลง ทั้ง ๆ ที่พวกเขามีกุนซืออย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่
ประการแรก ในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ซาอุดีอาระเบีย ทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้นั่นคือการเข้ารอบตัดเชือก เมื่อพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการแพ้ เกาหลีใต้ ในการดวลจุดโทษ ขณะที่ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 ก็อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นคือ พวกเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดูไม่ค่อยดีนัก สำหรับทีมที่ถูกตั้งเป้าไว้ว่าเป็นทีมเต็งในการเข้ารอบสุดท้าย
พวกเขาหวังว่านักเตะท้องถิ่นจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เข้มข้น ทว่าสิ่งที่มันกลับกันคือ การปรับโควต้าเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เนื่องจากการเปิดฟรีโควต้า ทำให้ทีมบิ๊ก 4 ทั้งหลาย จัดเต็มนักเตะต่างชาติลงครบ 8 ตำแหน่ง และด้วยความที่พวกเขามีงบประมาณมาก นักเตะซาอุดีอาระเบีย ระดับตัวทีมชาติก็ถูกดึงตัวไปอยู่ในทีมบิ๊ก 4 ด้วย
นั่นจึงทำให้นักเตะเหล่านี้ที่เคยได้ลงเล่นเป็นประจำ และเคยเป็นตัวความหวังของทีม ต้องรับบทบาทที่น้อยลง ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหาบ หรือตัวสแตนด์บายให้กับเหล่าแข้งระดับโลกที่มาแทนที่พวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนั่นนำมาซึ่งการโต้เถียงที่บอกว่า ควรเอาเรื่องโควต้าต่างชาติมาทบทวนดูใหม่ เพราะในทางปฏิบัตินั้น ... นักเตะท้องถิ่น กลับมีที่ลงเล่นน้อยลงมากกว่าที่พวกเขาคิดว่าจะประโยชน์ในตอนแรก
นั่งดูไม่ได้อะไร
นักเตะทีมชาติซาอุดีอาระเบีย 24 คน ที่เรียกตัวมาใน ฟีฟ่าเดย์ เดือนพฤศจิกายน 2024 มาจากทีมบิ๊ก 4 ทั้งหมดถึง 18 คน มี 3 คนที่เล่นในลีกต่างประเทศ ได้แก่ ซาอุด อับดุลฮามิด ที่ย้ายจาก อัล ฮิลาล ไปอยู่กับ โรม่า และยังไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกเลยแม้แต่นัดเดียว
ส่วนอีก 2 เป็นดาวรุ่งอย่าง ไฟซัล อัล กัมดี และ มาร์วาน อัล ซาฮาฟี ที่เล่นให้กับ เบียร์ช็อต แบบยืมตัว ซึ่งก็มีแค่คนเดียวที่ได้ลงบ่อยหน่อยคือ ซาฮาฟี ที่ลงเล่นไป 7 เกมและยิงไป 4 ลูก
และอีกกลุ่มหนึ่ง ก็เป็นกลุ่มที่มาจากทีมอื่น ๆ นอกจากทีมบิ๊ก 4 พวกเขาเป็นตัวหลักให้กับทีมเล็ก ๆ ได้สบาย ๆ แต่นั่นก็เกิดขึ้นจากเหตุผลที่ว่านักเตะท้องถิ่นเกรดดี ๆ ถูกดึงตัวไปอยู่ทีมใหญ่หมดแล้ว ซึ่งหากจะมองคุณภาพ ก็ต้องบอกว่านักเตะกลุ่มนี้มีคุณภาพและประสบการณ์น้อยกว่ากลุ่มตัวสำรองในทีมใหญ่ แต่สิ่งที่พวกเขาเหนือกว่าก็น่าจะมีเพียงเรื่องของแมตช์ฟิจากตเนสการได้ลงเล่นต่อเนื่องเท่านั้น
ตัดกลับมาที่ทีมชาติของพวกเขาอีกครั้ง เราจะเห็นว่านักเตะของซาอุดีอาระเบีย ที่ติดทีมชาติชุดนี้มาจากทีมใหญ่ทั้งหมด และน้อยคนมากที่จะได้รับบทบาทสำคัญในทีมมหาเศรษฐีของพวกเขา ซึ่งนั่นก็ตรงกับสิ่งที่โค้ชที่โดนปลดออกไปอย่าง มันชินี่ บอกว่า ซาอุฯ เป็นชาติที่ติดอยู่ในอดีต และไม่ได้เรียนรู้เพื่ออนาคต
"ผมพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว ปัญหาเดียวที่เรามีก็คือ ... เมื่อ 3 ปีก่อน นักเตะซาอุดีอาระเบียทุกคนลงเล่นครบทุกเกม (ของสโมสร) ทุกวันนี้ 50-60 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดเลย บางคนได้เล่นเฉพาะบอลถ้วย และในลีกช่วงท้ายเกมที่ความกดดันและความเข้มข้นขาดหายไป นี่คือปัญหาที่เรามีอยู่ในเวลานี้" มันชินี่ ที่เคยพา อิตาลี คว้าแชมป์ ยูโร 2020 กล่าว
"มีนักเตะอาชีพมากมายที่ทำงานในวงการฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย แต่ปัญหาหลักคือ ทีมชาติขาดประสบการณ์ที่จำเป็น การหลั่งไหลเข้ามาของนักเตะต่างชาติเปลี่ยนแปลงไปมาก จนถึงมากเกินไป นักเตะท้องถิ่นไม่ได้ลงเล่นให้กับสโมสรอย่างสม่ำเสมอ และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้"
ซึ่งเมื่อ มันชินี่ พูดแบบนี้ เขาก็โดนปลดออกจากตำแหน่ง เหลือแต่ความคิดเห็นของเขาที่พอให้เราเอาไปสรุปและวิเคราะห์ต่อว่า ปัญหาคือทีมเล็กกับทีมใหญ่ในซาอุดีอาระเบียห่างกันมาก ทีมใหญ่มีเงินเยอะ จ้างนักเตะราคาแพงได้ และพวกเขาก็แข่งกันเอง 4 ทีมเพื่อความเป็นเบอร์ 1 ซึ่งการแข่งขันนี้ทำให้พวกเขาไล่ดึงนักเตะท้องถิ่นไปกองรวมกัน ในฐานะกำลังเสริม ไม่ใช่กำลังหลักที่ลงไปเล่นกับนักเตะระดับโลกในการแข่งขันจริงทุกสัปดาห์
จริงอยู่ที่การเปิดฟรีโควต้าจะนำมาซึ่งการตื่นรู้ของนักเตะท้องถิ่นที่ต้องพยายามยกระดับตัวเองเพื่อแข่งกับนักเตะต่างชาติ แต่สำหรับนักเตะท้องถิ่นซาอุดีอาระเบีย พวกเขาจะต้องยกระดับตัวเองอีกแค่ไหนเพื่อให้ทัดเทียมกับมาตรฐานของ โรนัลโด้ ของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ของ คาริม เบนเซม่า หรือของ อายเมอริก ลาปอร์กต์ ... คำตอบคือนักเตะเหล่านี้อยู่ในระดับสูงเกินไปกว่าที่นักเตะซาอุดีอาระเบียจะยกระดับทันในชั่วข้ามคืน
ดังนั้นเมื่อต่อต้านไม่ได้ พวกเขาก็จำเป็นต้องเข้าร่วม ... อยู่เป็นตัวสำรอง รับเงินเดินสูง ๆ และได้ทำงานร่วมกับนักเตะระดับโลก สิ่งเหล่านี้ก็ถือเป็นความสำเร็จในอาชีพแบบหนึ่งเช่นกัน และเราปฏิเสธได้ยากว่า ใคร ๆ ก็อยากจะอยู่สถานะนี้ มากกว่าที่จะต้องไปเล่นให้กับทีมเล็ก ๆ ต่อหน้าแฟนบอลหลักร้อย หรือพันต้น ๆ (ลีกซาอุดีอาระเบีย มีค่าเฉลี่ยคนดูต่ำมากหากไม่มีทีมบิ๊ก 4 ลงแข่งขัน) ... ซึ่งทุกอย่างก็วนกลับมาตามที่ มันชินี่ บอกทุกประการ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นเพียงผลลัพธ์ระยะสั้นเท่านั้น และมันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้ฟุตบอลลีกกับทีมชาติมีความสมดุลกันมากกว่านี้ เพราะต้องไม่ลืมว่าในทีมชาติ พวกเขาซื้อตัวนักเตะต่างชาติมาแบกไม่ได้ และตราบใดที่นักเตะท้องถิ่นไม่แข็งแกร่งและได้โอกาสลงสนาม หรือดีที่สุดคือการได้ลงสนามแต่ก็เล่นกับทีมที่มาตรฐานไม่สูง พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นกำลังสำคัญของชาติได้ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ซาอุดีอาระเบีย ในเวลานี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.arabnews.com/node/2433661/sport
https://www.independent.co.uk/sport/football/saudi-pro-league-europe-jordan-henderson-uefa-b2477646.html
https://www.goal.com/en/lists/saudi-pro-league-foreign-player-regulations-summer-transfer/blt72d8ecb78f1766c3#csac38e7112a6aff3c
https://www.givemesport.com/explaining-the-saudi-pro-league-foreign-players-rule/
https://www.heraldscotland.com/sport/24644246.mancini-raises-homegrown-player-concern---scotland-ranks/
https://terrikon.com/en/posts/498126