Feature

เอแดร์ซอน : ประตูผู้แบกอีโก้ของ "เป๊ป" กับสไตล์ "ใช้เท้าดี" | Main Stand

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กลายเป็นตัวตลกในตอนแรกที่เขามายังพรีเมียร์ลีก ด้วยแผนการใช้งานผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าออกบอลได้ดีเป็นมือ 1 

 


เขานำ เคลาดิโอ บราโว่ มาร่วมทีม พร้อมปล่อยมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ ณ เวลานั้นอย่าง โจ ฮาร์ท ออกไป ก่อนจบซีซั่นแรกในอังกฤษแบบมือเปล่า 

แต่คนอย่าง เป๊ป ไม่เคยหยุดง่าย ๆ แม้ บราโว่ จะล้มเหลว แต่สุดท้ายเขาก็หยิบเอาประตูใช้เท้าดีที่ตอบโจทย์ทุกข้อ ทำให้จากเดิมที่เขาเป็นตัวตลก กลายเป็นไอดอลที่กุนซือคนใดก็ต้องควานหาผู้รักษาประตูแบบนี้มาใช้ตาม

การมาของ เอแดร์ซอน พลิกโลก และช่วยยืนยันสมองของ เป๊ป ได้มากแค่ไหน ? ติดตามที่ Main Stand

 

ใครล่ะ เอแดร์ซอน ? 

"เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้เงินไปเกือบ 1 พันล้านปอนด์ในการซื้อนักเตะในช่วง 9 ฤดูกาลที่อยู่กับ บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และปัจจุบันคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้โดยซื้อนักเตะชื่อดังอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ชาบี อลอนโซ่ และ กาเบรียล เฆซุส อย่างไรก็ตาม ยังมีหลักฐานที่ชัดเจนว่านักเตะ 49 คนที่เขาเซ็นสัญญาไปนั้น ไม่มีใครมีอิทธิพลหรือสำคัญเท่ากับ เอแดร์ซอน เลยแม้แต่คนเดียว" ลุค บราวน์ นักข่าวจาก The Independent กล่าวคำนี้ไว้เมื่อปี 2018

อย่างที่เราได้บอกไปในข้างต้นนั่นแหละ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมกมุ่นและมีอีโก้ในฟุตบอลของตัวเองอย่างมาก ตอนที่เขาเข้ามาคุม แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2016 เขาหักหาญกับ 2 นักเตะที่แฟนบอล ซิติเซ่นส์ รักที่สุด คนแรกคือ ยาย่า ตูเร่ และคนที่ 2 คือ โจ ฮาร์ท 

ในรายของ ตูเร่ มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ยากเกินจะถามว่าใครผิด แต่ในกรณีของ ฮาร์ท นี่สิที่มันน่าสนใจ เพราะ ฮาร์ท ทำผลงานได้ดีมาโดยตลอด แถมยังมีความเป็นมืออาชีพ รักสโมสร ทุกอย่างครบราวกับจะได้เป็นกัปตันทีมในระยะยาว 

แต่ก็ไม่ ... เป๊ป บอกว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่เล่นบอลด้วยเท้าไม่ได้ ดังนั้นตำแหน่งมือ 1 จะไม่ได้เป็นของ ฮาร์ท อีกต่อไป คนที่มาแทนคือ เคลาดิโอ บราโว่ ประตูทีมชาติชิลี ที่ดึงมาจาก บาร์เซโลน่า เพื่อเอามาเล่นฟุตบอลในแบบของ เป๊ป โดยเฉพาะ 

แต่แม้กระทั่งนายทวารประสบการณ์สูงอย่าง บราโว่ ที่ เป๊ป มั่นใจก็ยังไม่รอด ... คำว่าล้มเหลวกับลีกอังกฤษไม่เกินไปนักที่จะใช้กับเขา ซึ่งมันยืนยันได้หลังจากที่ เป๊ป ตัดสินใจซื้อผู้รักษาประตูใหม่ทันทีหลังฤดูกาลแรกของเขากับ แมนฯ ซิตี้ จบลง 

เพียงแต่หนนี้ ชื่อของนักเตะที่ซื้อมามันแปลกไปสักหน่อย นายทวารชาวบราซิล ไม่มีประสบการณ์ในระดับทีมชาติ เล่นในลีกโปรตุเกส และอายุแค่ 23 ปี เท่านั้น ชื่อของ เอแดร์ซอน ทำกลุ่มผู้บริหารของ แมนฯ ซิตี้ งงกันเป็นแถบ ในวันที่ เป๊ป ควงคู่กับ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผอ.กีฬาของสโมสร เดินเข้ามาบอกว่า "ผมจะเอาคนนี้" 

คัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสร แมนฯ ซิตี้ ถึงกับบอกว่า ณ เวลานั้นไม่มีใครรู้จัก เอแดร์ซอน สักคน และมีคำถามอยู่ในหัว เพียงแต่ไม่สามารถปฏิเสธความเห็นได้ เมื่อ เป๊ป และ ซิกิ ต้องการใคร พวกเขามีหน้าที่ต้องไปเอาตัวมาให้ได้ ด้วยความพยายามถึงขีดสุดเท่านั้น

แต่ว่า เป๊ป ก็คือ เป๊ป อย่างน้อยการที่เขาอยากจะได้ใครสักคน เขาก็ไม่ได้แค่จินตนาการและพูดออกมาลอย ๆ ... ข้อมูลทั้งหมดถูกเตรียมเอาไว้อย่างละเอียด และข้อมูลนั้นก็ถูกวางบนโต๊ะในฐานะคำตอบที่ว่า "ไอ้ เอแดร์ซอน นี่มันเป็นใคร ?" 

 

แบ็กซ้ายที่เซฟประตูได้นิดหน่อย 

อันที่จริงแล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมียงมองไปยัง เอแดร์ซอน มาตั้งแต่สมัยที่เขายังคุมทีม บาเยิร์น มิวนิค แล้ว จากประสบการณ์เจอกับ เบนฟิก้า ในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2015-16 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ เป๊ป และทีมงานตามสแกนฟอร์มของทีม เหยี่ยวลิสบอน มาอย่างดี จนกระทั่งพบว่าผู้รักษาประตูอย่าง เอแดร์ซอน คือหมากสำคัญในการขึ้นเกมของทีมนี้ 

อย่างไรก็ตาม มานูเอล นอยเออร์ แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะซื้อใครสักคนมากดดัน เป๊ป จึงทำได้แค่รอวันเวลาที่เหมาะสม วันที่ เอแดร์ซอน จะเติบโตพอ เพราะสิ่งที่ประทับใจคือความลงตัวที่ผสมกันในแบบผู้รักษาประตูที่เขาต้องการ เปิดบอลยาวได้แม่นยำ มีความกล้าที่จะขึ้นมาเล่นแบบ Sweeper Keeper (ออกมาต่อบอลนอกเขตโทษ) มีสมาธิกับความรับผิดชอบมากมาย ที่ต้องช่วยเซฟประตู และช่วยออกบอลในเวลาเดียวกัน และที่สำคัญ มีทักษะพื้นฐานของผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม 

มีการสืบเข้าไปและพบประวัติที่น่าสนใจของเขา เอแดร์ซอน เคยเป็นนักเตะตำแหน่งแบ็กซ้ายมาก่อนช่วงที่เขายังเป็นเยาวชนในทีม เอเบอเนเซอร์ เอฟซี ทีมท้องถิ่นของรัฐ เซา เปาโล ประเทศ บราซิล จุดเด่นคือเป็นแบ็กซ้ายที่เท้าหนักมาก ยิงประตูแบบแรง ๆ เหมือนกับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ได้ (เขากล่าวอ้างกันแบบนั้น) แต่ปัญหาคือเขาตัวใหญ่เกินไปสำหรับตำแหน่งวิงแบ็ก 

เอแดร์ซอน มีฉายาว่า "Gordo" หรือ "เด็กอ้วน" เพราะทั้งตัวสูงใหญ่และน้ำหนักเกินเกณฑ์ การเล่นแบ็กซ้ายจำเป็นต้องมีความอึดและความคล่องตัวระดับหนึ่ง ซึ่งไม่เหมาะกับเขานัก เขาจึงถูกจับไปเป็นผู้รักษาประตูเพราะจะใช้รูปร่างให้เป็นประโยชน์ ทว่าเมื่อลองแล้วกลับได้ผลออกมาดีมาก เอแดร์ซอน จึงไม่เคยกลับไปเล่นในตำแหน่งเอาท์ฟิลด์อีกเลย ... เขาฝึกเล่นผู้รักษาประตูจริงจังตั้งแต่อายุ 13 ปี เป็นต้นมา 

เอแดร์ซอน เล่าว่า หลังจากเป็นผู้รักษาประตูขาประจำแล้ว เขายังคงไม่ทิ้งเรื่องสกิลของการใช้เท้า เขาดูการเล่นของ โรเจริโอ แซร์นี่ ประตูจอมยิงฟรีคิก ตำนานของ เซา เปาโล เป็นต้นแบบ 

แซร์นี่ อาจจะไม่ใช่ประตูระดับโลกในแง่การเซฟ แต่เรื่องการใช้เท้า สถิติของเขาไม่โกหกใคร เขายิงไป 131 ประตูตลอดอาชีพค้าแข้ง ฟรีคิก และจุดโทษเป็นกระบุง เขาทำได้ไม่มีพลาด และเหนือสิ่งอื่นใด ลูกเตะยาวจากปากประตูในเกมสวนกลับแบบ บึ้ม ! ไปยังพื้นที่ว่างที่เป็นจุดนัดพบกันระหว่างลูกบอลและกองหน้าของทีม ถือเป็นสิ่งที่ แซร์นี่ ทำให้เห็นประจำ และ เอแดร์ซอน ก็ไม่กั๊กว่าสไตล์นี้เขาได้แต่ใดมา

ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพก็คือ การฝึกเป็นผู้รักษาประตูอาชีพเกิดขึ้นกับเขาเป็นหลักตั้งแต่อายุ 13 ปี ส่วนวิธีการเล่นที่ทำให้เขาแตกต่างกับคนอื่น ๆ คือการขวนขวายแสวงหาด้วยตัวเอง เรียกได้ว่ามีงานหลัก กับงานรอง ที่สามารถเกื้อหนุนกันได้เป็นอย่างดี และดันตรงกับเทรนด์ฟุตบอลสมัยใหม่แบบพอดิบพอดีอีกด้วย 

นั่นคือเหตุผลที่ เป๊ป คว้าตัวเขามาร่วมทีมจาก เบนฟิก้า ด้วยราคา 34.7 ล้านปอนด์ ... เอแดร์สัน ผ่านประสบการณ์กับ เหยี่ยวลิสบอน มาพักใหญ่แล้ว และเขาพร้อมสำหรับการตอบคำถามว่า "ผู้รักษาประตูใช้เท้าดีจะรอดในพรีเมียร์ลีกหรือไม่ ?"  

"ตำแหน่งผู้รักษาประตูก้าวหน้าขึ้นมากใยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และดูเหมือนว่า เป๊ป พยายามจะทำให้ภาพนี้มันชัดขึ้นไปอีกจากการมาของ เอแดร์ซอน ที่พวกเราแทบไม่รู้จัก" เชย์ กิฟเว่น อดีตประตูของ นิวคาสเซิ่ล และ แมนฯ ซิตี้ ทำนายอนาคตเอาไว้ และมันก็ไม่ผิดนัก เมื่อ เอแดร์ซอน ได้ลงสนาม

 

ครึ่งสนามผมรับจบ

แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เล่นเกมแบบพับสนามบุกเกือบทุกนัด ดังนั้นหน้าที่ของ เอแดร์ซอน จึงชัดเจนมากอยู่แล้วที่เขาจะต้องออกมาเล่นนอกกรอบและคอยจัดการพื้นที่เกือบจะครึ่งสนาม ซึ่งแน่นอนว่าในพรีเมียร์ลีกไม่เคยมีผู้รักษาประตูคนไหนเคยทำแบบนี้มาก่อน 

ไม่ว่าจะการเล่นเหมือนเป็นสวีปเปอร์ตัวสุดท้ายที่คอยออกมาสกัดนอกกรอบ การขึ้นมาป็นตัวเลือกในการผ่านบอล และการเป็นจุดเริ่มต้นของการเซตเกมจากแนวหลัง รวมถึงภาพจำที่ชัดที่สุด คือการวางบอลยาวเพื่อสวนกลับ ... ใครที่บอกว่า เอแดร์ซอน จะเจอกับปัญหากับฟุตบอลอังกฤษ ดูเหมือนว่ามันจะผิดคาดไปทั้งหมด
 
ฤดูกาลแรกกับ แมนฯ ซิตี้ เอแดร์ซอน มีอัตราการผ่านบอลสำเร็จถึง 85.4% ... มากกว่าผู้รักษาประตูทุกคนในอังกฤษ และมากกว่า ปอล ป็อกบา (85.1%), เควิน เดอ บรอยน์ (84%) และ เชส ฟาเบรกาส (83.2%) อีกด้วย เอแดร์ซอน เล่นเหมือนกับเป็นผู้เล่นเอาต์ฟิลด์คนที่ 11 ซึ่งมันตอบโจทย์เป๊ะกับบอลคอนโทรลตัวพ่อสไตล์ เป๊ป อย่างแท้จริง 

เหนือสิ่งอื่นใด จังหวะเซฟชี้เป็นชี้ตายมีให้เห็นเสมอ และลูกที่จะต้องเล่นชัวร์ ๆ ก็แทบไม่มีจังหวะพลาดแบบหมูหกให้เห็น จากนักเตะที่ใครไม่รู้จัก เวลาผ่านไปแค่ 1 ฤดูกาล หลายคนก็บอกตรงกันว่า นี่คือการซื้อตัวที่สร้างอิมแพ็กต์กับทีมชุดนี้มากที่สุดเท่าที่ เป๊ป เคยทำมาเลยด้วยซ้ำ 

ในรายการของ SkySports 2 ตำนานประตูพรีเมียร์ลีกอย่าง กิฟเว่น และ เดวิด ซีแมน นั่งคุยกันเรื่อง เอแดร์ซอน เมื่อปี 2018 ว่า ค่านิยมแบบใหม่กำลังจะถือกำเนิด คนที่ใช้เท้า และใช้มือได้ดีพอ ๆ กัน จะเป็นคนที่ทีมระดับ "ลุ้นแชมป์" ต้องมี ... เป็นไอเท็มชนิดใหม่ที่อัปเกรดขึ้นมาตามแบบฉบับของโมเดิร์นฟุตบอล

"โลกของผู้รักษาประตูเดินหน้าไปอีกก้าวแล้ว ... ตอนนี้ เอแดร์ซอน แสดงให้เห็นว่าการใช้เท้าเก่งจริง ๆ เป็นอย่างไร" ซีแมน เริ่มกล่าว

"มันหมายถึง 2 เท้าของคุณต้องคล่องแคล่วและแน่นอนในเวลาเดียวกัน จิตใจของคุณต้องแข็งแกร่งมาก เพราะการออกบอลแต่ละครั้งยากจริง ๆ ต้องอาสัยความมั่นใจสูง เนื่องจากจะมีกองหน้าฝ่ายตรงข้ามไล่กวดคุณอยู่เสมอ" เมื่อ ซีแมน ว่าจบ กิฟเว่น ก็ต่อท้ายว่า

"ใช่ ... เขาใช้เท้าเก่งมากจนผู้คนชมเขา แต่เรื่องนี้มันชัดมาก จนกลบเรื่องการใช้มือและลีลาการเซฟของเขาไปเลย ... คุณอย่าลืมว่า เอแดร์ซอน มีลูกเซฟอันตรายให้เห็นบ่อยมาก บางครั้งคุณมองข้ามจุดนี้ของเขาไป เขาคือคนที่รับผิดชอบช่วงเวลาสำคัญ ๆ ของซิตี้ และทำให้ฟุตบอลของ เป๊ป สมบูรณ์แบบ ราวกับเป็นคนละทีมในซีซั่นแรก" 

"คุณจะเอาอะไรกับเขาอีกล่ะ สายตาที่ว่องไว ปฏิกิริยาที่รวดเร็ว สปริงข้อเท้าอยู่ในขั้นดีมาก เขาทำได้ดีทั้งหมด และยังมีพื้นฐานการเป็นผู้รักษาประตูที่ดีด้วย" กิฟเว่น ทิ้งท้าย 

แม้จะเป็นคำวิจารณ์เชิงบวกที่พูดถึง เอแดร์ซอน เมื่อปี 2018 แต่มันก็ยังใช้กับเขาจนทุกวันนี้ได้ นี่คือประตูที่มาตรฐานการเล่นไม่เคยตกลง มีความแน่นอน และทำให้ แมนฯ ซิตี้ เดินหน้าสู่ความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องพะวงข้างหลังอีกต่อไป ซึ่งหากใครสักคนจะบอกว่า เอแดร์ซอน สำคัญกับแท็คติกของ เป๊ป แค่ไหน ก็ต้องเป็นตัวของ เป๊ป เองนี่แหละ จึงจะชัดที่สุด

"ทีมของเราจะต้องเล่นฟุตบอลกันแบบดันสูงมากจนผู้รักษาประตูจะต้องเล่นนอกกรอบ 18 หลาแทบจะตลอดทั้งเกม เอแดร์ซอน สำคัญกับเรามาก เขาคอยทำให้กองหลังของเราเล่นได้ง่ายขึ้น และเมื่อถึงเวลาต้องเล่นบอลยาวเพื่อโจมตี เขาเป็นคนเริ่มให้เราได้เสมอ ... การจะเล่นแบบนี้ได้ เขาจำเป็นจะต้องมีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่รับผิดชอบของเขาเยอะจริง ๆ" เป๊ป ว่าแบบนั้น 

ไม่ต้องบอกก็รู้ นี่คือผู้รักษาประตูที่อยู่คู่ทุกความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ ในยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ... กุนซือผู้นำสิ่งใหม่ ๆ มาฝากโลกฟุตบอลจากไอเดียของเขาเสมอ เช่นเดียวกัน เอแดร์ซอน คือหนึ่งในนั้น และปัจจุบันเทรนด์ผู้รักษาประตูแบบนี้ก็แพร่หลายถูกใช้ไปทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   

เป็นอีกครั้งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คิดถูกและพิสูจน์สิ่งที่เกิดขึ้นให้หัวสมองของเขา เขาเปลี่ยนสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมได้ เรียกได้ว่า เอแดร์ซอน คือ 1 ในผลงานชิ้นเอกของเขาอย่างแท้จริง  

 

แหล่งอ้างอิง
  
https://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/ederson-profile-manchester-city-pep-guardiola-goalkeepers-feature-vs-liverpool-united-a8291301.html
https://mancitysquare.com/2017/10/27/ederson-allows-manchester-city-play-pep-way/
https://www.skysports.com/football/news/11679/13062824/ederson-exclusive-interview-man-city-goalkeeper-on-becoming-a-leader-pep-guardiolas-future-and-chasing-liverpool

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ