แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมเปิดบ้านเจอ เชลซี ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 20 กันยายน นี้ โดยคาดว่าจะเป็นเกมที่ดุเดือดทั้งการแข่งขันในสนาม และอารมณ์ของแฟนบอลทั้งสองทีม
อย่างไรก็ตาม "ปีศาจแดง" ที่คาดการณ์ว่าบิ๊กแมตช์ครั้งนี้ แฟนบอลทั้งสองฝ่ายอาจมีการกระทบกระทั่งทางวาจาเกิดขึ้น โดยเฉพาะสาวก "เรด เดวิลส์" ที่อาจใช้คำพูดเหยียดหยามไม่เหมาะสมต่อฝั่งตรงข้าม จึงต้องออกแถลงการณ์เตือนแฟนบอล ให้ระมัดระวังพฤติกรรมตัวเองให้ดี
โดยเฉพาะการตะโกนด่าแฟนทีมเยือนด้วยคำว่า "rent boy" ที่ถูกจัดอยู่ในระดับคำเหยียดเพศที่รุนแรง ซึ่งทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุว่าหากพบเห็นแฟนบอลคนใดตะโกนด่าแฟนทีมเยือนด้วยคำนี้ จะลงโทษสถานหนัก ทั้งแบน ดำเนินคดี และไม่ให้เข้าสนามอีก
"เราจะตระหนักถึงการใช้คำว่า rent boy ที่ได้ยินในเกมของ เชลซี มาตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราต้องการแจ้งอย่างชัดเจนว่า มันคือถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม และไม่ควรใช้ในสนามกีฬา หรือในเกมการแข่งขันของพวกเรา"
"กองเชียร์ที่แสดงพฤติกรรมดังกล่าว มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบร้ายแรง รวมถึงการถูกไล่ออกจากสนาม ถูกแบน และอาจถูกดำเนินคดีทางอาญา"
สำหรับคำว่า "rent boy" หรือ "ไอ้เด็กเช่า" ถือเป็นคำด่าชนิดหนึ่งในวงการฟุตบอล ที่ถูกใช้โดยกองเชียร์ฝั่งตรงข้ามของ เชลซี ซึ่งในช่วงหลังโควิดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีแฟนบอลคู่แข่ง ตะโกนด่านักเตะ สตาฟฟ์ และแฟนของ เชลซี ด้วยถ้อยคำว่า rent boy อยู่บ่อยครั้ง
** ที่มาของคำว่า "rent boy" เกิดขึ้นจากการที่ถนน เอิร์ลส คอร์ต ที่อยู่ใกล้ สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีชื่อเสียงด้านลบมานานว่า เป็นสถานที่ๆ มีชาว LGBTQ รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และก็มีชาว LGBTQ หลายคนที่มาขายบริการทางเพศกันที่นี่ จนมีนิคเนมที่ชาวอังกฤษเรียกกันว่า "rent boy" หรือ "ไอ้พวกเด็กเช่าที่ให้บริการทางเพศ"
และเรื่องนี้เอง ทำให้แฟนบอลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เชลซี หยิบเอาคำว่า "rent boy" มาเป็นคำด่าล้อเลียนฝั่ง "เดอะ บลูส์" ทุกครั้งที่ เชลซี ลงสนามแข่งขัน และถูกใช้อย่างหนักหน่วงมาตั้งแต่ปี 2022 จนเป็นที่แพร่หลายในหมู่กองเชียร์ฝั่งตรงข้าม จนทาง พรีเมียร์ ลีก และเจ้าหน้าที่ต้องมีการรณรงค์ไม่ให้ใช้คำนี้ในเกมฟุตบอลของ เชลซี เพราะถือเป็นคำด่าที่รุนแรง สร้างความเกลียดชัง และนำไปสู่เหตุอาชญกรรมได้
